- Home
- Design
Design
บ้านไม้ไผ่ อยู่อย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติในกาลาปากอส
บ้านไม้ไผ่ รูปทรงโมเดิร์นตั้งอยู่ที่เกาะซานกริสโตบาล ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะกาลาปากอส ในประเทศเอกวาดอร์ ก่อสร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากร พลังงาน แรงงาน และการขนส่งในพื้นที่ โดยพยายามให้เกิดความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติมากที่สุด Dany และ Jenny คู่สามีภรรยาเจ้าของ บ้านไม้ไผ่ ตั้งใจสร้างที่นี่ขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่มีลูกคนแรก แล้วต้องการพื้นที่พักอาศัยที่กว้างขึ้น โดยได้รับคำปรึกษาจาก ESEcolectivo ก่อนออกมาเป็นบ้านที่ใช้โครงสร้างไม้ไผ่ทั้งหลัง โดยใช้แรงงานและภูมิปัญญาท้องถิ่นภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงนัก เพื่อให้เข้ากันดีกับบริบททางธรรมชาติอันเปราะบางของหมู่เกาะกาลาปากอส บ้านทั้งหลังจึงต้องออกแบบให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล ลดการใช้พลังงาน และพึ่งพาตนเองได้ เห็นได้จากการแบ่งพื้นที่รอบบ้านสำหรับทำแปลงปลูกผักใช้รับประทานในครอบครัว ขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายในขนาด 120 ตารางเมตร สถาปนิกได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างประกอบด้วยส่วนห้องน้ำ ส่วนซักล้าง และห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ แบ่งพื้นที่รอบแกนบันไดให้มีขนาดกว้าง เพื่อทำหน้าที่เป็นทางเดินไปขึ้นสู่ชั้นบนสุดมองเห็นวิวทะเลได้ ทั้งยังช่วยในการไหลเวียนอากาศทั่วทั้งบ้าน ชั้น 2 มีห้องพัก 2 ห้อง คือ ห้องนอนใหญ่ และห้องเด็กเล่น เผื่อสำหรับในอนาคตเมื่อลูกเติบโตขึ้น เขาสามารถย้ายมาพักที่ห้องนี้ได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนชั้น 3 มีห้องสตูดิโอขนาดเล็ก และจุดชมวิวที่สามารถทอดสายตาชมวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างโรแมนติก ด้านการตกแต่งเน้นเฟอร์นิเจอร์และส่วนต่าง ๆ […]
The GOAT Greatest Of All Time & Wanyu mansion จุดผสมที่ลงตัวของร้านไฟน์ไดนิ่ง และBed & Breakfast
The GOAT Greatest Of All Time & Wanyu mansion คือบ้าน ร้านอาหาร และที่พักแบบ Bed and Breakfast ของเชฟแทน-ภากร โกสิยพงษ์ กับนิยาม Off–beat Asian ที่นำมาใช้ในแง่สถาปัตยกรรมให้มีกลิ่นอายแบบชิโน-โปรตุกีส ผสมผสานความร่วมสมัยจากประสบการณ์การเดินทางในหลากหลายประเทศ แต่งแต้มเอกลักษณ์อย่างอาคารย่านเอกมัย-ทองหล่อให้โดดเด่นและแตกต่าง DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: Storage Studio จากจุดเริ่มต้นของการมุ่งหน้าสู่อาชีพ “เชฟ” คุณแทน-ภากร โกสิยพงษ์ เจ้าของร้าน The GOAT Greatest Of All Time และร่วมกับพี่น้องอีก 2 ท่านในการบริหาร Wanyu mansion ร่วมกัน ที่นี่เปรียบเสมือนบทใหม่ของการทำงานเลยทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้คือการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งในการไปทำงานในต่างประเทศ การได้ร่วมกับเพื่อนเปิดร้านอาหาร “Ekamian” และการได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาร้านอาหารให้กับร้าน One Ounce for Onion และ OOOBKK จนวันนี้รูปแบบสไตล์ได้ลงตัวพร้อมนำเสนออย่างชัดเจนในชื่อของ […]
WORKPLACE Saimai-Phaholyothin โฮมออฟฟิศตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่
WORKPLACE Saimai-Phaholyothin คืออีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์โครงการโฮมออฟฟิศโดย SC Asset รองรับทั้งการอยู่อาศัยและการประกอบธุรกิจ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของกิจการที่ต้องการขยายสาขา หรือกำลังมองหากิจการใหม่ ๆ เช่น คลินิก ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ โครงการ WORKPLACE Saimai-Phaholyothin ทำเลติดถนนสายไหม ต่อเนื่องกับโครงการทาวน์โฮม เวิร์ฟ สายไหม-พหลโยธิน เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย รวมถึงทุกยูนิตหันหน้าเข้าถนน จึงพร้อมรองรับทั้งลูกค้าจากภายนอก และสมาชิกในหมู่บ้าน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์เรียบเท่สไตล์ Modern Loft ที่เพิ่มเส้นสายสร้างชีวิตชีวา และความสนุกสนานแบบ Festival ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีการออกแบบให้เชื่อมโยงกับโครงการทาวน์โฮมด้านหลัง เพื่อสร้างความเป็นต่อเนื่องของภาพรวม โฮมออฟฟิศแบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่ คุณภาณุ พิศาลกิจวนิช ตำแหน่ง Marketing Manager Low Rise และ คุณภาณุพงษ์ ชินมหาวงศ์ Senior Manager Project Architect ของโครงการ เวิร์คเพลส สายไหม–พหลโยธิน บอกเล่าถึงแนวโน้มความนิยมที่อยู่อาศัยประเภทโฮมออฟฟิศในตลาดคนรุ่นใหม่ ที่มองหาพื้นที่ธุรกิจพร้อมๆ กับที่อยู่อาศัย “แนวโน้มของโฮมออฟฟิศกำลังเริ่มดีขึ้น คนรุ่นใหม่เริ่มทำธุรกิจเร็วขึ้น […]
PROTAGONIST BAR คาเฟ่กึ่งบาร์ที่มี “สัจวัสดุ” เป็นพระเอก
คาเฟ่กึ่งบาร์ ที่แปลชื่อได้ว่า “ตัวเอก” มีโจทย์อยู่ที่การสร้างพื้นที่โดยใช้ “สัจวัสดุ” ซึ่งได้กลายมาเป็นงานออกแบบตัวเอกของสถานที่นี้ พื้นที่ภายในเน้นบรรยากาศเผยให้เห็นความเป็น สัจวัสดุ ซึ่งเป็นร่องรอยโครงสร้างดั้งเดิม ทั้งการฉาบฝ้าเพดาน พื้นผิวคอนกรีตมองเห็นรอยที่เคยปูกระเบื้อง เเละเนื้อปูนที่เชื่อมประสานอิฐแต่ละก้อน แล้วจัดสรรสเปซเพื่อให้สอดรับกับฟังก์ชันการใช้งานมากที่สุด เพราะให้ความสำคัญกับเสียงเพลงและดีเจเป็นพิเศษ นอกจากจะออกแบบระบบเสียงอย่างดีแล้ว บู๊ธดีเจของที่นี่ยังแสดงถึงกลิ่นอายวินเทจนิด ๆ ด้วยการนำสเตอริโอโบราณจากยุคโซเวียตมาตัดครึ่งแล้วขยายออก ก่อนเติมดีเทลความเป็นโมเดิร์นลงไป จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกของพื้นที่ส่วนที่เป็นจุดโฟกัสของสเปซอย่างพื้นที่รับประทานอาหารส่วนกลาง เลือกใช้โต๊ะอาหารแบบยาววางกลางห้อง เปิดมุมมองออกสู่หน้าต่างบานกว้างแบบพานอรามา เหนือโต๊ะเป็นประติมากรรมโคมไฟขนาดยักษ์ตีกรอบล้อมรอบด้วยผิวเมทัลลิกมันวาว พื้นที่ส่วนกลางนี้ประกบข้างด้วยบาร์เต็มรูปแบบอยู่ฝั่งซ้ายมือของโต๊ะ และผืนผนังบล็อกแก้วที่สะท้อนความเป็นไปภายในร้านผ่านแสงและสีสัน ทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นรายละเอียดการตกแต่งที่เรืองรองออกมาจากกล่องหน้าตาธรรมดาตรงบริเวณหัวมุมถนนโดดเด่นกว่าใคร Idea to Steal เปลี่ยนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าวินเทจให้กลายเป็นพร็อปส์ตกแต่งสุดเก๋ด้วยการทดลองตัด ต่อ และเติม ข้อมูล ที่ตั้ง เมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน ออกแบบ : belbek bureau เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 น. – 02.00 น. IG: prtgnst.bar
ออฟฟิศ ม่านไม้เลื้อยเพื่อสร้างความสุขในการทำงาน A&P OFFICE BUILDING
ออกแบบ ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน หากใครมีโอกาสผ่านเข้าไปในซอยประชาชื่น 31 จะพบอาคารคอนกรีตสูง 5 ชั้นที่ตั้งใจเลือกใช้ฟาซาดจากธรรมชาติ เป็นม่านไม้เลื้อย ซึ่งอาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท เอ แอนด์ พี เมนทิแนนซ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ในแวดวงธุรกิจจะรู้จักกันดีในชื่อ A&P ซึ่งเป็นบริษัทรับคลีนนิ่งระดับประเทศ ที่รับทำความสะอาดทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า สนามบิน ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ โดยอาคารสำนักงานดังกล่าวเป็นการออกแบบและสร้างใหม่บนที่ดินขนาด 1.5 ไร่ ออกแบบโดยคุณ ศรีศักดิ์ พัฒนวศิน ภายใต้แนวความคิดการหลอมรวมธรรมชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้กับพนักงานขององค์กรอย่างยั่งยืน อาคารสำนักงานแห่งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ออกแบบไม่น้อย เนื่องจากต้องทำการออกแบบและก่อสร้างภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและการออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด ในการออกแบบเบื้องต้น ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้ตัวอาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 2,000 ตร.ม. วางไว้ด้านในของที่ดิน เนื่องจากทางเจ้าของโครงการมีแผนจะสร้างอาคารเพิ่มเติมยังบริเวณด้านหน้าที่ดินในอนาคต อีกทั้งด้วยตำแหน่งของที่ตั้งทำให้จำเป็นต้องหันด้านหน้าอาคารไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นด้านที่จะได้รับความร้อนตลอดทั้งวัน ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้มีชุดผนังกระจกบานเลื่อนซ้อนในทุกๆ ฟังก์ชันเผื่อในกรณีที่ต้องการเปิดรับลมได้มากสุด ก็จะทำให้อากาศนั้นหมุนเวียนไปได้ทั่วอาคาร เสริมกับการเลือกใช้ต้นลีกวนยูมาเป็นฟาซาดด้านหน้าอาคารก็เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำหน้าที่เสมือนเป็นอุปกรณ์บังแดดทางธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมให้กับอาคารอีกชั้นหนึ่งด้วย ทั้งนี้ตัวอาคารยังออกแบบพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าด้วยการกำหนดผนังทั้ง 2 ด้านของอาคารนั้นเป็นผนังทึบ ทำให้ระยะร่นระหว่างจากอาคารถึงแนวเขตกำแพงนั้นมีน้อยลงตามที่ข้อกฎหมายได้กำหนด ส่งผลให้อาคารมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นเพื่อช่วยกันความร้อนและเพื่อย่นระยะเวลาในการก่อสร้าง […]
“มีวนา” แบรนด์กาแฟไทยกับวิถีวนเกษตรอินทรีย์ คนกับป่าพึ่งพากันอย่างยั่งยืน
ทุกครั้งที่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ถ้าได้รู้ถึงที่มาของความอร่อยตรงหน้า ความสุขจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีรึเปล่านะ? สำหรับเราความรู้สึกนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน MiVana Coffee Flagship Store แฟล็กชิปสโตร์คาเฟ่ที่มีบรรยากาศร่มรื่นย่านศรีนครินทร์ของ “ มีวนา ” โดยเปิดขึ้นเพื่อหวังให้ที่นี่เป็นโมเดลต้นแบบในการส่งต่อแนวคิดการดูแลธรรมชาติ ผ่านไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟ กระตุ้นให้คนเมืองสนใจกาแฟออร์แกนิกกันมากขึ้น ตลอดการทำงานมากว่าสิบปีของแบรนด์กาแฟ “มีวนา” ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางเพื่อสังคม ผลิตกาแฟอาราบิก้าด้วยระบบวนเกษตรแบบอินทรีย์ กับการปลูกกาแฟแทรกไปกับต้นไม้ในผืนป่า แตกต่างจากการทำไร่กาแฟที่ต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีที่สามารถควบคุมปริมาณผลผลิตได้ตามความต้องการของตลาด ขณะที่การปลูกกาแฟใต้ร่มเงาป่าของมีวนา แม้จะไม่สามารถสู้เรื่องจำนวนการผลิตได้ แต่ในด้านคุณภาพที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับระบบนิเวศควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพและปลูกฝังความหวงแหนรักษาป่าละก็นั่นนับเป็นพันธกิจและเป้าหมายอันสำคัญกว่า เบื้องหลังแนวคิดนี้ คุณมิกิ-ชัญญาพัชญ์ โยธาธรรมสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท มีวนา จำกัด คือตัวแทนที่จะมาเล่าให้ฟังถึงแนวทางการทำงานของมีวนา ภายใต้เหตุผลของความยั่งยืนดังกล่าวว่า สิ่งนี้ได้สร้างผลลัพธ์ใดกลับคืนสู่สังคมและโลกใบนี้อย่างไร นอกเหนือจากมูลค่าทางธุรกิจ การปลูกกาแฟอินทรีย์กับการอนุรักษ์ป่าสองเรื่องนี้มาบรรจบกันได้อย่างไร คุณมิกิ : “เนื่องจากกาแฟอาราบิก้าต้องปลูกในพื้นที่สูงมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ขึ้นไป และต้องมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นจึงจะได้ผลผลิตที่ดีในเชิงของพื้นที่ป่าที่เราเข้าไปทำงานในเชียงราย จะมีสองส่วนคือพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เราก็อนุรักษ์ไว้แล้วก็เอากาแฟไปปลูกใต้ร่มเงาป่าในพื้นที่ อีกส่วนคือป่าเสื่อมโทรมหรืออาจจะถูกทำลายไปแล้วเราจะปลูกต้นกาแฟควบคู่ไปกับต้นไม้ที่มีความหลากหลายทางนิเวศ เป็นไม้ที่ให้ร่มเงาในระดับที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ “ในอดีตที่ผ่านมาคนอาจจะคุ้นเคยกับการทำไร่กาแฟแบบเป็นแปลงปลูก จะไม่ได้เป็นการปลูกแบบร่วมกันกับป่าเท่าไหร่มากนัก เขาจะมีการจัดการบริหารที่ง่ายกว่าเรา เดินตามแปลงก็จบ บริหารจัดการง่าย พอเจอศัตรูพืชก็ใช้สารเคมีเร่งดอก เร่งผล […]
GOOP HQ ออฟฟิศแบรนด์ไลฟ์สไตล์ ที่มีเป้าหมายเป็นความสุขของผู้หญิง
Goop คือแบรนด์ไลฟ์สไตล์ของกวินเนท ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้หญิงเลือกสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองตั้งแต่สไตล์ การท่องเที่ยว งาน อาหาร ความงาม
MIVANA COFFEE FLAGSHIP STORE ดื่มกาแฟไปพร้อมการอนุรักษ์ป่า ในคาเฟ่บรรยากาศธรรมชาติ
พาไปเยี่ยมเยือนแฟล็กชิบสโตร์ของแบรนด์กาแฟ “มีวนา” กับ MiVana Coffee Flagship Store คาเฟ่สไตล์กลาสเฮ้าส์ที่ตั้งอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพรีเมียร์คอร์เปอเรทปาร์ค ย่านถนนศรีนครินทร์ ที่ MiVana Coffee Flagship Store คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเย็นสดชื่น แวดล้อมด้วยกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีวนาต้องการสื่อสารไปยังลูกค้า เพื่อบอกถึงที่มาของกาแฟรสชาติดีในมือว่า ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำได้ ผ่านกาแฟที่ค่อย ๆ บรรจงดื่มด่ำนี้ไปพร้อมกันมีป่า มีน้ำ มีกาแฟ น่าจะเป็นคำจำกัดความที่ตรงตัวของแบรนด์ กับการส่งเสริมกระบวนการปลูกกาแฟอาราบิก้าอย่างเป็นระบบ ด้วยวิถีวนเกษตรอินทรีย์ ภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทีมส่งเสริมของมีวนากับเกษตรกรท้องถิ่นกว่า 7 หมู่บ้าน ไปพร้อมกับการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำแม่สรวย แม่กรณ์ และแม่ลาว เรียกง่าย ๆ หากไม่มีป่า ก็ไม่มีน้ำ และพื้นที่สำหรับปลูกกาแฟอินทรีย์คุณภาพดีดังนั้น เมื่อตั้งใจเปิดคาเฟ่เพื่อส่งต่อถ้อยความนี้ คุณณรงค์ จันทรมาศ สถาปนิกผู้ออกแบบ จึงเลือกถ่ายทอดผ่านการออกแบบตัวอาคารให้เป็นกลาสเฮ้าส์ เพื่อให้ได้ร่มเงาของไม้ใหญ่ที่ปลูกอยู่โดยรอบ เผยให้มองเห็นภาพของความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มชื้นของสวน สะท้อนเรื่องราวของกาแฟมีวนาที่ปลูกและเติบโตใต้ร่มเงาป่าต้นน้ำ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของประดับงานแฮนด์เมดจากวัสดุธรรมชาติ สื่อถึงกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่น และวิถีชาวบ้านภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ โคมไฟ […]
CHURN BUTTERY คาเฟ่สไตล์นอร์ดิก ที่สายละมุนคนชอบเบเกอรี่ห้ามพลาด!!
เอาใจคนชานเมืองย่านถนนร่มเกล้า กับคาเฟ่บรรยากาศดีน่านั่ง CHURN Buttery ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Churn” ในภาษาอังกฤษ หมายถึงเครื่องตีเนย และปั่นนม เพื่อบอกเล่าจุดเด่นของร้านที่เน้นเมนูเบเกอรี่สูตรโฮมเมด อร่อยจนลืมอ้วน กินคู่กับกาแฟออสเตรเลียรสละมุน เป็นสองความอร่อยที่ลงตัว ผสมผสานอยู่ในคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์นอร์ดิก CHURN Buttery มีจุดเริ่มต้นมาจากแพสชั่นความหลงใหลของคู่สามีภรรยา คือคุณนที เตชะอาภรณ์กุล สัตวแพทย์ผู้หลงใหลเรื่องราวของกาแฟ และคุณจุฑาภัค สีตบุตร ที่ชื่นชอบการทำเบเกอรี่ โดยมีสูตรขนมอร่อย ๆ จากคุณแม่ แม้ทั้งคู่จะมีงานประจำกันอยู่แล้ว แต่ก็เลือกนำความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมาสร้างสรรค์เป็นคาเฟ่ โดยเลือกทำเลย่านถนนร่มเกล้าเพราะเห็นว่าถนนสายนี้แทบไม่มีคาเฟ่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือหาที่นั่งคุยกันค่อนข้างยาก นำมาสู่การออกแบบคาเฟ่ผ่านรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารทรงจั่วที่ให้อารมณ์เหมือนบ้านหลังใหญ่ คุณกฤติน เจริญพรวรนาม สถาปนิกผู้ออกแบบเล่าให้ฟังว่า “ตอนดีไซน์เราอยากให้ที่นี่มีความรู้สึกสบาย ๆ ลักษณะของร้านจึงมีความเป็นนอร์ดิกขาว ๆ มีจั่วและหลังคาทรงสูง แทรกความอบอุ่นด้วยงานไม้ นอกจากนี้ยังนำเส้นสายของซุ้มโค้งมาใช้ในส่วนของกรอบหน้าต่าง ต่อเนื่องไปยังกำแพงฝั่งที่จอดรถ แล้วไปจบที่มุมซุ้มกำแพงสีขาวดูคล้ายสตูดิโอถ่ายรูปตรงโซนด้านหลัง ส่วนช่องเปิดได้ติดตั้งกระจกขนาดใหญ่ และมีช่องแสงสกายไลท์อยู่ด้านบน เพื่อให้แสงสามารถส่องเข้ามาในร้านได้ทั่วถึง ให้มิติของแสงเงาและบรรยากาศที่ดูอบอุ่นอย่างเต็มที่ และยังเป็นเหมือนการโฆษณาตัวร้านได้ด้วย” นอกจากความละมุนละไมของบรรยากาศภายในแล้ว จุดเด่นที่ถือเป็นไฮไลต์คืองานออกแบบแลนด์สเคปที่มีสระน้ำอยู่ทั้งสองฝั่งทางเข้า “การออกแบบให้มีสระน้ำ ผมอยากให้มีบรรยากาศแบบ Stepping stone […]
CHIA TAI FARM จากฟาร์มสู่โต๊ะกับร้านอาหารดีไซน์เฉียบกลางกรุง
CHIA TAI FARM จากฟาร์มสู่โต๊ะกับร้านอาหารดีไซน์เฉียบกลางกรุง
Chewa Heart Sukhumvit 62/1 ทาวน์โฮมรองรับการอยู่อาศัยและสร้างรายได้
Chewa Heart Sukhumvit 62/1 เป็นโครงการทาวน์โฮมระดับลักชัวรี่จาก บริษัท ชีวาฮาร์ท จำกัด ได้รับการพัฒนาและต่อยอดมาจากแนวคิดที่ต้องการผสมผสานการอยู่อาศัยแบบคนรุ่นใหม่ โดยแบ่งสัดส่วนการใช้งานอย่างชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังคงตอบโจทย์ด้านการสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับครอบครัวขยายในอนาคต ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนห้องให้เกิดรายได้ในรูปแบบ Passive income เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียม บ้านในโครงการ Chewa Heart Sukhumvit 62/1 มีรูปแบบเดียว และมีเพียง 9 ยูนิต โดยแต่ละหลังมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 210 ตารางเมตร ตัวบ้านมีความสูง 3 ชั้นครึ่ง ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระตามความต้องการ มีการจัดสรรพื้นที่ของแต่ละห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วนสามารถปรับให้เชื่อมต่อหรือแยกออกจากกันได้ชัดเจน พร้อมรองรับกรณีที่มีผู้เช่าที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัว หากมองภาพรวมอาจดูคล้ายเป็นการจัดวางห้องรูปแบบคอนโดมิเนียมในพื้นที่ทาวน์โฮม ซึ่งช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้แก่เจ้าของบ้าน โถงบันไดกลางบ้าน ที่เปิดโล่งจากชั้นล่างถึงชั้นบนสุด คือหัวใจสำคัญที่ช่วยเปิดรับลมและแสงธรรมชาติจากช่องเปิดบนหลังคาให้ลงมาสู่ทางเดินส่วนกลางชั้นล่างได้อย่างทั่วถึง ขั้นบันไดทำจากแผ่นอะลูมิเนียมเจาะรูพับยิ่งช่วยให้สเปซดูโปร่งมากขึ้น นอกจากนี้ ผนังกระจกรอบโถงบันไดบนชั้น 2 และ 3 ยังติดตั้งบานหมุนกระจกนิรภัย หมุนปรับระดับองศาได้ ช่วยส่งต่อลม และแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่ […]
Citizen Tea Canteen of Nowhere คาเฟ่ชาไทยในโชว์รูมหัตถกรรม
ตึกแถวในตรอกเล็กซอยน้อยคือวิถีชีวิตอันคุ้นเคยและเปี่ยมเสน่ห์ของย่านเมืองเก่าในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกันกับที่ “ย่านตลาดน้อย” แม้วันนี้เราจะมีร้านชาเปิดใหม่อย่าง Citizen Tea Canteen of Nowhere เป็นเป้าหมายซึ่งอยู่ไม่ไกลข้างหน้านี้ แต่ก่อนเลี้ยวเข้าร้าน ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าสุดปลายตรอกนี้จะมีอะไร และทะลุไปเดินเล่นที่ไหนต่อได้อีกบ้าง ช่วงสองสามปีนี้มานี้ คนรักงานออกแบบรับรองว่าต้องคุ้นเคยกันดีกับชื่อ Citizen of Nowhere แบรนด์หัตถกรรมร่วมสมัยของ คุณศรัณย์ เย็นปัญญา ดีไซเนอร์สุดป็อปแห่ง 56thStudio ผู้มุ่งมั่นปลุกวิญญาณศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาชายขอบที่ถูกลืมเลือนหรือด้อยค่า ให้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันยุคใหม่ และคอลเล็กชั่นหัตถกรรมของเขา ก็คือจุดเริ่มต้นของการเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่นี้ Citizen Tea Canteen of Nowhere ยังมาพร้อมคาเฟ่ชาไทยสีส้มหน้าตาคุ้นเคย ที่นำเสนอในภาษาใหม่ที่ละเมียดละไมขึ้น “หลังจากแบรนด์เข้าสู่ปีที่สาม เรามีสินค้าค่อนข้างเยอะขึ้น เลยรู้สึกว่างานหัตถกรรมมันจะน่าสนใจและน่าซื้อมากขึ้นถ้าเราสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์ เลยเกิดเป็นโชว์รูมที่มีคาเฟ่ในตัว คนจะได้มอง ได้สัมผัส ได้สำรวจข้าวของได้แบบเพลิน ๆ” จากแกนหลักของแบรนด์หัตถกรรมที่ต้องการอุ้มชูวัฒนธรรมชายขอบ สวมเข้ากันพอดีกับคอนเซ็ปต์ของสภากาแฟหรือสภาชาแบบไทย ๆ ซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่สำหรับการร่วมวงชวนคนใกล้เคียงมาสังสรรค์ แลกเปลี่ยนบทสนทนาผ่านเครื่องดื่มคาเฟอีนในมือ งานทั้งสองแบบแม้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันในแง่ของระบบการจัดการ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการ Deconstruction – รื้อ ถอด ประกอบ […]