Fix & Stitch 4. Sewing technique

เพื่อให้การเย็บและซ่อมแซมผ้าเป็นเรื่องไม่ยาก การเรียนรู้เทคนิคเบื้องต้นของการตัดเย็บจึงเป็นสิ่งสำคัญ เหมือนดังคำพูดที่ว่า การเริ่มต้นที่ดีก็เหมือนทำงานสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง การสนเข็ม  ก่อนสนเข็ม ให้ดึงด้ายออกจากหลอด ใช้นิ้วรูดด้ายให้ตรง ตัดด้ายยาวประมาณ 1 ศอก จากนั้นจึงร้อยด้ายเข้าไปในรูที่ก้นเข็ม ซึ่งทำได้หลายวิธีคือ † ทบด้าย บี้ให้แบนติดกัน หรือสอดเข็มไว้ในด้ายที่ทบ เพื่อใช้ให้ทบด้ายแนบกันแล้วสนเข้าไปในรูที่ก้นเข็ม วิธีนี้เหมาะกับการร้อยด้ายปัก ซึ่งต้องร้อยด้ายหลายๆ เส้นพร้อมกัน ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้กดปลายด้ายไว้ให้แน่น จนมองเห็นปลายด้ายเป็นจุดเล็กๆ ที่ระหว่างนิ้ว จากนั้นกดก้นเข็มลงไป ปล่อยนิ้วออกแล้วดึงปลายด้ายที่ผ่านรูเข็มแล้วออกมา วิธีนี้นิยมใช้ในหมู่นักร้อยลูกปัด อาจทำยากหน่อย แต่ถ้าทำได้จะช่วยให้การสนเข็มเป็นเรื่องง่ายมาก † การใช้ที่สนเข็ม สอดห่วงลวดเข้าไปในรูเข็ม สอดด้ายเข้าไปในช่องลวดหน้ารูเข็ม แล้วดึงที่สนเข็มออกจากรูก้นเข็ม ด้ายที่คล้องไว้ก็จะตามออกไป การทำปมด้ายก่อนเย็บ เมื่อเริ่มต้นเย็บ เราต้องทำปมด้ายเพื่อยึดฝีเข็มไม่ได้หลุดออก ซึ่งทำได้หลายวิธี คือ 1.† ใช้ด้ายพันนิ้วหลายๆ รอบ แล้วบี้วงด้ายให้พันกัน เมื่อดึงรูดวงด้ายก็จะเกิดปมที่ปลายด้าย วิธีนี้ถ้าหัดใหม่ๆ จะได้ปมที่ดูยุ่งๆ และบางทีปมก็ดูใหญ่เกินไป ไม่สวยงาม 2.วางปลายด้ายไว้บนนิ้ว วางเข็มทับลงไป พันด้ายกับเข็มหลายๆ รอบ รูดวงด้ายที่พันผ่านตัวเข็มไปจนสุดเส้นด้าย   […]

เตรียมห้องครัวให้คุณตาคุณยายใช้งาน

นอกจากการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวให้สะดวกแล้ว ก็ต้องจัดเตรียมพื้นที่ส่วนอื่นๆ ที่คุณตาคุณยายหรือสมาชิกวัยอื่นๆ ในบ้านได้ใช้งานร่วมกันตามแบบฉบับครอบครัวอบอุ่น เรามาเริ่มต้นที่ห้องครัวกัน ในบ้านที่คุณตาคุณยายชอบทำอาหารเอง นอกเหนือไปจากการออกแบบครัวที่จัดวางตามหลักการออกแบบที่มักวางอุปกรณ์หลัก 3 อย่างคือ อ่างล้าง เตา  และตู้เย็นเป็นรูปสามเหลี่ยมแล้ว ก็ต้องให้ความสำคัญกับความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งานเป็นพิเศษ ดังนี้ 1 มีที่นั่งพัก คุณตาคุณยายมักยืนไม่ได้นานเหมือนคนหนุ่มสาว จึงควรทำที่นั่งพักหรือใช้นั่งเตรียมอาหาร เช่น ปอกหัวหอม เด็ดยอดตำลึง โดยทำเป็นตู้สูง 45-50 ซม.ที่สามารถนั่งด้านบนได้ จะช่วยให้ทำครัวสะดวกมากขึ้น 2 ก้มน้อย หยิบง่าย คุณตาคุณยายที่มีอายุมากๆ มักยกแขนได้สูงน้อยลงและก้มตัวลำบาก จึงควรออกแบบห้องครัวให้หยิบใช้ง่ายโดยไม่ต้องก้มหรือเหยียดแขนมากเกินไป เช่น ที่คว่ำจานควรสูงไม่เกินระดับเอว ชั้นวางของควรเลื่อนเข้า-ออกได้ เป็นต้น 3 เครื่องช่วยผ่อนแรง หากมีของที่ต้องหยิบหรือย้ายบ่อยๆ เช่น เครื่องปรุงหรือเครื่องครัว อาจทำชั้นวางแบบมีล้อเลื่อน พร้อมเตรียมพื้นที่ใต้เคานเตอร์ให้เลื่อนไปเก็บได้จะได้ไม่เกะกะ 4 หยิบของสูงไม่ต้องเขย่ง หากในครัวมีตู้สูงเกินเอื้อม ควรเตรียมบันไดเตี้ยไว้ใช้ก็จะปลอดภัยกว่าการปีนเก้าอี้ เพราะช่วงก้าวที่สูงจะทำให้ตกลงมาได้ง่าย 5 เพิ่มประโยชน์ใช้สอย บ่อยครั้งที่ครัวต้องรับบทหนัก พื้นที่ไม่พอวางของ ถ้าทำที่วางของรางเลื่อนซ่อนไว้ใต้เคานเตอร์ ก็จะมีพื้นที่โดยไม่ต้องเดินไปวางไกลๆ 6 ของร้อนต้องสังเกตเห็นชัด […]

ต้นไม้ทำรั้ว ทำรั้วด้วยต้นไม้

การใช้ ต้นไม้ทำรั้ว หรือรั้วต้นไม้ (Hedge) เป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ช่วยเพิ่มบรรยากาศธรรมชาติกับบ้าน ช่วยป้องกันเสียง แสงและกรองฝุ่นละอองได้ดี แต่อาจไม่แข็งแรงทนทานพอที่จะป้องกันการบุกรุกของคนและสัตว์ โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ในเขตเมือง การใช้ ต้นไม้ทำรั้ว ต้องพิจารณาเรื่องโครงสร้างรั้ว คือต้องหล่อเสา เทคาน เพื่อความแข็งแรง ระหว่างเสารั้วแต่ละต้นใช้วิธีขึงลวดหนามหรือกรุด้วยลวดตาข่ายแทนการก่ออิฐ ก่อหินเหมือนรั้วทั่วไป จากนั้นจึงปลูกต้นไม้ที่มีพุ่มใบหนาแน่น ข้อใบถี่ กิ่งก้านแน่น แข็งแรงทนทาน ตัดแต่งเป็นรูปทรงได้ง่าย เมื่อตัดแต่งแล้วแตกกิ่งก้านใหม่ได้เร็ว ขึ้นบังโครงสร้างรั้ว เพื่อให้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ เป็นวิธีที่ต้องรอเวลาให้ต้นไม้เติบโต หลายบ้านจึงนิยมออกแบบรั้วให้แข็งแรงและปลูกต้นไม้ประดับเสริมหรือล้อกับรั้ว เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติและสวยงามมากกว่า  ระยะปลูก การทำรั้วต้นไม้ ส่วนใหญ่นิยมไม้พุ่มชนิดต่างๆ เช่น ชบา พู่ระหงษ์ ข่อย ชาข่อย ชาฮกเกี้ยน โมก เฟื่องฟ้า โดยจะปลูกเป็นแนว เป็นกลุ่ม  มีหลายบ้านที่ใช้ไม้เลื้อย เช่น สร้อยอินทนิล อัญชัน พวงชมพู โดยทำรั้วให้เลื้อยคลุม การกำหนดระยะปลูกขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่มและอัตราการเจริญเติบโต หากต้องการใช้รั้วต้นไม้อย่างรวดเร็ว ควรเลือกต้นไม้ที่โตเร็วและปลูกให้ถี่ เพื่อให้ได้ทรงพุ่มหนาแน่น แต่ถ้าไม่รีบร้อน ควรปลูกระยะห่าง ปล่อยให้เจริญเติบโตแล้วจึงตัดแต่งให้ทรงพุ่มแน่นขึ้น และควรสังเกตเงาที่ทอดจากแนวรั้วลงพื้น เพื่อเว้นระยะปลูกให้พ้นจากเงารั้วหรือเลือกต้นไม้ที่ทนร่มได้ดี เช่น […]

พรรณไม้พระนาม “ควีนสิริกิติ์”

12 สิงหาคม เป็นวันสำคัญของชาวไทยก็คือ เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ “วันแม่แห่งชาติ” เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ์ให้คนไทยและคนทั้งโลกได้ตระหนักถึงพระราชกรณียกิจอันมากมาย และปลุกจิตสำนึกให้คนหันมาอนุรักษ์ทรัพยกรธรรมชาติ ในวงการพฤกษศาสตร์จึงทูลเกล้าฯขอพระราชทานพระนามมาตั้งเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ในส่วนของคำระบุชนิด (Species Epithet) ให้กับพันธุ์ไม้ที่ค้นพบใหม่ รวมถึงตั้งเป็นชื่อพันธุ์ไม้ที่ปรับปรุงพันธุ์ขึ้นใหม่ มาดูกันว่า มีพรรณไม้ใดบ้างที่ตั้งตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คัทลียาควีนสิริกิติ์ Cattleya ‘Queen Sirikhit’ ลูกผสมระหว่าง Cattleya Bow Bells กับ C.o’brieniana var. alba โดย Peter McKenzie Black จากบริษัท Black & Flory เป็นผู้ขอพระราชทานพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถและจดทะเบียนตั้งชื่อพันธุ์เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2501 เป็นกล้วยไม้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานประกวดของสมาคมพืชสวนอังกฤษและเป็นดอกไม้ที่สมเด็จพระบรมราชินีนาถพระราชทานให้เป็นดอกไม้ประจำวันสตรีไทย   ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ Mussaenda ‘Queen Sirikit’ ลูกผสมระหว่าง Mussaenda ‘Dona Luz’ กับ M. philippica […]

จัดมุมทำงานในบ้านตามไลฟ์สไตล์

นอกจากการใช้ชีวิตในบ้านตามปกติแล้ว คุณพ่อบ้านแม่บ้านบางคนก็ยังต้องทำงานนอกบ้าน บางครั้งต้องหอบงานมาทำต่อที่บ้าน ในขณะที่หลายคนอาจเป็นฟรีแลนซ์ ใช้บ้านเป็นที่ทำงาน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ควรออกแบบมุมทำงานไว้ในบ้านให้เหมาะสม การจัดมุมทำงาน ขึ้นอยู่กับพื้นที่และลักษณะการทำงาน โดยทั่วไปมีวิธีจัดการพื้นที่ 3 แบบคือ I-Shape เป็นมุมทำงานที่ใช้พื้นที่น้อยที่สุด ถ้างานที่ใช้สมาธิควรวางหันเข้าหาผนัง ถ้าชอบมุมมองโล่งๆ หรือใช้นั่งคุยงาน ก็วางด้านข้างชิดผนังหรือวางโต๊ะกลางห้อง L-Shape เป็นมุมทำงานที่มีอุปกรณ์ใช้งานค่อนข้างมาก เช่น คอมพิวเตอร์ พริ้นเตอร์ และสแกนเนอร์ ใช้วิธีวางทำงานกับโต๊ะ/ตู้วางอุปกรณ์ไว้ด้านหนึ่ง U-Shape เหมาะกับคนที่ทำงานอยู่กับบ้านและต้องการพื้นที่ทำงานกว้าง หรือมีคนมาติดต่ออยู่เสมอ โดยจัดวางพื้นที่ทำงานหรือโต๊ะทำงานให้หันหน้าออก เพื่อให้คนที่เข้ามาติดต่อเข้าพบได้สะดวก ด้านหลังและด้านข้างจัดวางอุปกรณ์และเก็บเอกสารต่างๆ มาดูตัวอย่างการจัดมุมทำงานแบบต่างๆ กัน Life Style 1 : ฉันทำงานอิสระ อยากใช้บ้านเป็นกองบัญชาการเล็กๆ คนที่ใช้บ้านเป็นทำงานแบบจริงจัง ควรแยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่บ้าน เพื่อให้เกิดสมาธิ ทำงานได้สะดวก และเป็นสัดส่วน สมาชิกในบ้านหรือผู้มาติดต่อจะได้ไม่รบกวนกัน ทำให้ได้ภาพของความเป็นมืออาชีพ น่าเชื่อถือ 01 มุมพักคอย ปรับมุมหน้าบ้านเป็นที่นั่งพักผ่อนและใช้เป็นมุมพักคอยแบบสบายๆ 02 โถงทางเข้า เป็นส่วนที่แยกที่ทำงานและที่พักอาศัยให้เป็นสัดส่วน 03 ห้องอเนกประสงค์ […]

เตรียมบ้าน สร้างสุขให้คุณตาคุณยาย

พูดกันบ่อยๆ ว่า ในราวๆ 10-20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย หมายความว่า สังคมหรือประเทศของเราจะมีจำนวนผู้สูงวัยมากกว่าคนในวัยอื่นๆ ซึ่งมีผลในด้านเศรษฐกิจและสังคมหลายประการ คิดว่าหลายคนคงได้อ่านบทวิเคราะห์ต่างๆ กันมาเยอะแล้ว เมื่อในบ้านมีผู้สูงอายุ( รวมถึงผู้ทุพพลภาพ) การจัดสรรพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะสมและถูกวิธี จะช่วยให้สมาชิกทุกวัยในบ้านอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข การเตรียมการมีอะไรบ้าง มาดูกัน ทางเดินและพื้นที่ใช้งาน บางครั้งคุณตาคุณยายอาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดินหรือรถเข็น จึงควรออกแบบทางเดินและพื้นที่ต่างๆ ให้เข้าถึงได้และปลอดภัย ระยะของรถเข็นและทางเดิน ที่จอดรถ ที่สะดวกสำหรับรถเข็นควรกว้างอย่างน้อย 2.40 x 6 เมตร และมีที่ว่างด้านข้างที่จอดรถอย่างน้อย 1 เมตรสำหรับเข็นรถ ทางลาด ควรทำให้ลาดชันอย่างน้อย 1:12 เช่น พื้นสูง 1 เมตร ทางลาดควรยาว 12 เมตร เพื่อให้ผู้ใช้รถเข็นสามารถเข็นรถขึ้นลงเองได้ ปูพื้นด้วยวัสดุที่ไม่ลื่น เช่น ทรายล้าง กระเบื้องชนิดผิวหยาบ และทำราวกันตกทั้งสองข้าง ถ้ามีร่องหรือรางน้ำควรทำตะแกรงปิดให้พื้นเสมอกัน บันได ใช้วัสดุปูพื้นที่ไม่ลื่น อาจทำสีที่จมูกบันได เพื่อให้มองเห็นระดับที่แตกต่างกันได้ชัดเจน มีราวจับทั้งสองข้าง คุณตาคุณยายเป็นผู้พิการทางการได้ยิน […]

หญ้า ไม่ได้ไร้ค่าอย่างที่คิด

แต่ก่อนนี้ เวลาที่นั่งรถไปนอกๆ เมือง เราจะพบทุ่งรกร้างตามริมทาง ที่มีต้นหญ้าขึ้นปกคลุมมากมาย มาวันนี้เมืองขยายตัวออกไปมาก พื้นที่รกร้างกลายเป็นตึกรามบ้านเรือน ต้นหญ้า ดอกหญ้า หรือวัชพืชที่เคยชูช่อก็เริ่มหายไป หากคุณเคยเป็นเด็กที่วิ่งเล่นตามร่องสวน หรือสนามหญ้าเล็กๆ ที่โรงเรียน คุณต้องเคยเก็บหญ้าหงอนไก่มาตีกัน หรือมีเมล็ดหญ้าเจ้าชู้ติดตามเสื้อผ้า และอาจเคยเดินผ่านดงต้นสาบเสือ ซึ่งมีกลิ่นฉุน เมื่อเอ่ยคำว่า “หญ้า” เราก็มักให้คำจำกัดความว่าเป็นต้นไม้ไร้ค่า ที่ขึ้นรกเรื้อในพื้นที่ว่างเปล่า หรือแปลงเพาะปลูกพืชผลต่างๆ ซึ่งจริงๆ ควรเรียก “วัชพืช” มากกว่า เพราะในทางพฤกษศาสตร์ให้คำจำกัดความของ “หญ้า” ว่าหมายถึง พืชวงศ์หญ้าหรือวงศ์ Poaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับข้าวและไผ่  หลายคนรู้จักหญ้าหลายชนิดนิยมใช้ในการจัดสวน เช่น หญ้านวลน้อย หญ้ามาเลเซีย หรือแม้แต่หญ้าแพรก ที่เราใส่ไว้ในพานไหว้ครู ส่วนหญ้าอื่นๆ เช่น หญ้าคา หญ้าเจ้าชู้ เรามักจะคิดว่าไม่มีประโยชน์ ดังนั้น  “วัชพืช” หรือหญ้าในความหมายของคนทั่วไป จึงประกอบด้วยพืชหลายวงศ์ด้วยกัน อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า คนทั่วไปมองว่า หญ้าหรือวัชพืช เป็นพืชไร้ค่า จนมีคำเปรียบเปรยว่า “รกคนดีกว่ารกหญ้า”  ที่คนทั่วไปคิดเช่นนั้นก็เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องหญ้าหรือวัชพืชดีพอ ความจริงแล้ว หญ้าหลายชนิดที่เราคิดว่าไร้ค่านั้น เป็นอาหารทั้งคนและสัตว์ เช่น […]

ฝนตกแล้ว มาดูแลสวนกัน

ระยะนี้ฝนตกบ่อย แม้แต่คนก็ยังเตือนกันให้ระวังเป็นหวัด เป็นไข้ แต่ต้นไม้คงจะดีใจที่ฝนตกเสียที เพราะแห้งเหี่ยวคอยฝนมาก็หลายเดือน สำหรับคนเมือง ฝนอาจเป็นของขวัญจากธรรมชาติที่เราไม่อยากได้เท่าไร เพราะนอกจากเปียกแล้ว รถก็ติด น้ำก็ขังรอการระบาย ไปไหนมาไหนไม่สะดวกสบาย คนที่มีสวนน้อยๆ ที่ริมระเบียง หรือสวนกว้างๆ ในบริเวณบ้าน สิ่งที่ควรทำหลังฝนตกคืออะไรบ้าง †สำรวจต้นไม้ในสวน โดยเฉพาะในวันที่ฝนตก ลมแรง เพราะกิ่งไม้หรือแม้แต่ต้นอาจหักโค่นเป็นอันตรายได้ แต่ที่ถูกต้องแล้วควรตัดแต่งกิ่งตั้งแต่ปลายหน้าร้อนที่ผ่านมา พอฝนมาต้นไม้จะได้แตกยอดอ่อนและเจริญเติบโตต่อไป †หากพบว่าในสวนมีน้ำท่วมขัง ควรตรวจสอบระบบระบายน้ำว่ามีส่วนไหนอุดตันบ้าง และควรเร่งระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด เพราะถ้าฝนตกซ้ำ อาจเปลี่ยนจากน้ำขังมาเป็นน้ำท่วม สร้างความเสียหายให้กับต้นไม้และอาจถึงตัวบ้านได้ เมื่อระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้แล้ว อย่าเพิ่งเดินเข้าไปเหยียบย่ำที่โคนต้นไม้ ซึ่งเป็นบริเวณที่รากแผ่กระจายอยู่ แต่ควรรอให้ดินแห้งก่อนแล้วค่อยสำรวจต้นไม้ ตัดแต่งหรือพรวนดิน †สำหรับคนที่มีสวนกระถางริมระเบียง นอกจากตรวจดูกระถางต้นไม้ว่าล้มบ้างไหมแล้ว ควรดูว่าน้ำขังอยู่ที่ระเบียงหรือไม่ โดยตรวจดูรูระบายน้ำที่พื้นว่ามีสิ่งอุดตันหรือเปล่า อาจดูไปถึงความลาดเทของพื้นว่าลาดไปทางรูระบายน้ำหรือไม่ ถ้าไม่ หลังหมดฝนก็เตรียมปรับปรุงได้ †ตรวจดูในกระถางต้นไม้ว่ามีน้ำขังหรือไม่ ถ้ามีอยู่ก็ควรระบายน้ำออกก่อน น้ำที่ขังอยู่ในกระถางโดยไม่ระบายออกหลังผ่านไปสักชั่วโมง เป็นสัญญาณบอกว่า ดินในกระถางเริ่มแน่น การระบายน้ำและอากาศเริ่มไม่ดีแล้ว ก็ถึงเวลาปรับปรุงดินเสียที †คนที่ปลูกแคคตัสหรือไม้อวบน้ำ ในฤดูฝนเช่นนี้ ควรเก็บเข้าที่ร่ม เพราะแคคตัสเกือบทุกชนิดไม่ชอบน้ำปริมาณมากๆ †กระถางต้นไม้ที่วางหรือแขวนไว้ตามชายคา ก็ควรขยับที่ อย่าให้รับน้ำจากชายคาโดยตรง เพราะต้นอาจเสียหายได้ […]

รวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับ ” ต้นสน “

สำหรับพวกเราที่มีชีวิตอยู่ในเขตร้อน เวลาที่พูดถึง “สน” ก็จะนึกไปถึงต้นไม้ที่มีของตกแต่งสีสวยๆ ประดับประดาสวยงามในวันคริสตมาส หรือไม่ก็นึกถึงต้นไม้รูปทรงปิรามิด ยอดแหลมๆ ที่อยู่ท่ามกลางหิมะขาวโพลน แต่ก็มีไม่น้อยที่อาจคิดไปถึงต้นไม้สูงๆ ใบเป็นเส้นๆ คล้ายเข็มที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมทะเล  “สน” พรรณไม้โบราณ ตามหลักฐานบันทึกไว้ว่า “สน” มีอายุอยู่ในช่วงต้นยุค Permian หรือประมาณ 290-248 ล้านปี หรือก่อนที่ไม้ดอกชนิดต่างๆ จะถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ โดยจัด”สน” ไว้ในกลุ่มพืช Gymnosperms ซึ่งก็คือ พืชเมล็ดเปลือย หรือไม่มีสิ่งห่อหุ้มไข่ เมื่อเจริญเป็นเมล็ดจึงไม่มีเนื้อแบบผลไม้หรือพืชมีดอกอื่นๆ (ยกเว้นสนสกุล Juniperus) “สน” เป็นไม้ยืนต้น มีอายุหลายปี และเกือบทุกชนิดเขียวสดตลอดปี บางชนิดเปลี่ยนสีในหน้าหนาว มีเพียงไม่กี่ชนิดที่ผลัดใบ ใบสนมีหลายแบบ บางชนิดลดรูปเป็นรูปเข็ม (aristate) รูปลิ่ม (awl-shaped) หรือเป็นเกล็ด (scale-like) และมีอายุยาวนาน บางชนิดติดอยู่บนต้นนาน 15-20 ปี ช่อดอกมีลักษณะเป็นเกล็ดเรียงซ้อนกันเป็นรูปไข่ รูปรีหรือค่อนข้างกลม เมล็ดอยู่ในซอกเกล็ดแต่ละอัน ช่อดอกเพศผู้กับเพศเมียอยู่แยกกัน แต่อาจอยู่บนต้นเดียวกันหรือแยกต้น เนื้อไม้สนมีน้ำยาง เรียกว่า […]

มาดูแลแคคตัสกัน

แคคตัสก็เช่นเดียวกับต้นไม้นานาชนิดที่เราปลูกไว้ในสวน ซึ่งต้องการสภาพที่เหมาะกับการเติบโต อันได้แก่ ดิน น้ำ แสงแดด น้ำ แม้แคคตัสจะทนแล้งได้ดี นานๆ รดน้ำทีก็ยังเติบโตได้ แต่ปัญหาที่เรามักพบบ่อยๆ ในหมู่นักเล่นแคคตัสหน้าใหม่ก็คือ ให้น้ำมากเกินไป ตามปกติแคตตัสต้องการน้ำเฉพาะในช่วงที่กำลังเติบโต ซึ่งก็คือช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง ส่วนช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงพักตัว แคคตัสจะต้องการน้ำน้อยมาก ดังนั้นการรดน้ำในฤดูฝนจึงทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ส่วนในฤดูหนาวก็ให้ลดลง พอถึงช่วงฤดูร้อนจึงค่อยให้น้ำมากขึ้น การลดปริมาณน้ำในช่วงที่แคคตัสพักตัวจะช่วยให้ต้นผลิดอกได้ ดังนั้นเมื่อซื้อแคคตัสแล้วก็ควรถามคนขายว่า ต้นจะพักตัวและออกดอกช่วงไหน จะได้งดให้น้ำในช่วงนั้น  รดน้ำอย่างไรให้ถูกวิธี การรดน้ำแคคตัสหรือต้นไม้อื่นๆ มีหลักพิจารณาคือ – สถานที่ตั้งกระถางหรือสถานที่ปลูก ให้ดูว่าสถานที่นั้นได้รับแสงมากหรือน้อย ในกรณีที่แดดจัด น้ำในดินหรือวัสดุปลูกจะระเหยได้เร็ว อาจทำให้ต้องรดน้ำบ่อยกว่าบริเวณที่ร่มรำไรหรือต้นที่เลี้ยงไว้ในบ้าน ประเมินกันว่า ต้นไม้หรือแคตตัสที่ตั้งในในบ้าน น้ำจะระเหยหมดภายใน 5-7 วัน แต่ถ้าตั้งไว้นอกอาคารจะระเหยหมดใน 2-3 วัน –ความโปร่งร่วนของดินหรือวัสดุปลูก ดินที่โปร่ง ร่วนซุยจะระบายน้ำได้ดีกว่าดินที่เหนียว หรืออัดแน่นอยู่ในกระถาง –ขนาดของกระถางหรือภาชนะปลูก ถ้ากระถางใหญ่ใส่ดินหรือวัสดุปลูกมากจะอุ้มความชื้นไว้นานกว่าภาชนะเล็กๆ –ชนิดของภาชนะหรือกระถาง  มีผลต่อการรดน้ำ กระถางดินเผาจะระบายน้ำและอากาศได้ดีกว่า วัสดุปลูกอาจแห้งเร็วกว่ากระถางพลาสติก รดน้ำเมื่อไรดี -ควรรดในช่วงเช้า […]

มาปลูกแคตตัสกันนะ

หลายคนอาจคิดว่าแคคตัสเป็นพืชทะเลทราย น่าจะชอบทรายมากกว่า แต่จริงๆ แล้วแคคตัสก็เหมือนต้นไม้อื่นๆ ที่ต้องการดินหรือวัสดุปลูกที่เหมาะสม นั่นคือ ร่วนซุย โปร่ง เพื่อให้รากแผ่ขยาย ต้นจะได้เจริญเติบโต นอกจากนี้ก็ควรระบายน้ำดี ไม่อุ้มความชื้นไว้จนชื้นแฉะตลอดเวลา เพราะรากของต้นไม้ก็ต้องการอากาศเพื่อหายใจด้วยเช่นกัน วัสดุปลูกที่ใช่  แคคตัสแต่ละชนิดต้องการวัสดุปลูกแตกต่างกัน การผสมวัสดุปลูกให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องน่าสนุกสำหรับนักเล่นแคคตัส หากคุณต้องการเป็นนักเล่นแคคตัสตัวจริงก็ต้องหมั่นสังเกตลักษณะนิสัยของแคคตัสที่ปลูก หาข้อมูลจากนักเล่นรุ่นพี่แล้วลองผสม แต่สำหรับมือใหม่ เรามีวัสดุปลูกมาแนะนำดังนี้ สูตรที่ 1 ดินร่วน 2 ส่วน ทรายหยาบ 3 ส่วน ถ่านป่น 1 ส่วน ใบไม้ผุหรือปุ๋ยหมัก 1 ส่วน สูตรที่ 2 ดินร่วน 1 ส่วน ทรายหยาบ 1 ส่วน ถ่านป่น 1 ส่วน สูตรที่ 3 ดินร่วน 1 ส่วน ทรายหยาบ 3 ส่วน ถ่านป่น 1 […]

ไปซื้อแคตตัสมาปลูกกันนะ

หลังจากทำความรู้จักกับแคตตัสกันไปบ้างแล้ว คิดว่าหลายคนคงอยากไปหาซื้อมาลองเลี้ยงบ้างแน่ๆ สำหรับมือใหม่ ก่อนไปซื้อ เรามีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกัน อย่างแรกเลยคือ มองหาต้นที่ชอบ ในร้านขายแคคตัสแต่ละแห่งมีต้นแคคตัสให้เลือกมากมายหลายพันธุ์ ทั้งแบบมีหนาม ไม่มีหนาม ต้นเล็ก ต้นใหญ่ สำหรับมือใหม่ เมื่อได้เห็นก็อาจจะรู้สึกว่าต้นนี้ก็ชอบ ต้นนั้นก็ชอบ ขอแนะนำให้ซื้อกระถางเล็กๆ ดูก่อน สักหลายๆ ต้นมาลองเลี้ยงดู ไม้เหล่านี้ค่อนข้างเลี้ยงง่าย เพราะเกิดและเติบโตในบ้านเรา และราคาก็ไม่แพงมาก เมื่อชนิดพันธุ์ที่ชอบแล้ว ก็มาดูรายละอียดของต้น เริ่มจากดูผิวของลำต้นว่าเต่งตึงหรือไม่ สีสันสดใสรึเปล่า รวมทั้งไม่มีรอยแผล รอยตำหนิใดๆ จากนั้นก็ดูที่หนามว่ากระจายตัวสม่ำเสมอและไม่หัก ต้นติดกับวัสดุปลูกในกระถางดี ไม่โยกคลอน ต่อไปก็ดูวัสดุปลูกว่า สะอาดหรือไม่ มีเชื้อรา วัชพืช หรือแมลงหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็แสดงว่าร้านนั้นดูแลต้นไม้มาอย่างดี ทีนี้ก็อยู่ที่เราแล้วว่าจะดูแลดีหรือเปล่า สุดท้ายดูกระเป๋าตังค์ เพราะเราอาจจะเลือกเพลินเกินเงินในกระเป๋าก็ได้ ซื้อที่ไหนได้บ้าง…. ตามปกติตลาดต้นไม้หลายๆ ที่ก็มีขายกันทั่วไป อย่าง ตลาดนัดต้นไม้วันพุธ-พฤหัส และวันเสาร์-อาทิตย์ที่สวนจตุจักร ตลาดนัดสนามหลวง 2 และอีกหลายๆ ที่ สำหรับคนที่ขี้เกียจเดินทาง ก็หาได้จาก website/Facebook […]