สวนป่าในดงปาล์ม พักใจหย่อนใจที่บ้านหิ่งห้อย - บ้านและสวน

สวนป่าในดงปาล์ม พักใจหย่อนใจที่บ้านหิ่งห้อย

ด้วยหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ กอปรกับเป็นคนทุ่มเทให้การทำงานอย่างสุดตัว จนวันหนึ่งทั้ง คุณเข้ม – วิธวินท์ อารีรอบ และคุณยุ้ย – ยลดา อบเชย อารีรอบ เจ้าของเสื้อผ้าแบรนด์ดัง Obchoei Vintage ต่างเห็นตรงกันว่าการทำงานหนักส่งผลให้เหนื่อยทั้งกายล้าทั้งใจ ควรจะมีสักที่ให้ได้ไปชาร์จพลังชีวิต อย่าง สวนป่าในดงปาล์ม แล้วค่อยกลับมาลุยงานกันต่อ

คุณพ่อคุณแม่ทำสวนปาล์มน้ำมันอยู่ที่นี่ครับ เราตัดสินใจสร้างบ้านที่ท้ายสวนไว้เป็นที่พักหย่อนใจ ในวันหยุดที่ได้มาหาท่าน ตอนมาสร้างบ้านเห็นมีหิ่งห้อย เลยตั้งชื่อกันว่า ‘บ้านหิ่งห้อย’ เสียดายที่ตอนนี้หายไปหมดแล้ว” คุณเข้มเล่าถึงที่มาของ สวนป่าในดงปาล์ม สถานที่ฮีลใจแห่งนี้ให้ฟัง

สวนป่าในดงปาล์ม
สวนป่าในดงปาล์ม
ยกเนินทำแนวปลูกต้นไม้สร้างเป็นสวนเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลลงในลำธาร สวนนี้ยังช่วยบังบ้าน สร้างความเป็นส่วนตัว บังมุมมองจากด้านนอกให้มองเข้ามาเห็นได้ไม่มากนัก เปิดให้เห็นเฉพาะทางเข้าบ้าน ทั้งยังเป็นแบล็กกราวนด์ให้สวนบริเวณลำธารได้ด้วย

เดิมพื้นที่เป็นป่ารก มีปาล์มน้ำมันที่คุณพ่อปลูกไว้ ด้านหลังเป็นทุ่งนาผืนใหญ่ เราตั้งใจอยากจัดสวนที่ มีน้ำตก ลำธาร เหมือนสวนป่าธรรมชาติ ลองลงมือทำกันเองแล้วแต่ไม่เวิร์ก สุดท้ายต้องหานักจัดสวนมาช่วยสานฝัน เราเลือกดูผลงานจากรายการบ้านและสวนทีวี หาอยู่เยอะมากจนมาเจอ คุณเปิ้ล – คเชนทร์ ศรีมาก ที่จัดสวนได้สวยเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ” คุณยุ้ยเล่าเสริม

สวนป่าในดงปาล์ม
สะพานไม้ข้ามลำธารเป็นของเดิมที่ตั้งใจออกแบบไว้ตั้งแต่สร้างบ้าน ใช้เป็นที่นั่งห้อยขาชมสวนในยามแดด ร่มลมตก
สวนป่าในดงปาล์ม
คุณเปิ้ลลงต้นไม้แน่นกว่างานออกแบบสวนที่เคยทำ เพื่อให้ดูเป็นป่าเสมือนจริงมากที่สุด ส่วนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ก็ไม่มีผลกับงานออกแบบ เพราะในสวนป่าบางแห่งก็จะมีปาล์มขึ้นตามธรรมชาติอยู่แล้ว
สวนป่าในดงปาล์ม
คุณเข้มสะสมไม้ใบแปลก ๆ ราคาแพงไว้หลายชนิด และตั้งใจนำไปปลูกแอบไว้ตามพุ่มไม้ในสวน เป็นกิมมิกเล็ก ๆ ที่ทำให้สวนมีลูกเล่นน่าสนุกและมีเสน่ห์น่าค้นหา

คุณเข้มขุดลำธารกว้างประมาณ 3 เมตร ยาวกว่า 20 เมตร ขนานไปกับหน้าบ้าน แต่ก็มีปัญหาที่บ่อน้ำ และลำธารกักเก็บน้ำไว้ไม่ได้ อีกทั้งน้ำในลำธารก็ไม่ใสอย่างที่ต้องการ คุณเปิ้ลได้อธิบายให้ฟังว่า “คุณเข้มใช้ผ้าใบรองด้านล่างของบ่อซึ่งเก็บน้ำไว้ไม่อยู่ ส่วนปัญหาน้ำในลำธารขุ่น เนื่องจากพื้นที่ทางเข้าหน้าบ้านกับลำธารมีความต่างระดับกันค่อนข้างมาก น้ำที่ระบายจากด้านบนชะเอาดินลูกรังที่ใช้ถมที่ไหลลงไปในลำธาร การแก้ปัญหาคือ ต้องปรับระดับพื้นที่และเปลี่ยนแนวระบายน้ำใหม่ ยกเนินทำแนวปลูกต้นไม้สร้างเป็นสวน เพื่อกันไม่ให้น้ำไหลลงในลำธาร

น้ำตกก่อจากหินฟองน้ำวางซ้อนกันเป็นชั้น ออกแบบให้ไม่สูงมากนักเพื่อต้องการให้เกิดเสียงน้ำเบาๆ

ส่วนลำธารผมเสนอให้เปลี่ยนจากผ้าใบเป็น GCL (Geosynthetic Clay Liner) หรือที่เรียกกันว่า ‘แผ่นดินเหนียวสังเคราะห์’ แทนครับ เพราะจะดูเนียนเป็นธรรมชาติมากกว่า อีกทั้งบ้านอยู่ด้านหลังของสวน ปาล์มน้ำมัน มีทางเข้า-ออกไม่กว้างมาก ด้านหลังและด้านข้างล้อมรอบด้วยทุ่งนา ไม่สะดวกต่อการก่อสร้าง บ่อคอนกรีตเสริมเหล็ก

บ่อน้ำที่นี่ไม่มีระบบบ่อกรอง รากของต้นไม้ที่ปลูกแซมในลำธารและบริเวณรอบลำธารเป็นระบบกรองตามธรรมชาติ รากต้นไม้จะช่วยลดไนเตรทในน้ำ ทำให้น้ำใส การเตรียมพื้นผิวบริเวณลำธารด้วยทรายก็มี ส่วนช่วยให้น้ำใสเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการต่อท่อระบายน้ำเพื่อควบคุมความสูงของระดับน้ำในลำธาร ในฤดูฝนที่น้ำอาจมีปริมาณมากเกินไป น้ำส่วนเกินจะไหลออกสู่ภายนอก
พื้นลำธารบางจุดเทซีเมนต์และวางหินสร้างความต่างระดับเพิ่มลูกเล่นของลำธาร และเพื่อบังคับทิศทางน้ำ ทำให้เกิดเสียงเบา ๆ และความเคลื่อนไหว พื้นตกแต่งด้วยกรวดและหินฟองน้ำให้ดูเหมือนลำธารตามธรรมชาติมากที่สุด

เรารื้อผ้าใบเดิมออก อัดดินให้แน่น แล้วปรับด้วยทรายหยาบเพื่อให้ได้รูปทรงลำธารอย่างที่ต้องการ แล้วปูทับด้วย GCL ที่มีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร หน้ากว้างประมาณ 5 เมตร ถ้าบริเวณที่จะปูกว้างกว่าหน้าผ้า ใช้วิธีวางเกยซ้อนกันอย่างน้อยประมาณ 50 เซนติเมตร วัสดุของผ้าจะคล้ายผงดินเหนียว เมื่อได้รับน้ำจะบวมเป่ง ต้องมีวัสดุที่มีน้ำหนัก เช่น ดิน หิน หรือทรายทับไว้ โดยปูให้หนา 20-30 เซนติมตร เพื่อให้เกิดแรงกดทับ และเพื่อให้ GCL แนบกับพื้นมากที่สุด ดังนั้นการรองพื้นบ่อด้วย GLC ต้องเผื่อความลึกเพิ่มไว้ อย่างน้อย 50 เซนติเมตร เราจะปูผ้าเลยขึ้นไปถึงขอบด้านบนของบ่อและลำธาร แล้วทับด้วยหินแกรนิตเดิมที่ คุณเข้มวางเป็นกำแพงกันดินไว้ที่ขอบบ่อ เพื่อสร้างน้ำหนักกดทับผ้าไว้ จากนั้นค่อยแต่งด้วยหินฟองน้ำ กรวด และต้นไม้เพื่อให้เหมือนลำธารตามธรรมชาติ

ทางเดินเป็นหินเทียมที่ทำให้ดูเหมือนหินฟองน้ำเพื่อให้เข้ากับหินบริเวณลำธารด้านใน อัดดินด้านล่างให้แน่น ปูด้วยตะแกรงสำเร็จรูปไวร์เมช (Wire Mesh) แล้วเทปูน สีที่เห็นมาจากการใช้เศษของหินฟองน้ำ มาผสม ไม่ได้ใส่สีเพิ่ม ออกแบบให้มีขนาดใหญ่พิเศษเพื่อให้เดินพร้อมกันได้หลายคน

สำหรับไม้ใหญ่เราเลือกต้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เนื่องจากพื้นที่หน้างานไม่สะดวกต่อการใช้รถเครน ขนย้ายต้นไม้ เราใช้แรงงานคนทั้งหมดครับ ปาล์มน้ำมันและต้นไม้ใหญ่ๆ ที่เห็นไม่ว่าจะเป็นเต่ารั้ง ปรงภูเขา เบาบับ มะฮอกกานี เป็นต้นไม้เดิมที่ผมตั้งใจเก็บไว้ ลงเพิ่มแค่เสม็ดแดงใกล้สะพานไม้ทางเข้าบ้าน ไม้พุ่ม ระดับกลาง และไม้ระดับล่างที่ใช้เป็นไม้ใบในร่มเป็นส่วนใหญ่ เล่นเรื่องของเท็กซ์เจอร์ รูปทรง ขนาด และโทนสี เล่นเฉดของสีเขียวที่หลากหลายต่างกันไป ที่นี่ผมจะลงต้นไม้ค่อนข้างแน่นเพื่อให้ดูเป็นป่าธรรมชาติมากที่สุด ในอนาคตเมื่อต้นไม้โตขึ้นก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ ต้นไหนอยู่ได้ก็จะเติบโตต่อไป ต้นไหนแพ้ก็อาจจะอยู่ไม่ได้ ปล่อยให้ธรรมชาติจัดสรร ถ้าสังเกตจะเห็นว่าที่นี่มีต้นไม้แปลก ๆ หลายชนิดที่ไม่ค่อยเห็นในงานจัดสวน ส่วนหนึ่งเป็นต้นไม้ที่ผมไปเจอมา และทดลองเลี้ยงว่าสามารถนำมาใช้จัดสวนได้หรือไม่ เพาะขยายพันธุ์เอง เช่น ไผ่แคระด่าง บอนหวาน ผีเสื้อภูเขา เปราะ ว่านมหาเสน่ห์ อีกส่วนเป็นต้นไม้สะสมของคุณเข้มที่แอบนำมาเติมภายหลังจัดสวนเสร็จ แต่ก็คุยปรึกษากันว่าต้นไหนนำมาใช้ได้บ้าง ลงตรงไหนเพิ่มได้บ้างครับ

สุขภาวะคือการมีความเป็นอยู่ที่ดีในทุกด้าน ไม่ได้จำกัดแค่การมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่มีโรคภัย แต่ยังเชื่อมโยงไปถึงสภาวะที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม การทำงาน และการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมและ สังคมยุคปัจจุบัน ทำให้เกิดความเครียด ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความรู้สึก สวนและต้นไม้เป็นอีกหนึ่ง ทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมี Work Life Balance ที่สมดุลเหมือนสวนที่บ้านหิ่งห้อยหลังนี้ ที่สร้างสุขภาวะที่ดี ให้ทั้งคุณเข้มและคุณยุ้ย

นิตยสารบ้านและสวน ฉบับเดือนตุลาคม 2568
เจ้าของ : คุณวิธวินท์ อารีรอบ และคุณยลดา อบเชย อารีรอบ
ออกแบบ : บริษัทบ้านธรรมสวน จำกัด โดยคุณคเชนทร์ ศรีมาก และคุณสาวิตรี ศรีมาก โทรศัพท์ 08-9925-8897
เรื่อง : วชิรพงศ์ หวลบุตตา
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม