“บ้านนกกระเรียน” บ้านกลิ่นอายญี่ปุ่น ที่ตอบรับวิถีชีวิตผู้สูงอายุ
บ้านกลิ่นอายญี่ปุ่น หลังนี้มีชื่อว่า “บ้านนกกระเรียน” สัญลักษณ์ที่แสดงถึงอายุยืนยาว สุขภาพที่ดี และความโชคดี สอดคล้องไปกับวิถีแบบญี่ปุ่นที่ส่งเสริมให้คนมีสุขภาพกายและใจที่ดี ตอบรับกับวิถีชีวิตของผู้สูงอายุ
Design Directory : ออกแบบสถาปัตยกรรม Dersyn Studio



บ้านกลิ่นอายญี่ปุ่น หลังนี้ติดป้ายตัวหนังสือกรอบใหญ่ “禅” หรือ “ฉาน” ความสงบ เรียบง่าย” ที่บริเวณโถงทางเข้าบ้าน ซึ่งคือคำกล่าวที่สามารถใช้นิยามบ้านหลังนี้ได้อย่างดี เพราะจุดเริ่มต้นในการออกแบบบ้านนี้มาจากต้องการพื้นที่ส่วนตัวให้ครอบครัว และที่สำคัญคือเป็นบ้านที่ตอบรับกับวิถีชีวิตของผู้สูงอายุด้วย โดยมีไอเดียหลักคือการผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากความชื่นชอบการ์ตูนในวัยเด็กของ คุณโมโม่ – ชูวุฒิ รัตนวนิชย์โรจน์ เจ้าของบ้าน ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น และเติบโตมากับการ์ตูนญี่ปุ่นอย่างวันพีซ นารุโตะ ดราก้อนบอล โดราเอมอน ซึ่งอยู่ในความทรงจำของใครหลายคนภายใต้ชื่อ “บ้านนกกระเรียน” อันเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงอายุยืนยาว สุขภาพที่ดี และความโชคดี สอดคล้องไปกับวิถีแบบญี่ปุ่นที่ส่งเสริมให้คนมีสุขภาพกายและใจที่ดี
ถอดแนวคิดวัฒนธรรมญี่ปุ่น สู่บ้านที่ตอบโจทย์ในทุกมิติของชีวิต
เมื่อแรกเข้ามายังพื้นที่ด้านใน จะพบกับโถงทางเข้าบ้านในลักษณะสูงโปร่ง สงบ ชวนให้เราละทิ้งความวุ่นวายทางกายและใจก่อนเข้าบ้าน บนผนังแขวนกรอบรูปที่ติดตั้งตัวหนังสือขนาดใหญ่คำว่า “ฉาน” เป็นภาษาจีนกลาง คล้ายกับคำว่า “เซ็น” ในภาษาญี่ปุ่น อันสื่อถึงความสงบ เรียบง่าย พร้อมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายญี่ปุ่นด้วยการเลือกใช้ไม้เป็นองค์ประกอบของเสา ฝ้าเพดาน และมีพื้นที่นั่งใส่รองเท้าแบบในบ้านของโนบิตะ เป็นกิมมิกเล็กๆ ที่สื่อถึงความชอบส่วนตัวในวัยเยาว์ของเจ้าของบ้าน “เพราะผมชื่นชอบการ์ตูนและวัฒนธรรมญี่ปุ่น เลยบอกสถาปนิกว่าอยากได้บ้านที่สะท้อนความเป็น Modern Japanese แต่ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิมของญี่ปุ่นไว้”





ต่อเนื่องเข้าไปด้านในคือส่วนของพื้นที่นั่งเล่นที่จัดผังแบบโอเพ่นแปลนเชื่อมต่อไปกับเคาน์เตอร์แพนทรี่ ซึ่งเป็นความต้องการของ คุณเหวิน-ฮุ่ยเหวิน หลิน ภรรยาคุณโมโม่ ชาวไต้หวันผู้ที่ชื่นชมในแสงแดด และชอบธรรมชาติ บริเวณนี้จึงเปิดโล่งรับวิวภายนอกทั้งสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งคือคอร์ตกลางบ้านที่จับจองด้วยสระน้ำขนาดใหญ่ คอยพัดพาไอเย็นเข้าตัวบ้าน อีกฝั่งคือพื้นที่ของสวนญี่ปุ่น มุมสงบไว้สำหรับนั่งจิบชาในวันสบายๆ ยามเช้า และด้วยผืนที่ดินขนาดใหญ่ สถาปนิกจึงจัดวางแปลนบ้านเป็นรูปแอล (L) ของสองอาคารประกอบกัน ได้แก่ หลังของครอบครัวคุณโมโม่ และอีกหลังเป็นของอาโกว (คุณป้า) และปล่อยให้พื้นที่ตรงกลางนั้นเป็นสระว่ายน้ำทอดยาว รายล้อมด้วยสวนญี่ปุ่นที่ให้ความสงบ ร่มรื่น ดูอุดมสมบูรณ์ “อีกหนึ่งโจทย์สำคัญที่ผมให้สถาปนิกไป คือต้องการบ้านที่อยู่ได้สบายโดยไม่ต้องเปิดแอร์ในช่วงกลางวัน” ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของบ้าน พื้นที่ส่วนต่างๆ ก็สามารถเปิดโล่งให้ลมไหลเวียนได้อย่างทั่วถึง แม้กระทั่งในชั้น 2 บริเวณโถงทางเดินก็ติดตั้งฟาซาดระแนงไม้ เพื่อป้องกันแสงแดดและปล่อยให้ลมพัดผ่านได้อย่างสบาย พร้อมดีไซน์ช่องแสงตามจุดต่างๆ ในบ้าน เพื่อนำแสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความปลอดโปร่ง เปิดรับพลังงานที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดี เฉกเช่นเดียวกับวิถีของญี่ปุ่น เราจึงสัมผัสได้ถึงพลังธรรมชาติ ทั้งลม แสง และน้ำ แม้ในยามบ่ายที่แดดเจิดจ้า แสงก็ตกกระทบกับผิวน้ำสวยระยิบระยับ มุมต่างๆ ในบ้านมีซีนของธรรมชาติประกอบไว้อย่างลงตัว ซึ่งแน่นอนว่าสถาปนิกได้ออกแบบให้ บ้านกลิ่นอายญี่ปุ่น หลังนี้ใกล้ชิดธรรมชาติให้มากที่สุด โดยไม่ได้ละทิ้งเรื่องของ Passive Design หรือสภาวะน่าสบายเลยแม้แต่น้อย



ตัวบ้านละเมียดละไมจากงานไม้ ที่ตั้งใจออกแบบให้โชว์เนื้อแท้ของวัสดุ และรอยต่อการเข้าไม้ต่างๆ ที่สวยงามแนบเนียน ใกล้เคียงแบบฉบับญี่ปุ่นในบริเวณโครงสร้างเสา หลังคา ของพื้นที่เฉลียงรอบบ้าน ที่เปรียบเสมือนพื้นที่รอยต่อระหว่างภายนอก-ภายใน ช่วยลดทอนแสงแดดไม่ให้ส่องเข้ามาในบ้านมากจนเกินไปอีกด้วย “เราออกแบบให้สามารถออกมานั่งเล่นนอกบ้านได้อย่างไม่เคอะเขิน จึงยกระดับพื้นขึ้นมาในระยะที่สามารถนั่งได้พอดี เหมือนบ้านแบบญี่ปุ่น”
บ้านที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีและสุขภาวะของผู้สูงวัย
“ฝั่งทิศตะวันตกเป็นพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว เช่น พริก หอม กระเทียม มะนาว” คุณโมโม่พาเราไปชมพื้นที่ปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสวนญี่ปุ่น พืชผักเหล่านี้ปลูกไว้สำหรับประกอบอาหารให้คนในครอบครัว เพราะมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัยเพื่อสุขภาพที่ดี ก่อนนำพาเราไปยังอาคารชั้นเดียวในอีกปีกหนึ่งของบ้าน หรือบ้านของอาโกว ที่ออกแบบให้ใช้สอยได้อย่างสะดวกสบาย ตามหลัก Universal Design โดยจัดวางผังเป็นโอเพ่นแปลนรวมพื้นที่นั่งเล่น รับประทาน อาหารเข้าไว้ด้วยกัน เป็นห้องที่เปิดโล่ง สามารถสอดส่องได้อย่างสะดวก เพิ่มความปลอดภัย โดยไม่ละทิ้งกลิ่นอายญี่ปุ่น “ด้วยอาโกวอายุเยอะแล้ว จึงออกแบบพื้นที่ให้สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ และทำวัสดุฝ้าเพดานเป็นไม้ รูปทรงจั่ว ทำให้พื้นที่ในห้องดูโปร่งขึ้นไปอีก สร้างบรรยากาศสบายตา อบอุ่น มีมุมนั่งจิบชาริมหน้าต่างที่มองเห็นวิวสวนสวยๆ แม้พื้นที่จะกะทัดรัด แต่สร้างความสุขทางใจ วันไหนเบื่อๆ ก็สามารถออกมานั่งเล่นรับลมภายใต้ชายคาที่มีอยู่รอบบ้านได้อย่างปลอดภัย”





“ของทุกอย่างต้องมีที่เก็บ” ออกแบบบ้านที่เป็นระบบระเบียบด้วยพื้นที่เก็บของหลากหลาย
หัวใจสำคัญของการสร้างบ้านทุกหลังที่สถาปนิกให้ความสำคัญ แม้จะแลดูเป็นเรื่องที่หลายคนอาจให้ความสำคัญน้อย นั่นคือการออกแบบบ้านที่ตั้งใจเผื่อพื้นที่เก็บของตามประเภทใช้สอย อยู่ในตำแหน่งที่สามารถหาเจอได้ง่าย เหมาะสมไปตามขนาด และความถี่ในการหยิบใช้ “งานบิลท์อินภายในบ้านออกแบบโดยคำนึงถึงการใช้งานจริง และกลมกลืนไปกับพื้นที่ ของที่ใช้บ่อยถูกจัดวางให้อยู่ในตู้ที่หยิบง่าย ส่วนของใช้ที่ไม่ค่อยได้หยิบ เช่น กล่องของเล่นของคุณโมโม่ ก็มีห้องเก็บของรองรับไว้ ทำให้หมดปัญหาเรื่องการหาของไม่เจอ”





ที่ชวนให้ตื่นตามากนั่นคือห้องลับของคุณโมโม่ ห้องลับที่ว่าซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผืนผนังไม้ เปรียบเสมือนลิ้นชักความทรงจำที่พาเจ้าของบ้านย้อนกลับไปยังวัยเด็ก เพราะเป็นห้องที่เก็บของเล่น ของสะสมจากการ์ตูนญี่ปุ่นเต็มพื้นผนังทั้ง 3 ด้าน สูงจรดฝ้าพดาน จัดวางอยู่บนชั้นวางที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม กลางห้องมีโต๊ะไม้ไว้สำหรับนั่งทำงานอดิเรกคือการต่อโมเดล ซึ่งสถาปนิกก็ตั้งใจนำตัวตนของเจ้าของบ้านสอดแทรกเข้าไปในพื้นที่ได้อย่างดี “ผมเชื่อว่า ไม่ว่าเราจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่แค่ไหน เราต่างก็อยากย้อนกลับไปเป็นเด็กเสมอ ดังนั้นการที่บ้านยังมีมุมเล็กๆ ที่เป็นโลกส่วนตัวของเรา และทำให้เราได้สัมผัสความเป็นเด็กอีกครั้ง นั่นคือความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต” สถาปนิกกล่าวเสริม
ท้ายที่สุด คำกล่าวที่ปรากฏบนกรอบภาพ ได้พาเราหลบออกจากความวุ่นวายภายนอก สู่บรรยากาศสงบ ร่มรื่นภายใน “บ้านนกกระเรียน” อันเป็นสัญลักษณ์แห่งอายุยืน สุขภาพดี และการใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีคุณค่าในทุกช่วงวัยของครอบครัว





Designer’s Tips

“‘บ้าน’ คือสถาปัตยกรรมที่พร้อมรอรับสมาชิกทุกคนในบ้านเสมอ เติมเต็มพลังงานที่ดีหลังจากทุกคนออกไป ใช้ชีวิตข้างนอกบ้าน การออกแบบจึงต้องคำนึงถึงคุณภาพและลำดับของพื้นที่ว่าง เพื่อสร้างประสบการณ์ใน ทุกก้าวเดิน ผ่านการดึงธรรมชาติมาไว้ใกล้ตัว ซึ่งสามารถรับรู้ได้ผ่านทางการมองเห็น การได้ยิน และการ สัมผัส ก่อให้เกิดความสงบเย็น และเลือกใช้วัสดุที่เชื่อมโยงธรรมชาติ ปล่อยให้ที่ว่างภายในบ้านยืดหยุ่น ทำให้ทุกคนได้ใช้เวลาในบ้านร่วมกันได้อย่างมีคุณภาพและมีสุข เป็นสถาปัตยกรรมที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของ การเคารพในธรรมชาติ ดังคำแรกที่เจ้าของอยากได้ ‘บ้านเล็กในป่าใหญ่’”
เจ้าของ : คุณชูวุฒิ รัตนวนิชย์โรจน์
ออกแบบสถาปัตยกรรม : Dersyn Studio โดยคุณศราวุธ จันทรแสงอร่าม คุณนิตยา โมฆรัตน์ คุณซะฮรอ ระหะหมัดประเสริฐ
ออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม : Dersyn Studio โดยคุณสุนันทา ทับเพชร, Wabisabi Spirit โดยคุณภูริวัจน์ วรากิติยาวิโรจกุล และคุณสหพงษ์ พลวัน
ตกแต่งภายใน : Dersyn Studio คุณณัฐพร ศิริสม และคุณธนกร ขจรไชยา
เรื่อง : Nantagan
ภาพ : กรานต์ชนก บุญบำรุง, ธนายุต วิลาทัน
สไตล์ : Suntreeya