หอพักพยาบาลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย

หอพักพยาบาล ของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานของพยาบาลเป็นหลัก ประกอบกับสร้างสภาวะความน่าสบายไว้อย่างเต็มที่

THAIS ECOLEATHERS ความงามจากเศษหนังสู่วัสดุใหม่

THAIS ECOLEATHERS (อ่านว่า ธา-อิส) หนึ่งในแบรนด์ไทยจากโครงการ Talent Thai โดย DITP หรือ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ที่เราอยากแนะนำ เพราะไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ที่มีลวดลายและพื้นผิวที่น่าสนใจ หรือการนำไปใช้ที่หลากหลายเพียงเท่านั้น แต่การได้มาซึ่งวัสดุอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์นั่นก็คือ “หนังรีไซเคิล” ซึ่งเรียกได้ว่ามีความโดดเด่นและมีเพียงเจ้าเดียวในโลกที่สามารถผลิตสิ่งนี้ได้ จึงทำให้เราสนใจแบรนด์เครื่องหนังที่ชูวัสดุรักษ์โลกแบรนด์นี้เป็นพิเศษของคุณธันย์-ธันยวัฒน์ ทั่งตระกูล และคุณเม-พัณณ์ชิตา ธราดลศิริฐิติกุล จุดเริ่มต้น ถ้าพูดถึงจุดเริ่มของTHAIS ECOLEATHERS“เราเริ่มจากเป็นคนชอบเครื่องหนัง ชอบจนถึงขนาดที่อยากจะหัดทำเครื่องหนังด้วยตัวเอง” คุณธันย์เริ่มต้นเล่าให้เราฟัง “พอเราเริ่มทำหนังไปเรื่อย ๆ เราก็ค้นพบว่าสิ่งที่กวนใจเราคือ เศษหนัง ที่เหลือจากการผลิต จะเอาไปทิ้งก็เสียดาย พอจะนำเศษเหล่านั้นมาลองเย็บเป็นกระเป๋าแล้วเอาไปวางขายในอินเทอร์เน็ตก็ค้นพบว่า มันแทบจะไม่ได้ราคา เหมือนเป็นความคาใจจนเราเริ่มศึกษาลงไปว่า คนอื่นเขาจัดการกับเศษหนังกันอย่างไร และก็ค้นพบว่าเศษเหลือเหล่านี้มีอยู่มากมายในอุตสาหกรรมเครื่องหนัง และไทยเราเองก็เป็นประเทศส่งออกหนังอันดับที่ 4 ของโลก ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่า ปัญหาเศษเหลือเหล่านี้ ต้องมีอยู่มากมายเช่นเดียวกัน“ “พอเราเริ่มสนใจในปัญหาเศษเหลือเราก็ค้นพบว่า โรงงานส่วนใหญ่ต้องจ้างให้นำไปทิ้ง เป็นมูลค่าที่สูงพอสมควรเลยทีเดียว สิ่งที่ทำได้คือนำฝังกลบ หรือนำไปเผาทำลาย” คุณเมเล่าต่อ “ซึ่งเราอาจเคยได้ยินว่า มีการนำเศษหนังมาทำเป็นวัสดุใหม่ แต่นั่นไม่ใช่เศษหนังในขั้นตอนสุดท้ายแบบที่เป็นเศษเหลือแบบนี้ สิ่งเหล่านั้นคือเศษหนังที่มาจากขั้นตอนการผลิต คือหลังจากการฟอกเสียมากกว่า เราก็เลยคิดกันว่า […]

CONCRETE JUNGLE HOUSE รีโนเวตบ้านสำหรับซ่อนพื้นที่ทำกิจกรรมเอ๊าต์ดอร์ของลูกไว้ภายใน

รีโนเวทบ้านชั้นเดียว เป็นบ้านขนาด 2 ชั้นครึ่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในสไตล์มินิมัล ดูเรียบง่าย

JOUER ชุมชนสร้างสรรค์ในกลุ่มบ้านเก่าย่านสุขุมวิท

ท่ามกลางความพลุกพล่านของย่านใจกลางกรุง ซอยสุขุมวิท 32 คือซอยเล็ก ๆ ที่แทรกตัวอยู่ข้างอาคารคอนโดมิเนียมสูงตระหง่าน โดยมี Jouer (ฌูเอ้) ชุมชนสร้างสรรค์ขนาดย่อมตั้งอยู่บนที่ดินด้านในสุด ประกอบไปด้วยร้านตัดผม คาเฟ่ขนมหวาน ร้านทำเล็บ ร้านเฟอร์นิเจอร์ สำนักงานสถาปนิก สตูดิโอสร้างสรรค์สิ่งพิมพ์ Risograph ไปจนถึงแกลเลอรี่ศิลปะ ทั้งหมดนี้หลอมรวมอยู่ใน “กลุ่มบ้าน” ย้อนยุค 4 หลังท่ามกลางแมกไม้เขียวชอุ่ม ที่ได้รับการปรับปรุงให้เป็นแหล่งรวมคนทำงานสร้างสรรค์ เปิดให้ผู้ที่ชื่นชอบศิลปะเข้ามาเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ แถมในบางช่วงยังมีตลาดนัดศิลปะตามวาระอีกด้วย Jouer มีจุดเริ่มต้นจาก Dai Mogi เจ้าของร้านตัดผม Rikyu ในเครือของ Boy Tokyo ที่มีชื่อเสียงมานานแล้วกว่า 20 ปี ในประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้านการผสมผสานการตัดผมเข้ากับศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ และได้เลือกกรุงเทพฯ เป็นสาขาแรกในต่างประเทศเมื่อปี พ.ศ. 2553 จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา Rikyu ได้ย้ายถิ่นฐานจากซอยสุขุมวิท 24 มายังซอยสุขุมวิท 32 แห่งนี้ แต่แทนที่จะทำร้านตัดผมเพียงอย่างเดียว พวกเขาได้ชักชวนเพื่อน ๆ ในวงการสร้างสรรค์หลายสาขาวิชาชีพให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกครอบครัวใหญ่ด้วยกัน […]

เพิ่มความสุขในพื้นที่เพียง 23 ตารางเมตรกลางกรุงไทเป

ไอเดียแต่งคอนโด ภายใต้พื้นที่เพียง 23 ตารางเมตรให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในทุกตารางเมตรกลางกรุงไทเป ด้วยการใช้พื้นที่แนวตั้งอย่างคุ้มค่า

YIJIAN CAFE SHANGHAI คาเฟ่กล่องไม้ท่ามกลางป่าคอนกรีต

YIJIAN CAFE SHANGHAI คาเฟ่ขนาดเล็ก ที่มีพื้นที่เพียง 30 ตารางเมตรในรูปลักษณ์ของกล่องไม้สุดอบอุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าคอนกรีต

KAITHONG ORIGINAL สาขาใหม่สีขาวบริสุทธิ์ ตัวแทนความจริงใจที่บอกเล่ารสชาติอาหารคุณภาพ

ไก่ทอง ออริจินัล  สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถ่ายทอดบรรยากาศธรรมชาติอันบริสุทธิ์ เหมือนอาหารที่ปรุงจากใจทุกเมนู ไก่ทอง ออริจันัล ร้านอาหารไทยสไตล์ออเรียลทัลที่ส่งต่อความอร่อยมายาวนานกว่า 24 ปี ล่าสุดกับการเปิดสาขาที่ 4 ที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี โดยคุณหนู-แสงอรุณ มนตรีวัต ผู้บริหารและสานแบรนด์ต่อจากคุณแม่อรุณี มนตรีวัต ยังคงเน้นย้ำคุณภาพอาหารที่ปรุงจากใจ เพื่อมอบให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ ไม่ว่าจะสาขาไหนรับรองไม่ผิดหวัง และสำหรับสาขานี้ ขอเน้นการบริการที่โฟกัสและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ กับจำนวนที่นั่งที่รองรับลูกค้าเพียง 12 โต๊ะเท่านั้น ท่ามกลางบรรยากาศปลอดโปร่งสบาย ๆ สัมผัสได้ถึงความฮาโมนี มีธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนช่วยเติมเต็มเรื่องราว สื่อถึงความความรักอันบริสุทธิ์และจริงใจ เหมือนแม่ที่คัดสรรแต่อาหารคุณภาพดีให้คนในครอบครัวได้รับประทาน โดยครั้งนี้ดีไซเนอร์จาก Trimode Studio ขอเลือกหยิบแนวคิดความเป็นธรรมชาติอันบริสุทธิ์มาถ่ายทอดลงสู่พื้นที่ เพราะธรรมชาติถือเป็นต้นกำเนิดของทุกสรรพสิ่ง และเป็นผู้ให้อย่างไม่มีเงื่อนไข ดุจเดียวกับความรักของแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ร้านไก่ทองตั้งใจมอบให้แก่ลูกค้ามาโดยตลอด  จากความหมายอันยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ได้รับการคลี่คลายผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีความเป็นงานคราฟต์ซึ่งเป็นกระบวนการสร้างงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ Trimode Studio รวมเข้ากับโจทย์ของคุณหนูที่ต้องการให้ร้านมีบรรยากาศลักชัวรี่เหนือกาลเวลาและเรียบง่ายไปพร้อมกัน ภายใต้ข้อดีของทำเลที่มีช่องแสงขนาดใหญ่ถึงสามด้าน ดีไซเนอร์จึงนำแสงมาเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ เพื่อเชื่อมโยงแสงภายนอกเข้ามาสู่ภายใน กลายมาเป็นงานดีไซน์ที่ชวนให้จินตนาการถึงถ้ำในธรรมชาติ ที่พาทุกคนลัดเลาะผ่านสเปซทางเข้าด้านหน้า ก่อนเผยให้เห็นสเปซโล่งกว้างด้านใน […]

TONY FRUIT OFFICE ออฟฟิศที่ปกคลุมไปด้วยความเขียวชอุ่ม

Tony Fruit Office ออฟฟิศกลางเมืองโฮจิมินห์ สดชื่นด้วยฟาซาดเขียวชอุ่มแบบโมดูล่าร์ที่ทำหน้าที่กรองแสงแดด ความร้อน และเสียงรบกวนรอบ ๆ ของเมืองหลวง

SUJI HOTEL โรงแรมกลางนาบนถนนสายประวัติศาสตร์ในการขนส่งลิ้นจี่ให้นางสนม

โรงแรมกลางนา แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Leijiawan ใกล้ ๆ กับเมืองฉงชิ่ง ท่ามกลางหมู่บ้านที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ บนเทือกเขาพระจันทร์ที่มีความสูงประมาณ 800 เมตร ทางด้านทิศตะวันตกของ โรงแรมกลางนา เป็นเทือกเขาสูง อีกสองด้านขนาบไว้ด้วยเนินเขา ส่วนด้านที่เหลือเป็นช่องว่างที่สามารถมองเห็นวิวเมืองที่ห่างไกลออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร ภายในไซต์มีนาขั้นบันไดที่ล้อมรอบไว้ด้วยชาวบ้านและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมให้ได้เห็นอยู่ นอกจากภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมในชนบทที่เงียบสงบแล้ว รอบ ๆ ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นถนนโบราณ Ba Shu ที่มีชื่อเสียงที่สุด กล่าวกันว่านี่เป็นวิธีขนส่งลิ้นจี่จากทางใต้ของจีนไปยังเมืองหลวงของฉางอานเป็นระยะทางหลายพันไมล์สำหรับเลดี้หยางหยู่ฮวน นางสนมอันเป็นที่รักยิ่งของจักรพรรดิซวนจงในราชวงศ์ถัง ที่นี่จึงเรียกอีกอย่างว่าถนนโบราณลิ้นจี่ ทุกวันนี้คุณยังสามารถเห็นขอบเขตของยุคสมัยนั้นและรูปแกะสลักหินหน้าผาที่นักเขียนหลงเหลืออยู่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา หลังจากศึกษาและวิเคราะห์พื้นที่แล้วพบว่าจะเก็บผืนนาเดิมไว้ให้มากที่สุด เพื่อคงเสน่ห์ของวิถีชีวิตและไม่เป็นการทำลายภูมิทัศน์การเกษตร ดังนั้นตัวอาคารจึงถูกวางตัวไว้รอบ ๆ ผืนนา เกิดเป็นความสัมพันธ์ของพื้นที่ที่มีทิวทัศน์ร่วมกันเป็นนาข้าวผ่านการ “มองเห็น” ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนอย่างชัดเจน คือส่วนที่เป็นพื้นที่พับลิกอย่าง ห้องสมุด และสระว่ายน้ำ ตั้งเรียงกันอยู่ทางทิศเหนือของผืนนามีป่าเป็นแบ็กกราวนด์ ร้านอาหารเป็นอาคารหลังเดียวที่สร้างขึ้นในพื้นที่นา และโซนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างห้องพักที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกและทิศใต้ เนื่องจากข้อกำหนดในการใช้งาน จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบห้องพักจำนวนเพียงพอคือทั้งหมด 25 ห้อง แต่เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอาคารจึงถูกจำกัดความสูงไม่ให้สูงจนเกินไป โดยออกแบบเป็นอาคารขนาด 3 ชั้น ที่พยายามให้ทุกห้องหันหน้าไปทางผืนนา […]

MOTHER PEARL ร้านชาไข่มุกรักษ์โลกขนาด 32 ตารางเมตร

ออกแบบอินทีเรีย์และเเบรนด์ใหม่ทั้งหมดในการเปลี่ยน MOTHER PEARL จากเดิมที่มีภาพจำเป็นสีพาสเทลสุดละมุน ให้กลายมาเป็นโทนสีที่ดูเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

NJ HOUSE รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ให้โปร่งโล่งด้วยคอร์ตยาร์ด

รีโนเวททาวน์เฮ้าส์ เพื่อรองรับการขยายครอบครัวในอนาคต โดยทำการรื้อถอนบ้านเดิมกว่า 60% และที่เหลือทำการสร้างใหม่เพื่อแก้ปัญหาแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ

ศูนย์บริการฉีดวัคซีน ในไอเดียแบบ “ด่านเก็บค่าผ่านทาง” เพื่อการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ศูนย์บริการฉีดวัคซีน เริ่มเป็นพื้นที่จำเป็นในช่วงนี้ของไทยเราอย่างมาก เพราะจากกรณีที่รัฐบาลไทย นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหมตั้งเป้าที่จะฉีดวัคซีนให้ได้ครบ 100 ล้านโดส ครอบคลุมคนไทยจำนวน 50 ล้านคน คิดเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร ให้สำเร็จภายในปี 2564 นั้น ทำให้เมื่อคำนวญถึงสถานการณ์ปัจจุบันแล้วจะพบว่า จากวันนี้ไปจนถึงสิ้นปีซึ่งก็คือ 200 กว่าวัน การฉีดวัคซีนจะต้องมีผู้รับวัคซีนถึงวันละ 450,000 โดสขึ้นไป จึงจะสำเร็จได้ ซึ่งปัจจุบันก็เรียกได้ว่ายังถือว่าห่างไกลอยู่หลายเท่านัก แต่อย่าเพิ่งหมดหวังกันไปเพราะยังมีอีกหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถฝ่าวิกฤตินี้ไปด้วยกันได้ในที่สุด NBBJ บริษัทออกแบบชั้นนำที่มีออฟฟิสกระจายอยู่ทั่วโลกนั้น ได้นำเสนอวิธีการหนึ่งซึ่งจะช่วยให้สามารถกระจายการให้วัคซีนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็วเข้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ด้วยการปรับช่องการจราจรหรือพื้นที่จอดรถ ให้กลายเป็นศูนย์บริการฉีดวัคซีนแบบ “Drive-through” หรือก็คือการขับรถเข้าไปรับวัคซีนแบบไม่ต้องลงมาติดต่อเลย ด้วยโครงสร้างผนังที่เคลื่อนย้ายได้ง่าย ออกแบบมาให้ปรับใช้กับลักษณะการจราจรโดยทั่วไปได้ทันที ขนส่งด้วยรถเทรลเลอร์และประกอบเข้าด้วยกันได้อย่างรวดเร็ว ผนังโค้งเหล่านี้จะมีระบบอำนวยความสะดวกสำหรับแพทย์และพยาบาลในการแจกจ่ายวัคซีนโดยง่าย สามารถนำไปติดตั้งตามพื้นที่สัญจรหรือลานจอดรถในทุกพื้นที่ของเมืองเมื่อผู้ต้องการรับวัคซีนขับรถมาถึงจุดจอด ด้วยระบบการลงทะเบียนออนไลน์ที่กำหนดให้ผู้ที่อยู่ในรถสามารถเข้ารับวัคซีนได้แล้วนั้น ผู้รับวัคซีนก็เพียงแค่แสดง QR ยืนยันการอนุมัติการรับวัคซีนจากระบบ และเข้ารับวัคซีนในพื้นที่ใดก็ได้ที่มีศูนย์ “Vaccine Drive-through” เมื่อพยาบาลได้ฉีดวัคซีนให้แล้ว ก็นั่งดูวิดีทัศน์เพื่อสอบอาการ ก่อนจะขับออกไปสู่จุดหมายปลายทางในที่สุด และเมื่อพื้นที่ดังกล่าวได้รับการปูพรมวัคซีนจนครบแล้วก็สามารถรื้อถอนโครงสร้างไปยังพื้นที่ต่อไปได้โดยง่าย การรับวัคซีนในรถเช่นนี้ ช่วยให้สามารถลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อจากการชุมนุมได้อีกทางหนึ่งเช่นกัน เอาเข้าจริง ถ้าคำนวญจากปริมาณรถที่วิ่งเข้า “ด่านเก็บค่าผ่านทางด่วน” […]

BEAM CAFE รีโนเวตตึกแถวตอนลึกเป็นคาเฟ่สไตล์มิดเซนจูรี่

BEAM CAFE คาเฟ่สไตล์มิดเซนจูรี่ที่แก้ปัญหาพื้นที่หน้าแคบตอนลึก ด้วยการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ตอน คือ ส่วนแล้วทำการวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียของแต่ละส่วนก่อนออกแบบ

EASTERNGLASS CAFE คาเฟ่ในโรงงานทำแก้วแฮนด์เมด ได้อารมณ์อินดัสเทรียลสุดเท่แบบแท้ ๆ

ปรับตัวเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในยุคโควิด-19 ให้คนไทยรู้จักแบรนด์แก้วทำมือสุดประณีตรายใหญ่แห่งเดียวในกรุงเทพฯ กับการเปลี่ยนพื้นที่ในโรงงานให้เป็นคาเฟ่ เต็มอิ่มกับบรรยากาศอินดัสเทรียลสุดเท่ ๆ พร้อมเล่าเรื่องราวความเป็นมาของโรงงานแก้วบูรพา หรือ EasternGlass Manufacturer Co., Ltd ที่ดำเนินงานมากว่า 70 ปี EasternGlass Cafe จากพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนของสำนักงานด้านหน้า มาวันนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ให้กลายเป็น EasternGlass Cafe สไตล์อินดัสเทรียลสุดเท่ ให้บรรยากาศของการมาเยือนโรงงานแท้ ๆ เชื่อมต่อกับโกดังขนาดใหญ่ เปิดต้อนรับลูกค้าให้เข้ามาพักผ่อนจิบกาแฟอร่อย ๆ พร้อมกับช้อปปิ้งแก้วแฮนด์เมดสวย ๆ เกรดส่งออกสุดประณีต โดยฝีมือจากช่างเป่าแก้วชาวไทย ซึ่งยังคงดำรงวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมมาตลอด ที่นี่จึงถือเป็นโรงงานผลิตแก้วทำมือเพียงแห่งเดียวและเก่าแก่ที่สุดในกรุงเทพฯ ตลอดการดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่การทำโป๊ะแก้วครอบโคมไฟสมัยคุณปู่ เรื่อยมาถึงรุ่นคุณพ่อ คุณแม่ และคุณอา ที่เน้นส่งออกผลิตภัณฑ์แก้วหลากหลายรูปแบบ จนถึงทายาทรุ่นที่สามในยุคปัจจุบัน สินค้าของโรงงานเน้นส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศกว่าแปดสิบเปอร์เซ็นต์ กระทั่งเกิดวิกฤตโควิด-19 ไปทั่วโลก ทำให้ไม่สามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ได้ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นโรงแรม ร้านอาหาร และแบรนด์ของตกแต่งบ้าน ในแถบประเทศยุโรปและสแกนดิเนเวียน โรงงานจึงถึงคราวต้องปรับตัวเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้ ด้วยการบริหารของคุณปีเตอร์-พีรัท จงอัศญากุล โดยเขาได้เล่าถึงการกลับมาตีตลาดในไทย และเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้เข้ามาสัมผัสคาเฟ่ในโรงงานว่า “ช่วงหลังเราเพิ่งเห็นเทรนด์เมืองไทยว่า ลูกค้าให้ความสนใจกับการตกแต่งบ้านมากขึ้น รวมทั้งเหล่าดีไซเนอร์ที่ต้องการพร็อปส์ที่เป็นงานคราฟต์ […]

บ้านหน้าแคบ โชว์คานคอนกรีตดิบ ๆ กับฟาซาดมีชีวิตจากเหล่าต้นไม้สีเขียว

บ้านหน้าแคบ ขนาดจำกัด ที่เจ้าของอยากมีพื้นที่สวนสำหรับพักผ่อน ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้ทุกอณูหลังนี้ ตั้งอยู่ที่จังหวัด Bac Ninh ประเทศเวียดนาม เด่นด้วยหน้าตาของ บ้านหน้าแคบ ทรงกล่องคอนกรีตสูงชะลูด ด้านหน้าเต็มไปด้วยแมกไม้สีเขียว ทำหน้าที่ราวกับเป็นฟาซาดธรรมชาติ ช่วยให้บ้านร่มรื่นเย็นสบาย และซ่อนพื้นที่พักอาศัยไว้ด้านใน เพื่อปกป้องสายตาจากภายนอกและมลภาวะของเมือง  จุดเริ่มต้นของการสร้างบ้านรูปทรงสะดุดตา อัดแน่นด้วยต้นไม้เกือบทุกพื้นที่หลังนี้ มีต้นทางมาจากการเอาชนะปัญหาหลาย ๆ ข้อที่บ้านนี้ต้องพบเจอ เช่น 1.ลักษณะของที่ดินที่ทั้งแคบและลึกเพียง 80 ตารางเมตร (4 x 20 เมตร) 2.มีเพียงหน้าบ้านที่ติดถนนด้านเดียว ที่เปิดรับแสงสว่างและอากาศได้ 3.เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และอยู่ใกล้เขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้มักมีปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษทางเสียง ทีมผู้ออกแบบจาก Kien Truc NDT จึงต้องการหาวิธีแก้ปัญหาและข้อบกพร่องเหล่านี้ให้ได้อย่างสมบูรณ์ โดยตั้งใจให้บ้านที่หันหน้าออกไปทางทิศเหนือ ซึ่งเป็นทิศที่ไม่ได้รับแสงแดดตรง ๆ ให้มีพื้นที่ไว้นั่งเล่นยื่นยาวออกมา เจ้าของบ้านสามารถพักผ่อนนั่งเล่น หรือปลูกต้นไม้ได้ตามชอบใจ เปรียบเสมือนเป็นพื้นที่กันชนกลางแจ้งที่เหมาะกับทั้งการเจริญเติบโตของต้นไม้ รวมถึงช่วยนำแสงสว่างและระบายอากาศให้บ้านปลอดโปร่งตลอดทั้งวัน แล้วร่นระยะพื้นที่พักอาศัยให้ขยับไปไว้ด้านหลังแทนเพื่อความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้การทำพื้นที่หน้าบ้านให้มีแต่ต้นไม้ราวกับเป็นกำแพงนี้ ยังเป็นวิธีในการหลีกเลี่ยงเสียงและฝุ่นละอองในเมืองได้ด้วย พื้นที่ภายในบ้านขนาด 4 ชั้น แบ่งออกเป็น 2 ส่วนแยกกัน […]

IN HARMONY WITH NATURE CAFE ผสานสีเขียวตัวแทนธรรมชาติ ลงในคาเฟ่สไตล์ลอฟต์กลางกรุงนิวยอร์ก

คอนกรีตดิบกระด้างที่ถูกแต่งแต้ม และแทรกด้วยองค์ประกอบสีเขียวดูตัดกันภายใน คาเฟ่นิวยอร์ก แห่งนี้ หากมองให้ลึกลงไปถึงแนวคิด ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงการใช้สีเขียวเพื่อสร้างความสะดุดตาเท่านั้น แต่มีความหมายเชิงสัญญะซ่อนอยู่ เพื่อสื่อถึงเป็นธรรมชาติที่คนในเมืองส่วนใหญ่ต่างโหยหา ท่ามกลางการใช้ชีวิตแบบเร่งรีบวุ่นวาย จนแทบหามุมสงบ ๆ และผ่อนคลายอย่างแท้จริงไม่ค่อยจะเจอ สตูดิโอ Reutov Design จึงขอจัดเสิร์ฟความต้องการนั้น ให้บรรจุลงใน คาเฟ่นิวยอร์ก แห่งใหม่ อีกหนึ่งโปรเจ็กต์อันโดดเด่นของทีม ด้วยการบูรณะพื้นที่ขนาด 46 ตารางเมตร ที่อยู่บริเวณบนชั้นล่างของอาคารเก่าให้กลายเป็นคาเฟ่สีเขียวโปร่งโล่ง ผสมผสานการตีความสร้างสรรค์ของการออกแบบและองค์ประกอบที่หยิบยกไอเดียมาจากธรรมชาติ ผ่านการใช้งานที่สดใสและมีสีสัน ภายในห้องคอนกรีตเผยผิวเปลือยเปล่า สีเขียวถูกนำมาใช้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ กระตุ้นให้ทุกคนเกิดความกระปรี้กระเปร่า สิ่งที่เห็นเด่นชัดคือเหล่าท่อตกแต่งที่ชวนให้จินตนาการถึงลำต้นของไผ่ขนาดใหญ่ผาดผ่านอยู่บนฝ้าเพดาน และโชว์ตัวสวยเท่ในแบบสไตล์ลอฟต์ ซึ่งให้ทั้งมุมมองที่แปลกตาและทันสมัย นอกจากนั้นยังมีไอเดียการนำแผ่นกระจกโทนสีเขียวมาติดตั้งให้ตัดกันกับพื้นหลังคอนกรีตผิวขรุขระ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนผนังด้านหลังที่นั่ง และด้านหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมกับจัดวางเก้าอี้ PAPYRUS RONAN & ERWAN BOUROULLEC by Kartell ด้วยการผสมผสานกันทั้งวัสดุแก้วและท่อโลหะสีเขียว จึงนับเป็นการถ่ายทอดให้เห็นว่า รูปแบบธรรมชาติและสถาปัตยกรรมสมัยใหม่นั้น สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไร อีกทั้งสีเขียวยังช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ ผ่อนคลายและมีสมาธิขึ้น ซึ่งเป็นจุดประสงค์หลักของการออกแบบคาเฟ่กลางเมือง เพื่อให้ที่นี่เป็นดังโอเอซิสใช้หลบพักจากความวุ่นวาย แล้วมาเพลิดเพลินไปกับกาแฟรสเลิศ และฟังดนตรีไพเราะ ก่อนก้าวออกไปนอกร้านพร้อมลุยชีวิตกลางมหานครนิวยอร์กอย่างกระปรี้กระเปร่า ออกแบบ […]

HOUSE BECOMES CAFE สรุป กฎหมายอาคาร น่ารู้ในการรีโนเวตบ้านเป็นคาเฟ่

เปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ต้องรู้เรื่อง กฎหมายอาคาร ด้วยหรือ? ในปัจจุบัน ธุรกิจคาเฟ่ได้รับความนิยมอย่างสูง ในการสร้างสรรค์พื้นที่คาเฟ่ใหม่สักแห่ง นอกจากต้องคำนึงถึงความสวยงามโดดเด่นแล้ว ยังจำเป็นต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้พื้นที่มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนโดยรอบ ทั้งยังอาจรวมไปถึงความคล่องตัวทางธุรกิจในเชิงภาษีและบัญชีอีกด้วย แม้ว่าในบางครั้ง ร้านกาแฟขนาดเล็ก อาจไม่ถูกบังคับภายใต้ข้อกฎหมายบางข้อ แต่การศึกษาทำความเข้าใจ ก็ช่วยให้มองเห็นประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึง และหากปฏิบัติตามได้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินกิจการในระยะยาวอย่างแน่นอน 01 เปลี่ยนอาคารเดิมเป็นคาเฟ่ จำเป็นต้องยื่นขออนุญาตไหม? ก่อนอื่นต้องทราบว่าอาคารเดิมได้ขออนุญาตไว้เป็นอาคารประเภทใด เช่น หากตามใบอนุญาตก่อสร้างเป็นอาคารพักอาศัย การปรับเปลี่ยนมาใช้เป็นร้านกาแฟ ซึ่งถือเป็นการใช้สอยเพื่อการพาณิชย์ จำเป็นต้องทำหนังสือขออนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคาร (แบบ ข.๓) ต่อเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น (เช่น สำนักเขตหรือองค์การบริหารส่วนตำบล) ให้ถูกต้อง เนื่องจากตามกฎหมาย อาคารพาณิชย์จะกำหนดความสามารถของโครงสร้างในการรับน้ำหนักจร (Live load) ที่มากกว่าอาคารพักอาศัย จึงจำเป็นต้องทำการตรวจสอบว่าอาคารดังกล่าวมีความสามารถที่จะรับน้ำหนักจรในระดับเดียวกับอาคารพาณิชย์ได้จริงหรือไม่ โดยแนบเอกสารรับรองที่ออกให้โดยวิศวกรผู้ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ยังมีกำหนดลักษณะของอาคารพาณิชย์อีกหลายประการที่มีผลกับความปลอดภัยและการใช้งาน ดัดแปลงอาคารแบบไหนไม่ต้องยื่นขออนุญาต หากว่าอาคารเดิมได้รับอนุญาตให้ใช้งานเป็นอาคารพาณิชย์อยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการดัดแปลงมากน้อยเพียงใด ซึ่งกฎหมายมีระบุขอบเขตไว้ว่าลักษณะใดที่ ไม่ต้องยื่นขออนุญาตดัดแปลงอาคาร ได้แก่ 01 เพิ่มหรือลดพื้นชั้นใดชั้นหนึ่งของอาคารไม่เกิน 5 ตารางเมตร […]

Moonler เล่าเรื่องงานคราฟต์เชียงใหม่ผ่านเฟอร์นิเจอร์ไม้จามจุรี

คอลเล็กชั่นเฟอร์นิเจอร์ไม้จามจุรีจากแบรนด์ไทย Moonler นำเสนออีกมิติของงานคราฟต์ บอกเล่าเรื่องราวของผืนป่าอันอุดม และวิถีช่างไม้ของเชียงใหม่ พลิกภาพจำงานหัตถกรรมดั้งเดิมสู่ความเป็นไปได้ใหม่ภายใต้รูปลักษณ์ความงามอันเป็นสากล และตอบรับกับวิถีชีวิตร่วมสมัย Moonler เปิดตัวมายาวนานมากกว่าหนึ่งทศวรรษ จากจุดเริ่มต้นในปี 2008 ที่ความหลงใหลในงานไม้ของคุณภูวนาถ ดำรงพร และหุ้นส่วนได้ทำให้เกิดเวิร์กช็อปเฟอร์นิเจอร์ไม้จามจุรีเล็กๆ ย่านบ้านถวายในจังหวัดเชียงใหม่ ด้วยความตั้งใจที่จะนำเสนองานเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่แตกต่างจากในท้องตลาดทั้งในด้านคุณภาพ และรูปลักษณ์ การเติบโตและขยับขยายหลายต่อหลายครั้งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา พาให้วันนี้มูนเลอร์กลายเป็นโรงงานขนาดใหญ่ในดอยสะเก็ด ที่ก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจส่งออกเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบหัตถอุตสาหกรรมอย่างเต็มตัว ผสมผสานงานฝีมือที่โดดเด่น และคุณภาพในแบบอุตสาหกรรม ไปพร้อม ๆ กับสั่งสมประสบการณ์การทำงานร่วมกับหลากหลายนักออกแบบทั้งไทย และต่างประเทศ เมื่อ 3 ปีก่อน คุณรัฐธีร์ ไพศาลโชติสิริ นักออกแบบผลิตภัณฑ์มือรางวัล ได้เข้ามารับหน้าที่ดีไซน์ไดเร็กเตอร์คนล่าสุด เขารู้จักกับมูนเลอร์ผ่านโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการและนักออกแบบโครงการหนึ่งของภาครัฐ และในช่วงนั้นเอง พวกเขาร่วมมือกันสร้างสรรค์คอลเล็กชั่นใหม่ขึ้น 10 ชิ้น เพื่อจัดแสดงในนิทรรศการ “10 Years Moonler” ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของมูนเลอร์ ยุคแห่งการรีแบรนด์ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวงานคราฟต์จากเชียงใหม่ในอีกมิติที่ต่างออกไป พร้อมๆ กับการออกสำรวจเส้นทางใหม่ในโลกการออกแบบ ที่ดีไซน์ไดเร็กเตอร์คนใหม่นี้จะพามูนเลอร์ไป วัตถุดิบหลักของมูนเลอร์คือ ไม้จามจุรีหรือฉำฉา ซึ่งเนื้อไม้มีสีสัน ลวดลายสวยงามคล้ายไม้วอลนัท แข็งแรง […]