บ้านเล็กในสวน ในกลิ่นอายโมเดิร์นคลาสสิก
บ้านเล็กในสวน สีขาวในรูปทรงกล่อง ขนาดพื้นที่ 96 ตารางเมตร ตกแต่งให้อยู่สบายด้วยสไตล์โมเดิร์นคลาสสิก ในบริบทของบ้านสวนที่ปลูกผักไว้กินเองหลังบ้าน
Design Directory : Vinterior Studio


ระยะเวลาราวสองชั่วโมงกว่าจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่จังหวัดนครนายก แม้จะไปไม่ถึงแหล่งโอโซนหลักอย่างเขาใหญ่ แต่ก็อยู่ไม่ห่างจากเขตรอยต่อของจังหวัดเท่าไรนัก และยังคงสัมผัสได้ถึงอากาศที่สดชื่นปลอดโปร่งพร้อมกับวิวธรรมชาติสวย ๆ จากทิวเขาที่อยู่ใกล้เคียง จึงเป็นทำเลเหมาะที่ คุณแว่น-ประภาพร เหมสิทธิ์ และคุณนก-ธารารัตร์ ฤกษ์เวียง เลือกมาสร้าง บ้านเล็กในสวน เพื่ออยู่อาศัยกัน
“เราใช้เวลาหาที่ดินอยู่นานร่วม 3 ปีเลยนะ ตระเวนไปหลายจังหวัด ดูมา 20 ที่แล้ว กว่าจะมาเจอตรงนี้ ที่ตัดสินใจเลือกตรงนี้คงเป็นเรื่องของภูมิศาสตร์ สภาพแวดล้อม การเดินทาง โรงพยาบาล ตลาด และความเป็นไปได้ในอนาคตเป็นส่วนสำคัญ ด้วยความที่เราทำงานออกแบบซึ่งเป็นฟรีแลนซ์ทั้งคู่ เวลาส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการทำงาน เลยอยากมาสร้างบ้านอยู่นอกเมืองให้เป็นบ้านที่สามารถทำงานและพักผ่อนได้ในเวลาเดียวกัน แล้วยังเผื่อไปถึงว่าอยู่ไปจนถึงวัยเกษียณด้วยเลย”


บ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยมพร้อมช่องเปิด
ที่ดินอยู่ในรูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้านหน้าหันไปทางทิศเหนือติดกับถนนซึ่งมองเห็นแนวเทือกเขาของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนด้านหลังมีคลองเล็ก ๆ ไหลผ่าน พื้นที่โดยรอบมีไม้ผลกับต้นยางนาสูงใหญ่หลายต้น จากคำบอกเล่าของคนแถวนั้นแล้วก็น่าจะเป็นต้นยางที่มีอายุมากกว่าร้อยปีแล้ว
“องค์ประกอบสภาพแวดล้อมทั้งหมดนี้มีผลต่อการออกแบบตัวบ้านค่อนข้างมาก และเราก็ชอบต้นไม้ใหญ่ เลยเลือกที่จะสร้างบ้านเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมที่มีหลังคาเป็นดาดฟ้าเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวบ้านเผื่อไว้เลย เพราะเคยเห็นกิ่งยางนาที่ร่วงลงมาค่อนข้างใหญ่ ถ้าทำหลังคาจั่วหรือหลังคาเบาก็อาจเสียหายและเสียค่าซ่อมแซมทีหลัง อีกอย่างคือดาดฟ้าโล่งทำให้ขึ้นมาใช้ฟังก์ชันด้านบนทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย ทั้งนั่งเล่น กางเต็นท์ ดูดาว บางคืนก็มองเห็นทางช้างเผือกด้วย”



เจ้าของบ้านตั้งชื่อบ้านทรงกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวครีมนี้ไว้ว่า Vinyard Home เป็นบ้านชั้นเดียวขนาด 6×15 เมตร ที่ออกแบบให้มีช่องเปิดไว้โดยรอบสลับไปกับผนังทึบซึ่งเป็นโครงสร้าง ก็เพื่อรับแสงธรรมชาติเข้ามาเพิ่มความโปร่งสบายภายใน อีกทั้งเชื่อมต่อมุมมองออกไปสู่วิวธรรมชาติด้านนอก ตำแหน่งของตัวบ้านจึงอยู่บริเวณกลางที่ดินซึ่งห่างจากถนนค่อนข้างมาก แล้วใช้พื้นที่ด้านหน้าสำหรับปลูกต้นไม้เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านอีกชั้นหนึ่ง

สไตล์โมเดิร์นคลาสสิกผสมกลิ่นอายบ้านฟาร์ม
แม้จะเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีช่องเปิดรอบตัว แต่เพราะว่ามีต้นไม้ใหญ่คอยให้ร่มเงาอยู่รอบ ๆ บริเวณ พื้นที่ใช้สอยในบ้านจึงไม่ร้อน โดยเฉพาะเวลาที่เปิดประตูหน้าต่างให้ลมหมุนเวียนช่วยลดการเปิดเครื่องปรับอากาศได้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม
“เราเปิดสเปซในบ้านให้สูงเกือบ 3 เมตร แล้วแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นคลาสสิกผสมความเป็น Farmhouse Boutique Hotel ที่เน้นความสบาย ใช้โทนสีขาวเป็นหลักตัดด้วยสีดำให้ดู Timeless เพื่อให้บ้านดูโมเดิร์นอยู่ตลอด ไม่ล้าสมัย ผสมด้วยกลิ่นอายแบบชนบทของฝรั่งเศสจากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ทั้งโคมไฟวินเทจ หินอะลาเบสกาโต้ ลายเส้นที่กรุผนัง รูปภาพสีพาสเทลที่บอกเล่าเรื่องราวการใช้ชีวิต ส่วนใหญ่พื้นที่ใช้งานหลักของเราจะอยู่ตรงบริเวณ Kitchen Island ที่แชร์ฟังก์ชันร่วมกัน ทั้งทำงาน กินข้าว นั่งเล่น ดื่มกาแฟ เล่นเปียโน ถึงจะอยู่กันคนละมุมแต่ก็ยังมองเห็นและสื่อสารกันได้ตลอด”





เพราะโซนนี้มีทั้งโซฟาเบดขนาดใหญ่ติดหน้าต่างได้มุมมองแบบเบย์วินโดว์สไตล์ฝรั่งเศส และเคาน์เตอร์ท็อปหินขนาดยาวที่รองรับทุกฟังก์ชัน ต่อเนื่องไปกับครัวบิลท์อินที่คุณนกบอกว่าสามารถทำอาหารไทยหรือฝรั่งได้หมด โดยใกล้ ๆ กันยังมีมุมทำกาแฟของคุณแว่นที่พร้อมด้วยอุปกรณ์การชงครบครันเหมือนมีคาเฟ่ย่อมๆ อยู่ในบ้านเลย
“การวางผังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านขนาดเล็กนะ เราเลยออกแบบทางที่เดินได้รอบ รับกับช่องเปิดที่มองเห็นพื้นที่สีเขียวได้ทุกมุม และก็ได้ประโยชน์ในเรื่องแสงสว่างและความปลอดภัยด้วยเพราะเปิดโล่งมองเห็นได้หมด ตรงกลางเป็นส่วนซักล้างและอีกด้านเป็นมุมวางของสะสม แล้วด้านในสุดเป็นห้องนอนที่วางแยกไว้คนละฝั่งพร้อมห้องน้ำ ซึ่งมีประตูที่สามารถปิดแยกเพื่อความเป็นส่วนตัวและให้ความรู้สึกปลอดภัยได้”




พื้นที่ Backyard สำหรับปลูกผัก
ออกจากตัวบ้านไปแล้ว หลังบ้านก็ยังมีฟังก์ชันน่ารัก ๆ ที่ทั้งคู่ออกแบบวางผังไว้ให้เป็นเหมือน Backyard สำหรับปลูกพืชผักและสมุนไพรสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน โดยมีแปลงหลักตรงกลางสำหรับปลูก เลมอน แซมด้วยพืชผักสวนครัวที่ใช้บ่อย พร้อมสร้างโรงเรือนสำหรับทำงานฝีมือแยกกับโรงเรือนเก็บอุปกรณ์เครื่องมือสวน และพื้นที่สำหรับเตาปิ้งย่างกับครัวไทยที่วางแผนไว้ว่าจะทำเตาอบพิซซ่าในอนาคตด้วย
“เราเน้นปลูกพืชผักตามไลฟ์สไตล์ตัวเองในปริมาณที่พอสำหรับใช้เอง ตอนนี้มีเลมอน กาแฟ มินต์ โรสแมรี่ กะเพรา โหระพา และเรดิช เน้นการเข้าถึงดูแลง่าย และปลอดภัย และก็ยังมีพื้นที่ริมคลองหลังบ้านที่วางเตาเผาถ่านสำหรับทำน้ำส้มควันไม้ไว้ฉีดไล่แมลง กับลานปรุงดินจากใบไม้ในสวน เพราะเราอยากทำที่นี่ให้เป็นเหมือน Land Lab ของคนที่มาจากเมืองอย่างเราได้เรียนรู้ ทำความเข้าใจ และสามารถอยู่กับความเป็นชนบทได้อย่างยั่งยืน



“ตั้งแต่ได้มาอยู่ที่นี่แล้วรู้สึกแข็งแรงขึ้นเยอะเลย เพราะการปลูกพืชผักก็ต้องใช้แรงนะ แค่พรวนใบไม้เพื่อหมักปุ๋ยเต็มกระบะนั้นก็เหนื่อยแล้ว แต่ธรรมชาติก็ทำให้เรามีพลังและความสดชื่นมาก ๆ รู้สึกอยากออกไปขุดทำสวนกันแต่เช้า พอสาย ๆ ร้อนก็มานั่งทำงานในบ้าน และเลือกเข้าเมืองเฉพาะวันที่ต้องทำงานกับคนอื่น เรียกว่าอยู่ที่นี่แล้วมีความสุขได้ตั้งแต่ตื่นนอนเลยก็ว่าได้ ตอบโจทย์ที่คิดไว้แต่แรกเลยว่าอยู่บ้านก็เหมือนได้มาเที่ยวพักผ่อนทุกวันเลย”





เจ้าของ-ออกแบบ : คุณประภาพร เหมสิทธิ์ และคุณธารารัตร์ ฤกษ์เวียง จาก Vinterior Studio
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : ศุภกร ศรีสกุล
สไตล์ : Suntreeya
ที่ตั้ง : จังหวัดนครนายก