บ้านสวน ชั้นเดียว ที่ให้คนอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
บ้านสวน ชั้นเดียว ในรูปทรงกล่อง ใต้ร่มเงาของสวนป่าจามจุรี โดยมีลำเหมืองธรรมชาติคั่นกลางจึงทำอาคารแยกเป็น 2 ส่วนเชื่อมต่อด้วยสะพานเหล็กยาว 7 เมตร แล้วครอบผนังรอบตัวบ้านด้วยระแนงไม้ทาด้วยน้ำมันขี้โล้
Design Directory : สถาปนิก Sher Maker


พื้นที่ราว 7 ไร่แห่งนี้ร่มรื่นไปด้วยต้นจามจุรีหรือก้ามปูขนาดใหญ่กว่า 40 ต้น ขนาดที่ว่าต้องแหงนหน้ามองจึงจะเห็นถึงเรือนยอด เพราะความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติแบบนี้เองที่ทำให้ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์คมกริช ฐานิสโร รู้สึกประทับใจจนตัดสินใจสร้างบ้านพักตากอากาศให้เป็น บ้านสวน ชั้นเดียว พร้อมกับแบ่งพื้นที่ด้านข้างสำหรับทำศูนย์เรียนรู้เรื่องความสำคัญของต้นไม้ในป่าที่เชื่อมโยงมาถึงชีวิตต่างๆ บนโลก นี่จึงเป็นโจทย์สำคัญซึ่งนำไปสู่การสร้างบ้านให้อยู่ร่วมกับป่าจามจุรี โดยรบกวนธรรมชาติรอบๆ ให้น้อยที่สุด

หาพื้นที่สร้างบ้านแบบไม่รบกวนต้นไม้
“ที่จริงผมเป็นคนสงขลานะ ภรรยาก็เป็นคนใต้ แต่พอได้มาเมืองเหนือบ่อยๆ ก็รู้สึกหลงรัก ไม่ใช่แค่เรื่องอากาศหรือภูมิประเทศ แต่ยังมีเรื่องวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของที่นี่ด้วย ซึ่งที่อำเภอจอมทองตรงนี้ค่อนข้างสงบ เพราะคนที่มาเที่ยวมักจะใช้เป็นแค่ทางผ่านสำหรับขึ้นดอยอินทนนท์ เราเลยเริ่มจากสร้างบ้านตัวเองโดยตั้งชื่อว่า ‘บ้านรอก้าว’ เพื่อนำความรู้เรื่องกสิกรรมธรรมชาติจาก อาจารย์ยักษ์ (ดร.วิวัฒน์ ศัลยกำธร)มาต่อยอดสร้างศูนย์เรียนรู้ขึ้นมาข้างๆ บ้านให้คนที่จะไปเที่ยวดอยได้เห็นความสำคัญของป่ากับน้ำที่ส่งผลกับเรื่องโลกร้อนก่อนจะก้าวขึ้นดอย”
ด้วยความที่ชอบในเรื่องงานดีไซน์อยู่แล้ว คุณหมอคมกริชได้เลือกทีมสถาปนิกจาก Sher Maker เพราะชื่นชอบแนวทางจัดการสเปซในผลงานที่ผ่านมา พร้อมโจทย์สั้นๆ ว่าอยากได้บ้านสไตล์โรงแรมเล็กๆ ขนาด 2 ห้องนอน 1 ห้องทำงาน พร้อมพื้นที่ส่วนกลาง

คุณตุ๋ย-พัชรดา อินแปลง สถาปนิกจาก Sher Maker ได้มาสำรวจพื้นที่แล้วก็เกิดไอเดียว่า “เพราะที่ดินตรงนี้เป็นป่าที่มีลำเหมืองตัดผ่าน วิธีคิดคือต้องวางบ้านให้ไกลจากป่าจามจุรีที่สุดและเว้นระยะจากลำเหมืองตามกฎหมาย เราเลยเลือกพื้นที่สโลปตรงที่ไม่มีต้นไม้ ติดกับถนนของหมู่บ้านเพื่อสร้างบ้านให้ลอยขึ้นจากพื้นสโลป และดันฟังก์ชันส่วนตัวให้เข้าไปอยู่ด้านในสุด ก็จะได้ความสงบในระยะที่คนภายนอกมองไม่เห็น รูปทรงบ้านก็เลยออกมาในแนวยาวจากถนนด้านหน้าเข้าไปสู่ป่าด้านใน”



ระแนงไม้สีดำเป็นรั้วรอบตัวบ้าน
บ้านรูปทรงกล่องนี้เริ่มพาดตัวยาวจากทิศเหนือไปสู่ทิศใต้ เพื่อขวางแนวลมให้บ้านเย็นสบายได้ตลอดวัน แล้วไล่เรียงฟังก์ชันตั้งแต่โถงทางเข้านำไปสู่ทางเดินแจกจ่ายไปยังห้องนอนและส่วนนั่งเล่น-รับประทานอาหาร โดยตัวทางเดินเองเป็นพื้นที่กึ่งกลางแจ้งที่แสง ลม และฝนบางส่วนเข้าถึงได้จึงออกแบบให้มีพื้นตะแกรงสำหรับวางไม้กระถางเหมือนเรือนเพาะชำในบ้าน เพิ่มความรู้สึกปลอดภัยด้วยผนังระแนงไม้ที่เป็นเหมือนรั้วโปร่งๆ ครอบตัวบ้านไว้ตลอดแนว
“เพราะถ้าล้อมรั้วพื้นที่ 7 ไร่นี้ต้องใช้เงินมหาศาล และจำเป็นต้องเปิดพื้นที่ของลำเหมืองซึ่งเป็นแหล่งน้ำใช้ทางการเกษตรให้ชุมชนเข้าถึงได้ด้วย เราเลยทำสกินระแนงไม้ให้เป็นเหมือนรั้วไว้รอบบ้าน โดยใช้ไม้เต็ง ไม้รัง หรือที่สล่าทางเหนือเรียกว่า ‘ไม้แงะ ไม้เปา’ เป็นไม้เส้นเล็กรีดง่ายมีขายตามโรงเลื่อยและร้านไม้ท้องถิ่น แล้วช่างก็ใช้น้ำมันขี้โล้หรือน้ำมันเครื่องเก่ามาทาเคลือบเพื่อป้องกันมอดและปลวก ตัวไม้เลยเป็นสีดำ นี่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำได้ง่าย ราคาก็ไม่แพง ตากแดดตากฝนได้ สัก 3 ปีซีดก็ทาใหม่ แล้วเวลาแสงลอดผ่านระแนงไม้เข้าไปในบ้านก็ให้ความรู้สึกสดชื่นดี”




ที่หมายถึง ฉำฉา หรือต้นจามจุรี)
บ้านสวน ชั้นเดียว เปิดโล่งเพื่อรับพลังของป่า
พื้นที่หลักที่คุณหมอคมกริชและภรรยา คุณโม–รัชนีวรรณ ฐานิสโร ใช้บ่อยที่สุดเป็นพื้นที่ส่วนกลางซึ่งมีทั้งโซฟานั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหาร และแพนทรี่ขนาดยาว พร้อมมุมมองที่เปิดโล่งออกไปสู่ป่า เพิ่มเติมด้วยอาคารแยกเล็กๆ ซึ่งเป็นเหมือนระเบียงบ้านไว้นั่งชมวิวสวนป่า เพื่อซึมซับพลังความสดชื่นจากธรรมชาติ และยังเป็นที่ฝึกโยคะของคุณโมด้วย
คุณตุ๋ยเล่าถึงการออกแบบพื้นที่นี้ว่า “เพราะมีเหมืองคั่นกลาง เราจึงจำเป็นต้องแยกอาคารออกเป็น 2 ส่วนคร่อมลำเหมืองไว้ แล้วเว้นระยะห่างของบ้านออกจากลำเหมือง เลยทำสะพานโครงสร้างเหล็กเป็นทางเดินยาวถึง 7 เมตรเพื่อเชื่อมตัวอาคารไว้ รูปด้านของบ้านฝั่งนี้จึงลอยสูงจากพื้นสโลปค่อนข้างมาก ข้อดีคือช่วยให้บ้านโปร่งเพราะมีคอร์ตต้นมะค่าแต้มะค่าโมงอยู่ตรงกลางพอดี ตรงนี้ที่เราจำใจตัดมะค่าออกไปเพียงต้นเดียว แต่ได้ระเบียงใหญ่เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับความสูงที่เห็นแนวยอดของป่าที่ร่มครึ้มและมีไลเคน เป็นระบบนิเวศที่หลากหลายของป่าทางเหนือเลย”



ด้วยคุณหมอคมกริชต้องการทำศูนย์เรียนรู้ไว้ จึงแบ่งพื้นที่ทางฝั่งขวาของบ้านซึ่งเป็นทิศตะวันออกไว้สำหรับทำศูนย์ แล้วให้แนวทางเดินของบ้านอยู่ฝั่งนี้เพื่อช่วยกั้นความเป็นส่วนตัว ห้องนอนจึงต้องมาอยู่ทางทิศตะวันตกแทน “กลางวันร้อนหน่อย แต่ได้ความสงบเป็นส่วนตัว ก็ไม่เป็นไรเพราะเราใช้เฉพาะตอนกลางคืน โดยตัวห้องนอนนั้นผมอยากได้ที่เรียบง่ายและสบายๆ เหมือนเวลาไปพักผ่อนตามโรงแรม ส่วนห้องนอนแขกก็ทำพื้นยกระดับขึ้นมาไว้วางฟูกนอนเรียงกันเหมือนในศาลา เพื่อนๆ มาหลายคนก็นอนได้สบาย”




วัสดุเรียบง่าย ความสุขก็เช่นกัน
ด้วยความที่เป็นบ้านตากอากาศและไม่ได้อยู่อาศัยทุกวัน คุณตุ๋ยจึงเน้นการเลือกใช้วัสดุพื้นฐานที่ช่างพื้นถิ่นสร้างง่าย ไม่เป็นภาระให้เจ้าของบ้าน และหากต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนในอนาคตก็สามารถเลือกหาวัสดุในพื้นที่ได้โดยไม่ยุ่งยาก
“เราไม่ได้สเป็กอะไรเป็นพิเศษ ตัวสถาปัตยกรรมทำหน้าที่เป็นโครงกระดูกของบ้านได้ดีก็จบ ผิวภายนอกไม่ต้องแพงหรือไม่แต่งอะไรมาก เราเน้นวัสดุที่เป็น Single Action อย่างภายในเป็นพื้นหินเทอร์ราซโซซึ่งเป็นวัสดุร่วมสมัยที่สุดในโลกและเป็นฟินนิชงานเปียกที่ทำแล้วจบเลย เดินเส้นกราฟิกบ้างแต่ไม่เยอะ เวลาชื้นมากๆ ยังไงพื้นก็แตกอยู่แล้ว ซึ่งคุณหมอคมกริชก็เข้าใจ ส่วนหลังคาเป็นเมทัลชีตรับน้ำหนักได้ดีเลย เวลาใบมะขามใบจามจุรีร่วงก็ปีนขึ้นไปเป่าลมได้ง่ายๆ เราประทับใจกับผู้รับเหมาบ้านนี้มากที่เขาทำงานได้สนุก มีความสร้างสรรค์ และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเจ้าของบ้านจนทำให้งานออกมาดีจริงๆ”


แล้วความสุขจากคนสร้างบ้านก็ยังถ่ายทอดมาสู่เจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดีตามที่คุณหมอคมกริชบอกไว้ว่า “ที่นี่เป็นบ้านพักผ่อนที่ดูแลง่าย ใช้วัสดุธรรมดา ผมมาบ้านนี้ทุกเดือน มาแล้วมีความสุข ไม่มาก็คิดถึง ชอบในธรรมชาติที่อยู่รอบตัว บางทีก็มานั่งเขียนนิยายหรือวาดรูป เพราะชอบถ่ายทอดเรื่องราวธรรมชาติและอยู่ในวัยที่จัดสรรเวลาเองได้แล้ว ต่อไปจะเริ่มมาอยู่ยาวขึ้นและค่อยๆ ทำเกษตร ปลูกสิ่งที่เรากิน ตอนนี้ก็แค่เก็บใบไม้ที่ร่วงอยู่มาหมักเป็นปุ๋ยไปก่อน ปรับตัวเองให้มาใช้ชีวิตง่ายๆ พยายามรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด ยึดถือภูมิสังคมคืออยู่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว”

เจ้าของ : รองศาสตราจารย์ นายแพทย์คมกริช และคุณรัชนีวรรณ ฐานิสโร
สถาปนิก : Sher Maker โดยคุณพัชรดา อินแปลง คุณธงชัย จันทร์สมัคร คุณณัฏฐ์ ตั้งชลทิพย์ และคุณภัทรภร พวงมาลัย
จัดสวน : คุณสุชาติ สุวี
รับเหมาก่อสร้าง | P27 Architecture โดยคุณณัฐภูมิ นันตาบุญ
เรื่อง : ภัทรสิริ โชติพงศ์สันติ์
ภาพ : อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, ณัฐวรรธน์ ไทยเสน
สไตล์ : Suntreeya