รวมพันธุ์กล้วย 20 สายพันธุ์ จากอาณาจักรกล้วย

รู้มั้ยว่า นอกจากกล้วยหอม กล้วยน้ำว้า และกล้วยไข่แล้ว โลกเรายังมีกล้วยสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมายถึง 3,000 กว่าชนิด โดยเรา รวมสายพันธุ์กล้วย มาให้รู้จักก่อน 20 สายพันธุ์ น่าดีใจที่คุณสมบัติ สุขนันท์ เจ้าของ “สมบัติ อาณาจักรกล้วย” ผู้ปลูกและสะสม รวมสายพันธุ์กล้วย มานานร่วม 30 ปี มีสายพันธุ์กล้วยสะสมไว้กว่า 200 สายพันธุ์ภายในสวน 500 ไร่ที่กระจายอยู่ในจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี พิจิตร และเชียงใหม่ ก่อนจะมาเป็นอาณาจักรแบบนี้ คุณสมบัติ เคยทำธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างมาก่อนจะถูกโกงจนมีหนี้สินเป็นสิบกว่าล้าน แต่เขาหันมาปลูกและตระเวนขายหน่อกล้วยไปทั่วประเทศจนสามารถปลดหนี้ได้ภายใน 7 ปี พร้อมกับเก็บสะสมสายพันธุ์กล้วยป่าและกล้วยแปลก รวมถึงศึกษาหาข้อมูลกล้วยมาโดยตลอด “ผมเริ่มจากความชอบกล้วยสายพันธุ์แปลกๆ มาก่อนและสะสมกล้วยนากเป็นต้นแรก จากนั้นเวลาใครมีข้อมูลกล้วยแปลกๆ อยู่ที่จังหวัดไหน ผมจะเช็คและตามไปดูถึงที่ตลอด จากตอนแรกๆ ที่เก็บสะสมและฝากไว้ตามสวนต่างๆ จนกระทั่งตัดสินใจรวบรวมมาอยู่ในสวนตัวเอง ปรับจากสวนที่เคยปลูกแต่มันสำปะหลัง ปรับสภาพดินกันใหม่หมดเพื่อปลูกกล้วย ใต้ร่องสวนกล้วยก็ปลูกพืชอื่นที่ไม่ต้องการแสงมาก อย่างผักกูด มะเขือพวง พริก ขมิ้นไปด้วย” “ทุกวันนี้ก็ยังเสาะหาและสะสมกล้วยอยู่ […]

สายมูพลาดไม่ได้กับ “ 50 ต้นไม้มงคล ” ตามความเชื่อของไทย

50 ต้นไม้มงคล เหล่านี้ล้วนเป็นภูมิปัญญาไทย ที่ถ่ายทอดโดยวิธีเล่าขานกันมาจากคนไทยโบราณไม่ว่าจะเป็นต้นไม้สายมูความรัก หรือ เสริมบารมี

รีวิวใบกระท่อม ต้องปลูกพันธุ์ไหนดี และมีสรรพคุณอย่างไร

ตอนนี้กระท่อมถูกปลดล็อกออกจากยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 ตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อสร้างรายได้ในครัวเรือนโดยเฉพาะช่วงสถานการณ์วิกฤตโรคโควิด-19แพร่ระบาด ทำให้เราสามารถปลูก จำหน่ายและบริโภคใบกระท่อมได้อย่างเสรี แต่ยังใช้ทำอาหารหรือแปรรูปเป็นเครื่องดื่มเพื่อจัดจำหน่ายไม่ได้ การแปรรูปต้องได้รับการตรวจสอบและขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาก่อน ตาม พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ. 2562 แต่ในฐานะมือใหม่หัดปลูกเราควรปลูกกระท่อมสายพันธ์ุไหนดี แล้วใบกระท่อมมีสรรพคุณดีงามอย่างไร มีวิธีบริโภคอย่างไรให้ปลอดภัย เราหาคำตอบมาให้แล้วครับ พันธุ์กระท่อม เราออกเดินทางมาหาความรู้ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี หนึ่งในพื้นที่ที่มีการปลูกกระท่อมมายาวนานตั้งแต่ในอดีต ณ สวนของ คุณผดุง ช่างต่อ ผู้ที่ปลูกและสะสมต้นกระท่อมหลากหลายสายพันธุ์จากภูมิภาคต่างๆในประเทศมาเป็นระยะเวลานาน ปัจจุบันคุณผดุงกลายเป็นผู้จัดจำหน่ายกล้าพันธุ์ของต้นกระท่อมด้วยวิธีการต่อตอหลายสายพันธุ์ แต่จะมีสายพันธุ์เด่นๆ 8 สายพันธุ์ที่กำลังเป็นที่นิยม ได้แก่ แตงกวา(ก้านเขียว) ก้านแดง แมงดา ตะพาบ ยอดธง เหรียญทอง โพธิ์ทองและเหลืองทอง พันธุ์กระท่อม สรรพคุณของกระท่อมอย่างถูกวิธี กระท่อมเป็นสมุนไพรท้องถิ่นที่ชาวบ้านใช้กันมาอย่างยาวนาน แพทย์แผนโบราณนิยมใช้ใบกระท่อมมาปรุงเป็นยาเพื่อใช้รักษาโรคบิด แก้ปวดมวนท้อง ปวดเบ่ง ท้องเฟ้อ ท้องเสีย ท้องร่วง ปวดเมื่อยร่างกาย และทำให้นอนหลับ ในมุมมองของแพทย์แผนไทยส่วนใหญ่จะนำกระท่อมมาใช้เป็นยารักษาอาการเกี่ยวกับระบบขับถ่ายเป็นหลักจำพวกยาประสะกระท่อม ยาหนุมานจองถนนปิดมหาสมุทร ยาแก้บิดลงเป็นเลือด ยาแก้บิดหัวลูก ยาประสระกาฬแดง ฯลฯ ในใบกระท่อมพบว่ามีสารสำคัญ คือ […]

ทาร์รากอน สมุนไพรฝรั่งที่ปลูกง่าย ชอบแดด สวยด้วยและกินได้

ทาร์รากอน หรือ เม็กซิกันทาร์รากอนอาจเป็นเครื่องเทศสมุนไพรที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่ที่ประเทศฝรั่งเศสหรือประเทศอื่นในทวีปยุโรปทาร์รากอนเป็นเครื่องเทศที่ขาดไม่ได้และต้องมีติดครัวไว้เสมอสำหรับเป็นหนึ่งในวัตถุดิบประกอบอาหารเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น จนเชฟชาวฝรั่งเศสส่วนใหญ่ยกให้ทาร์รากอนเป็น”ราชาแห่งสมุนไพร” ไม่เป็นรองสมุนไพรตัวอื่นอย่างเชอร์ชิล,กุ้ยช่ายฝรั่งและพาสลีย์ แต่เหนือกว่าสิ่งใดทาร์รากอนเป็นหนึ่งในสมุนไพรฝรั่งที่ปลูกได้ดีในประเทศไทย ซึ่งหากไม่ได้ปลูกเพื่อประกอบอาหารก็ยังออกดอกสีเหลืองสวยงามกลายเป็นไม้ดอกประดับสวนได้อีกด้วย ชื่อวิทยาศาสตร์ของทาร์รากอน คือ Tagetes lucida Cav. พืชสกุลเดียวกับดาวเรือง อยู่ในวงศ์ Asteraceae มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปอเมริกากลาง ประเทศเม็กซิโกถึงกัวเตมาลา เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก อายุหลายปี สูงได้ 30-80 เซนติเมตร ลำต้นเล็ก ทุกส่วนอวบน้ําและมีขนอ่อนปกคลุม ใบรูปแถบเล็กออกเวียนสลับรอบกิ่ง เมื่อขยี้ใบมีกลิ่นหอมคล้ายลูกอมสมุนไพร ดอกออกที่ปลายยอดขนาด 1-1.5 เซนติเมตร มี 5 กลีบ สีเหลืองสด ต้องการแสงแดดตลอดวัน เติบโตได้ดีในที่มีอากาศเย็นแต่อากาศทั่วไปของประเทศไทยก็สามารถเติบโตได้เช่น ปลูกง่าย ขยายพันธุ์ด้วยการปักชํากิ่ง ทาร์รากอนชนิดี้เป็นคนละตัวกับทาร์รากอนในประเทศฝรั่งเศส ที่ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Artemisia dracunculus var. sativa แต่ให้กลิ่นและรสชาติที่ใช้แทนกันได้เป็นอย่างดี ในธรรมชาติจะพบทาร์รากอนบนเทือกเขาสูงพื้นดินเป็นหินปูนจึงชอบอากาศเย็น แต่ก็ปรับตัวและปลูกประดับได้ดีในเมืองไทย สามารถปลูกเป็นไม้กระถางหรือไม้ประดับแปลงร่วมกับต้นไม้ประดับชนิดอื่นๆหรือผักสวนครัวประเภทไม้ล้มลุก นิยมปลูกในสวนสไตล์อังกฤษที่ให้กลิ่นอายแบบชนบทหรือสวนหินในบริเวณที่มีแสงแดดตลอดวัน ทาร์รากอนมีสารประกอบที่ให้กลิ่นหอมและรสชาติคล้ายโป๊ยกั๊ก ยี่หร่า และชะเอมเทศ ชาวเม็กซิโกจึงนำมาใช้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งใบสดและใบแห้งชงชาดื่ม ใบสดนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเมื่อเคี้ยวสดจะทำให้ปลายลิ้นชาเล็กน้อยใช้ปรุงอาหาร ซุปและเครื่องดื่มประเภทไซเดอร์ น้ำอัดลม ชาและโกโก้ร้อนทำให้มีรสเผ็ดร้อนขึ้น […]

เจาะลึกเรื่องราวของ “กระท่อม” ปลูกอย่างไรให้ไม่ตาย?

นับตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ได้ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจแก่พี่น้องประชาชนให้ทราบถึงข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงว่าในประเทศไทยสามารถปลูกและบริโภค กระท่อม ตามวิถีชาวบ้าน ทั้งนำใบมาเคี้ยวและต้มเป็นน้ำดื่มโดยไม่ผสมสารเสพติดอื่นใด หรือจะซื้อจะขายใบกระท่อมภายในประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป กระท่อม จึงกลายเป็นพืชมาแรงที่ได้รับความสนใจมากขึ้น เราจึงขอพาไปรู้จักต้นกระท่อมให้มากขึ้น มาดูกันว่าต้องปลูกและดูแลอย่างไรให้เจริญเติบโตได้ดี กระท่อม มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitragyna speciosa (Korth.) Havil. วงศ์ Rubiaceae เช่นเดียวกันต้นเข็มและกาแฟ เป็นต้นไม้พื้นเมืองของประเทศไทยและมาเลเซีย สามารถพบได้ในเขตร้อนและกึ่งร้อนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปแอฟริกา คนริมทะเลทางภาคใต้เรียกว่า “ท่อม” ส่วนภาคกลางบางสถานที่เรียก “อีถ่าง” ประเทศมาเลเซียเรียกว่า “เบี๊ยะ” (Biak) หรือ “เคอตุ่ม” (ketum) กระท่อม เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ปานกลาง มีแก่นเป็นไม้เนื้อแข็ง สูงประมาณ 15-30 เมตร ใบคล้ายใบกระดังงา มีชนิดก้านใบแดงและใบเขียว ดอกกลมโตขนาดเท่าผลพุทรา ใบเป็นใบเดี่ยวสีเขียวเรียงตัวเป็นคู่ตรงข้ามรูปไข่แกมขอบขนาน หูใบรูปหอกอยู่ระหว่างก้านใบ แผ่นใบขนาดกว้างประมาณ 5-10 เซนติเมตร ยาวประมาณ 8-14 เซนติเมตร ดอกมีสีขาวอมเหลืองออกเป็นช่อย่อยรูปทรงกลมคล้ายดอกกระถินขนาด 3-5 […]

ไขปริศนา “คำชะโนด” เกาะต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่เคยจมน้ำ

มาจนถึงวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก”คำชะโนด” สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งบ้านโนนเมือง ตำบลบ้านม่วง อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานีที่ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นวังนาคินทร์และฉากหลังของเรื่องลี้ลับมากมาย เช่น “ผีจ้างหนัง” เปรียบเสมือนดินแดนอันเป็นหมุดหมายปลายทางของนักแสวงบุญและเสี่ยงโชคที่ต้องมาเยือนสักครั้งในชีวิต หลังม่านแห่งเชื่อ คำชะโนดคือป่าที่มีลักษณะเหมือนเกาะกลางน้ําที่เต็มไปด้วยต้นชะโนดซึ่งชาวบ้านที่นี่นับถือ แต่ไม่ค่อยมีใครได้ทำความรู้จักกับต้นไม้ชนิดนี้มากนัก เราจึงขอพาทุกท่านไปรู้จักกับต้นชะโนดแห่งคำชะโนดให้มากยิ่งขึ้น คำชะโนด ชื่อเรียกที่คนเรียกันติดปากนั้นมาจาก 2 คำ คือ คำว่า”คำ”ในภาษาอีสานมาจากคำว่า”น้ำคำ” หมายถึงสถานที่ที่มีลักษณะอุดมสมบูรณ์ มีน้ำซับไหลอยู่ใต้ดินจนผุดออกมาเป็นปริมาณมากให้เห็นเป็นบ่อบนผิวดิน ผู้คนเรียกบ่อน้ำซับที่ไหลออกมาแห่งนี้ว่า”บ่อคำชะโนด” เชื่อว่าเป็นทางเชื่อมต่อสู่โลกบาดาลที่ปกครองโดยพญานาคราชเจ้าปู่ศรีสุทโธและเจ้าย่าศรีปทุมมานาคราชเทวี ส่วนคำว่า”ชะโนด” คือชื่อต้นไม้ชนิดหนึ่งที่ขึ้นอยู่ทั่วทั้งเกาะแห่งนี้ ชะโนด เป็นต้นไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในวงศ์ปาล์ม หรือ Arecaceae มีชื่อสามัญในภาษาอังกฤษว่า Taraw palm หรือ Ceylon oak มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Livistona saribus (Lour.) Merr. ex Cheval. เป็นต้นไม้พื้นถิ่นที่พบอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย รวมถึงทั่วเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และแหลมปลายสุดของทวีปแอฟริกา ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็มีชื่อเรียกในท้องถิ่นนั้นๆ หลากหลายชื่อ เช่น ค้อพรุ หรือ จะทัง (สุราษฎร์ธานี) ค้อสร้อย (กรุงเทพฯ) […]

ไม่ต้องรอให้ออกดอก ก็เสริมความหวานวันวาเลนไทน์ได้ด้วยไม้ใบสีชมพู

ต้อนรับเดือนกุมภาพันธ์ด้วยไม้ใบด่าง ที่เป็นไม้ใบสีชมพูที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังปลูกเลี้ยงง่าย แถมเมื่อนำไปปลูกในสวนหรือวางประดับบ้านยังช่วยเพิ่มความสว่างสดใสและเติมบรรยากาศให้อ่อนหวานได้ไม่น้อย ซึ่งปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ไม่ยากในตลาดไม้ดอกไม้ประดับและช่องทางออนไลน์           หลายคนชื่นชอบไม้ใบด่างที่มีสีสันและลักษณะการด่างที่แปลกตา ซึ่งลักษณะการด่างนั้นมีหลายแบบ โดยทั่วไปมักเรียกลักษณะการด่างแบบง่าย ๆ ตามลักษณะที่เห็น เช่น ด่างลาย ด่างขอบ ด่างกลาง ด่างในหรือด่างนอก นอกจากนี้ยังมีลักษณะที่เกิดเป็นลายแต้มสีอื่นบนใบด้วย ลงสวนฉบับนี้แนะนำให้รู้จักกับไม้ใบด่างชมพูยอดฮิตอย่างฟิโลเดนดรอน ซิงโกเนียม บอนสี และคาลาเทีย ที่มีให้เลือกปลูกเลี้ยงกันหลายพันธุ์ ตัวอย่างเช่น ฟิโลเดนดรอน ‘สตรอว์เบอร์รี่เชค’ Philodendron ‘Strawberry Shake’ ฟิโลเดนดรอน ‘พิ้งค์พริ้นเซส’ Philodendron ‘Pink Princess’ ออมชมพูญี่ปุ่น Syngonium ‘Pink Perfection’ ซิงโกเนียม ‘สตรอว์เบอร์รี่ไอซ์’ Syngonium ‘Strawberry Ice’  คาลาเดียม ‘ชินุก’ Caladium ‘Chinook’ คาลาเดียม ‘ปาร์ตี้พันช์’ Caladium ‘Party Punch’  […]

8 ต้นไม้มงคลของจีนที่น่าปลูกในบ้านและที่ทำงานเพื่อเสริมสิริมงคลและโชคลาภ

ผู้คนที่สืบเชื้อสายชาวจีนทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ สิงคโปร์ ไต้หวันหรือฮ่องกงยุคใหม่ยังมีความเชื่อเรื่องการหา ไม้มงคลของจีน มาปลูกเพื่อส่งเสริมโชคลาภและนำพาความร่ำรวยมารับปีใหม่กันอีกด้วย โดยจะวางต้นไม้สำคัญเหล่านี้ตามมุมต่างๆในบ้านอย่างห้องนอนและห้องรับแขกรวมไปถึงห้องทำงาน นอกจากเพิ่มความสบายใจแล้วยังช่วยฟอกอากาศและสร้างความมีชีวิตชีวาให้กับเราได้ในทันทีที่ได้เห็น ส้มจี๊ด (金桔 หรือ 金橘) ศุภโชค (摇钱树) ไพเลีย หรือ เหรียญเงินจีน (镜面草) ตาไก่ใบกว้าง (朱砂根) กล้วยไม้ (蘭科) หน้าวัว (火鶴花) ไผ่กวนอิม (富贵竹) คลาสซูล่า (玉树) 1.ส้มจี๊ด (金桔 หรือ 金橘) ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus Japonica Thunb. ไม้มงคลของจีน ที่สืบทอดกันมายาวนานของจีนและนิยมวางประดับในบ้านมาแต่โบราณ มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของจีน ด้วยความเชื่อที่ว่าต้นส้มจี๊ดเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและความอุดมสมบูรณ์ มาจากคำว่า ‘ส้ม’ มีเสียงคล้ายกับคำว่า ‘ความมั่งคั่ง’ ในภาษาจีน หลายบ้านนิยมมอบส้มจี๊ดปลูกใส่กระถางแทนของขวัญในเทศกาลสำคัญเพื่อช่วยดึงดูด เงินทอง โชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองเข้ามาในบ้าน ซึ่งปลูกไม่ยากเพียงรดน้ำสม่ำเสมอ ตั้งไว้ในบริเวณที่รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 4-6 ชั่วโมงทุกวัน เพื่อให้มันออกผลอยู่ตลอดเวลา 2.ศุภโชค (摇钱树) ชื่อวิทยาศาสตร์ […]

แนะนำไม้ใบด่างสวยและดูแลง่าย ที่มือใหม่หัดปลูกต้องมี พร้อมเทคนิคการปลูก

ยังคงได้รับความสนใจจากคนรักต้นไม้อย่างต่อเนื่อง สำหรับไม้ใบชนิดต่าง ๆ โดยเฉพาะไม้ใบด่างที่มีลวดลายสีสันบนใบแปลกและดึงดูดสายตา แทนที่จะมีสีเขียวเหมือนปกติก็กลับกลายเป็นสีอื่น เช่น ขาว เหลือง ชมพู แดง หรือส้มขึ้นมาแทน โดยลักษณะการด่างนั้นเกิดได้กับต้นไม้ทุกชนิด อย่างไรก็ตาม ต้นไม้หลายต้นอาจแสดงอาการคล้ายด่างเพียงชั่วคราว หรือที่เรียกกันว่า “ด่างเทียม” เนื่องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ขาดสารหรือธาตุอาหาร ขาดแสงสว่าง ไวรัส สารเคมี ฯลฯ แม้ส่วนใหญ่แล้วการปลูกและดูแลไม้ใบด่างไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธรรมชาติของการเกิดไม้ใบด่างนั้นทำได้ยาก ทั้งโตช้าและขยายพันธุ์ยาก แต่ยังมีไม้ใบด่างบางชนิดที่มีลายด่างของใบสวยเด่นไม่เป็นรองใคร ทั้งยังปลูกและดูแลง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ ตัวอย่างเช่น         การปลูกและดูแลไม้ใบด่างให้ด่างสวย จำเป็นต้องอาศัยปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมไม่ต่างจากการปลูกไม้ใบทั่วไป โดยดินปลูกต้องร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้ใบฉ่ำน้ำและเกิดเชื้อราเข้าทำลายได้ วางกระถางไว้ในตำแหน่งแสงรำไร ระวังอย่าให้โดนแสงแดดจัดเพราะอาจทำให้ใบไหม้ มีการเสริมธาตุอาหารโดยใช้ปุ๋ยละลายช้าที่ไม่เป็นอันตรายต่อรากต้นไม้ นอกจากนี้ อาจเช็ดใบด้วยน้ำสะอาดหรือนมสด จะยิ่งช่วยเพิ่มความเงาให้ใบสวยยิ่งขึ้น เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: Botanic at Home ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบด่างได้แบบจุใจในหนังสือ ไม้ใบ […]

อัพเดตเทรนด์ ต้นไม้ในบ้าน ประจำปี 2565 มีอะไรบ้าง!

วันนี้บ้านและสวนเลยจะมาอัพเดตเทรนด์ ต้นไม้ในบ้าน ยอดฮิตจากกระแสของต่างประเทศที่น่าสนใจในปี 2565 นี้มาฝากกัน จะมีเทรนด์ไหนและมีต้นไหน…

แจกฟรี ปฏิทินปี2565 !!! ปฏิทินไม้ใบ-ไม้ด่าง โดนใจคนรักต้นไม้ รีบมาโหลดไปใช้กัน

มาแล้ว “ปฏิทินประจำปี 2022/2565” ที่บ้านและสวนได้เตรียมไว้ให้เป็นของขวัญแก่คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน ซึ่งใน ปฏิทิน 2565 นี้เรามาในคอนเซ็ปต์ของไม้ใบและไม้ด่าง เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมานี้ ถือเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ปฏิทิน 2565 นี้จะอัดแน่นไปด้วยภาพไม้ใบและไม้ด่างที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้ ทั้งหมด 12 ต้น ซึ่งจะบอกวันที่ วันสำคัญต่างๆ ทั้งสวยและมีประโยชน์สำหรับคนปลูกต้นไม้ขนาดนี้ ต้องรีบตามไปดาวน์โหลดให้ไว เพราะเราทำมา แจกแบบฟรีๆ จึงขอสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้พิมพ์เพื่อจำหน่าย หรือใช้ประโยชน์ทางการค้าใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ *ลิงก์สำหรับโหลดไฟล์ใหญ่อยู่ด้านล่างเลย ดาวน์โหลดปฏิทินที่นี่ (ไฟล์ใหญ่) เรียนรู้เรื่องราวของไม้ใบไม้ด่าง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา การเกิดไม้ด่าง ไม้ด่างประเภทต่างๆ พร้อมรวบรวมพันธุ์ไม้ใบ ไม้ด่างใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยลง ในเล่มแรก รวมมากกว่า 600 ชนิด/พันธุ์ สั่งซื้อในราคาโปรโมชั่น ได้ที่นี่เลย

10 พรรณไม้ยอดฮิตของคนบ้านและสวน ที่สุดของปี 2564

ปี 2564 ถือว่ายังคงเป็นปีทองของวงการต้นไม้ที่ต่อเนื่องมาจากกระแสคนรักต้นไม้ที่หลั่งไหลจากปีก่อน มีต้นไม้หน้าใหม่ที่เมื่อก่อนไม่เคยได้รับความนิยม อยู่ๆก็ฮอตฮิตกลายเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมของคนในวงกว้าง เช่นเดียวกับกลุ่มต้นไม้ด่างที่หลายชนิดก็กลายเป็นกระแสและมีราคาสูงจนหลายคนตกใจ ก่อนหมดปีนี้ เราจึงขอรวบรวม 10 ต้นไม้ที่เป็นกระแสยอดนิยมและชาวเพจ บ้านและสวน ชื่นชอบประจำปี 2564 จะมีต้นอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย 1.บอนสี การปลูกไม้ใบในบ้านรวมถึงปลูกในกระถางประดับตามมุมต่างๆของสวนกลายเป็นเรื่องฮิตจนหลายคนหันมาปลูกเลี้ยงไม้ประดับกันมากขึ้น มีการตามหาไม้ใบสวยหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ได้มาครอบครอง หนึ่งในนั้นคือ “ บอนสี ” ซึ่งคนไทยรู้จักและปลูกเลี้ยงกันมานาน มีการพัฒนาสายพันธุ์จนเกิดลูกผสมใหม่ๆ และได้รับยกย่องว่าเป็น “ ราชินีแห่งไม้ใบ ” อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่   2.ลิ้นมังกร ทนกระแสความชื่นชอบลิ้นมังกรของเหล่าคนรักต้นไม้ไม่ไหว ต้นไม้ที่ปลูกง่าย ดูแลง่าย ฟอกอากาศได้ด้วย ลิ้นมังกรสายพันธุ์ต่างๆ หรือต้นไม้ในสกุล Sansevieria ที่นิยมนำมาปลูกประดับในสวนและบ้านตั้งแต่ในอดีตถึงปัจจุบัน นอกจากนั้นยังมีลิ้นมังกรบางชนิดยังเป็นสายพันธุ์ใหม่มาแรงในขณะนี้ให้ทุกคนควรรู้จัก และรีบออกหามาเป็นเจ้าของกัน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่   3.กุหลาบ กุหลาบ เป็นราชินีแห่งดอกไม้ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก แม้ขึ้นชื่อว่าเลี้ยงยาก หากก็มีหลายคนที่ค้นพบเคล็ดลับในการเลี้ยงจนเป็นสวนกุหลาบผลิบานให้ชมทุกวัน นอกจากนั้นกุหลาบยังมีหลากหลายสีสันและชนิดพันธุ์ให้น่าสะสมและหามาปลูกอยู่เสมอ ทำให้กุหลาบไม่เคยเป็นพรรณไม้ที่จากไปจากใจคนรักต้นไม้ อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่   4.โคโลคาเซีย บอนสกุลนี้มีหลายรูปทรงและสีสัยของใบ ส่วนใหญ่ต้องการแสงเยอะ […]

รวม 8 ไม้หอมชื่อไพเราะ ออกดอกช่วงฤดูหนาว

ลมหนาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือมาเยือนแล้ว ส่งผลให้เราเริ่มได้กลิ่นหอมที่แตกต่างไปจากฤดูอื่นๆ ซึ่งกลิ่นหอมเหล่านี้มีที่มาจากหลากหลายพรรณ ไม้หอม ออกดอกฤดูหนาว สร้างความชื่นใจให้ใครที่มีต้นไม้เหล่านี้ปลูกอยู่ในบริเวณใกล้เคียง ซึ่งหากอยากให้ได้กลิ่นไม้ดอกเหล่าให้ได้ไกลๆ อย่าลืมปลูกไว้ในทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านด้วยนะครับ ไม้หอม ออกดอกฤดูหนาว สัตบรรณ กรรณิการ์ กุมาริกา  พะยอม ลดาวัลย์ ลําดวน วาสนา ปีบ 1.สัตบรรณ ชื่อวิทยาศาสตร์ Alstonia scholaris (L.) R.Br. วงศ์ Apocynaceae ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ชอบ แสงแดดจัด โตเร็ว ทนแล้ง ควรปลูกลงแปลง กลางแจ้งเป็นต้นเดี่ยวให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 8 เมตร ทรงพุ่มจะแผ่ได้สวยงาม ขยายพันธุ์ ด้วยการเพาะเมล็ด ออกดอกเป็นช่อ กระจุกตามปลายกิ่ง ช่อใหญ่ กลม ขนาด 10 – 20 เซนติเมตร ดอกย่อยจํานวนมาก โคนกลีบติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 แฉก สีขาวหรือขาวอมเขียว บานพร้อมกันทั้งช่อ […]

ส่องบอนสีชื่อดังจาก “สวนชื่นเจริญ” พร้อมเผยเคล็ดลับดูแลบอนสีในฤดูหนาว

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบมาเดินซื้อต้นไม้ในงานบ้านและสวนแฟร์ช่วงเช้าทันทีที่งานเปิด คุณคงแปลกใจกับภาพผู้คนมากมายที่มามุงดูและรายล้อมที่จะซื้อบอนสีจากร้านแห่งหนึ่งภายในงานทุกวัน ร้านแห่งนั้นคือ “สวนชื่นเจริญ” ของคุณสำเริง ชื่นเจริญ ผู้ขายและเพาะพันธุ์บอนสีมานานกว่า 24 ปี ด้วยราคาที่ย่อมเยาว์ประกอบกับสายพันธุ์บอนสีที่สวยงามหลากหลายเป็นที่ต้องการของตลาดทำให้ร้านสวนชื่นเจริญเป็นที่รู้จัก และยิ่งมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้นไปอีกในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาเมื่อกระแสบอนสีมาแรง เราจึงขอพาทุกท่านมาเยี่ยมชมบอนสีสวยๆที่สวนชื่นเจริญถึงที่ (สวนไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปซื้อได้ด้วยตัวเอง) รวมถึงไขทุกข้อสงสัยต่างๆ และการดูแลในช่วงฤดูหนาวที่บอนสีอาจเริ่มพักตัวหายไป ทำไมถึงเริ่มปลูกและจำหน่ายบอนสี ? “เริ่มเข้าสู่วงการบอนสีตั้งแต่งานสวนหลวงร.9 ปี 2543 เราขายบอนสีอย่างเดียวเพราะว่าเราชอบ ก่อนหน้านั้นก็เริ่มจากการเลี้ยงดูเล่นเองจนพอมีฝีมือก็เริ่มไปดูเขาประกวดและเข้าประกวดเอง หลังจากนั้นคนในวงการบอนสีก็แนะนำให้เราผ่าขยายพันธุ์เพื่อจัดจำหน่ายบ้าง มันก็เป็นจุดเริ่มต้นจากตรงนั้น การซื้อบอนสีต้นหนึ่งเหมือนการลงทุนเพียงครั้งเดียว เราสามารถขยายพันธุ์ได้เป็น 10-20 ต้นหรือมากกว่านั้นขึ้นอยู่กับขนาดของหัว จากนั้นเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อต้นพันธุ์แล้ว ผมปลูกบอนสีเป็นอาชีพขายมาโดยตลอดเป็นระยะเวลาหลายปี เพราะปลูกบอนสีใช้พื้นที่ปลูกไม่เยอะ ขายมาตั้งแต่ต้นละ 10 บาท แล้วเราก็ผสมดอกให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆของเราเองหลากหลายสายพันธุ์ขึ้น สมัยก่อนก็ทำส่งเป็นส่วนใหญ่เป็นหัวขนาดเล็กส่งไปตามออร์เดอร์ของลูกค้าตามสายพันธุ์และจำนวนที่ลูกค้าต้องการ” จุดเด่นของบอนสีจากสวนชื่นเจริญคืออะไร? “บอนสีที่สวนของเราส่วนมาก 98 เปอร์เซ็นต์คือบอนสีที่เราเพาะพันธุ์เองและจำหน่ายเองกว่า 50 ชนิด สวนของเราจุดเด่นคือเน้นสีสันและลวดลาย ในราคาจับต้องได้ มีความหลากหลายเพราะคนส่วนใหญ่ชอบไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นสายพันธุ์อื่นส่วนมากจะปลูกเพื่อดูเล่นไม่ได้จัดจำหน่าย  เพราะฉะนั้นในวงการบอนสีทุกสวนส่วนใหญ่ก็จะทำแต่สายพันธุ์ของตัวเองขายเท่านั้น ตลาดก็จะไม่ซ้ำกัน ไม่ชนกัน และคนก็จะไม่เบื่อ “โดยเราก็จะตะเวนไปขายต้นไม้ตามงานขายต้นไม้อย่างงานบ้านและสวนแฟร์หรือตามอีเว้นท์ในห้างสรรพสินค้าทั่วไป เนื่องจากเราเป็นสวนปิดก็จะให้ลูกค้ามาซื้อได้ตามงานอีเว้นท์ที่เราไปออกบูธเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ลูกค้าเข้ามาซื้อที่สวนได้โดยตรง […]

กุหลาบจุฬาลงกรณ์ อนุสรณ์รักพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และ เจ้าดารารัศมี

ความหอมกรุ่นและสีชมพูแสนอ่อนหวานของ “กุหลาบจุฬาลงกรณ์” กุหลาบไร้หนามพันธุ์พิเศษจากดอยแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่เย้ายวนใจให้มีผู้คนปลูกมาเป็นระยะเวลานานสืบต่อจนประวัติศาสตร์ของที่มาเริ่มจางหายไปตามกาลเวลาคงไว้แต่เพียงพระนามาภิไธยแห่งกุหลาบสายพันธุ์นี้ ซื่งเมื่อเราเริ่มกลับเข้าไปสืบค้นถึงที่มากลับยิ่งพบกับความสวยงามของเรื่องราวที่อ่อนหวานเสียยิ่งกว่าความงามของกุหลาบนี้ เพราะนี่คือสัญลักษณ์แห่งตํานานรักของ “เจ้าดารารัศมี” เจ้าหญิงล้านนา และ “พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5”  “กุหลาบจุฬาลงกรณ์ เป็นดอกไม้ที่มีความหมายแห่งความระลึกถึงไม่ว่าจะเป็นของพระราชชายา เจ้าดารารัศมีที่ทรงมีต่อล้นเกล้าฯ ในหลวงรัชกาลที่ 5 หรือของเราเองที่จะพึงมีต่อสองพระองค์ท่านเมื่อใดก็ตามที่เราได้เห็นกุหลาบจุฬาลงกรณ์ เราจะไม่ลืมระลึกถึงความรักที่พระราชชายาทรงเคยให้กับกุหลาบต้นนี้เมื่อ 80 ปีที่แล้ว” ข้อความส่วนหนึ่งจากหนังสือ “ดารารัศมี – สายใยรักสองแผ่นดิน” กล่าวถึงเรื่องราวได้ชัดเจน เจ้าดารารัศมี เจ้าหญิงในราชวงศ์ทิพย์จักรจากนครเชียงใหม่ ประสูติเมื่อวันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2416 เวลา 00.30 น.เศษ ณ คุ้มหลวงกลางเวียง นครเชียงใหม่ ทรงมีบทบาทสำคัญต่อการรวมล้านนาเข้ากับสยาม โดยการถวายตัวเป็นบาทบริจาริกาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และยังทรงฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมล้านนา หลังพระราชสวามีเสด็จสวรรคตเจ้าดารารัศมีจึงเสด็จนิวัตเชียงใหม่ แม้ไม่มีใครทราบประวัติที่มาของกุหลาบต้นแรกนี้แน่ชัด แต่คาดว่าด้วยเหตุที่พระองค์ทรงเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของราชสมาคมกุหลาบแห่งอังกฤษ จึงได้รับการถวายพันธุ์กุหลาบต่าง ๆ ทุกปี ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นกุหลาบขนาดใหญ่ สีชมพูระเรื่อ ไร้หนาม และส่งกลิ่นหอมตลอดเวลา ซึ่งสันนิษฐานว่ากุหลาบต้นนั้นต่อมาจึงพระราชทานนามว่า “จุฬาลงกรณ์”เพื่อถวายเป็นพระบรมราชานุสรณ์แด่พระสวามีผู้เป็นที่รักยิ่ง […]

อัปเดต 9 อโลคาเซียตัวใหม่ๆ สายพันธุ์ที่มาแรง น่าสะสม

อโลคาเซีย (Alocasia) หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ “แก้วหน้าม้า” หรือ “นางกวัก” เป็นไม้ใบสวยอีกสกุลหนึ่งในวงศ์ Araceae ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะขณะนี้กำลังกลับมาเป็นที่นิยมของเหล่านักสะสมอีกครั้ง ฉบับนี้จึงรวบรวมต้นอโลคาเซียตัวใหม่ๆฮอตฮิตมาให้ชมกัน อโลคาเซียเป็นไม้ล้มลุกอายุหลายปี มีหัวสะสมอาหารอยู่ใต้ดิน ลำต้นเหนือดินเกิดจากกาบใบซ้อนกัน ใบเดี่ยวรูปหัวใจหรือลูกศร หลายชนิดได้รับการปรับปรุงพันธุ์ให้มีใบโดดเด่น สวยงามแปลกตา ปลูกเลี้ยงในกระถางใช้เป็นไม้ประดับตามระเบียง ริมหน้าต่าง หรือแม้แต่ในตัวบ้านได้ดี อโลคาเซียเป็นไม้ใบที่ปลูกเลี้ยงง่าย นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกหน่อ ชอบแสงรำไร ไม่ควรโดนแสงแดดจัดโดยตรงเพราะจะทำให้ใบไหม้ ชอบชื้นแต่ไม่แฉะ ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือวัสดุปลูกต้องเก็บความชื้น มีอินทรียวัตถุและระบายน้ำได้ดี หลีกเลี่ยงไม่ให้มีน้ำขังในจานรองกระถางเพื่อป้องกันรากเน่า หมั่นสำรวจและกำจัดหนอนผีเสื้อที่มักมากัดกินก้าน ใบ และอาจลามไปกินถึงเหง้า อย่างไรก็ตาม อโลคาเซียเกือบทุกชนิดมีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบริเวณที่สัมผัส เช่น ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงและคัน ดังนั้นจึงควรปลูกให้ห่างบริเวณที่มีเด็ก สัตว์เลี้ยง หรือคนเดินผ่านไปมา เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: Botanic at Home ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ ไม้ใบ : Foliage Plants โดยสำนักพิมพ์บ้านและสวน

ไขทุกข้อสงสัยที่คนรักบอนสีต้องรู้ กับผู้เชี่ยวชาญด้านบอนสีมากว่า 20 ปี

เวลานี้คงไม่มีต้นไม้ชนิดไหนมาแรงแซงโค้งเท่ากับ บอนสี ต้นไม้ใบที่เคยเป็นที่นิยมมาเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันกลับได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นไปอีกครั้งจากกลุ่มคนรักไม้ใบที่เริ่มให้ความสนใจและสะสมต้นไม้ชนิดนี้มากยิ่งขึ้น บ้านและสวน จึงพามาทำความรู้จักและเสาะแสวงเคล็ดลับการปลูกและการขยายพันธุ์ บอนสี เพื่อจำหน่ายเพิ่มเติมให้มากขึ้น หรือแม้แต่การผสมพันธุ์ให้ได้สายพันธุ์ใหม่ ๆ จากคุณครูปอ-จิระวัฒ แซ่อึ้ง แห่งสวนมณีมณ ผู้ซึ่งอยู่ในวงการไม้ใบและบอนสีมาแล้วกว่า 20 ปี จุดเริ่มต้นที่มารักบอนสี เริ่มต้นจากครอบครัวภรรยาของผมขายต้นไม้มาตั้งแต่แรก สมัยที่ยังต้องหาบต้นไม้ใส่กระถางดินเผาขึ้นเรือขึ้นรถเมล์ไปขายที่บางบำหรุและตลาดเทเวศร์ จากจุดเริ่มต้นที่เราปลูกต้นไม้ประดับขายมาก่อน จากนั้นพอมาเริ่มทำไม้ใบขายเรากลับรู้สึกชอบมากกว่า เพราะ มันไม่ต้องอยู่กลางแดดร้อนและไม่ต้องรดน้ำทุกวัน ตอนนั้นเริ่มมีบอนสีพันธุ์อัปสรสวรรค์ออกมาใหม่แล้ว เราก็เริ่มให้ความสนใจ ตอนนั้นราคาก็ไม่สูงและคนเล่นไม่มาก ส่วนมากจะรู้จักกันหมด แต่ก็มีเรื่องของค่าลิขสิทธิ์พันธุ์บอนสีในเวลานั้น ซึ่งหากซื้อขายกันก็ราคาหลักหมื่นอยู่ จากนั้นเราก็เริ่มปลูกและศึกษาเกี่ยวกับบอนสีจากที่ปลูกเป็นต้นไม้เล่น ๆ ก็เริ่มส่งประกวดนั้นเป็นระยะเวลามากว่า 20 ปีมาแล้ว ทำไมบอนสีปัจจุบันถึงราคาสูงขึ้นขนาดนี้ อย่าง”เมืองเกาะเกร็ด”ที่ผมผสมพันธุ์เองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว มีจุดเด่น คือ สีสันใบสวย ปลูกง่าย และฟอร์มใหญ่ เราปล่อยขายในราคา 200 บาท ตอนนั้นก็คิดว่าแพงแล้ว แต่จะมีต้นที่สมบูรณ์มีหัวและฝักพร้อมทำพันธุ์ เราขายในราคา 200,000 บาท ซึ่งสามารถเป็นแม่พันธุ์ที่ดีและนำไปยอด เพื่อสร้างรายได้ได้ ปรากฏว่าของขายดีจนหมดและขาดตลาด ทีนี้คนต้องการมากขึ้นต้นที่ขนาดเล็กลง […]

แนบอุรา ต้นไม้เลื้อยแห่งหัวใจที่คล้ายกัน จาก 2 สกุล Scindapsus และ Rhaphidophora

เมื่อพูดถึงไม้ใบที่เรียกกันว่า “แนบอุรา” หรือ “หัวใจแนบ”ภาพในความคิดของหลายคนคงหนีไม่พ้นไม้ใบรูปหัวใจที่มักจำหน่ายเป็นไม้กระถางต้นเจริญเกาะเลื้อยแนบชิดกับแผ่นไม้เรียบหลากหลายขนาดแผ่นใบมีลวดลายหลากหลายแต่ก็ล้วนสะดุดตาแค่เพียงนำไปวางตกแต่งในบ้านหรือประดับสวนก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์ชวนมองได้ไม่แพ้ไม้ใบชนิดอื่นลงสวนฉบับนี้จึงพาไปรู้จักไม้ใบลายสวยสุดเก๋เหล่านี้กัน แนบอุรา หัวใจแนบ Scindapsus pictus Hassk. ‘Argyraeus’ ไม้เลื้อยขนาดเล็ก เลื้อยได้ไกล 1-3 เมตร มีรากออกจากลำต้นเพื่อพยุงต้นให้เติบโต ใบรูปหัวใจออกเรียงสลับซ้ายขวาในระนาบเดียวกัน ลักษณะเด่นของชนิดนี้คือ แผ่นใบหนาสีเขียวอมเทาเป็นกำมะหยี่ มีแต้มด่างสีบรอนซ์เงินหลากหลายรูปแบบ อาจเป็นแต้มเล็ก ๆ หรือเป็นปื้นทั่วใบ จึงมีชื่อสามัญว่า Satin Pothos, Silk Pothos, Silver Hilodendron เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกเลี้ยงในเมืองไทยมานานแล้ว นอกจากแนบอุราสกุลซินแด็ปซัส (Scindapsus) ยังมีไม้ใบในสกุลราฟิโดฟอรา (Rhaphidophora) บางชนิดที่เรียกแนบอุราเช่นกัน ลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีรากออกตามข้อ เมื่อยังเล็กใบรูปหัวใจหรือใบรี แต่เมื่อโตขึ้นจะเปลี่ยนเป็นอีกรูปทรงหนึ่งซึ่งแตกต่างจากเดิมอย่างเห็นได้ชัดเจน นิยมนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ ผนัง หรือใส่ในตู้เทอร์ราเรียม ตัวอย่างเช่น     แนบอุราชอบวัสดุปลูกโปร่งระบายน้ำได้ดีต้องการน้ำปานกลางความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศสูงแสงรำไรสามารถทนร่มได้ดีจึงปลูกเลี้ยงในบ้านได้แทบทุกชนิดเติบโตค่อนข้างช้านิยมปลูกเป็นไม้กระถางแขวนหรือเกาะกับหลักนำมาเลี้ยงให้เลื้อยขึ้นบนแผ่นไม้ผนังหรือลำต้นไม้ใหญ่ที่ชุ่มชื้นและเย็นหากได้รับแสงและความชื้นไม่เพียงพอรากและลำต้นจะไม่เกาะแนบกับพื้นผิววัสดุขยายพันธุ์ด้วยการปักชำกิ่ง เรื่อง: อังกาบดอย ภาพ: อภิรักษ์ สุขสัย, ธนกิตติ์ คำอ่อน ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับไม้ใบหลากหลายชนิดได้เพิ่มเติมใน หนังสือ […]