Design

บ้านไทยโมเดิร์น หลังนี้คือบ้านที่ออกแบบมาเพื่อ “มิตรสหาย” ซึ่งเกิดจากความต้องการให้บ้านมีความเป็น “มิตร” กับธรรมชาติ ได้รับการออกแบบโดยสตูดิโอออกแบบนามว่า Mitr Architects

ศิลปะไร้พรมแดน ถอดรหัสความคิดเห็น ทุกความหมายของ “Breaking Boundaries” ที่เราสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณจากเบื้องลึกของเจ้าของแกลเลอรี่ ภัณฑารักษ์ และศิลปินต่างสาขา ในงาน Hotel Art Fair 2019

“อยู่อย่างเป็นศิลปะ” คือนิยามการอยู่อาศัยในฝันของใครหลายคนในยุคนี้ หากแต่ความหมายของคำนี้ได้ถูกแปลภาพแตกต่างกันไปอย่างอิสระ ตามแต่การตีความจากประสบการณ์และรสนิยมของแต่ละบุคคล เช่นเดียวกับงานสถาปัตยกรรมที่แม้หลายชิ้นจะได้รับการพูดถึงว่าเป็นงานนอกกรอบ แต่จุดประสงค์ของผู้ใช้งานเองต่างหากที่เป็นปลายทางสำคัญ โดยมีวิธีการทางสถาปัตยกรรมเข้ามาช่วยส่งเสริมให้ปลายทางนั้นเป็นไปตามความตั้งใจ เช่นเดียวกันกับ บ้านกึ่งแกลเลอรี่ หลังนี้ Zimmermann Private Contemporary Art Collection คือตัวอย่างที่ดีของการใช้เนื้อหาจากผลงานศิลปะของเจ้าของ อย่าง คุณคริสตอฟ – คุณรานี ซิมเมอร์มานน์ ซึ่งเป็นนักสะสมผลงานศิลปะร่วมสมัย มาเป็นหัวใจสำคัญเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับส่งเสริมงานศิลปะทุกชิ้นได้อย่างเท่าเทียม ตามที่ คุณศิริศักดิ์ ธรรมะศิริ สถาปนิกผู้ออกแบบที่นี่ได้กล่าวกับเราไว้ว่า “ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะทำอาคารให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือวงกลม แต่มีเจตนาคืออยากให้ภาพทุกภาพที่อยู่ในนี้มีความเสมอภาคกัน เพราะศิลปินแต่ละคนมีแพสชั่นและความตั้งใจเหมือนกัน แต่วิธีการอาจจะแตกต่างกัน ผมว่ามันไม่มีดัชนีชี้วัดว่ารูปนี้สวยกว่ารูปนี้เพราะอะไร” ความต้องการแรกของเจ้าของคือ ต้องการแกลเลอรี่มากกว่าบ้าน จึงเลือกส่วนพักอาศัยเป็นเรื่องรอง แล้วไปโฟกัสเรื่องการออกแบบสเปซสำหรับผลงานศิลปะ และเพราะงานศิลปะส่วนใหญ่เป็นงานร่วมสมัย สถาปนิกจึงนำความเป็นนามธรรมของงานศิลปะมาถ่ายทอดผ่านรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ไม่มีลำดับขั้น ไม่มีฟอร์ม หรือมิติซับซ้อน “ผมเลือกฝีแปรงของการ stroke งานแบบแอ๊บสแตร็กต์ที่เน้นความรู้สึกล้วน ๆ มาเป็นต้นแบบ โดยทดลองตัดแปะฟังก์ชันและความต้องการต่าง ๆ เข้าไปตามขอบเขตของที่ดิน แบ่งตามโปรแกรมได้ 2 อาคาร หลังหนึ่งใช้เป็นแกลเลอรี่เพื่อเปิดเป็นสาธารณะ อีกหลังเป็นที่พักอาศัยและแกลเลอรี่ส่วนตัวสำหรับเก็บภาพที่มีมูลค่าสูง” อาคารหลังแรกที่เปิดเป็นแกลเลอรี่สาธารณะ รูปลักษณ์การออกแบบเปรียบเหมือนการทดลองปาดฝีแปรงลงกระดาษในน้ำหนักที่หนาหนักและรุนแรง จนเกิดเป็นอาคารที่มีแต่ละด้านไม่เท่ากันเลย […]

หลายคนรู้จักจังหวัดลำพูนในฐานะเมืองรองขนาดเล็กที่อยู่ติดกับจังหวัดเชียงใหม่ เมืองท่องเที่ยวที่เป็นจุดหมายของใครหลายคน  นั่นจึงทำให้ลำพูนกลายเป็นเมืองทางผ่าน หรืออย่างมากก็เป็นจังหวัดสำหรับ one day trip แวะจากเชียงใหม่เพื่อมาเที่ยวทริปสั้น ๆ เท่านั้น หากมองผิวเผินการท่องเที่ยวปริมาณแค่นี้ อาจจะเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดเล็ก ๆ แต่ความเป็นจริงลำพูนกำลังนับถอยหลังลงไปเรื่อย ๆ เนื่องจากไม่มีมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ อีกทั้งธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็มักเลือกลงทุนที่จังหวัดหลัก ๆ อย่างเชียงใหม่มากกว่า ทำให้วัยรุ่นและวัยทำงานเลือกออกไปทำงานในพื้นที่อื่น เหลือแต่คนชรากับเด็กที่ยังอาศัยในเมืองบ้านเกิด ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้ รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต สถาปนิกและอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม และคุณไชยยง รัตนอังกูร ซึ่งเป็นคนลำพูนโดยกำเนิด ร่วมกันลงทุนเปิด คาเฟ่ลำพูน ด้วยการมองเห็นโอกาสและแนวทางการปรับเปลี่ยนฟื้นฟูจังหวัดลำพูน โดยใช้งานออกแบบเข้ามาสร้างสรรค์ ประจวบเหมาะกับมีอาคารเก่าบริเวณใกล้กับวัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหารประกาศขาย อาจารย์สิงห์และคุณไชยยงจึงตัดสินใจรีโนเวตอาคารหลังนี้ จนเกิดเป็น Temple House ซึ่งเกิดจากความตั้งใจให้ที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ และดึงดูดให้นักท่องเที่ยวใช้เวลากับลำพูนมากขึ้นกว่าแค่เป็นเมืองทางผ่านอย่างที่เคยเป็นมา ชมส่วนของแกลเลอรี่ต่อหน้า 2 คลิก

ถ้าคุณชอบกลิ่นดินหลังฝนตกกับอากาศเย็นๆ ชอบความชุ่มช่ำของต้นไม้กับโกโก้อุ่นๆ ชอบบัตเตอร์เค้กอร่อยๆ กับหนังสือดีๆ สักเล่มคุณต้องชอบเรา “Thanwaa”

อยากกินกาแฟต้องได้กิน! ใครไปทำธุระย่านธุรกิจอย่างสีลมหรือสาทร เรารวมคาเฟ่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส สายสีลม ที่ห่างเพียงไม่กี่ก้าวจาก 3 สถานีหลัก ทั้งศาลาแดง, ช่องนนทรี และสุรศักดิ์ ถึงแม้รถติดหนักหนาก็ไม่ใช่ปัญหาของสาย Cafe Hopping เดินลงตามทางออกที่เราบอกแล้วออกแรงจ้ำสักหน่อยพักเดียวก็ถึงโดยไม่ต้องง้อแท็กซี่ให้เสียเวลา  

คาเฟ่สีขาว ย่านราชพฤกษ์ ตอบโจทย์ทั้งสายนักชิมขนมหวาน และชาวฟรีแลนซ์ที่ตามหา Co – Working Space ชิค ๆ พื้นที่คาเฟ่เกิดจากการประกอบ ตู้คอนเทนเนอร์ เข้าด้วยกัน แบ่งการใช้งานแต่ละส่วนออกเป็นยูนิต ๆ อย่างชัดเจน  โดยชั้นล่างใช้เป็นพื้นที่คาเฟ่ ส่วนชั้นบนเป็นพื้นที่สำหรับการสัมมนาและจัดกิจกรรม เชื่อมชั้นบนและชั้นล่างด้วยบันไดวนเพื่อให้ประหยัดพื้นที่ THINK CAFE  ด้วยข้อจำกัดเรื่องขนาดของ ตู้คอนเทนเนอร์ ที่มีไม่มากนัก จึงเลือกใช้สีขาวเป็นธีมสีหลัก ทำให้ที่นี่เป็น คาเฟ่สีขาว ตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ร่วมกับการเพิ่มช่องแสงให้มีขนาดใหญ่สำหรับเปิดรับแสงธรรมชาติในหลาย ๆ จุด เพื่อให้บรรยากาศของคาเฟ่แห่งนี้ภายในดูกว้างและโปร่งโล่งขึ้น แต่ถึงแม้จะเลือกใช้สีโมโนโทน แต่ก็แอบเพิ่มมิติให้สเปซด้วยรายละเอียดการออกแบบ เช่น แนวท่อสายไฟที่ยาวต่อเนื่องจากเพดานลงมาเป็นชื่อร้านสำหรับตกแต่งบนผนัง ให้บรรยากาศ อินดัสเทรียลแบบมินิมัล เข้ากับพื้นปูนเปลือยได้อย่างดี และไม่ลืมลดทอนความแข็งกระด้างของโครงสร้างด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีธรรมชาติดูอบอุ่น รวมถึงพื้นที่สีเขียวร่มรื่นที่มีให้เห็นได้จากทุกมุม THINK CAFE  คาเฟ่สีขาว เเห่งนี้ ยังสอดแทรกความคิดสร้างสรรค์ลงไปในเมนูต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มหรือขนมหวาน จนหลายคนต้องร้องว้าว! ซึ่งทั้งหมดมีไอเดียมาจากเจ้าของร้านเอง อย่างคุณอภิชาต วงศ์กิติกำจร และคุณอัฐญา เสมอเหมือน และทีมงาน […]

ค่ายอาสา จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านโตนดน้อย อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี โดยนักศึกษาสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ประจำปี 2562

“ทำไมกรุงเทพฯ ถึงไม่มีร้านกาแฟที่มีสนามหญ้ากว้าง ๆ ต้นไม่เยอะ ๆ บ้าง”  จากคำถามที่สนทนากันระหว่างกลุ่มเพื่อน ได้กลายเป็นที่มาของการเปิดร้าน Like A Local คาเฟ่แถวเกษตร-นวมินทร์ ที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบหนึ่งไร่ใกล้อุโมงค์เกษตร คาเฟ่แถวเกษตร-นวมินทร์ LIKE A LOCAL แห่งนี้คอยต้อนรับบรรดาคอกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศผ่อนคลายที่ทางเจ้าของร้านช่วยกันระดมไอเดีย จนตกผลึกออกมาเป็นอาคารทรงกล่องสี่เหลี่ยมดีไซน์เรียบง่ายขนาดกำลังพอดี โดยมีร่มไม้ใหญ่และสนามหญ้าสีเขียวเป็นไฮไลต์ช่วยเติมเต็มร้านกาแฟในฝันให้สมบูรณ์แบบ   คาเฟ่ริมถนนประเสริฐมนูกิจ ย่านเกษตร-นวมินทร์ แห่งนี้ ดูโดดเด่นท่ามกลางสนามหญ้าโล่งกว้างด้านหน้า เพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสเเละใกล้ชิดธรรมชาติตามความตั้งใจของเจ้าของ การตกแต่งเน้นความเรียบง่ายด้วยลุคดิบเท่จากการนำสัจวัสดุมาใช้ เช่น การทำพื้นปูนเปลือย วงกบประตู-หน้าต่างจากเหล็กที่ปล่อยให้ขึ้นสนิมตามธรรมชาติ และเฟอน์นิเจอร์ไม้เก่าเพื่อให้บรรยากาศโดยรวมดูไม่แข็งกระด้างจนเกินไป พร้อมกับการจัดวางที่นั่งหลากหลายรูปแบบไว้ตามมุมต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้า ภายในออกแบบฝ้าเพดานให้สูงถึง 5 เมตร เมื่อเข้ามาจึงสัมผัสได้ถึงความรู้สึกปลอดโปร่งสบายตา เสริมด้วยการกรุกระจกใสขนาดใหญ่รอบอาคาร เพื่อเปิดรับเเสงสว่างได้อย่างทั่วถึงอีกทั้งยังช่วยเชื่อมบรรยากาศภายนอกเข้าสู่ภายใน มองเห็นวิวจากสวนที่เจ้าของร้านตั้งใจสร้างขึ้นเป็นพิเศษด้วยการถมและปรับหน้าดินใหม่ รวมไปถึงการเลือกพรรณไม้และหญ้าอย่างดีมาปลูกสำหรับรองรับการจัดกิจกรรมกลางแจ้งในอนาคต เปิดให้บริการตั้งเเต่เวลาเจ็ดโมงเช้า เพื่อเอาใจหนุ่มสาวออฟฟิศสามารถเเวะดื่มกาเเฟพร้อมอาหารเช้าก่อนไปทำงาน ส่วนเวลากลางวันถึงมื้อค่ำจัดเสิร์ฟอาหารเเละเครื่องดื่มหลากหลายสไตล์ ทั้งอาหารไทย – ตะวันตก รสชาติอร่อยกลมกล่อมเพราะคัดสรรจากวัตถุดิบคุณภาพ ภายใต้บรรยากาศเเบบเป็นกันเอง จะเลือกนั่งในโซนอินดอร์หรือเอ๊าต์ดอร์ก็สามารถอิ่มเอมไปกับความสุขได้ไม่ต่างกัน ที่ตั้ง ซอยประเสริฐมนูกิจ 2 (ตอม่อที่ 19-20 […]

“สีลม” ย่านธุรกิจขึ้นชื่อของกรุงเทพฯ ที่คลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาวออฟฟิศ และนักเรียนนักศึกษา จากความคึกคักนี้จึงเป็นไอเดียให้คุณแบงค์ – วรุตม์ ควรทรงธรรม ตัดสินใจรีโนเวทตึกเก่าสองคูหา แล้วเปิดเป็น คาเฟ่ย่านสีลม ที่เด่นด้วยการตกแต่งสไตล์ลอฟต์ กับบรรยากาศสงบสุดเรียบง่าย ทั้งยังเปิดเป็น Co-Working Space ทุกมุมในร้านสามารถนั่งทำงานได้อย่างสบาย รวมถึงพื้นที่ชั้น 3 ของร้านยังใช้เป็นออฟฟิศของคุณแบงค์เองด้วย DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: KTJ+d architects ภายใน คาเฟ่ย่านสีลม เเห่งนี้ เด่นด้วยบรรยากาศสุดเรียบง่าย ที่ตกแต่งร้านด้วย สไตล์ลอฟต์ คุมโทนสีขาว เทา เเละดำ เลือกใช้ผนังปูนขัดมันเป็นเท็กซ์เจอร์หลัก แล้วชูพื้นที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มให้เด่นด้วยกระเบื้องสีขาวชิ้นเล็ก ๆ ที่กรุเต็มความสูงของผนังจนถึงด้านบน นอกจากนี้ยังมีการทุบพื้นที่ชั้น 2 ออกบางส่วน เพื่อเปิดเป็นพื้นที่ดับเบิ้ลสเปซ ช่วยให้ คาเฟ่สไตล์ลอฟต์ แห่งนี้ ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัด อีกทั้งช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามา เหมาะนั่งทำงานเเละคิดงานได้อย่างดี พื้นที่ชั้น 1 เลือกจัดโต๊ะทั้งแบบชุดโซฟา โต๊ะเดี่ยว โต๊ะคู่ และโต๊ะแบบบาร์ […]

พูดถึง จิเวลรี่ หลายคนอาจนึกถึงความหรูหรา เหมาะแก่คนชั้นสูงเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วคนธรรมดาอย่างเราก็สามารถแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบ ๆ ให้ดูแพงได้ เพราะในปัจจุบันมี จิเวลรี่สไตล์มินิมอล ดีไซน์หลากหลายที่สร้างสรรค์ ให้เราสามารถเลือกสรรบ่งบอกความเป็นตัวเรา เพื่อเสริมสร้างบุคลิกภาพ แล้วยังนำมาแมตซ์กับเสื้อผ้าได้ง่าย ๆ อีกด้วย เครื่องประดับเป็นของคู่กันกับผู้หญิง เพราะจะแค่การแต่งตัวอย่างเดียวคงไม่พอ กว่าจะออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องเพิ่มความมั่นใจด้วยต่างหูสักคู่ หรือไม่ก็แหวนสักวง หรืออย่างน้อยต้องมีสร้อยสักเส้น ถ้าวันไหนไม่มีคงเหมือนแต่งตัวไม่เสร็จ เหมือนแต่งหน้าไม่ได้ทาลิป ก็ของมันต้องมีอ่าเนอะ! แต่จะโดดเด่นกระแทกตาแค่ไหนก็ไม่จำเป็นต้องแบกเครื่องประดับทับถมไปให้หนัก เพียงแค่สไตล์มินิมอลก็เอาอยู่แล้ว ไม่ต้องเยอะก็สวยปังได้ สาว ๆ คนไหนกำลังมองหา วันนี้ room มี  จิเวลรี่สไตล์มินิมอล  น้อยแต่(สวย)มาก ไม่ควรพลาดกันเลยทีเดียว ไปดูกันเลย… Geometry จิเวลรี่รูปทรงเรขาคณิต เป็นเทรนด์รูปทรงที่ยังคงมาแรงไม่มีตก แค่เพียงเส้นตรงธรรมดา ๆ แต่กลับสร้างความพิเศษ หรือผสมหลากหลายรูปทรง ทั้งรูปทรงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เป็นต้น นำมาประยุกต์ ดัดแปลงให้มีความเรียบง่ายแต่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ให้ความรู้สึกเป็นอิสระ ไร้รูปแบบที่แน่นอน     […]

S&P ร้านอาหารและเบเกอรี่แบรนด์เก่าแก่ที่อยู่คู่คนไทยมานานกว่า 45 ปี กับคุณภาพคับแก้วเหมือนเดิม แต่วันนี้ได้เปลี่ยนโฉมใหม่ให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้นโดยฝีมือทายาทรุ่นใหม่ ที่ต้องการปรับรูปแบบร้านเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าและยุคสมัยที่เปลี่ยนไป บนพื้นที่กว่า 200 ตารางเมตร ของ SNP HQ สาขาเมกา บางนา ให้เป็น คาเฟ่ย่านบางนา ในบรรยากาศโรงงานขนม สไตล์อินดัสเทรียลเฟ็คตอรี่ ที่นี่เป็น คาเฟ่ย่านบางนา  ที่ใครอยู่ย่านนั้นห้ามพลาด ด้านหน้าร้านเด่นด้วยตู้เค้กกระจกขนาดใหญ่ที่เรียกความสนใจได้ตั้งแต่แรกเห็น คิ้วสเตนเลสสีเงินดูโมเดิร์นทันสมัย ให้ลุคของโรงงานทำขนมที่แตกต่าง ภายในแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซน คือ พื้นที่นั่งรับประทานอาหาร เอสเปรสโซบาร์ และโซนเค้กกับเบเกอรี่ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ฝ้าเพดานโชว์งานระบบ เข้ากับพื้นปูนขัดมันสไตล์ลอฟท์โดดเด่นด้วยเสาตกแต่งกลางร้านกรุกระเบื้องแผ่นเล็กผิวมันวาวสีขาว-ดำ ช่วยสร้างบรรยากาศเหมือนเป็นโครงสร้างภายในโรงงาน ทั้งยังกั้นแบ่งพื้นที่ให้เป็นสัดส่วนไปในตัว   นอกจากการตกแต่งร้านที่ดูทันสมัยขึ้นแล้ว หน้าตาของอาหารและขนมก็ดูโมเดิร์นไม่แพ้กัน ด้วยการประยุกต์เมนูไทย ๆ รสชาติจัดจ้านเข้ากับเมนูตะวันตกได้อย่างลงตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย เรียกได้ว่าเป็นโรงงานผลิตอาหารและขนมที่สามารถผลิตความสุขให้ลูกค้าได้อย่างเต็มเปี่ยม ที่ตั้ง ศูนย์การค้าเมกา บางนา 39 หมู่ 6 ถนนบางนา-ตราด โทร. 0-2105-1845 https://snpfood.com/ […]

Serpentine Pavilion คือศาลาชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะ Hype Park ใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยในทุก ๆ ปี หอศิลป์ร่วมสมัย Serpentine Galleries จะเชิญสถาปนิกและศิลปินชื่อดังมาร่วมออกแบบศาลาดังกล่าว Serpentine Pavilion เกิดขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2000 โดยได้เชิญ  Zaha Hadid สถาปนิกที่มีชื่อเสียงก้องโลกในช่วงนั้นมาเป็นผู้ออกแบบ นอกจากนี้ในปีต่อ ๆ มายังได้รับเกียรติจากสถาปนิกชื่อดังท่านอื่น ๆ สับเปลี่ยนมาร่วมสร้างสรรค์ศาลาชั่วคราวแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Rem Koolhaas, Frank Gehry, SANAA และ Peter Zumthor โดยสถาปนิกแต่ละท่านจะมีระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 6 เดือน ก่อนจะเปิดใช้งานสาธารณะเป็นเวลา 3 เดือน ระหว่างช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงปลายฤดูร้อนของทุกปี (กลางเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนตุลาคม) และสำหรับการออกแบบพาวิเลี่ยนในปีนี้ Junya Ishigami สถาปนิกดาวรุ่งชาวญี่ปุ่น คือผู้ได้รับเกียรติให้รับหน้าที่ออกแบบ Serpentine Pavilion เป็นคนที่ 19 ซึ่งหลายคนอาจรู้จักเขาจากงาน Kanagawa […]

room ชวน วรทิตย์ เครือวาณิชกิจ และไผทวัฒน์ จ่างตระกูล ผู้ทำให้งานออกแบบกับศิลปะกลายเป็นเรื่องเดียวกัน มานั่งเล่าเบื้องหลังความสำเร็จของฟาร์มกรุ๊ป บริษัทที่ชอบออกแบบโลโก้แต่ก็ไม่ได้ถนัดอยู่แค่งานออกแบบโลโก้อย่างเดียว ความเชี่ยวชาญของฟาร์มเพาะเมล็ดพันธุ์งานสร้างสรรค์แห่งนี้คือการเป็น Creative & Design Consultancy ที่อยู่เบื้องหลังการสร้างแบรนด์ให้กับบริษัทชั้นนำหลาย ๆ แห่งที่หากยกชื่อมาต้องคุ้นกัน รวมถึงเป็นผู้จัดนิทรรศการดัง ๆ ที่ได้ยินชื่อแล้วต้องร้องอ๋อ ซึ่ง Hotel Art Fair ก็เป็นหนึ่งในนั้น

M Social Singapore เป็นบูติกโฮเต็ลในย่านธุรกิจริมแม่น้ำของสิงคโปร์ ผลงานการออกแบบของ Philippe Starck นักออกแบบระดับโลกชาวฝรั่งเศส ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักเดินทางและนักธุรกิจ ในยุคมิลเลนเนียลที่ชื่นชอบการสื่อสารและเทคโนโลยี ผ่านบรรยากาศแบบอาวองต์การ์ด

หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตา TREAT Café สาขาซอยเสนานิคม แต่สำหรับที่ TREAT Café & Hangout คาเฟ่ย่านประชาชื่น สาขาใหม่จะทำให้คุณเต็มอิ่มกว่าที่เคย เพราะมาพร้อมพื้นที่ขนาดใหญ่ขึ้น แถมยังดีไซน์ร้านได้อย่างเก๋ไก๋จากไอเท็มต่าง ๆ มากมาย ภายใน คาเฟ่ย่านประชาชื่น แห่งนี้โดดเด่นด้วยอาคารโครงสร้าง คอนกรีตเปลือยโชว์ผิว แบบดิบเท่  เป็นฉากหลังให้กับงานศิลปะและของตกแต่งที่ช่วยเพิ่มเรื่องราวและบรรยากาศหรูหรา ตัดกับผิวสัมผัสแข็งกระด้างของตัวอาคาร และพื้นกระเบื้องจัตุรัสสีขาว แม้จะเป็นองค์ประกอบที่ขัดแย้งกัน แต่ทั้งหมดกลับสามารถอยู่รวมกันได้อย่างลงตัวกับการตกแต่งสไตล์Luxury Bar & Luxury Art ที่คุมโทนสีทอง ดำ และสีเขียวจากเหล่า ต้นไม้ทรอปิคัล ใบเขียวชอุ่มซึ่งถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ มองไปทางไหนก็ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายสบายตา แถมยังดูเชื่อมโยงกับเฟอร์นิเจอร์โทนสีเขียวเข้มที่ให้ความรู้สึกวินเทจนิด ๆ ทุกอย่างบรรจงจัดวางอย่างพิถีพิถัน ไม่เพียงของตกแต่งชิ้นใหญ่ ๆ แม้แต่ช้อน จาน ชาม โคมไฟ ฯลฯ ก็ยังมีรายละเอียดที่บอกถึงความใส่ใจ นอกจากจะบริการกาแฟและขนมเค้กอร่อย ๆ  ที่เป็นสูตรเด็ดของทางร้านแล้ว  คาเฟ่ย่านประชาชื่น  แห่งนี้  ยังจัดเสิร์ฟอาหารสไตล์ฟิวชั่นหลากหลายเมนูที่ปรุงจากวัตถุดิบคุณภาพอย่าง ผักไฮรโดรโปนิกส์ จาก Station Farm […]

Hotel Art Fair 2019 ได้คัดเลือกหลากหลายแกลเลอรี่ทั่วทั้งเอเชียมากกว่า 30 แห่งทั่วเอเชีย รวมไปถึงศิลปินชั้นนำจากทั้งไทยและต่างประเทศมารวมกันไว้มากที่สุด นี่คือ 9 ห้อง 9 แกลลอรี่ ที่ room ขอแนะนำให้นักสะสมผลงานศิลปะว่าไม่ควรพลาด

คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียล ดีไซน์เรียบง่ายเป็นกันเองสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม มาพร้อมเมนูอร่อย ๆ ถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเมนูกาแฟจากเมล็ดคั่วเองสูตรเฉพาะ เครื่องดื่มขึ้นชื่อ อย่าง Black Cocoa เข้มกลมกล่อม เบเกอรี่ รวมไปจนถึงเมนูอาหารรับประทานง่าย อย่าง ก๋วยเตี๋ยวไก่ จากความตั้งใจที่อยากให้ Mama Café คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียล เป็นแบรนด์คาเฟ่ที่เข้าถึงง่ายสำหรับทุกคน จึงได้รับการสะท้อนออกมาผ่านรายละเอียดงานออกแบบ ตั้งแต่โลโก้ร้าน “mama” ที่อยู่ในเครื่องหมายคำพูด คำเรียบง่ายติดปากที่เหมือนกล่าวเชิญชวนให้ “มา ๆ ชิมของอร่อยกัน” ไปจนถึงการออกแบบสเปซที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่มีสไตล์เข้ากับสมัยนิยม ดูสะดุดตาโดดเด่นจากบริบทรอบ ๆ แม้แต่ละสาขาจะออกแบบไม่เหมือนกัน เพื่อตอบรับกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่หลากหลาย แต่สาขานี้กลับดูคมเข้มกว่าเพื่อนด้วยการรีโนเวทคาเฟ่จากโครงสร้างเดิมของร้านคาร์แคร์ เปลี่ยนสีโครงสร้างเหล็กกรุเมทัลชีทให้กลายเป็น คาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียล สีดำเรียบเท่ แบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นโซนคาเฟ่ติดเครื่องปรับอากาศ ออกแบบให้มีช่องเปิดรอบด้านเพื่อให้ดูโปร่งสบาย เชื่อมต่อกับส่วนร้านอาหารแบบกึ่งเอ๊าต์ดอร์อีกด้าน บรรยากาศภายในคุมโทนสีเทาและดำด้วยพื้นปูนเปลือย และผนังปูนฉาบดูดิบกระด้าง เป็นฉากหลังที่ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีดำสนิท แทรกด้วยโต๊ะและเก้าอี้ไม้สีเข้มบางจุดเพื่อสร้างความรู้สึกอบอุ่น ส่วนพื้นที่ภายนอกด้านข้างคาเฟ่โรยกรวดแกรนิตสีเทาเรียบ ดูแลง่าย เหมาะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นสังสรรค์ยามค่ำคืน Mama Café กำลังวางแผนจะขยับขยายอีกหลายสาขาด้วยดีไซน์ที่แตกต่างกันไป เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ ๆ ให้ลูกค้าในวงกว้าง ภายใต้บรรยากาศที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเองเช่นเคย […]