Little Tree Family ครอบครัวที่ให้ธรรมชาตินำทางและต่อยอดมาเป็นธุรกิจ
ถ้าคุณเคยไปนั่งจิบกาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่ในร้าน Little Tree Garden หรือเคยแวะไปที่ Whispering Café ที่นครปฐม
คุณอาจจะรู้จักครอบครัว ”ริ้วบำรุง” (Little Tree Family) ของ คุณพ่อเสวก คุณแม่บังอร และคุณศิริวิทย์ ครอบครัวที่ให้ธรรมชาตินำทางและต่อยอดมาเป็นธุรกิจ อย่าง การจัดสวน ขยายพันธุ์ต้นไม้ รวมถึงร้านอาหารและเครื่องดื่มออร์แกนิกท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่น

รุ่นก่อตั้ง

“ครอบครัวของเราเริ่มต้นจากการเป็นเกษตรกร”
ครอบครัวเราเป็นเกษตรกรมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ถ้าย้อนกลับไปสมัยก่อนเคยปลูกองุ่นกับพุทรา แต่พอแต่งงานก็เปลี่ยนมาทำกล้วยไม้ โดยมีคุณยายอรคอยช่วยเหลือและสนับสนุนกันอยู่เสมอ ซึ่งตอนนั้นก็ถือว่าเป็นสวนแรก ๆ และเป็นรายใหญ่ในละแวกนี้ หลังจากที่ทำอยู่พักใหญ่ พออายุมากขึ้น ลูก ๆ ก็เริ่มเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เพราะต้องคลุกคลีอยู่กับสารเคมีตลอด เลยแนะนำให้หยุดพัก จากนั้นก็หันมาปลูกเฟิน ปลูกหน้าวัว เอาไม้สะสมที่มีอยู่มาขยายพันธุ์ต่อยอด กลายเป็นเนิร์สเซอรี่ ซึ่งต้นไม้บางต้นก็เอาไปประกวด จนได้รางวัลติดไม้ติดมือกลับมาบ้าง
- เจาะลึกวงการไม้ใบ กับนักสะสมไม้ใบฟอร์มส่งประกวด ผู้อยู่มาทุกยุค
- เยี่ยมแหล่งสะสมไม้ใบของ คุณเสวก และคุณศิริวิทย์ ริ้วบํารุง พร้อมเคล็ดลับการดูแล

“เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่คือความรักและความสนุกที่ได้ลงมือทำ”
ผมไม่ใช่นักธุรกิจ แต่เป็นคนที่เติบโตมากับครอบครัวที่รักต้นไม้ และเข้าใจว่าตลาดต้นไม้มีวงจรเวียนว่ายตายเกิด เลยทำสิ่งนี้ด้วยความรักและความผูกพัน ถึงแม้ว่าช่วงไหนที่ตลาดต้นไม้ซบเซา ก็ไม่ได้คิดจะทิ้งหรือเปลี่ยนอาชีพ ยังคงทำไปเรื่อย ๆ รอแค่จังหวะ เวลา และโอกาสที่เหมาะสม เราก็ไปต่อได้
“การมีสายตาและวิสัยทัศน์ที่เฉียบขาดจะทำให้สามารถต่อยอดและพัฒนาได้เร็วกว่าคนอื่น”
การทำเกษตรไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะสำเร็จเลย เพราะต้องอาศัยประสบการณ์ ความเข้าใจ และการเริ่มต้นให้ถูกจังหวะ ใครเริ่มก่อน ก็มีโอกาสได้ก่อน อย่าง การปลูกกล้วยไม้ในสมัยนั้น เขาจะเลือกพันธุ์ที่ดอกสวยเพื่อตัดช่อขาย แต่ผมจะดูทั้งกลีบดอก ความทนทาน ขนาดความยาวของช่อ ความยากง่ายในการเลี้ยง ไปจนถึงความต้องการของตลาด ทำให้ไม่ได้แค่ขายดอก แต่ขายเป็นกล้าพันธุ์ได้ด้วย
อีกอย่างคือ การทำเกษตรไม่จำเป็นต้องวิ่งตามกระแสตลอดเวลา แต่อยู่ที่ว่าเรารู้หรือเปล่าว่าเมื่อไหร่ควรขาย เมื่อไหร่ควรเริ่มใหม่ ส่วนตัวผมจึงมักจะไม่ได้ตามกระแส หรือรอให้ต้องขายได้ราคาสูงสุดเสมอไป เอาแค่ที่พอใจและพอได้ทุนคืน เพราะถ้ารอให้กระแสมาก่อน ต้นทุนจะสูง แล้วพอผ่านจุดพีคไป กระแสเริ่มซา ราคาก็จะตกลงเยอะมาก จากหลักล้าน หลักแสน ก็เหลือหลักร้อย หลักพัน จนทำให้หน้าใหม่หลายคนอาจถอนทุนคืนไม่ทัน

“จงไม่ยึดติด แต่อย่าหยุดลงมือที่จะทำ”
อย่างที่บอกว่าการทำเกษตรไม่จำเป็นต้องวิ่งตามกระแสตลอดเวลา เพราะ ต้นไม้ก็มีช่วงขาขึ้นขาลง ถึงคราวปล่อยก็ต้องกล้าปล่อย บางคนหวงของ ไม่ยอมขายตอนราคาดีๆ พอถึงจังหวะขาลงก็ขายไม่ออก หรือขายได้แต่ไม่คุ้ม สำหรับผมพอถึงเวลามีโอกาสขาย ก็ขายได้หมด ไม่ห่วงของ เพราะรู้ว่ายังไงเดี๋ยวก็หาต้นพันธุ์ใหม่ ๆ มาเพาะขยายพันธุ์ต่อไปได้เรื่อย ๆ ขอแค่อย่าหยุดทำก็พอ

รุ่นสืบต่อ

“ต้นไม้ คือ พื้นฐานที่ทำให้เรามีทุกวันนี้”
จากที่เราเห็นพ่อ-แม่ปลูกต้นไม้ ทำธุรกิจเกี่ยวกับกล้วยไม้ ในขณะเดียวกันพื้นที่รอบบ้านก็ยังปลูกทั้งไม้สะสม และไม้ตามยุคตามสมัย อย่าง หมากผู้หมากเมีย บอนสี โกสน อโกนีมา เพื่อเสพความสุขมาอยู่เรื่อย ๆ ก็ทำให้เราได้คลุกคลี รวมถึงเวลาที่ได้ช่วยทำงาน หรือตามไปประกวดต้นไม้ตั้งแต่วัยเด็ก ก็เป็นเหมือนสิ่งที่สอนเรา เป็นตำรา เป็นคู่มือที่ทำให้เราได้เรียนรู้และซึมซับโดยที่ไม่ทันได้รู้ตัว

“ต่อยอดและเติบโตอย่าง (เป็น) ธรรมชาติ”
หลังจากที่รุ่นลูกเติบโตขึ้น คุณพ่อ-คุณแม่พักจากการทำธุรกิจกล้วยไม้ คุณปิ๋ม–ศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง (พี่สาว) ก็ได้กลับมาเปิดบ้านกลางสวนธรรมชาติให้กลายเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษและศิลปะ ซึ่งในตอนนั้นผู้ปกครองที่พาลูกมาส่งก็จะต้องมานั่งรอ และพอถึงเวลาทานอาหาร ด้วยความที่บ้านอยู่ค่อนข้างลึก เข้าออกไม่สะดวก ก็เลยมีไอเดียที่จะเปิดร้านอาหารและเครื่องดื่มเล็ก ๆ ขึ้นมา โดยมีขนมและเครื่องดื่มสมุนไพรธรรมชาติฝีมือคุณยายอร คอยเสิร์ฟทั้งนักเรียนและผู้ปกครอง

ช่วงนั้นเอง เราก็ได้ส่งภาพบรรยากาศของบ้านและห้องเรียนธรรมชาติเข้าประกวดในโครงการ “สวนจัดเอง” ของนิตยสารบ้านและสวนด้วย ปรากฏว่าได้รับรางวัลและยังได้ตีพิมพ์ลงในนิตยสาร ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นทำให้คนรู้จักเราในฐานะนักจัดสวน และทำให้มีโอกาสได้ทำงานจัดสวน รวมถึงออกสื่อมากขึ้น ส่งผลให้กระแสแต่งสวนแบบอังกฤษมาแรง แต่ในตอนนั้นของแต่งสวนที่เป็นงานปูน งานซีเมนต์ อย่าง กระถาง เก้าอี้ยาว อ่างอาบน้ำนก หรือปูนปั้นรูปสัตว์ โดยเฉพาะเป็ดที่คนนิยม กลับหาซื้อยาก เราเลยเริ่มทำขึ้นมาเอง แล้วก็วางขายในร้านด้วยเลย แล้วพอคนเริ่มแวะเวียนมามากขึ้น Little Tree ก็เลยได้ขยับขยายต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ หรือเรียกได้ว่าโตไปตามสเต็ป
- การดูแล “ต้นมะกอกโอลีฟ” ต้นไม้นำเข้ามาแรง กับคุณศิริวิทย์ ริ้วบำรุง
- ไปสำรวจแปลงดอกไม้ทดลองปลูก ก่อนจะเป็นสวนในสไตล์ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง


“ยุคทองของต้นไม้ ฝันที่ไม่มีใครคาดคิด”
ต้นไม้ทุกต้นที่เราปลูก ดูแลฟูมฟักกันมา ไม่ได้คาดหวังว่า ในอนาคต 5 ปี 10 ปี จะต้องได้ราคาสูง แต่สำหรับช่วงโควิดที่ผ่านมา เหมือนเป็นฝันที่ไม่มีใครคาดคิด ต้นไม้กลายเป็นที่ต้องการของตลาด ราคาต้นไม้พุ่งสูงขึ้นที่สุดอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้กลายมาเป็นบทเรียนแก่เราว่า ไม่มีใครรู้หรอกว่าสิ่งที่ทำจะสำเร็จเมื่อไหร่ ขอแค่อย่าทิ้งความฝันหรือความพยายามทำในสิ่งที่รัก ให้ทำไปเรื่อย ๆ เดี๋ยววันนึงจังหวะและโอกาสดี ๆ ก็จะมาถึงเอง

“อยู่อย่างพอเพียง เติบโตอย่างยั่งยืน”
จริง ๆ แล้ว ครอบครัวเราไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่โต แต่เป็นครอบครัวที่อยู่กันแบบพอเพียง ทำเท่าที่ไหว ไม่ต้องฝืน ไม่เสี่ยงเกินตัว หรือไม่จำเป็นต้องก้าวกระโดดเร็ว ๆ แค่ปล่อยให้ทุกอย่างได้เติบโตไปตามธรรมชาติอย่างยั่งยืนน่าจะดีกว่า เพราะถ้าทำอะไรที่เกินตัว บริหารจัดการได้ไม่ดี หรือทำอะไรที่เกินกำลังไปมาก สุดท้ายก็อาจกลายเป็นภาระ และก็ไม่ใช่ความสุขอย่างที่เราตั้งใจ
“ธุรกิจของครอบครัวคือต้นทุนที่ดีให้แก่คนรุ่นหลัง”
ธุรกิจของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าคลุกคลีมาตั้งแต่เด็กก็อาจจะไม่ต้องเรียนรู้นับหนึ่งใหม่ แต่บางธุรกิจก็อาจจะต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวไปตามสถานการณ์กันบ้าง ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ก็ถือว่าเป็นต้นทุนที่ดีทั้งนั้น อยากลองหันกลับมามองดูว่าถ้าธุรกิจที่มีอยู่ยังเดินหน้าไปต่อได้ ก็อย่าเพิ่งล้มเลิกหรือทิ้งไป เพราะเราไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับรูปแบบเดิมเสมอ ยังสามารถปรับเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา branding หรือรูปแบบธุรกิจให้ตามยุคตามสมัยได้ แค่ต้องพูดคุยกันให้เข้าใจระหว่างคนทำธุรกิจรุ่นเก่าและคนที่จะเข้ามาสานต่อว่าจะไปในทิศทางไหน อย่าง พี่ก็ไม่ได้ทำธุรกิจกล้วยไม้เหมือนพ่อ แต่ก็มาต่อยอดในความเป็นเกษตรกร ความเป็นธรรมชาติเหมือนกัน … พี่เชื่อว่าเด็กรุ่นใหม่มีศักยภาพ สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่าจะทำรึเปล่า เท่านั้นแหละ ?

“ครอบครัวคือ ความรัก ความผูกพัน และความห่วงใย”
สำหรับครอบครัวเรา ถึงแม้ว่าลูกหลานแต่ละคนจะมีนิสัยที่ไม่เหมือนกัน และแยกย้ายออกไปเติบโต ทำหน้าที่ของตัวเอง แต่เมื่อไหร่ที่กลับมาบ้าน ทุกคนก็จะคอยถามไถ่ เป็นห่วง เป็นที่ปรึกษา และพร้อมจะช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกันอยู่เสมอ

แล้วมาสัมผัสความรัก ความอุ่น พร้อมขนมและเครื่องดื่มที่หอมกรุ่น จาก Little Tree Family ได้ที่ โซน บ้านและสวน Home Village งานบ้านและสวนแฟร์ Midyear 2025 กันนะคะ
งานบ้านและสวนแฟร์ Midyear 2025
1-10 สิงหาคม 2568 | 10.00 – 21.00 น.
ฮอลล์ 98-104 ไบเทค บางนา
Little Tree
ที่อยู่ : 43 หมู่ 5 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม 73110
โทร : 095 563 3319
Facebook : https://www.facebook.com/littletreegarden