บ้านสีเข้ม ที่มีเลนลู่วิ่งและพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกัน - บ้านและสวน

Lane House บ้านที่ให้เราออกวิ่งได้ในทุกวัน

บ้านสีเข้ม ที่ดูเคร่งขรึมหลังนี้แอบซ่อนลู่วิ่ง หรือเส้นทางสัญจรรองที่แทรกตัวอยู่ในสวน ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่าง สถาปัตยกรรมกับธรรมชาติภายนอกเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน

Design Direcotory : สถาปนิก CORE cluster

บ้านสีเข้ม
ด้านหน้าของบ้านให้ความรู้สึกปิดทึบจากภายนอก ดูสุขุม มีเสน่ห์ และคงความเป็นส่วนตัวไว้อย่างชัดเจน ด้วยภาษาการออกแบบฟาซาดเรียบง่ายต่อเนื่องไปกับเส้นสายของรั้วระแนงอะลูมิเนียมสีดำที่ห่อหุ้มบ้าน เอาไว้
ผนังภายนอกเลือกใช้เท็กซ์เจอร์แทนผนังเรียบ เพื่อเพิ่มมิติให้ตัวอาคารดูน่าสนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วย พรางคราบฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจเกาะบนพื้นผิวได้เป็นอย่างดี

จะดีแค่ไหนถ้ามีบ้านที่ให้เราสามารถวิ่งออกกำลังกายได้ในทุกวัน  เบื้องหน้าฟาซาดและรั้วสีเข้มที่ปิดทึบ บ้านสีเข้ม หลังนี้จึงสะท้อนบุคลิกเรียบง่าย และเสมือนค่อยๆ ปลีกตัวออกจากความวุ่นวายภายนอก แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวเข้ากับบริบทโดยรอบที่เต็มไปด้วย มลภาวะทางเสียง เนื่องจากที่ดินค่อนข้างติดกับทางด่วนและสะพานขนาดใหญ่  จึงเป็นที่มาของบ้านที่ดูเคร่งขรึม แต่แท้จริงแล้วแอบซ่อนพื้นที่สีเขียวเอาไว้ภายใน เปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางบ้าน โดยแทรก แนวคิดสนุกๆ ที่น่าสนใจอย่าง “ลู่วิ่ง” รอบบ้านเอาไว้อีกด้วย

หลายคนอาจจะเกิดความสงสัยว่า เราสามารถสร้างบ้านที่มีลู่วิ่งด้วยได้อย่างไร   

แต่บ้านหลังนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “เลนลู่วิ่ง” และ “พื้นที่อยู่อาศัย” สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว โดย คุณเมย์ – เมธาพร จิตรายานนท์ สถาปนิกจาก CORE cluster ได้นำไอเดียดังกล่าว มาตีความ และออกแบบให้กลายเป็นจริง เปิดมุมมองใหม่จากภาพจำของบ้านแบบเดิมๆ ไปสู่บ้านที่ตอบโจทย์ความ ต้องการเฉพาะได้อย่างดี

บ้านสีเข้ม
ประตูบานซ่อนบริเวณทางเชื่อมจากลานจอดรถสู่สวน ออกแบบให้แนบเนียนกับผนัง พร้อมกรุผิวด้วย อะลูมิเนียมคอมโพสิต สะท้อนสีเข้มช่วยเชื่อมโยงกับบรรยากาศโดยรอบ
แนวผนังอิฐล้อมเสาโครงสร้างเหล็ก ติดตั้งโดยใช้กาวตะปูและมีโครงเหล็กรองรับในบางจุด 
โถงทางเดินเมื่อเข้ามาภายในบ้าน เปิดมุมมองเห็นสวนเต็มที่ก่อนพาเราเข้าสู่พื้นที่รับประทานอาหาร

สถาปัตยกรรมที่สอดคล้องไปกับวิถีชีวิต สู่พื้นที่โอเอซิสใจกลางบ้าน

“ไอเดียตั้งต้นของลู่วิ่งนั้นมาจากเจ้าของบ้าน ด้วยความที่ชอบออกกำลังกาย และอยากวิ่งได้ทุกวัน จึงต้องการพื้นที่ลู่วิ่ง และขี่จักรยานได้ด้วย เหมือนได้ออกกำลังกายอยู่ในสวนสาธารณะทุกวัน โดยไม่ต้อง ออกจากบ้านเลย ซึ่งเรามองว่าโจทย์ตั้งต้นสนุกมาก พยายามดีไซน์หลากหลายแบบเพื่อให้ได้เส้นทางวิ่งที่ ยาวที่สุด จนออกมาเป็นแบบบ้านเลย์เอาต์รูปตัวยู (U) แทรกสวนและพื้นที่ลู่วิ่งไว้ตรงกลางบ้าน”
จึงเป็นที่มาว่าทำไมฟังก์ชันต่างๆ จึงเรียงตัวโอบล้อมสวนคอร์ตกลางบ้านเอาไว้ นอกจากจะเป็น พื้นที่ของลู่วิ่งแล้ว คอร์ตดังกล่าวยังนำมาซึ่งแสงและลมธรรมชาติ ที่พัดผ่านเข้ามาภายในบ้าน โดยดีไซน์ให้ลู่วิ่งที่ว่าเป็นพื้นทางลาด วนรอบอยู่ภายในสวน ล้อมฟังก์ชันอย่างห้องนั่งเล่นเอาไว้ ซึ่งสถาปนิกออกแบบให้ แยกตัวออกมาเป็นก้อนที่ลอยอยู่เหนือลู่วิ่งในชั้น 1 บรรยากาศห้องนี้จึงพิเศษกว่าห้องไหนๆ และเปรียบ เสมือนหัวใจของบ้าน เพราะโดดเด่นอยู่ท่ามกลางพื้นที่สีเขียว

บ้านสีเข้ม
ห้องนั่งเล่นถูกแยกออกจากอาคารหลัก และยกตัวขึ้นจากระดับพื้นประมาณครึ่งชั้น ลอยโดดเด่นอยู่ ท่ามกลางสวน แวดล้อมไปด้วยฟิโลใบมะละกอ ฟิโลซานาดู และต้นไม้อื่นๆ เช่น  เสม็ดแดง มั่งมี

ด้วยดีไซน์เป็นผนังกระจกโดยรอบ จึงสามารถมองเห็นต้นไม้น้อยใหญ่แบบทะลุปรุโปร่ง ห้องต่างๆ ที่วางตัวล้อมรอบคอร์ตกลางก็สามารถมองเห็นห้องนั่งเล่นที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางสวนได้อย่างชัดเจน สวนและลู่วิ่งจึงกลายเป็นตัวกลางเชื่อมสายตาและความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในบ้าน ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นและรับรู้ถึงกันและกันได้อยู่เสมอ ผ่านมุมมองที่เปิดเชื่อมถึงกันอย่างเป็นธรรมชาติ
เมื่อพื้นที่จับจองด้วยสวน และเส้นทางสำหรับวิ่ง จึงนำไปสู่การออกแบบบ้านเป็น 3 ชั้น  เพื่อเกิดเป็นพื้นที่ว่างบริเวณกลางบ้านให้มากที่สุด “เราออกแบบให้พื้นที่ลู่วิ่งเป็นทางลาดที่วนรอบไปถึงชั้น 2 บริเวณห้องนอนและห้องนั่งเล่นในชั้น 2 เพื่อให้ระยะทางวิ่งที่เพียงพอต่อการออกกำลังกายประมาณ 200 เมตร ต่อ 1 รอบการวิ่ง”  ซึ่งโครงสร้างของเลนลู่วิ่งนั้นสถาปนิกออกแบบเป็นพื้นไม้วางบนโครงสร้าง เหล็กทั้งหมด โดยออกแบบคานเหล็กขนาดใหญ่เพียงพอที่สามารถรองรับน้ำหนักได้ โดยไม้ที่ใช้คือไม้เทียม สีดำ และติดตั้งเว้นร่องเพื่อให้สามารถระบายน้ำขังได้ดีแม้ในวันที่ฝนตก

ด้วยไอเดียที่อยากให้ห้องนั่งเล่นดูเบาลอย เราจึงไม่พบเห็นเสาโครงสร้างวางเรียงรายอยู่เลย นั่นเพราะการออกแบบให้แนบเนียนไปกับองค์ประกอบของผนัง อย่างการใช้อิฐมอญสีเทาก่อล้อมเสาเอาไว้ ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับที่ใช้ในงานฟาซาด จึงกลมกลืนไปกับส่วนอื่นๆ รอบบ้านได้อย่างดี

บ้านสีเข้ม
เมื่อเข้ามาจะพบกับโต๊ะรับประทานอาหารที่ต่อเนื่องไปกับเคาน์เตอร์ครัว และเปิดมุมมองสู่สวนภายนอก

บ้านสีเข้ม
มุมมองจากโต๊ะรับประทานอาหารไปยังสวน จัดวางให้เฟรมมุมมองต้นพญาคุ้มเมือง ต้นไม้มงคลของบ้าน เอาไว้อย่างพอดี โดยมีทางลาดหรือลู่วิ่งพาดผ่านอยู่ด้านหลัง

สร้างมุมมองธรรมชาติส่วนตัวไว้ภายใน

เนื่องจากบ้านตั้งอยู่ในเมือง และใกล้กับทางด่วน จึงได้รับมลภาวะทั้งจากเสียงและฝุ่น เป็นที่มาของหน้าตาอาคารที่ปิดล้อมด้วยฟาซาดเป็น Double Skin ห่อหุ้มด้านหน้าและหลังบ้านเอาไว้ ฟาซาดดังกล่าวดีไซน์มาเพื่อบ้านหลังนี้โดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงทั้งปัจจัยภายนอก เช่น เสียงรบกวน ฝุ่น และสร้างความเป็นส่วนตัว โดยไม่ลืมที่จะคำนึงถึงมุมมองจากด้านในที่ยังคงต้องการมองเห็นภายนอกบ้าง ได้รับแสงและลมธรรมชาติอยู่ จึงเป็นที่มาของการเลือกใช้เป็นวัสดุอิฐมอญเผาสีเทา นำมาจัดแพตเทิร์น วางเรียงสลับกัน มีช่องโปร่งเพื่อให้ลมสามารถผ่านได้ ช่วยพรางสายตาจากบริบทโดยรอบ ทั้งก่อให้เกิด มิติของแสงเงาที่สวยงามแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา

“อิฐมอญนำมาติดตั้งบนโครงคร่าวเหล็กและสานเหล็กประกบด้านหลังเพื่อยึด เนื่องจากอิฐ ค่อนข้างเจาะได้ยาก โดยเลือกใช้โครงเป็นเหล็กทำสีดำเพื่อให้แนบเนียนไปกับอิฐสีเทาเข้ม และเว้นช่อง โปร่งกึ่งกลางฟาซาดไว้ในระดับสายตายาวตลอดแนว สามารถมองเห็นจากชั้น 2 ของบ้านได้ ไม่เพียงแต่ ช่วยเฟรมมุมมองให้เห็นภายนอกบางส่วนเท่านั้น แต่ยังเป็นการช่วยลดทอนความทึบตันของอาคาร และทำให้ภายนอกบ้านแลดูมีมิติ น่าสนใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

บ้านสีเข้ม
รอบลู่วิ่งรายล้อมด้วยพรรณไม้หลากชนิด ช่วยเติมความร่มรื่นให้บรรยากาศโดยรอบ
บ้านสีเข้ม
ลู่วิ่งหรือทางลาด ที่พันรอบห้องนั่งเล่นอยู่ภายในบริเวณสวน ออกแบบโดยใช้โครงสร้างเหล็กปูพื้นไม้เทียม และวนรอบไปจนถึงห้องนอนในชั้น 2

เมื่อต้องปิดกั้นจากภายนอก จึงเป็นที่มาของการสร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้านเอง ซึ่งสถาปนิก ได้สร้างประสบการณ์การมองเห็นต้นไม้หรือพื้นที่สีเขียว แทรกไว้ตามจุดต่างๆ ภายในบ้าน คล้ายกับการ จัดวางฉาก (Scene) ที่เปลี่ยนไปตามมุมมอง เริ่มต้นตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาด้านใน ด้วยเส้นทางเดินเข้าบ้าน เป็นเส้นตรงที่กว้างเพียงเมตรกว่า นำพาเราไปยังพื้นที่รับประทานอาหารซึ่งทำหน้าที่เหมือนห้องรับแขก ทางเดินดังกล่าวขนาบข้างด้วยผืนผนังทึบกรุหินลวดลายสวยงามในฝั่งหนึ่ง และอีกฝั่งเป็นผนังกระจกที่ เปิดมุมมองเห็นสวนเต็มบาน จึงเชื้อเชิญให้เราทอดสายตาออกไปมองต้นไม้ภายนอกมากกว่าในระหว่าง ทางการเดิน
เมื่อก้าวขึ้นสู่ชั้น 2 ประสบการณ์ระหว่างทางถูกออกแบบให้เต็มไปด้วยความรู้สึกของการอยู่ท่าม กลางธรรมชาติ โถงบันไดกระจกที่แทรกตัวอยู่ระหว่างสวนสองฝั่ง สร้างความรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อมด้วย พื้นที่สีเขียวตลอดการเดินทางขึ้นสู่ชั้นบน และเมื่อเดินมาถึงบริเวณโถงบันไดก่อนเข้าสู่พื้นที่ใช้สอยหลัก ในชั้น3 สายตาจะถูกนำพาไปยังต้นไม้ที่ปลูกไว้ในคอร์ตเล็กๆ ด้านหน้า โดยมีช่องแสงสกายไลต์ช่วยดึงแสง ธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านอย่างพอเหมาะ ทุกย่างก้าวภายในบ้านจึงให้ความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ ท่ามกลางสวนหย่อมส่วนตัว 

ห้องนอนชั้นล่างเปิดมุมมองสู่สวนภายนอกได้กว้าง รับแสงธรรมชาติอย่างพอเหมาะ สามารถมองเชื่อม ถึงพื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในบ้านได้อีกด้วย
บ้านสีเข้ม
แสงและธรรมชาติไหลผ่านเข้าสู่โถงบันไดที่ออกแบบด้วยผนังกระจกทั้งสองด้าน ช่วยให้พื้นที่ดูปลอดโปร่ง และเชื่อมโยงกับบริบทภายนอก วัสดุพื้นเปลี่ยนเป็นไม้เพื่อสร้างมู้ดโทนอบอุ่นในส่วนพักผ่อน
คอร์ตขนาดเล็ก ที่เปิดมุมมองให้เห็นต้นไม้ได้จากภายในคล้ายเฟรมภาพ สร้างทั้งความร่มรื่นทางสายตา และช่วยเติมแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างอ่อนโยน
บ้านสีเข้ม
ห้องนั่งเล่นสูงขึ้นมาครึ่งชั้น เปิดรับทิวทัศน์ของสวนโดยรอบ ข้อดีคือมองเห็นต้นไม้ได้ในระดับสายตาพอดี โดยมีจุดเด่นคือฝ้าเพดานสีดำสนิท ที่ชวนให้นึกถึงท้องฟ้ายามค่ำคืน และดีไซน์โคมไฟดวงเล็กๆ คล้ายดวงดาวกระจายอยู่ด้านบน
ห้องทำงานออกแบบอย่างเรียบง่ายในโทนสีเข้ม ยังคงเห็นมุมมองภายนอกจากช่องเปิดบริเวณ ฟาซาดบางส่วน ได้ความเป็นส่วนตัว
ภายในห้องนอนใหญ่ ออกแบบให้ผนังตกแต่งหัวเตียงหรือพาร์ทิชั่นกลางห้องเป็นหินลวดลายเด่นชัด ช่วยเพิ่มมิติให้พื้นที่ภายใน
บ้านสีเข้ม
บ้านสีเข้ม
บรรยากาศภายในห้องน้ำที่โปร่งโล่งด้วยแสงธรรมชาติ โดยยังคงความเป็นส่วนตัว เพราะฟาซาดภายนอก ห่อหุ่มตัวบ้านเอาไว้

วัสดุโทนสีเข้มที่ควบคู่ไปกับลวดลายหินธรรมชาติ

บ้านหลังนี้เลือกใช้วัสดุในโทนสีเข้มตั้งแต่ภายนอก ได้แก่ รั้วระแนงอะลูมิเนียม ฟาซาด และภายใน บ้านอย่างเฟรมกระจก สร้างมูดโทนที่เรียบง่าย ดูสงบนิ่ง และยิ่งขับเน้นให้พื้นที่สีเขียว ภายในแจ่มชัดขึ้น
สถาปนิกเลือกใช้วัสดุเพียงไม่กี่อย่าง เพื่อให้บรรยากาศของบ้านทั้งหลังดูเป็นภาพรวมเดียวกัน และมีมู้ดโทนเป็นเอกลักษณ์ชัดเจน ที่โดดเด่นสะดุดตาคือการเลือกใช้หินที่มีลวดลายสวยงาม เป็นหนึ่งใน องค์ประกอบหลักสำคัญของงานออกแบบตกแต่งภายใน ตั้งแต่เคาน์เตอร์ทั้งบริเวณแพนทรี่ และห้องแต่ง ตัว รวมไปถึงผืนผนังที่ต้องการขับเน้นให้โดดเด่นทั้งให้พื้นที่ครัวและห้องนอน ส่วนผนังภายนอกบ้านนั้น ใช้ผนังทำเท็กซ์เจอร์สีเทาอ่อน ซึ่งข้อดีของการทำเท็กซ์เจอร์คือ ช่วยพรางคราบฝุ่นที่มาเกาะผนัง เนื่องจาก พื้นที่ดังกล่าวค่อนข้างมีฝุ่นเป็นจำนวนมากจากบริบทโดยรอบ โดยไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาบ่อยครั้ง

การออกแบบบ้านหลังนี้เริ่มต้นจากโจทย์ที่ท้าทาย แต่สถาปนิกไม่ได้เพียงแค่ตีความให้เข้ากับ วิถีชีวิตของผู้อยู่อาศัยเท่านั้น หากยังใส่ใจถึงบริบทแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้พื้นที่ นำไปสู่บ้านที่ ตอบสนองต่อการอยู่อาศัย พร้อมทั้งเชื่อมโยงสถาปัตยกรรมเข้ากับธรรมชาติภายนอกได้อย่างกลมกลืน

บ้านสีเข้ม
คานเหล็กขนาดใหญ่รองรับพื้นทางลาดหรือลู่วิ่ง โดยมีความลึกประมาณ 30 เซนติเมตรเพื่อให้รับน้ำหนักได้อย่างเพียงพอ
ฟาซาดอิฐมอญเผาสีเทา ติดตั้งยึดกับโครงเหล็กทั้งในแกนแนวตั้ง และเสริมด้วยเพลตเหล็กบาง ในแนวนอน เพื่อรับน้ำหนักและประคองแผงอิฐโดยรวม
บรรยากาศยามค่ำคืน จะมองเห็นแสงโคมไฟสว่างไสวสวยงามคล้ายดวงดาวท่ามกลางความมืด
 

ออกแบบ : CORE cluster

เรื่อง : Nantagan

ภาพ : ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู, เฉลิมวัฒน์ วงษ์ชมภู
ผู้ช่วยช่างภาพ : ธีรวัฒน์ พรหมณีวัฒน์

สไตล์ : Suntreeya


รวม 9 บ้านสีดำ สวย เท่

บ้านโมเดิร์นชั้นเดียวที่ยกสูง เท่ด้วยฟาซาดอะลูมิเนียม