ตู้เก็บรองเท้า ไม่ได้แค่เก็บ แต่เปลี่ยนบ้านให้ดูดีขึ้นได้!
ตู้เก็บรองเท้า ถือเป็นสิ่งจำเป็นของขาช็อปรองเท้าคู่สวยที่มีแต่จะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ เรามีเทคนิคการเลือก ตู้เก็บรองเท้า มาให้อ่านกัน โดยจะแบ่งตามลักษณะพื้นที่และไลฟ์สไตล์ พร้อม Tips สนุก ๆ เกี่ยวกับรองเท้า และตัวอย่างไอเดียการทำตู้เก็บรองเท้าสวยๆ มาฝากกันด้วย
คอนโดมิเนียม
ตู้เก็บรองเท้า ในคอนโดมิเนียม หลายคนคงคิดว่าจะเป็นไปได้หรือ เพราะปัญหาหลักของคอนโดมิเนียมคงเป็นเรื่องของพื้นที่จัดเก็บ เราขอแนะนำให้คุณคิดแบบเดียวกับตอนที่จะเลือกซื้อตู้เสื้อผ้า คือมองหาพื้นที่สำหรับทำบิลท์อินไว้ได้เลย โดยต้องคุยกับโครงการตั้งแต่แรกว่าคุณต้องการทำในจุดใดบ้าง


จุดที่เหมาะ
- ผนังข้างประตูทางเข้า - ออก : เพราะคุณต้องถอดและใส่รองเท้าบริเวณนั้นอยู่แล้ว ทำบิลท์อินซ่อนบานตู้ให้กลืนไปกับผนังและสูงถึงเพดานเลยก็ยังได้
- walk-in closet : หลายคนทำ walk-in closet แยกจากห้องนอนเพื่อเก็บเสื้อผ้า เครื่องประดับให้เป็นที่ทาง คุณจะรวมตู้รองเท้าเข้าไปไว้ในห้องนี้ด้วยก็ได้เช่นกัน
- ระเบียง : ไม่ต้องแปลกใจ เพราะหลายคนไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณนี้เลย ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นงานบิลท์อินก็ได้ เพียงแต่ควรระวังเรื่องของฝนที่จะสาดมาโดนตู้ และทำให้เกิดความชื้นสะสมเข้าไปในตู้และรองเท้าได้
ตู้ที่เหมาะ
- ตู้บิลท์อินแบบซ่อนมือจับ หรือหน้าบานที่กลืนไปกับผนัง
ทาวน์เฮ้าส์
ตึกแถวหรือโฮมออฟฟิศที่มีลักษณะอาคารเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ก็อาจหาพื้นที่จัดเก็บค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อไหมว่ามีบางจุดที่คุณมองข้าม และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้



จุดที่เหมาะ
- โรงรถ : สำหรับทาวน์เฮ้าส์จะมีบริเวณชานด้านหน้าประมาณ 3 x 5 เมตร ผนังด้านข้างจะเหลือพื้นที่นิดหน่อยให้ทำชั้นวางของได้ ก็แล้วแต่คุณว่าจะปรับไปใช้วางอุปกรณ์เกี่ยวกับรถหรือรองเท้า แต่เนื่องจากอยู่ภายนอก จึงควรทำเป็นตู้มีบานเปิด - ปิดเพื่อป้องกันฝุ่นด้วยนะ
- ห้องใต้บันได : ส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำสำรอง ซึ่งใช้งานไม่สะดวก ควรคุยกับช่างตั้งแต่แรกว่าอยากเก็บไว้เป็นพื้นที่เก็บของ ซึ่งคุณสามารถดัดแปลงติดชั้นไม้หรือชั้นเหล็กให้เป็นที่วางรองเท้าได้
ตู้ที่เหมาะ
- ชั้นบิลท์อินสำเร็จรูปที่สามารถต่อยึดกับผนังและปรับระดับได้ตามต้องการ
บ้านเดี่ยว
บ้านหลังใหญ่แม้จะมีพื้นที่เยอะ แต่ถ้าจัดเก็บไม่ดีก็รกได้ ควรนำข้อได้เปรียบเรื่องพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลองมาดูกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง



จุดที่เหมาะ
- โรงรถหรือจุดจอดรถ : คล้ายคลึงกับทาวน์เฮ้าส์ คุณสามารถทำงานบิลท์อินติดผนังได้เลยเช่นกัน แต่ถ้าไม่อยากให้เปลืองพื้นที่ อาจทำเป็นชั้นลอยสูงจากพื้นแทนตู้ยาวขนานไปกับผนังก็ได้
- ลานซักล้าง : พื้นที่ที่ถูกมองข้าม แต่จะบอกว่าใช้งานได้อเนกประสงค์มาก โดยปกติลานซักล้างจะเป็นส่วนที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อให้เวลาซักตากเสื้อผ้าแล้วแห้งเร็ว การทำหรือวางตู้รองเท้าไว้บริเวณนี้จะช่วยลดกลิ่นอับในตู้และรองเท้าได้ด้วย
ตู้ที่เหมาะ
- ใช้ได้ทั้งตู้ลอยตัว ตู้บิลท์อิน หรือชั้นวางอื่น ๆ
จุดที่ควรระวัง
แน่นอนว่าเมื่อมีจุดที่เหมาะสม ก็มีจุดที่ควรระวังเช่นกัน เราไม่ได้กำลังจะบอกว่าคุณวางตู้เก็บรองเท้าในจุดเหล่านี้ไม่ได้ แต่ควรเพิ่มความระมัดระวังขึ้นอีกนิด อาทิ ห้องนอน ที่ปกติแล้วไม่ควรมีเฟอร์นิเจอร์มากชิ้น ทั้งนี้เพื่อให้ห้องโปร่งและสะสมฝุ่นน้อยที่สุด ที่สำคัญ รองเท้าจะต้องเจอมลภาวะมากกว่าเสื้อผ้า แต่มีหลายท่านอยากเก็บรองเท้าไว้ในห้องนอน เพื่อให้สามารถนำมาเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์กับเสื้อผ้าก่อนสวมใส่ คำแนะนำคือ ถ้าคุณมีทั้งเสื้อผ้าและรองเท้ามากขนาดนั้น ก็ควรทำเป็น walk-in closet แยกออกไปจากห้องนอน สะดวกและถูกสุขอนามัยมากกว่าจะนำมารวมกันไว้ในห้องเดียว
แต่ไม่ว่าจะวางไว้มุมไหนก็ตาม สิ่งที่ควรคำนึงถึงทุกครั้งคือคุณต้องวัดขนาดพื้นที่ก่อนออกไปช็อปปิ้งทุกครั้ง ส่วนใหญ่เราจะเลือกซื้อตู้เก็บรองเท้าเป็นรายการท้าย ๆ ซึ่งหมายความว่าคุณวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ เรียบร้อยแล้วเหลือพื้นที่ว่าง จึงคิดจะมองหาตู้เก็บรองเท้า ดังนั้นหากไม่ได้เตรียมวัดพื้นที่ที่ว่า คุณอาจได้ตู้ที่ไม่พอดี แล้วจะกลายเป็นเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายไปโดยเปล่าประโยชน์
สำหรับคนที่จะทำงานบิลท์อิน อย่าลืมเช็กความลึกและความสูงของชั้นวางในตู้ ไม่ควรออกแบบให้พอดีกับรองเท้าเป๊ะ ๆ เพราะรองเท้าแต่ละประเภทมีความยาวและความสูงไม่เท่ากัน ความสูงอาจอยู่ที่ประมาณ 15 เซนติเมตร (เผื่อไว้สำหรับรองเท้าส้นสูง) และมีความลึกประมาณ 18 - 20 เซนติเมตร

TIPS ชนิดของรองเท้ากับการเลือกที่จัดเก็บ


- รองเท้าหนัง : 80% ของรองเท้ามักทำจากหนัง เพราะเป็นวัสดุที่ยืดหยุ่นและระบายอากาศได้ค่อนข้างดี แน่นอนว่าหนังคือวัสดุจากธรรมชาติ เราจึงแนะนำว่าตู้ไม้ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติเช่นกัน จะเป็นการแมตช์ที่ค่อนข้างลงตัว
- รองเท้าพลาสติกหรือรองเท้ายาง : สามารถเก็บในตู้ชนิดใดก็ได้ แต่ถ้าจะให้ดี ลองเลือกเป็นชั้นวางแบบโปร่ง เพราะด้วยวัสดุพลาสติก หรือยาง คุณอาจใส่มันไปย่ำน้ำมา การวางหรือเก็บบนชั้นโปร่ง ๆ ที่ไม่ปิดทึบหรือไม่มีหน้าบานจะลดความอับชื้นได้
- รองเท้าผ้า : สามารถเก็บได้ในชั้นทุกประเภท แต่ควรเพิ่มอุปกรณ์เสริม เพราะรองเท้าผ้าจะเสียทรงได้ง่าย อาจยัดกระดาษหนังสือพิมพ์ หรืออุปกรณ์รักษาทรงรองเท้าแบบอื่น ๆ
- รองเท้ากีฬา : วัสดุที่ใช้ทำส่วนใหญ่จะเป็นผ้าใบหรือพลาสติก จึงทำความสะอาดง่ายและเลือกจัดเก็บแบบใดก็ได้ แต่วิธีการใช้งานรองเท้าประเภทนี้ส่วนมากจะก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น ความอับชื้น และความสกปรกมากกว่าปกติ จึงควรผึ่งลมหรือแดดก่อนเก็บเข้าตู้หรือวางบนชั้น
Tips กลิ่นจากตู้รองเท้า

ตู้เก็บรองเท้าส่งกลิ่นเหม็นโชยออกมา ต้นตอของปัญหาเหล่านี้ก็มาจากรองเท้าที่เราใส่เป็นประจำ แต่ขาดการเก็บรักษาอย่างถูกวิธี จึงเกิดการหมักหมมของเหงื่อไคล ความอับชื้น ก่อนเก็บควรเช็กสักนิด หากรองเท้าที่ใส่เปียกชื้นห้ามเก็บเข้าตู้ทันที ต้องผึ่งให้แห้งหรือซักทำความสะอาดเสียก่อน หมั่นนำรองเท้าตากแดดเป็นประจำ อีกวิธีที่ช่วยลดกลิ่นได้ก็คือ ม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นก้อนใส่ในรองเท้า หมึกจากกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับกลิ่นอับและความชื้นได้ หรือจะใช้ถุงผ้าห่อเบกกิ้งโซดาหรือกากกาแฟนำไปใส่ไว้ในรองเท้าก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างไอเดียการทำ ตู้เก็บรองเท้า










บริเวณประตูหน้าบ้านและอิฐก่อ ด้านหนึ่งทำเป็นตู้รองเท้าก่อนเข้าบ้าน ง่ายต่อการดูแล
















เรื่อง : มนตรา ศิริขันธ์
ภาพ : คลังภาพนิตยสาร room, บ้านและสวน และ my home
ภาพประกอบ : สุเทพ บุญน้อม