พฤกษศาสตร์ กับความเป็นมาและความสำคัญโดยสังเขป
พฤกษศาสตร์ มีประวัติความเป็นมายาวนาน จึงจะขอเล่าเพียงสังเขปนับตั้งแต่ยุคกรีก จนถึงพฤกษศาสตร์ในปัจจุบัน
พฤกษศาสตร์ คำว่า “botany” สันนิษฐานว่ามาจากภาษากรีก botanikos หรือ botane ที่หมายถึง “พืช” พืชมีความสำคัญมากต่อการช่วยรักษาสภาพสมดุลของบรรยากาศและระบบนิเวศ ใช้เป็นแหล่งอาหารและยา นักพฤกษศาสตร์จึงศึกษาการดำรงชีวิตของพืช สำรวจพืชตามธรรมชาติ และค้นหากระบวนการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพืช ซึ่งศาสตร์ด้านพืชนี้มีมาเนิ่นนาน จึงจะขอเล่าผ่าน 10 เรื่องราว และวิวัฒนาการของพฤกษศาสตร์โดยสังเขปนับตั้งแต่ยุคสมัยกรีก จนถึงพฤกษศาสตร์ในปัจจุบัน

1.พฤกษศาสตร์ ยุคกรีก
เมื่อราว 371-286 ปีก่อนคริสตกาล ธีโอฟราสตุส (Theophrastus) นักธรรมชาติวิทยาชาวกรีกได้ศึกษาส่วนต่างๆ ของพืช และรวบรวมไว้เป็นตำรา 2 เรื่อง คือ Enquiry into Plants (Historia Plantarum) และ Plant Explanations นับเป็นผลงานที่เรียบเรียงอย่างเป็นระบบชิ้นแรกๆ ของโลก ตำราเหล่านี้ยังมีอิทธิพลอย่างมากต่อนักสมุนไพร โดยศาสตร์ด้านเวชสมุนไพรวิทยา (Herbalism) ในสมัยกรีกจึงเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของพฤกษศาสตร์นั่นเอง

2.ยุคกลาง ค.ศ. 700-1400
ปรัชญาของยุคกลางเชื่อว่ามนุษย์และธรรมชาตินั้นไม่เกี่ยวข้องกัน ช่วงนี้จึงพบเพียงบันทึกการใช้ประโยชน์จากพืชโดยเฉพาะสมุนไพร และภายในอาราม หรือวิหารคตของคริสตศาสนา จะสร้างสวนเพื่อรวมสมุนไพรพร้อมพืชที่ใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งเรียกสวนลักษณะนี้ว่า Monastic Garden ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่ก่อให้เกิดแนวคิดการสร้างสวนพฤกษศาสตร์ในปัจจุบัน

3.ค.ศ. 1490-1556
Luca Ghini นายแพทย์ชาวอิตาลี เริ่มใช้ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง ในการศึกษาลักษณะของพืช และเป็นยุคแห่งการออกเดินทางเพื่อสำรวจดินแดนใหม่ จึงเกิดการสร้างห้องสารภัณฑ์ (Cabinet of Curiosity) เพื่อเก็บของสะสมจากต่างแดน รวมถึงตัวอย่างพรรณไม้ด้วยซึ่งถูกเก็บและระบุชนิดโดยนักพฤกษศาสตร์หรือนักธรรมชาติวิทยาที่ออกเดินทาง ทำให้มีตัวอย่างจำนวนมากจนกำเนิดหอพรรณไม้ที่แรกของโลกเพื่อเก็บรักษาตัวอย่างเหล่านี้

4.ค.ศ. 1578 – 1625
Adriaan van de Spiegel นักกายวิภาคศาสตร์และนักพฤกศาสตร์ชาวเฟลมิช หรือประเทศเบลเยียมในปัจจุบัน ได้พัฒนาระบบการจัดจำแนกพืชให้มีเป็นมาตรฐานมากขึ้น ตีพิมพ์แนวทางการจัดทำตัวอย่างพืชแห้ง เผยแพร่ความรู้ด้านการเก็บตัวอย่างพืชเพื่อการศึกษา ตอบสนองความนิยมของพฤกษศาสตร์ที่มากขึ้นในช่วงนี้

5.ค.ศ. 1665
พัฒนาการก้าวสำคัญของโลก เมื่อมนุษย์ประดิษฐ์กล้องจุลทรรศน์ได้สำเร็จ โดย โรเบิร์ต ฮุก (Robert Hooke) การศึกษาด้านพฤกษศาสตร์จึงขยายขอบเขตมากขึ้น นำไปสู่การศึกษาพืชในระดับเซลล์และกายวิภาคศาสตร์ (anatomy) ของพืชในเวลาต่อมา

6.ค.ศ. 1753
Carl Linnaeus นักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน ได้ริเริ่มการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ โดยตีพิมพ์ลงหนังสือ Species Plantarum เมื่อราวปี ค.ศ. 1753 เพื่อให้เข้าใจการจำแนกชนิดพืชตรงกัน จนในช่วงปี ค.ศ. 1800-1900 นักพฤกษศาสตร์ของทั้งในทวีปยุโรปและทวีปอเมริกาได้ประชุมวิชาการทางพฤกษศาสตร์นานาชาติ เพื่อให้ชื่อวิทยาศาสตร์ของพืชเป็นสากล จนกระทั่งปี ค.ศ. 1930 ได้ตีพิมพ์ประมวลกฎนานาชาติของการกำหนดชื่อวิทยาศาสตร์ของพืช ได้สำเร็จเป็นฉบับแรก

7.ค.ศ. 1822-1884
Gregor Johann Mendel ผู้ก่อตั้งวิทยาการพันธุศาสตร์ ซึ่งเมนเดลได้ทำการทดลองเพื่อสังเกตลักษณะของถั่วว่าถ่ายทอดไปสู่รุ่นถัดไปได้อย่างไร โดยการคัดเลือกอย่างละเอียดว่าถั่วต้นไหนผสมพันธุ์กับต้นไหนบ้าง และได้พบว่า ลักษณะเหล่านั้นได้ถ่ายทอดเป็นคู่ ๆ ซึ่งโดยปกติแล้วจะมีเพียงลักษณะเดียวเท่านั้นที่แสดงออกมาให้เห็นเป็นฟีโนไทป์ ผลงานนี้เป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง แต่ไม่มีใครเห็นคุณค่าเป็นเวลาหลายสิบปี

8. ค.ศ.1831-1836
Charles Darwin ได้ล่องเรือสำรวจไปรอบโลก และบันทึกเรื่องพืชและสัตว์หลายร้อยชนิดที่พบเห็น จนมั่นใจว่าสิ่งมีชีวิตมีวิวัฒนาการจริง และได้นำเสนอทฤษฎีซึ่งเป็นรากฐานของทฤษฎีวิวัฒนาการสมัยใหม่และหลักการพื้นฐานของกลไกการคัดเลือกโดยธรรมชาติ ดาร์วินได้รวบรวมทฤษฎีของเขาและเขียนหนังชื่อ “กำเนิดของสิ่งมีชีวิต” (The Origin of Species) ในปี ค.ศ.1859 ซึ่งต่อมาได้ค้นพบสารพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต หรือ DNA ทำให้นักพฤกษศาสตร์เข้าใจหลักการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของพืชของ เมนเดลมากขึ้นด้วย

9.ค.ศ.1862
จูเลียส ซาซ (Julius Sachs) พบว่าพืชที่ได้รับแสงสว่างจะมีแป้งหรือสารพวกคาร์โบไฮเดรต แต่พืชที่อยู่ในที่มืดปราศจากแป้ง โดยสารคาร์โบไฮเดรตเป็นสารอินทรีย์ที่พืชสร้างขึ้นมานั้น คือ น้ำตาล และในเวลาต่อมานักวิทยาศาสตร์ได้เรียกกระบวนการสร้างคาร์โบไฮเดรตของพืชที่อาศัยแสงนี้ว่า กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (Photosynthesis)

10.ยุคปัจจุบัน
พฤกษศาสตร์สมัยใหม่นั้นแตกแขนงเป็นสาขาต่าง ๆ ตั้งแต่ระดับเซลล์ ระดับต้นพืช ไปจนถึงระบบนิเวศ โดยแบ่งเป็นสาขาสำคัญหลัก ๆ ได้แก่ อนุกรมวิธานและความหลากหลายของพืช การตอบสนองของพืชในเชิงสรีรวิทยา (Physiology) นิเวศวิทยา (Ecology) พันธุศาสตร์ (Genetics) เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology) และมีสาขาย่อยอีกมากมาย ในปัจจุบันยังครอบคลุมไปถึงการศึกษาเห็ดราและสาหร่ายด้วย
ภาพวาดประกอบ : ปาลิ
บทความที่เกี่ยวข้อง
ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ที่นิยมปลูกบนคันนา
ติดตามไอเดียบ้านและสวนเพิ่มเติมได้ทาง : บ้านและสวน Baanlaesuan.com