บ้านล้อมสวน

บ้านล้อมสวน ในบรรยากาศสงบและสบาย

บ้านล้อมสวน
บ้านล้อมสวน

บ้านล้อมสวน ที่เว้นพื้นที่ตรงกลางไว้เปิดเป็นที่โล่งมองเห็นต้นไม้ ท้องฟ้า แสงแดด ได้รับรู้การเปลี่ยนผ่านของช่วงเวลาในแต่ละวัน  

สถาปนิก : INchan Atelier โดยคุณอินทนนท์ จันทร์ทิพย์

เจ้าของ : คุณโสภาวรรณ บุญนิมิตร และคุณพีรชัย เกิดสินธุ์ 

หน้าบ้านที่ดูเรียบง่ายกลมกลืนกับชุมชนที่อยู่โดยรอบ
ตัวบ้านชั้น 1 กินอาณาเขตเกือบเต็มพื้นที่  มีหลังคาสีดำ ผืนใหญ่ทอดยาวตลอดตัวอาคาร เว้นช่องตรงกลางให้ลม แสง และอากาศถ่ายเทได้สะดวก

เมื่อความสงบคือสิ่งสำคัญของการเริ่มสร้าง บ้านล้อมสวน หลังนี้ คุณโสภาวรรณ บุญนิมิตร และคุณพีรชัย เกิดสินธุ์ เจ้าของบ้านตั้งใจจะให้บ้านนี้เป็นพื้นที่สำหรับลูกๆได้เติบโตและเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน แต่ด้วยทำเลที่อยู่ท่ามกลางความพลุกพล่านของเมืองใหญ่ ทำให้เรื่องราวของบ้านหลังนี้มีความน่าสนใจตั้งแต่การสร้างพื้นที่ให้เหมาะสม เพื่อเป็นความสงบของทั้งกายและใจ

เริ่มต้นจากความพลุกพล่าน

บ้านหลังนี้เป็นบ้านเดี่ยวบนที่ดินขนาด 200 ตารางวา ในย่านบางนา ลึกเข้าไปในซอยที่แวดล้อมไปด้วยอาคารอพาร์ตเมนต์สูง 5-6 ชั้น มีโรงงานขนาดเล็กอยู่ในบริเวณใกล้เคียง และวิถีชีวิตของคนที่อยู่โดยรอบ ความวุ่นวายของผู้คนจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความต้องการอันดับแรกของเจ้าของบ้านคือความสงบ เพื่อให้เหมาะสำหรับการเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวและลูกชายฝาแฝดในวัยกำลังเรียนรู้ โดยมีความตั้งใจที่จะสร้างสิ่งแวดล้อมที่ช่วยส่งเสริมให้รักการอ่านหนังสือ ให้เด็กๆได้เรียนรู้ความงามของศิลปะทั้งของเก่าและงานศิลปะสมัยใหม่ ได้ใกล้ชิดธรรมชาติต้นไม้ใบหญ้าและพื้นที่สีเขียวกลางแจ้ง ทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ได้ผ่านการออกแบบให้สอดรับกันได้อย่างกลมกลืน โดยให้พื้นที่กลางบ้านเป็นคอร์ตหรือสวนขนาดเล็กเปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้า และตัวบ้านโอบล้อมพื้นที่สวนตรงกลางนี้เอาไว้

พื้นที่ส่วนตัวและส่วนกลาง

บ้านที่ดูนิ่งเรียบและกลมกลืนไปกับชุมชนโดยรอบมีหลังคาจั่วสีดำที่ทอดยาวต่อเนื่องจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เมื่อเดินเข้าสู่ภายในบ้านจะพบกับคอร์ตน้ำพุขนาดเล็กที่ช่วยปรับความรู้สึกจากความวุ่นวายด้วยเสียงน้ำ ลม และแสง ก่อนจะเดินเข้าสู่พื้นที่ส่วนอื่นๆภายในบ้าน โดยแยกกันระหว่างส่วนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวกับส่วนที่เป็นพื้นที่ส่วนรวม เนื่องด้วยเจ้าของบ้านทั้งคู่เป็นบุคลากรที่อยู่ในวงการภาพยนตร์ และอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ทำให้มีการใช้พื้นที่บางส่วนของบ้านสำหรับการสอนหนังสือและประชุม จึงต้องการให้ห้อง Screening Room หรือห้องดูหนัง ไม่รบกวนกับส่วนอื่นๆของบ้าน โดยใช้พื้นไม้สีดำเป็นการนำทาง ผ่านประตูบานคู่สีดำ และพื้นกระเบื้องสีเขียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของจุดเปลี่ยนผ่านของพื้นที่และความรู้สึก

เมื่อเดินผ่านประตูเข้าสู่ตัวบ้านจะพบคอร์ตน้ำพุขนาดเล็ก ช่วยปรับอารมณ์ที่วุ่นวายจากภายนอกด้วยเสียงน้ำ ต้นไม้ และแสง ก่อนที่จะเดินเข้าสู่พื้นที่ส่วนอื่นด้านใน
วัสดุพื้นที่แตกต่างกัน ใช้กระเบื้องสีเขียวแทรกระหว่างพื้นไม้สีดำ กับพื้นไม้สีอ่อน เพื่อให้ความรู้สึกแตกต่างและเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงจุดเปลี่ยนผ่านของพื้นที่ส่วนกลางกับพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัว
คอร์ตกลางบ้านเปิดโล่งเป็นสวนขนาดเล็ก มีต้นแจงเป็นต้นไม้ใหญ่วางชิดไปมุมหนึ่งของคอร์ต ได้พื้นที่ลานตรงกลางเพิ่มขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่เดินผ่านจากห้องหนึ่งไปอีกห้องหนึ่งได้มองเห็นต้นไม้ แสงแดด และท้องฟ้า
ห้องดูหนังที่ออกแบบให้ควบคุมแสงได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน มีโต๊ะกลางสีเขียวเป็นจุดเด่นเข้ากับงานภาพเพนต์ของศิลปิน คุณกิติก้อง ติลกวัฒโนทัย

เชื่อมโยงพื้นที่เข้าด้วยกัน

การใช้งานฟังก์ชันต่างๆของบ้านถูกวางเรียงกันล้อมรอบคอร์ต โดยมีต้นแจงเป็นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง และมีทางเดินภายในบ้านล้อมรอบพื้นที่ตรงนี้ไว้ ทำให้ทุกคนสามารถมองเห็นต้นไม้ ท้องฟ้า แสงแดด รับรู้การเปลี่ยนผ่านของช่วงเวลาในแต่ละวัน และมองเห็นกันและกันผ่านต้นไม้ใหญ่ เกิดปฏิสัมพันธ์ของคนในบ้าน ทิศเหนือเป็นส่วนของ All Day Living Area ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางของครอบครัว ที่ทุกคนในบ้านได้มาใช้เวลาร่วมกัน ห้องเปิดโล่งยาวต่อเนื่องกันจากห้องครัวหลักไปจนสุดอีกฝั่งของตัวบ้าน ให้ความรู้สึกผ่อนคลายด้วยการเลือกใช้สีและวัสดุที่ดูอบอุ่น และสามารถเปิดรับแสงสว่างจากภายนอกได้ทั้งสองฝั่ง ภายในห้องรวมหลายฟังก์ชันการใช้งานไว้ด้วยกันตั้งแต่แพนทรี่ โต๊ะรับประทานอาหาร ชุดโซฟาพักผ่อน และด้านในสุดเป็นห้อง Play Room ของเด็กๆ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะสมตามช่วงอายุ และมีบานเลื่อนกระจกใสกั้นพื้นที่สำหรับการใช้งานในอนาคต เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย หรือเด็กๆ สามารถใช้เวลาร่วมกันในห้องนี้ได้ตลอดทั้งวัน

ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่เปรียบเสมือนศาลากลางบ้านวางพื้นที่ใช้สอยเป็นแนวยาวเพื่อให้ทุกคนในบ้านได้มาใช้เวลาร่วมกัน ทั้งสองฝั่งสามารถเปิดหน้าต่างรับลมที่พัดผ่านและมองเห็นวิวต้นไม้ที่อยู่โดยรอบ
ห้องสำหรับลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามการใช้งานในแต่ละช่วงอายุ มีประตูบานเลื่อนกระจกใสใช้กั้นพื้นที่เมื่อต้องการใช้งานโดยไม่รบกวนกัน
มุมนั่งเล่นมองออกไปที่คอร์ตกลางบ้านเห็นวิวต้นไม้ตรงหน้า หน้าต่างบานใหญ่เปิดรับแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ ทำให้ห้องสว่างเหมาะสำหรับกับการพักผ่อน
  โต๊ะรับประทานอาหารวางต่อเนื่องจากแพนทรี่ที่อยู่ด้านในสุด แขวนโคมไฟดีไซน์สวยเพิ่มความน่าสนใจให้มุมนี้
ห้องครัวหลักของบ้านมีอุปกรณ์ทำอาหารครบครัน ตู้เก็บของเต็มพื้นที่ และหน้าต่างที่ช่วยถ่ายเทอากาศและความชื้นได้สะดวก

เตรียมพื้นที่ล่วงหน้าเผื่ออนาคตของลูกๆ

ห้องทำงานชั้น 2 ที่ดูสบายๆ มีโต๊ะทำงานเข้ามุมต่อเนื่องกับโซฟา และโต๊ะประชุมกลางห้อง เพิ่มสีสันด้วยหมอนและเก้าอี้หลากสี ทำให้บรรยากาศของห้องนี้ดูสดใส ข้างๆมีระเบียงขนาดใหญ่เปิดโล่งมองเห็นยอดต้นแจงกลางบ้าน ซึ่งในอนาคตเมื่อลูกๆโตขึ้นและต้องการพื้นที่ส่วนตัวแยกจากกัน ก็สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ชั้น 2 ให้เป็นห้องนอนและพื้นที่พักผ่อนของลูกๆได้ เป็นการวางแผนระยะยาวให้บ้านเหมาะสมกับการใช้งานสำหรับทุกๆคนในครอบครัว

ห้องทำงานชั้น 2 มีทั้งมุมทำงานและมุมพักผ่อนอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เติมสีสันด้วยหมอนและโปสเตอร์หนังที่น่าสนใจ ในอนาคตยังสามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องพักผ่อนเมื่อลูกๆโตขึ้นได้อีกด้วย
แกลเลอรี่และที่เก็บของ มุมแกลเลอรี่บริเวณทางเดินชั้น 2 ติดโปสเตอร์หนังและงานศิลปะที่สะสม และด้านหลังเป็นชั้นสำหรับเก็บของได้อีกด้วย
ห้องนอนใหญ่ให้ความรู้สึกอบอุ่นผ่อนคลายที่นั่งริมหน้าต่างเปิดรับแสงสว่างในช่วงกลางวันและปิดม่านให้มืดสนิทสำหรับการพักผ่อนในยามค่ำคืน
ส่วนแต่งตัวที่ต่อเนื่องมาจากห้องนอน ดีไซน์เรียบง่ายใช้งานได้เต็มพื้นที่
ระเบียงใหญ่ชั้น 2 เปิดโล่งหันหน้าเข้าสู่ คอร์ตกลางบ้านมองเห็นยอดต้นแจงอยู่ใกล้ๆ
ช่องโล่งกลางบ้านเปิดให้แสงแดดส่องถึงสวนด้านล่าง และทำให้อากาศภายในบ้านถ่ายเทได้สะดวก

ความสงบจากภายในบ้าน

สวนคอร์ตกลางบ้านมีต้นแจงต้นใหญ่เป็นจุดศูนย์กลางวางชิดไปมุมหนึ่งของสวนเพื่อให้กิ่งก้านเอนไปตามทิศทางแสงฝั่งตะวันตก ได้พื้นที่ลานตรงกลางกว้างขึ้นสำหรับเด็กๆ และเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ไม่ว่าใครจะเดินไปส่วนไหนของบ้านก็จะมองเห็นธรรมชาติทุกช่วงเวลา ทางเดินรอบคอร์ตนอกจากจะเป็นทางเชื่อมต่อพื้นที่ของบ้านแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเหมือนแกลเลอรี่และชั้นเก็บหนังสือที่เรียงตัวยาวตลอดแนวผนัง จัดวางหนังสือสลับกับงานศิลปะและของสะสม เพื่อให้เด็กๆคุ้นเคยและได้เรียนรู้ ได้เห็นความสวยงามของงานศิลปะและธรรมชาติไปพร้อมๆกัน

แสงและเงาบริเวณทางเดินหลักของบ้านจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาเชื่อมโยงความรู้สึกสงบภายในบ้านกับธรรมชาติที่อยู่รอบตัว
มุมนั่งอ่านหนังสือมีที่นั่งแทรกตัวอยู่ระหว่างทางเดินกับชั้นเก็บหนังสือ ตกแต่งผนังด้วยงานศิลปะที่ทำจากผ้าชาวเขา
ระเบียงข้างบ้านอาศัยชายคาที่ยื่นออกมาช่วยกันแดดในช่วงบ่ายและให้ความเป็นส่วนตัวบดบังการมองเห็นจากคนภายนอก
บานเลื่อนเหล็กดัดสีดำสามารถเปิดโล่งให้ต่อเนื่องกับมุมสวนข้างบ้านหรือเลื่อนปิดได้เพื่อความปลอดภัย
ทางเดินรอบคอร์ตเป็นชั้นเก็บหนังสือเต็มผนังวางผสมกับของสะสมงานศิลปะ ของที่ระลึกจากประเทศต่างๆ
ต้นแจงไม้ประธานของสวนถูกวางไว้ชิดมุมหนึ่งของคอร์ต เพื่อให้กิ่งก้านเอนไปทางทิศตะวันตก ใบที่ละเอียดเป็นพุ่มช่วยบดบังสายตาจากตึกสูงที่อยู่โดยรอบ แต่คนในบ้านยังมองเห็นกันและกันได้
หลังคาสีดำทอดยาวตั้งแต่ทิศตะวันออกไปทิศตะวันตก เกิดเป็นหลังคาจั่วสีดำที่แปลกตาและเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยระแนงสีขาวช่วยบังตาแต่ลมยังพัดผ่านได้

ถึงแม้พื้นที่รอบบ้านจะเป็นย่านพลุกพล่านและมีอพาร์ตเมนต์สูงอยู่ใกล้เคียง แต่ตัวบ้านออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัว ด้วยหลังคาสีดำที่เหมือนกับผ้าคลุมผืนใหญ่ทอดยาวตลอดตัวอาคาร เว้นช่องตรงกลางเพื่อให้แสงและลมพัดผ่านเข้าสู่ภายในบ้านได้ ปกปิดความวุ่นวายภายนอกและได้ความเป็นส่วนตัวภายใน


เรื่อง : jOhe

ภาพ : สมบัติ สุนทรจารุ, Soopakorn Srisakul, สิริวัฒน์ วิจารณ์

เรือนมีสติ ที่มีพื้นที่ยืดเหยียดกึ่งกลางแจ้ง

7×7 House พื้นที่ชีวิตบนความพอดี เปี่ยมธรรมชาติ กลางย่านทองหล่อ