บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ กลิ่นอายไทยๆ ที่เน้นความเป็นส่วนตัว - บ้านและสวน
บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ กลิ่นอายไทยๆ ที่เน้นบรรยากาศความเป็นส่วนตัว

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ ที่ออกแบบตามแนวคิดแบบเรือนไทย โดยยกตัวเรือนสูงเหนือพื้นดินประมาณ 1.50 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมถึง และช่วยลดปัญหาความร้อนสะสมจากพื้นดิน

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
หลังคาทรงจั่วมุงไม้สนซีดาร์กับผนังปูนขาว แสดงให้เห็นการไม่ปรุงแต่งของวัสดุ และอยู่ร่วมกับสวนที่เจ้าของบ้านปลูกเองได้อย่างไม่เคอะเขิน
องค์ประกอบหลังคาที่ทำให้บ้านดูกลมกลืนกับธรรมชาติ ทั้งการใช้ไม้เนื้อแข็งไม่ย้อมสีแล้วเคลือบน้ำยากันปลวก และแผ่นไม้สนซีดาร์ที่มีความแข็งแรง ทนน้ำทนฝน ทนการผุกร่อน  
บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
ป้ายบ้าน “ทวิจันทร์” อันมีนัยถึงการรวมสองตระกูล คือ จันทรคณาและจันทรศรีวงศ์เข้าด้วยกัน จากฝีมือของ “ คุณเชียง” นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร ผู้ชนะการแข่งขันเรื่องเส้นสายลายไทย 4 สมัยซ้อนในรายการคุณพระช่วย ซึ่งเจ้าของบ้านชื่นชมในฝีมือ ประตูทางเข้าบ้านเป็นไม้เก่าสไตล์จีน ไม่ทำสี ใช้เป็นตัวกั้นพื้นที่ก่อนเข้าบ้าน ทำให้รับรู้ถึงขอบเขตของบ้านและสะท้อนความเป็นตัวบ้านอย่างชัดเจน

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ หลังนี้เป็นของ ครอบครัวจันทรคณา ครอบครัวขนาดกลางที่ประกอบด้วยพ่อ แม่ และลูกชาย 2 คน และเป็นครอบครัวหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการมีพื้นที่ส่วนตัวร่วมกับการใช้พื้นที่ส่วนกลางของบ้าน หลังจากใช้เวลานานพอสมควรในการพูดคุยกับสถาปนิกหลายๆคน ในที่สุดก็ได้พบ คุณเต้อ-นันทพงศ์ ยินดีคุณ สถาปนิกผู้ออกแบบและดูแลการก่อสร้างบ้านหลังที่สามของครอบครัวนี้ให้ใกล้เคียงกับความต้องการของเจ้าของบ้านมากที่สุด

จากประสบการณ์การใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯในบ้านหลังที่หนึ่งและหลังที่สองที่เจ้าของบ้านบอกว่า “บางทีไม่พร้อมจะรับแขก อย่างแขกของลูกมา ก็ต้องเดินตัดผ่านพื้นที่ส่วนตัว หรือบางส่วนต้องใช้งานร่วมกัน มีความรู้สึกว่าไม่สะดวก บางทีอยากอยู่เงียบๆ แต่ทำไม่ได้” ประกอบกับความวุ่นวายของชีวิตในเมือง ทำให้เจ้าของบ้านตัดสินใจเลือกมาปลูกบ้านอีกหลังที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม ซึ่งอยู่ในเขตปริมณฑล เจ้าของบ้านบอกเหตุผลที่เลือกที่นี่ว่า “อยู่ใกล้แหล่งน้ำที่ดี ปลูกอะไรก็ขึ้น อาหารอุดมสมบูรณ์ เดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆได้ง่าย ที่สำคัญอยู่ใกล้กรุงเทพฯ จึงเดินทางมาทำงานได้สะดวก ใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น”

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
ผนังปูนที่เห็นด้านหน้าปิดกั้นมุมมองของแม่น้ำนครชัยศรีไว้ เป็นความตั้งใจของสถาปนิกและเจ้าของบ้านที่ต้องการให้ผู้พบเห็นเกิดความรู้สึกตื่นเต้นกับภาพแม่น้ำอย่างเต็มอิ่ม หลังจากเดินผ่านผนังส่วนนี้ไป
อีกด้านหนึ่งของผนังซีเมนต์ขาวที่บังวิวแม่น้ำไว้ สถาปนิกเจาะเป็นช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆสำหรับนำเทียนไขไปวางในแต่ละช่อง แสงที่ได้ช่วยสร้างบรรยากาศให้คืนวันพิเศษได้ดีทีเดียว
บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
ศาลาท่าน้ำ โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กผสมกับไม้ มุมสงบส่วนตัวที่ใครมาก็ต้องเคลิบเคลิ้มกับธรรมชาติและสายน้ำโดยรอบ มุมนี้ยังใช้รับแขกได้ด้วย

บ้านหลังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำนครชัยศรีบนพื้นที่ประมาณ 4 ไร่ จากประตูรั้วหน้าบ้านจะต้องผ่านสวนที่ปลูกไม้พื้นถิ่นและพืชผักสวนครัว ก่อนไปถึงตัวบ้านที่ผสมผสานระหว่างโครงสร้างคอนกรีตกับไม้ ทำหลังคาจั่วมุงไม้สนซีดาร์ ลักษณะเป็นกลุ่มบ้านชั้นเดียวสไตล์ทรอปิคัลแบ่งพื้นที่เป็น 5 ส่วนหลักๆ คือ เรือนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และห้องรับรองแขก ส่วนอาบน้ำกึ่งกลางแจ้ง เรือนนอนใหญ่ เรือนนอนลูกชาย และศาลาท่าน้ำ โดยยกตัวเรือนสูงเหนือพื้นดินประมาณ 1.50 เมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วมถึง และช่วยลดปัญหาความร้อนสะสมจากพื้นดิน รวมถึงเป็นที่ติดตั้งงานระบบต่างๆของบ้าน ภายในบ้านเล่นระดับความสูงระหว่างพื้นชานกับพื้นเรือน ทุกหลังเชื่อมต่อกันด้วยลานบ้านตามแนวคิดแบบเรือนไทย แต่เนื่องจากพื้นที่หน้ากว้างอยู่ติดริมแม่น้ำทั้งหมด สถาปนิกจึงคลี่คลายจากการรวมกลุ่มและเชื่อมต่อของลานบ้านให้แผ่ขยายขนานกับแนวแม่น้ำ เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้รับลมและมุมมองได้อย่างเต็มที่

บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
ลานไม้นอกบ้านที่ใช้รับแขกได้โดยไม่จำเป็นต้องรบกวนความเป็นส่วนตัวของคนในบ้าน
การผสมระหว่างพื้นไม้เนื้อแข็งกับพื้นซีเมนต์ขาวรอบตัวเรือน นอกจากเป็นการแบ่งเรื่องการใช้สอยและเน้นพื้นที่ต่างระดับกันได้อย่างกลมกลืนและเป็นธรรมชาติแล้ว มุมนี้ยังเป็นที่นั่งคุยเล่นกับเพื่อนฝูงเก่าๆ เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต
บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
พื้นที่ส่วนกลางของครอบครัวสำหรับรับประทานอาหาร ดูโทรทัศน์ และฟังเพลง ทั้งสองด้านของพื้นที่นี้ติดประตูบานเฟี้ยมไม้ขนาดใหญ่ เมื่อเปิดโล่ง ลมก็จะพัดเข้าสู่เรือนได้ สร้างบรรยากาศที่เย็นสบาย
ใช้ตาข่ายไนล่อนยึดกับกรอบประตูไม้แทนตาข่ายอะลูมิเนียม ข้อดีของวัสดุนี้ คือ ไม่เป็นสนิม และให้ผิวสัมผัสนุ่มกว่าตาข่ายอะลูมิเนียม เหมาะกับประตูหรือหน้าต่างที่ใช้งานบ่อย ๆ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางนอกจากจะใช้เป็นที่นั่งเล่นและรับประทานอาหารแล้ว ยังใช้เป็นที่รองรับแขกและกิจกรรมต่างๆของครอบครัว เช่น ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง และสนทนาระหว่างมื้ออาหาร ขณะที่พื้นที่ส่วนตัวอย่างเรือนนอนและส่วนอาบน้ำจะแยกออกมาเป็นสัดส่วนต่างหาก

ความน่าสนใจของบ้านหลังนี้อยู่ที่การเลือกใช้วัสดุธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่ง ไม่ทาสี และหาง่ายในพื้นถิ่น เช่น ผนังปูนซีเมนต์ขาว พื้นซีเมนต์ขาวขัดมัน พื้นไม้เนื้อแข็งขัดเสี้ยน และพื้นหินอ่อน เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะคุณรุ่งฟ้า สมาชิกคนสำคัญของบ้าน แพ้สารเคมีของสีทาบ้าน ทว่าการไม่ปรุงแต่งนี่เองที่ทำให้บ้านหลังนี้มีรูปแบบเรียบง่าย กลมกลืนกับธรรมชาติ และสงบนิ่งคล้ายบรรยากาศของบ้านเรือนไทยในอดีต ที่สำคัญยังช่วยประหยัดค่าก่อสร้างด้วย

พื้นปูนซีเมนต์ขาวขัดมันเป็นอีกไอเดียสำหรับคนที่ชอบพื้นผิวเปลือยๆ ให้ความรู้สึกสะอาดตา พอทิ้งไปสักระยะพื้นผิวอาจเกิดการแตกลายงา ก็เพิ่มความสวยงามไปอีกแบบ
พื้นปูนซีเมนต์ขาวขัดมันที่ทำรอบตัวเรือน สามารถนั่งห้อยขาดูต้นไม้รอบๆบริเวณได้อย่างสบายอารมณ์
เจ้าของบ้านไม่ต้องการเตียง สถาปนิกจึงออกแบบยกพื้นสูง 50 เซนติเมตร ทำเป็นตั่งสำหรับวางฟูก หรือที่นอน ให้อารมณ์เหมือนนอนกับพื้นตามวิถีไทยๆ
ห้องอาบน้ำกึ่งกลางแจ้ง ไอแดดอุ่นๆเมื่อปะทะกับผนังสีเหลืองสดใสที่ใช้เทคนิค stucco ก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นไปอีกแบบ
ผนังเทคนิค stucco ช่วยสร้างความแตกต่างและน่าสนใจให้บ้านได้ดี วิธีทำก็ไม่ยาก ใช้ปูนฉาบยิปซัมฉาบผนังแทนปูนซีเมนต์ โดยต้องฉาบหลายครั้ง ครั้งละบางๆ และในการฉาบครั้งสุดท้ายให้ผสมสีฝุ่นกับปูน สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผนังดูสวยก็คือ ฝีเกรียงของช่างฉาบต้องมีจังหวะไม่เท่ากัน เหมือนไม่ตั้งใจ เพื่อให้ผนังมีสีเหลือบอ่อน-เข้ม

ความต้องการอีกอย่างหนึ่งของเจ้าของบ้านที่ปรากฏในบ้านหลังนี้คือ “อยากปลูกต้นไม้ อยากมีสวนส่วนตัว เวลาทำอาหาร ไม่อยากวิ่งไปตลาด เลยปลูกพืชผักสวนครัว เช่น มะนาว พริก มะกรูด ตะไคร้ ใบยอ ข่า กระชาย ผลไม้ก็มีมะม่วง ละมุด ขนุน ฝรั่ง” ด้วยมีบริเวณรอบบ้านที่กว้างขวางพอในการปลูกพืชหลากหลายชนิด ทำให้ที่ดินผืนนี้กลายเป็นแปลงทดลองให้ผู้ที่ไม่มีความรู้เรื่องพืชพันธุ์มากนักเข้าใจความเป็นธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น

ก่อนเข้าบ้านจะต้องถอดรองเท้า สถาปนิกจึงหล่อปูนซีเมนต์ขาวเป็นทั้งที่นั่งและที่เก็บรองเท้า โดยติดบานเลื่อนกระจกฝ้าเพื่อความสวยงาม
ตุ๊กตารดน้ำที่ตั้งในสวน เจ้าของบ้านดัดแปลงให้คอยล้างเท้าให้สมาชิกในบ้านตลอดจนแขกผู้มาเยือน ตัวนี้มีชื่อว่า “ณ จันทร์”
บ้านชั้นเดียวริมแม่น้ำ
บรรยากาศยามโพล้เพล้ของแม่น้ำนครชัยศรี ความใสของแม่น้ำสะท้อนภาพงานสถาปัตยกรรมของบ้านที่ดูเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติรอบๆ

ทุกวันนี้ครอบครัวจันทรคณาได้ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย สมาชิกทุกคนมีเวลาเป็นส่วนตัว และมีความสุขมากขึ้นกว่าการใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการจัดสรรพื้นที่ภายในบ้านที่ดีที่ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้อยู่อาศัยนั่นเอง

เจ้าของ : ครอบครัวจันทรคณา

ออกแบบ : คุณนันทพงศ์ ยินดีคุณ


เรื่อง : รนภา นิตย์

ภาพ : ราสิเกติ์ สุขกาล

นิตยสารบ้านและสวนฉบับพฤษภาคม 2552

บ้านที่มีลมหายใจ…และกำไรของชีวิต

บ้านไทยริมบึง อยู่สบาย ไม่ร้อน และมองเห็นดวงอาทิตย์ตกได้ทุกวัน

ติดตามบ้านและสวน