บ้านโมเดิร์นที่เด่นด้วยฟาซาดกระถางต้นไม้ เขียวสดชื่นตั้งแต่หน้าบ้าน
บ้านโมเดิร์น ฟาซาดกระถางต้นไม้ เด่นด้วยแพตเทิร์นที่เรียกว่า “Brick System” เป็นลายช่องเหลี่ยมที่ต่อเนื่องกันเห็นได้ตั้งแต่ฟาซาด ต่อเนื่องมายังลายฉลุที่รั้ว และประตูบ้าน หน้าบานตู้เก็บของ เข้ามาถึงชั้นติดผนังในห้องนั่งเล่น แนวกระถางต้นไม้ริมรั้ว ไปจนถึงหิ้งพระชั้นบน ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของบ้านที่ตั้งใจสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันอย่างกลมกลืน
Designer Directory ออกแบบ : Gooseberry Design



บ้านโมเดิร์น ฟาซาดกระถางต้นไม้ หลังนี้มีความแตกต่างจากบ้านโมเดิร์นยุคนี้ ที่แทบทุกหลังมักจะมีรูปทรงพื้นฐานเป็นกล่องสี่เหลี่ยมเรียบๆ ที่วางทับซ้อนกันจน เกิดเป็นฟังก์ชันภายใน แต่บ้านหลังนี้กลับนำหลังคาทรงจั่วซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของบ้านที่เราคุ้นเคยมาใช้จนกลายเป็นจุดเด่น แถมยังออกแบบฟาซาดด้านหนึ่งของอาคารให้เป็นกระถางต้นไม้ มาช่วยเติมมุมมองธรรมชาติเขียวๆ ได้อย่างน่าสนใจ
แนวคิดเท่ๆ นี้มาจาก คุณเอก – ณัฐพงศ์ เพียรเชลงเอก สถาปนิกผู้เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งซื้อที่ดินต่อจากบ้านหลังเดิมออกมาอีก 50 ตารางวา เดิมทีคุณเอกตั้งใจจะสร้างบ้านไว้เพื่อขาย แต่ก็เปลี่ยนใจทำเป็นบ้านอยู่อาศัยเอง ด้วยข้อจำกัดของที่ดินที่มีหน้าค่อนข้างแคบและลึก เมื่อต้องการช่องเปิดโล่งและพื้นที่ธรรมชาติ คุณเอกจึงตัดสินใจสร้างคอร์ตยาร์ดไว้กลางบ้านแล้วแยกพื้นที่ใช้งานออกเป็นสองส่วนที่เชื่อมโยงกันไว้ด้วยโถงบันไดและทางเดิน






“เพราะที่ดินแคบและเราไม่อยากได้บ้านที่ออกมาเหมือนตึกแถว ก็เลยทดลองทำรูปทรงสมมาตรหลายแบบ สุดท้ายก็มาจบที่การทำคอร์ตยาร์ดไว้ตรงกลาง แม้จะไม่ได้เป็นพื้นที่ใหญ่มากแต่ก็ตอบโจทย์ได้ดี เพราะเราได้ใช้พื้นที่สวนตรงกลางอย่างเต็มที่ มองเห็นลูกๆ วิ่งเล่นได้จากทุกมุมของบ้าน รวมไปถึงเป็นวิวธรรมชาติให้ ห้องนอนทั้งสองฝั่งด้วย โดยดันทางเดินให้แคบที่สุด เพื่อเป็นตัวเชื่อมส่วนใช้งานในบ้านที่อยู่ด้านหน้ากับด้านหลัง ทำให้ได้พื้นที่ใช้งานรวมเกือบ 300 ตารางเมตร”
เพื่อเติมความร่มรื่นให้คอร์ตยาร์ดกลางบ้าน จึงเน้นการนำต้นไม้ใหญ่เข้ามาปลูกเป็นหลัก ซึ่งต้องทำตั้งแต่ระหว่างก่อสร้างบ้านและก่อนที่จะสร้าง รั้วกั้นพื้นที่ด้านหน้า เมื่อตระเวนดูต้นไม้อยู่หลายที่ คุณเอกก็ได้มาเจอกับต้นมั่งมีต้นนี้ที่สระบุรี ซึ่งมีรูปทรงถูกใจในขนาดกำลังเหมาะ แถมยังให้ใบเขียวตัดกับตัวบ้านสีขาวได้เป็นอย่างดี
“ผมชอบไม้ใบเขียวครับ เพราะเราไม่มีพื้นที่สวนใหญ่โต การเติมไม้ใบเขียวช่วยสร้างมุมมองธรรมชาติให้บ้านได้ดี รวมถึงต้นไม้เล็กๆ ที่ปลูกใส่กระถางไว้ริมรั้วรอบบ้านด้วย”






ส่วนฟังก์ชันภายในบ้านนั้น ทางครอบครัวได้เลือกวางตำแหน่งห้องรับประทานอาหารไว้ด้านหน้า ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ภายในบ้านเราจึงพบกับโต๊ะอาหารขนาดยาวและห้องครัวเป็นอันดับแรก โดยคุณเอกให้เหตุผลว่า “เราออกแบบตามพฤติกรรมของเราเอง เพราะส่วนใหญ่แขกที่มาบ้านก็เป็นคนสนิทซึ่งไม่ต้องรับรองด้วยห้องรับแขกแล้ว บ้านจึงมีแพตเทิร์นที่กะทัดรัดเหมือนคอนโด และห้องครัวของเราก็เน้นการใช้งานแบบมัลติฟังก์ชันคือ ทั้งกินข้าว ทำงาน สังสรรค์ และเล่นกับลูก อีกอย่างเรามักจะพึ่งครัวใหญ่จากบ้านคุณแม่ที่อยู่ติดกันมากกว่าด้วย”










อีกแพตเทิร์นหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านคือ ลายช่องเหลี่ยมที่ต่อเนื่องกันเห็นได้ตั้งแต่กระถางต้นไม้ที่ใช้เป็นฟาซาด ต่อเนื่องมายังลายฉลุที่รั้ว และประตูบ้าน หน้าบานตู้เก็บของ เข้ามาถึงชั้นติดผนังในห้องนั่งเล่น แนวกระถางต้นไม้ริมรั้วไปจนถึงหิ้งพระชั้นบน ซึ่งคุณเอกเรียกว่า “Brick System” หรือสัญลักษณ์ของบ้านที่ตั้งใจสื่อสารไปในทิศทางเดียวกันอย่างกลมกลืน





“ส่วนภายในเราอยากคุมโทนให้ดูสะอาด โปร่งโล่ง และเข้ากับสภาพอากาศเมืองร้อน เลยผสมผสานความเป็นทรอปิคัลเข้าไป ใช้งานไม้สีเอิร์ธโทนเมื่อต้องการ สัมผัสสบายๆ แบบธรรมชาติผสมกับงานคอนกรีตเปลือยหล่อในที่ ผมว่ามันเป็นงานแฮนด์เมดที่ทิ้งร่องรอยแบบงานศิลปะทำมือที่ดูสวยอยู่แล้ว เลยปล่อยให้เป็นแบบนั้นโดยไม่ต้องตกแต่งเพิ่ม แล้วก็ให้ความสำคัญกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่ใช้บ่อยอย่างโซฟาในห้องนั่งเล่น ชุดครัว และโต๊ะกินข้าว ผมลงทุนกับสิ่งเหล่านี้เพื่อการใช้งานที่สบายในระยะยาว”
นอกจากผนังคอนกรีตเปลือยบริเวณบันไดทางขึ้นแล้ว ห้องทำงานชั้นบนยังเป็นอีกมุมที่เห็นงานหล่อคอนกรีตบริเวณใต้หลังคาทรงจั่ว ซึ่งคุณเอกบอกว่าใช้วิธีหล่อคอนกรีตทรงจั่วเข้าแบบไปเลย โดยไม่ทาสีหรือปิดฝ้าทับ เพราะต้องการเปิดเพดานให้สูง เมื่อบวกกับความลาดเอียงของรูปทรงจั่วจึงช่วยลดพื้นที่รับแสงแดดไปด้วยในตัว คล้ายแนวคิดของหลังคาโบสถ์ที่แม้จะไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ พื้นที่ภายในก็จะไม่สะสมความร้อนไว้เหมือนการใช้หลังคาทรงเรียบ
“ถึงแม้ดูภายนอกแล้วบ้านเราจะออกแนวโมเดิร์นก็จริง แต่ผมใช้วิธีคิดและวางแปลนแบบบ้านไทย ทั้งเรื่องหลังคาทรงจั่วและส่วนเชื่อมสเปซภายนอกกับภายในของบ้านจะคล้ายชานบ้านไทยสมัยก่อนคือแทนที่จะเอาฟังก์ชันมาต่อๆ กันเหมือนบ้านฝรั่งก็ทำช่องเปิดรับลมและแสงตามธรรมชาติ ทำให้บ้านอยู่ได้สบายตามสภาพอากาศของบ้านเราครับ” คุณเอกกล่าวทิ้งท้าย ก่อนออกไปเล่นฟุตบอลกับลูกชายที่คอร์ตกลางบ้าน
เจ้าของ : คุณดวงสุดา – คุณณัฐพงศ์ เพียรเชลงเอก
ออกแบบ : Gooseberry Design โดยคุณณัฐพงศ์ เพียรเชลงเอก
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ฤทธิรงค์ จันทองสุข