แกะกล่องคราฟต์ไทย 3 ประเภทกับผลิตภัณฑ์ 9 ผลงาน - บ้านและสวน

แกะกล่องคราฟต์ไทย 3 ประเภทกับผลิตภัณฑ์ 9 ผลงาน

[CRAFT FORWARD] แกะกล่องโชว์ตัวอย่าง 9 ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยหลากดีไซน์จากหลากหลายผู้ผลิตศิลปหัตถกรรมไทย ส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 120 ผลงาน ใน SACIT Craft Collection 2025 การรับรองผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์ความยั่งยืนให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทย

ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการคัดสรรมาอย่างเข้มข้นตลอดทั้งโครงการ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทงานคราฟต์ตามคุณค่าที่แตกต่างกัน ได้แก่ Master Craft หรือ หัตถศิลป์ระดับประเทศ (The Legacy of Master Craftsmanship) Trendy Craft หรือ นวัตศิลป์สมัยใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของปัจจุบันและอนาคต (Bridging Traditional and Tomorrow) และ Conscious Craft หรือ หัตถกรรมรักษ์โลก (Where Sustainability Meets Creativity) ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ SACIT ที่ต้องการสนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมไทยให้น่าดึงดูดสำหรับทั้งชาวไทยและต่างชาติ และสร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจชุมชนหัตศิลป์เติบโตอย่างยั่งยืน

ตัวอย่างผลงาน 9 ชิ้นที่จะได้รับชมนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ที่จะได้รับการบรรจุลงในแค็ตตาล็อกออนไลน์ของโครงการ SACIT Craft Collection 2025 ที่จะเผยแพร่ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์ของงานฝีมือไทย เรื่องราวเบื้องหลังที่ทรงคุณค่า และแรงบันดาลใจที่ทำให้แต่ละชิ้นงานเหมาะกับคนยุคใหม่ ชวนซื้อหาครอบครองไว้เป็นของตัวเอง หรือส่งต่อเพื่อเป็นของขวัญแทนใจ

ช่อมงกุฎแห่งรัก จากแบรนด์สะบัดชัย

เครื่องประดับเงินสร้างสรรค์ จากวัสดุที่ธรรมชาติสรรสร้าง
ธนู พรหมอยู่ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2568 ประเภทเครื่องประดับเงินประกอบไม้พยุงและอัญมณี ฝีมือชั้นครูในด้านการทำเครื่องประดับเงิน ผสมผสานกับการนำวัสดุธรรมชาติหลายชนิด มารังสรรค์ผลงานอย่างโคดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เห็นได้จากไม้พยุง โลหะ และ อัญมณี วัสดุที่มักปรากฏในงานเครื่องประดับของสะบัดชัย

เงินแท้ แร่ธรรมชาติ ไม้มงคล การผสานความลงตัวของวัสดุธรรมชาติสามชนิด และกระบวนการผลิตเครื่องประดับทำมือด้วยหัวใจแบบฉบับสะบัดชัย นำมาสู่ ‘ช่อมงกุฎแห่งรัก’ เครื่องประดับโลหะเงินประกอบไม้พยุง พลอย หิน และอัญมณีอันทรงคุณค่า

Lush Summer จากแบรนด์ KRIT BOUTIQUE

ต่อยอดโทนสีสันและลวดลายจากวัฒนธรรมผ้าขาวม้าที่คนไทยรู้จัก เป็นความสดใสที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่ ด้วยสีสันและลวดลายที่ยังสะท้อนความเป็นท้องถิ่นดั้งเดิม

ความเชื่อของแบรนด์ Lush Summer คืองานศิลปะนั้นมีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมที่เก่าแก่และคุ้นเคย ดังนั้นสีสันและลวดที่ปรากฏบนเนื้อผ้าของเสื้อผ้าชุดนี้ จึงเป็นการต่อยอดสิ่งที่คนไทยรู้จักดีให้กลายเป็นสินค้าที่คนรุ่นใหม่สามารถสวมใส่และใช้งานได้อย่างไม่เคอะเขิน เป็นคอนเซ็ปต์ที่ชวนมองผ้าขาวม้าใหม่ให้เป็นสินค้าที่เท่และน่าดึงดูด

ผ้าไหมแพรวาสีธรรมชาติ จากแบรนด์ Primpraewa

ผ้าไหมแพรวา ที่ใช้คุณค่าของงานศิลปหัตถกรรมยกระดับผืนผ้าจากเส้นไหมเปลือก

การเชิคชูวัตถุดิบในท้องถิ่นผ่านภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวภูไทอย่างการขิต หรือการจก มอบเสน่ห์แห่งลวดลายจากความประณีตบรรจง ผ้าไหมแพรวาผืนนี้เกิดจากการหยิบเอาวัสคุมูลค่าไม่สูงนักอย่างเส้นไหมเปลือก (ไหมหลีบ) มาสร้างสรรค์ร่วมกับสีธรรมชาติในท้องถิ่น และถักทอขึ้นอย่างประณีตในแบบ ทั้งเคิม ทั้งหมดทำให้ผ้าไหมแพรวาผืนนี้ครอบคลุมการอนุรักษ์องค์ความรู้และภูมิปัญญาบ้านเกิดและสิ่งแวดล้อม สร้างรายได้และอาชีพแก่ชุมชน

ผลิตภัณฑ์เครื่องทองลงหิน ประเภทเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ลายพิกุล จากแบรนด์ศูนย์หัตถกรรมทองลงหิน

เครื่องทองลงหิน ทักษะเชิงช่างอันทรงคุณค่า ถ่ายทอดความประณีตสู่โต๊ะอาหาร ผ่านลวดลายมงคลสุุดวิจิตรเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรือง

กว่า 60 ปี ที่ สมคิด ด้วงเงิน ครูศิลป์ของแผ่นดินประเภทเครื่องโลหะ (เครื่องทองลงหิน) (Master Artisan in Metalwork (Bronze) อนุรักษ์สืบสาน งานศิลปหัตถกรรมทองลงหินดั้งเดิมที่กำลังเลือนหาย สร้างสรรค์งานเครื่องทองลงหินด้วยสองมือ ด้วยความทุ่มเทและอุตสาหะ เพื่อผลงานที่สวยงามแลบริสุทธิ์ นำมาสู่เครื่องทองลงหินได้รับการประยุกต์ให้ร่วมสมัยเป็นเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร ด้วยการจัดวางลายดอกพิกุลที่คมชัดและมีมิติ ดูเรียบน้อย แต่ยังคงกลิ่นอายความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน

โถน้ำต้นลายบัวเจ็ดสี จากแบรนด์ Excellent Craft หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

ย้อนเวลาสู่รัชสมัยแห่งรัชกาลที่ 2 ยุครุ่งโรจน์ของเครื่องเบญจรงค์

ณัฏฐ์ณรัณกร แตงเอี่ยม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2567 ประเภทงานเบญจรงค์ประยุกต์ ผู้ต่อยอดภูมิปัญญาจาก อุไร แตงเอี่ยม ครูช่างศิลปหัตถกรรม ถ่ายทอดวิชาชีพการเขียนลายและลงสีด้วยความประณีตไปสู่ชุมชน และพัฒนาหมู่บ้านเบญจรงค์ดอน ไก่ดี เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นคินเผาลายครามและเบญจรงค์ ความภาคภูมิใจของจังหวัดสมุทรสาคร

เทคนิคการวาดเบญจรงค์ในสมัยรัชกาลที่ 2 “ลาย บัวเจ็ดสี” คือการนำดอกไม้มาจัดองค์ประกอบสร้างความสวยงามพริ้วไหวของดอกไม้ ลงเส้นดำเพื่อวาครูปทรงก่อนลงสีแต่ละสีโดยทิ้งระยะเวลาให้สีแต่ละสีแห้งก่อน จึงลงสีใหม่ให้ครบตามดอกเจ็ดสีเพื่อสร้างมิติที่คมชัด

ปิ่นโต PINTO จากแบรนด์ Charm-Learn Studio

จากภาชนะในอดีตที่เคยถูกใช้สอยในชุมชน วัด และครัวเรือน ข้ามกาลเวลาสู่งานออกแบบใหม่ด้วยรูปลักษณ์น่าใช้ เพิ่มเสน่ห์ให้ของใช้ธรรมดามีคุณค่าและเตะตาน่ามอง

Charm-Learn Studio ผู้เชี่ยวชาญงานเซรามิก รังสรรค์ผลิตภัณฑ์ปิ่นโตใหม่ที่คงทนขึ้นด้วยการเปลี่ยนวัสดุเป็นเซรามิกสีสันสดใส เสริมฟังก์ชันให้ใช้งานง่ายขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ทันสมัยด้วยสีสันและรูปทรง เป็นผลิตภัณฑ์ในวิถีชีวิตประจำวันที่เชื่อมโยงผู้คน ด้วยดีไซน์และรูปลักษณ์ที่เข้าถึงใจคน

Laibou จากแบรนด์ Grajang

แรงบันดาลใจจาก “บัว” ดอกไม้ที่มีความสำคัญในงานศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยมายาวนาน สู่เครื่องประดับที่ผสานการใช้เทคโลยีสมัยใหม่ รังสรรค์งานคราฟต์ที่ละเอียดละออทั้งยังสะท้อนอัตลักษณ์ดั้งเดิมของไทย

Grajang ออกแบบเซ็ตกำไลจากการถอดรูปทรงของบัวคว่ำ–บัวหงาย ที่มักปรากฏในฐานของสถาปัตยกรรมไทย มาตีความใหม่ให้ร่วมสมัย เกิดเป็นรูปทรงเว้าโค้งซ้อนกันคล้ายกลีบบัว ในรูปแบบเครื่องประดับที่เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้อย่างกลมกลืน พร้อมตกแต่งด้วย “ลายกระจังซ้อน” ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของแบรนด์ เพื่อสื่อสารรากวัฒนธรรมไทยในมุมมองใหม่ที่ทันสมัยและเข้าถึงได้ง่าย แต่แฝงด้วยรายละเอียดเชิงศิลป์

เข็มกลัดใบตาล จากแบรนด์ NODE SLIP

ใบตาลสานประณีต สู่ความเรียบง่ายอันเปี่ยมคุณค่าในแบบดอกไม้ไทย

แรงผลักดันจากความตั้งใจอนุรักษ์และต่อยอดวัสดุธรรมชาติในท้องถิ่นอย่างใบตาล สู่การสร้างงานศิลปหัตถกรรมที่ใช้งานได้จริง และสื่อสารถึงภูมิปัญญาและวิถีชีวิตของผู้คน

พวงมาลัยใบตาล และเข็มกลัดใบตาล เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการใช้ใบตาลแห้ง สานประณีตให้เป็นลายดอกมะลิและคอกไม้ไทยที่มีเรียบง่าย สื่อถึงความงามตามธรรมชาติในแบบวัฒนธรรมไทย ร่วมกันกับการใช้วัสดุขับเน้นอย่างเข็มกลัดสีทอง ที่เพิ่มความสง่างามและร่วมสมัย

The Woven Dream จากแบรนด์ WISHULADA

ถัก สาน สร้างลวดลายบนผืนผ้า สร้างสรรค์วงจรชีวิตใหม่ให้เศษผ้าเหลือทิ้ง

การโคจรมาเจอกันระหว่างแนวคิด Upcycling กับภูมิปัญญาการถักและสานเมื่อปลายทางของผ้างคงามหลังการตัดเย็บคือการกำจัดทั้งเผา ฝังกลบ ทิ้งซากสารเคมีจากกระบวนการที่ยังคงปนเปื้อนในชั้นดิน ความตั้งใจในผลงาน ชิ้นนี้ คือการนำเศษผ้าเหลือทิ้งชิ้นเล็กๆ มาถักและสานให้เป็นผืนผ้าที่ขนาดใหญ่ขึ้น กลายเป็นผ้าผืนลวดลายใหม่ที่นำไปสร้างสรรค์ได้ไม่จบสิ้นโดยไม่ทิ้งภาระให้กับคนรุ่นหลัง

และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานทั้งหมดใน SACIT Craft Collection 2025 โดยยังมีผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยอีกจำนวนมากถึง 120 ผลงานจากทั้ง 3 ประเภทงานคราฟต์ รอให้ติดตามกันได้ เร็ว ๆ นี้