สวนเทอร์ราเรียมกลางบ้าน ขนาด 3 x 6 เมตร ที่ใช้ระบบ EVAP ดูแลต้นไม้
แม้ลักษณะของตัวบ้านมีการออกแบบกระจกบานใหญ่ไว้ในห้องรับแขกสำหรับมองสวน แต่พื้นที่ของ สวนเทอร์ราเรียมกลางบ้าน กลับมีขนาดเพียงแค่ 3 x 6 เมตร ทั้งยังขนาบด้วยกระจกบานใหญ่ของตัวบ้านและผนังกำแพงสูงของโรงงาน ซึ่งได้รับลมร้อนจากคอมเพรสเซอร์แอร์เกือบตลอดทั้งวัน ทำให้พื้นที่นี้ค่อนข้างร้อน จัดสวนได้ยาก และไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้
“ก่อนจะเป็น สวนเทอร์ราเรียมกลางบ้าน ที่ผ่านมาเจ้าของบ้านซ่อมสวนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เพราะ เมื่อปลูกต้นไม้ได้สักพัก ผ่านไปประมาณ 1 – 2 เดือน ก็มักได้รับความเสียหาย ต้องซ่อมแซมปรับปรุงใหม่อยู่เสมอ แต่ด้วยความที่สวนเป็นพื้นที่ใจกลางบ้านที่สามารถมองเห็นได้ตลอดเวลา ทำให้เมื่อไรก็ตามที่เดินผ่านก็จะรู้สึกไม่สดชื่น และรู้สึกห่อเหี่ยวเช่นเดียวกับสภาพสวน


“ผมกับทางเจ้าของบ้านเลยปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรกับพื้นที่ตรงนี้ดี เพราะอยากให้การจัดสวนครั้งนี้สามารถปลูกต้นไม้ได้จริง และสวนต้องสวยอยู่ได้นาน ซึ่งในช่วงนั้นผมเห็นงานเทอร์ราเรียม (Terrarium) ของต่างประเทศที่สามารถปลูกต้นไม้ในพื้นที่ปิดของบ้านได้ เลยได้ไอเดียที่จะกั้นพื้นที่แล้วสร้างสภาพแวดล้อมขึ้นมาใหม่สำหรับต้นไม้โดยเฉพาะ แต่เนื่องจากผมมีประสบการณ์ในการจัดเทอร์ราเรียมขนาดเล็ก บ้านหลังนี้จึงนับว่าเป็นสวนเทอร์ราเรียมที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา” คุณแชมป์ – โชติภัค ภักดีสว่าง นักจัดสวน แห่ง Exotic Fern Lover เล่าถึงที่มาของการจัดสวน และความท้าทายของการทำงานในครั้งนี้



“หลังจากที่เจ้าของบ้านให้โอกาส ขั้นแรกผมก็ออกแบบให้พื้นที่ที่จำกัดดูใหญ่โต มองแล้วไม่เบื่อ และอลังการสมกับตัวบ้าน รวมถึงหาวิธีการแก้ปัญหาว่าทำอย่างไรให้ต้นไม้สามารถอยู่ได้ หรือสามารถป้องกันต้นไม้จากลมร้อนข้าง ๆ ได้ ผมเลือกปิดล้อมพื้นที่ให้กลายเป็นห้องห้องหนึ่ง และใช้ EVAP (Evaporative Cooling System) หรือระบบทำความเย็นแบบระเหย เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมภายใน ทั้งอุณหภูมิ และความชื้นผ่านแผงวงจรอัตโนมัติ โดยจะประกอบไปด้วยแผงรังผึ้ง หรือแผ่นทำความเย็น (Cooling Pad) ที่มีความชื้น ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอก และพัดลมดูดอากาศที่จะพัดพาความร้อน และความชื้นออกไปด้านนอก ซึ่งผมมองว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมสภาพแวดล้อมสำหรับต้นไม้ ณ ขณะนี้”



จากสภาพอากาศร้อนชื้นของพื้นที่ ประกอบกับความชอบและความหลงใหลในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติของเจ้าของบ้าน นักจัดสวนจึงเลือกนำเสนอรูปแบบเทอร์ราเรียมที่จำลองระบบนิเวศขนาดย่อม ผสมผสานทั้งน้ำตก ลำธาร และพรรณไม้หลากหลายชนิด เน้นการใช้วัสดุและองค์ประกอบที่เป็นของจริงทั้งหมด เพื่อสร้างความรู้สึกเสมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง


“องค์ประกอบโดยรวมของสวนจะเน้นความเป็นทรอปิคัล เลือกใช้กลุ่มพรรณไม้ที่ทนร่ม ทนชื้นได้ดี โดยเฉพาะไม้ใบอย่าง เฟิน และฟิโลเดนดรอน แต่ด้วยความที่เจ้าของบ้านไม่ชอบสวนที่ดูเขียวชอุ่มไปหมด อยากให้มีสีสันเข้ามาแทรกบ้าง ผมจึงเติมความมีชีวิตชีวาให้พื้นที่ด้วยการเลือกใช้ไม้ใบที่มีความสวยงามของลวดลายและสีสันที่หลากหลายมาเสริม เพิ่มมิติให้สวนดูมีความน่าสนใจ ชวนผ่อนคลาย และน่ามอง

“อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดูแลต้นไม้คือ แสงแดด โดยพื้นที่จัดสวนจะได้รับแสงแค่ช่วง 12.00 – 14.00 น. ซึ่งไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช อาจทำให้พืชที่ปลูกมีลักษณะยืดยาวเข้าหาแสงแดด และสีสันไม่สดใสได้ ผมจึงติดตั้งไฟเทียม เพื่อช่วยเสริมแสงให้เหมาะสมและสม่ำเสมอ ซึ่งหลังจากที่สวนได้รับการติดตั้งและดูแลอย่างต่อเนื่องมาปีกว่าก็จะเห็นได้ว่าตอนนี้ต้นไม้ค่อนข้างสมบูรณ์ แข็งแรง ไม่มีการยืดยาวเข้าหาแสง และสีค่อนข้างสด อีกทั้งยังไม่มีความเสียหายหรือต้องซ่อมแซมเหมือนที่ผ่านมา สะท้อนถึงประสิทธิภาพของระบบปิดที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างเบ็ดเสร็จครบถ้วน ไม่ว่าจะมีฝนตก แดดออก หรือเวลาภายนอกเปลี่ยนไปอย่างไร ต้นไม้ภายในก็ยังคงเติบโตได้อย่างมีคุณภาพในระบบปิดที่ออกแบบไว้โดยเฉพาะครับ”
นิตยสาร บ้านและสวน เดือนกันยายน 2568
จัดสวน: Exotic Fern Lover โดยคุณโชติภัค ภักดีสว่าง
เรื่อง: สริดา จันทร์สมบูรณ์
ภาพ: อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม