บ้านโครงสร้างเหล็ก ที่เปลี่ยนโฉมใหม่เพื่อรองรับครอบครัวขยาย

บ้านโครงสร้างเหล็ก ที่ปรับปรุงใหม่ให้ได้พื้นที่มากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของครอบครัว ในรูปแบบที่ดูเท่ สนุก แต่ยังได้กลิ่นอายของบ้านเก่า

โครงสร้างของบ้านเป็นเหล็กไวด์แฟลงก์ (Wide Flange) เผยให้เห็นเนื้อแท้ของการใช้วัสดุ โดยแสดงให้เห็นแนวเหล็กบนรูปด้านอาคารในแนวตั้งและแนวนอน ช่วยลดความใหญ่ของผืนผนัง ส่วนผนังบ้านเลือกใช้คอนกรีตขัดมันเป็นหลัก ตัวบ้านจึงเป็นสีเทาอ่อนตามสีธรรมชาติของเนื้อวัสดุที่สร้างความดิบเท่ อย่างที่เจ้าของบ้านตั้งใจ สถาปนิกออกแบบหลังคาทรงเพิงหมาแหงน (lean-to)ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะบิดมุมในองศาที่แตกต่างจากแบบมาตรฐานทั่วไป จึงเด่นสะดุดตา โดยเลือกใช้เมทัลชีตเป็นวัสดุมุง ใช้แนวรั้วเดิมที่เป็นผนังก่ออิฐบล็อก สูง 180 เซนติเมตร นำมาเพิ่มความสูงขึ้นไปด้านบนอีก 60 เซนติเมตร ด้วยตะแกรงเหล็กฉีกสีดำ ไม่ทำให้อึดอัดและยังได้เรื่องความปลอดภัยเช่นเดิม หน้าต่างด้านทิศตะวันตกมีแสงมากในช่วงบ่าย จึงออกแบบแผงกันแดดที่ทำจากเหล็กกล่องเว้นช่องเป็นจังหวะ สร้างมิติ และเพิ่มลวดลายให้บ้าน

บ้านโครงสร้างเหล็ก หลังนี้เป็นของ คุณแก้ว-กอบแก้ว ไทยืนยงศักดิ์ ที่ตัดสินใจซื้อบ้านมือสองในย่านเพชรเกษม ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านสองชั้น ขนาดพื้นที่ 160 ตารางเมตร แต่ด้วยความตั้งใจของคุณแก้วที่อยากให้บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่พี่น้องทั้งสามคนสามารถอยู่ร่วมกันได้ ทำให้บ้านหลังนี้มีขนาดเล็กเกินไป จึงอยากปรับปรุงใหม่ให้ได้พื้นที่มากขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวของครอบครัวของแต่ละคน โดยสไตล์ของบ้านก็อยากให้ออกมาแล้วดูเท่ สนุก และได้กลิ่นอายของบ้านเก่า

สถาปนิกจากบริษัทลาน ออกแบบ จำกัด ร่วมกันแก้โจทย์เรื่องการใช้งาน โดยออกแบบให้สามารถอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่เชื่อมต่อกัน และยังคงความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนไว้ แต่ด้วยข้อจำกัดที่ต้องปรับปรุงจากบ้านเก่าที่มีปัญหาทั้งเรื่องขนาดพื้นที่ใช้งานของบ้านเดิมไม่เพียงพอ และความสูงของบ้านในแต่ละชั้นก็ไม่สูงนักทำให้อึดอัด สถาปนิกเลยเลือกเก็บโครงสร้างเดิมบางส่วนไว้แล้วสร้างโครงสร้างใหม่มาเพิ่ม ทำให้ได้บ้านที่มีพื้นที่ 300 ตารางเมตร ตอบรับปัญหาเรื่องการใช้งานและเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว โดยไม่ลืมใส่ความสนุกลงไปในการออกแบบทั้งส่วนหลังคาที่มีเอกลักษณ์ช่องหน้าต่างที่ดูสะดุดตา ทำให้ได้บ้านที่ถูกใจ

บันไดและพื้นไม้กระดานบริเวณชั้นลอยล้วนแต่เป็นวัสดุจากบ้านเดิม ที่นำมาทำสีเข้มคุมโทนกับวัสดุที่เป็นไม้ในส่วนต่างๆ และปรับเพิ่มจำนวนขั้นบันไดให้เดินสบายขึ้น โดยให้ความสูงแต่ละขั้นอยู่ที่ 20 เซนติเมตร ประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ ออกแบบให้มีความสูงตั้งแต่พื้นไปจนถึงท้องคานเหล็ก ทำให้พื้นที่ไต้บันไดโปร่ง ไม่อับแสง และยังสามารถเชื่อมต่อกับภายนอกได้ พื้นคอนกรีตขัดมันผสมสีเขียวบริเวณโถง สร้างความสดใสและทำให้เกิดความแตกต่างจากผิวขัดมันบริเวณอื่น ได้อารมณ์ต่างไปอีกแบบ

ประตูเหล็กเลื่อนพับเก็บได้เป็นส่วนประกอบที่เห็นได้ทั่วไปตามตึกแถว แต่เมื่อนำมาประกอบกับส่วนอื่นๆของบ้าน ก็ดูกลมกลืนและเสริมความปลอดภัยในบริเวณหลังบ้านได้เป็นอย่างดี พื้นไม้ที่ให้สัมผัสของบ้านเก่าเมื่อเดินจะได้ยินเสียงไม้เสียดสีกันบ้าง เป็นส่วนของพื้นที่รับประทานอาหารที่ลดระดับลง 30 เซนติเมตร จากส่วนห้องนั่งเล่น ลูกเล่นอีกอย่างในการเล่นระดับพื้นให้น่าสนใจ

โครงสร้างหลักของบ้านเป็นเหล็กสำเร็จรูป และเลือกใช้วัสดุโครงสร้างผนังที่เบาเพื่อลดน้ำหนักและช่วยประหยัดงบประมาณเรื่องโครงสร้าง เช่น การใช้อิฐบล็อกทำผนัง ผสมกับการสร้างสไตล์ที่ชัดเจนด้วยวัสดุประเภทเหล็ก ไม้ คอนกรีต เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ได้ความดิบ เรียบ เท่ ตรงใจ และไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องการดูแลรักษา

พื้นที่ผนังชั้น 2 เป็นส่วนที่เปิดโล่งสองชั้นไม่สามารถทำหน้าต่างได้ จึงออกแบบบานเกล็ดอะลูมิเนียมช่องใหญ่ให้รูปทรงเข้ามุมกับโครงสร้างเพื่อรับลมแทน

ทำผนังเบาเป็นโครงไม้ออกมาจากแนวผนังเดิม 5 เชนติเมตร เพื่อเดินระบบไฟ แล้วกรุแผ่นสังกะสีพ่นสีดำเข้มทับ ทำให้โคมไฟที่ออกแบบเด่นขึ้นด้วยสีที่ตัดกัน

วัสดุที่เลือกใช้

ก่อผนังอิฐบล็อก อิฐบล็อกเป็นอิฐที่ทำขึ้นมาจากส่วนผสมของซีเมนต์ ทราย และหินฝุ่น เป็นองค์ประกอบหลัก ไม่สามารถนำมาก่อเพื่อรับน้ำหนักของโครงสร้าง ลักษณะก้อนมีช่องกลวงอยู่ภายใน ขนาด 19 x 39 เซนติเมตร มีความหนา 7, 9, 14 เซนติเมตร แต่ขนาดที่นิยมใช้กันอยู่ที่ความหนา 7 เซนติเมตร เพราะเมื่อรวมผิวฉาบจะได้ผนังหนา 10 เซนติเมตร เท่ากับผนังบ้านทั่วไป

ข้อดี ราคาถูก และอิฐมีขนาดใหญ่สามารถก่อได้รวดเร็ว ในพื้นที่ 1 ตารางเมตรใช้อิฐเพียง 12.5 ก้อน

ข้อเสีย วัสดุมีความพรุนร่วน ถ้าไม่ฉาบผิวจะทำให้ดูดซึมน้ำและความชื้น นอกจากนี้การเจาะยึดบริเวณผนังต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ควรยึดสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก

ออกแบบช่องแสงวงกลมกระจกใสบานใหญ่ ช่วยเพิ่มแสงสว่างบริเวณโถงในช่วงกลางวัน และยิ่งสร้างจุดเด่นให้รูปด้าน เมื่อแสงไฟภายในบ้านสะท้อนออกมาดูคล้ายพระจันทร์กลมโต

ลักษณะการก่อและการนำไปใช้งาน

การก่อแนวเดียวกัน วิธีนี้จะทำให้ช่องกลางของอิฐตรงกัน สามารถใส่คอนกรีตลงไปเพิ่มความแข็งแรงของผนัง แต่ก็จะทำให้ผนังมีน้ำหนักมากขึ้นด้วย จึงอาจเหมาะกับส่วนผนังที่มีโครงสร้างมารองรับเช่นผนังภายนอกหรือรั้วบ้าน

การก่อแนวแบบสลับ เป็นการเสริมความแข็งแรงให้แนวผนังทดแทนการใส่คอนกรีตลงไป ความแข็งแรงจะน้อยกว่าวิธีแรก แต่ก็ช่วยลดน้ำหนักของผนังจึงสามารถทำเป็นผนังเบาได้ เมื่อฉาบผิวอากาศในช่องว่างที่นิ่งก็ทำหน้าที่เป็นฉนวนไปในตัว