สวนน้ำตกและบ่อปลาในพื้นที่แคบยาว ขนาด 4.50 x 18 เมตร

สวนในพื้นที่แคบๆ นี้ เลือกใช้ต้นไม้ไม่กี่ชนิดเพื่อเลียนแบบสภาพตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้เราดูแลได้ง่ายขึ้น เป็นความโมเดิร์นในธรรมชาติ

“ผมอยากได้สวนทรอปิคัลที่มีบ่อน้ำเพราะอยากเลี้ยงปลาคาร์ปตั้งแต่แรกแล้วครับ ดูอยู่หลายบริษัท แต่ทีมของ คุณเปิ้ล-คเชนทร์  ศรีมาก ตอบกลับมาเร็วและเริ่มทำให้ได้เลยแบบไม่ต้องรอคิวนาน ดูผลงานที่เขาเคยทำก็ยิ่งชอบครับ เป็นสไตล์ที่เราอยากได้ ผมว่าสวนนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นไอเดียให้คนที่มีพื้นที่แคบๆ ก็สามารถจัดสวนป่าได้ครับ” คุณนพ ภูมิไธสง เจ้าของบ้านเกริ่นให้ฟังระหว่างพาชมสวนสวยแห่งนี้

ปัจจุบันไม้เต็งและไม้เทียมราคาไม่ต่างกันมากนัก ไม้เต็งมีอายุใช้งานนานกว่า ส่วนไม้เทียมจะมีอายุใช้งานได้ประมาณหนึ่ง เนื่องจากวัสดุที่ใช้ผสมอาจเสื่อมสภาพบ้าง การใช้ไม้จริงถ้าดูเก่าก็แค่ไสเปิดหน้าไม้ใหม่ ซ่อมแซมง่ายกว่า แต่ถ้าเป็นไม้เทียมการซ่อมอาจต้องรื้อออกทั้งหมด คุณเปิ้ลเลือกใช้ไม้เต็งขนาดหน้า 10 เซนติเมตร เมื่อวางต่อกันแล้วทำให้เกิดร่องที่ค่อนข้างถี่ ซึ่งจะช่วยป้องกันการลื่น โครงสร้างด้านล่างใช้เหล็กกัลวาไนซ์ทั้งหมด

“พื้นที่ข้างบ้านเดิมเป็นสนามหญ้าเรียบๆ โล่งๆ ขนาด 4.50 x 18 เมตร ซึ่งเป็นโจทย์ที่ยากเลยครับ เนื่องจากสเปซแคบมาก หลังจากทำน้ำตกบ่อปลาและทางเดินแล้ว เหลือพื้นที่ปลูกต้นไม้แค่ประมาณเมตรเดียว การวางต้นไม้สร้างเลเยอร์เพื่อใช้เป็นแบ็กกราวนด์สวนค่อนข้างยากมาก เราขุดบ่อเทปูนเกือบเต็มพื้นที่ ใช้เสาเข็มไมโครไพล์ยาว 21 เมตร เท่าความยาวเสาเข็มของบ้านเลยครับ ตอกลึกลงไปถึงชั้นดินดานเพราะบ่อปลาค่อนข้างลึก โครงสร้างต้องแข็งแรง เนื่องจากงานโครงสร้างของสวนบางส่วนอย่างเช่นระเบียงไม้ริมบ่อระดับจะต้องฟิกซ์ต้องนิ่ง โครงสร้างบางส่วนยึดอยู่กับตัวโครงสร้างของบ้าน เพื่อช่วยป้องกันปัญหาการทรุดตัวในอนาคต

ฝั่งซ้ายของลำธารเป็นกำแพงสูงตลอดแนวความยาว มีพื้นที่ปลูกต้นไม้กว้างเพียง 1 เมตร ต้นไม้ใหญ่เลือกปลูกเสม็ดแดง ห้อยเฟินสารพัดชนิดเพื่อช่วยพรางตาให้เห็นกำแพงแค่เพียงบางส่วน พื้นที่ด้านล่างค่อนข้างร่มมาก เลือกปลูกไม้ใบเป็นกลุ่มเพียงไม่กี่ชนิด เช่น มอนสเตอร์รา บีโกเนีย ไผ่ฟิลิปปินส์ และเสน่ห์จันทร์ดำ
ทำระเบียงไม้เต็งชิดตัวบ้านเพื่อใช้เป็นทางเดินเลาะลำธารและบ่อปลาไปยังที่นั่งพักผ่อนด้านใน สังเกตได้ว่าเสม็ดแดงที่นี่ฟอร์มต้นจะสวย แตกกิ่งโน้มเข้าหากันเป็นซุ้ม ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าคุณเปิ้ลเจอต้นสวยๆ และราคาไม่แพงจะซื้อเก็บไว้ แล้วค่อยเลือกนำมาใช้ให้เหมาะกับสวนแต่ละที่

“บ่อปลาคาร์ปอยู่ด้านในสุดของสวน ให้อยู่ติดกับห้องทำงานเพื่อให้คุณนพมองเห็นลูกรักขณะทำงาน น้ำตกอยู่ด้านหน้าบ้านเพื่อให้เหมาะสมตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งคุณนพก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้นะครับ แต่ผมออกแบบเผื่อไว้ให้ ด้วยพื้นที่ค่อนข้างแคบและมีกำแพงสูงอยู่ด้านข้าง ถ้าทำน้ำตกสูงจะเกิดเสียงดังและเสียงก้อง แทนที่จะเกิดอารมณ์สุนทรี อาจกลายเป็นหนวกหูแทนครับ ผมออกแบบให้หัวน้ำตกไม่สูงมาก วางหินลดหลั่นกันเหมือนเป็นชั้นน้ำตกย่อยๆ ให้น้ำค่อยๆ ไหลตามลำธารลงมาจบที่บ่อปลา บริเวณน้ำตกลำธารเลือกใช้เป็นหินฟองน้ำทั้งหมด เลียนแบบมาจากสภาพในธรรมชาติซึ่งส่วนใหญ่บริเวณน้ำตกลำธารมักจะเป็นหินแค่เพียงชนิดเดียวครับ

น้ำตกบริเวณหน้าบ้านออกแบบให้ไม่สูงมากจนเกินไป ด้วยลักษณะของพื้นที่ที่แคบและมีกำแพงสูงล้อม หากทำชั้นน้ำตกสูงอาจเกิดเสียงดังกังวานสร้างเสียงรบกวนได้ วางตำแหน่งหินหลอกให้รู้สึกเหมือนกับว่าน้ำไหลมาจากที่ไกลๆ

“ส่วนที่ยากเพิ่มขึ้นมาอีกเรื่องคือการจัดวางต้นไม้ครับ ภายในบ้านเป็นดับเบิลสเปซและผนังเป็นกระจกที่มองเห็นสวนเป็นมุมกว้าง การจัดวางไล่สเต็ปของต้นไม้ในสวนต้องทำให้เห็นได้จากทุกมุมมองภายในบ้าน แต่พื้นที่ปลูกต้นไม้เรามีแค่ 1 เมตร ทิศตะวันออกอยู่ด้านหลังของกำแพงสูงข้างบ้าน บริเวณสวนจะได้รับแสงแดดช่วง 10.00 น. – 15.00 น. หลังจากนั้นเงาของตัวบ้านก็จะบังสวนอีก ซึ่งเป็นปัญหาในการเลือกใช้ต้นไม้พอสมควร ผมเลือกใช้ไม้ในร่มเป็นส่วนใหญ่ ส่วนไม้ใหญ่เลือกต้นที่สูงพอจะบังกำแพงได้ แต่ต้องมีพุ่มใบโปร่ง ไม่บังแสงมากจนเกินไป อย่างเช่นเสม็ดแดงครับ

ถัดจากน้ำตกลงมา จัดวางหินลดหลั่นเป็นสเต็ปเสมือนเป็นชั้นย่อยๆ ของน้ำตก ลำธารลึกเพียง 40-50 เซนติเมตร แต่ยาวเกือบ 10 เมตร เรียงรายไปด้วยหินฟองน้ำที่มีมอสส์ เฟินกนกนารีขึ้นปกคลุมเขียวชอุ่ม
สวนนี้มีพื้นที่แคบและให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับสวนมาก คุณเปิ้ลอยากให้สวนดูเป็นธรรมชาติเร็วที่สุดจึงเลือกใช้หินฟองน้ำ เนื่องจากมอสส์ขึ้นได้ง่าย สามารถขุดและปลูกต้นไม้ลงไปได้ ช่วยสร้างพื้นที่สีเขียวได้ง่ายและเร็วกว่าหินชนิดอื่น ตั้งใจปล่อยให้ต้นไม้เติบโตตามธรรมชาติโดยตัดแต่งให้น้อยที่สุด 

“ในธรรมชาติลำธารคือร่องเขาส่วนที่ลึกที่สุด ต้นไม้จะขึ้นอยู่ริมลำธาร ต้นก็จะแตกกิ่งไปหาสเปซที่ว่าง ทำให้กิ่งของต้นไม้ทั้งสองฝั่งโน้มเข้าหากันเป็นซุ้ม และอีกอย่างที่ผมสังเกตเห็นคือในป่าต้นไม้มักเติบโตอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ผมจึงเลือกใช้เสม็ดแดงเป็นไม้ใหญ่เพียงชนิดเดียว ส่วนต้นไม้ในระดับล่างรองลงมาใช้ไม้ใบในร่มที่อยู่ได้ในระดับแสง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือน้อยกว่า เช่น มอนสเตอรา ไผ่ฟิลิปปินส์ เสน่ห์จันทร์ดำ ไทรปัตตาเวีย กนกนารี บีโกเนีย มอสส์น้ำ ตอนที่เราลงต้นไม้ใหญ่และหมุนหาตำแหน่งที่สวยงามเหมาะสม เรามองเห็นแล้วว่าด้านไหนที่มีกิ่งมากก็จะแตกพุ่มใบมาก ด้านล่างจะได้รับแสงน้อยเราก็ต้องเลือกชนิดต้นไม้ที่จะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพแสงครับ สวนนี้เลือกใช้ต้นไม้ไม่กี่ชนิดเพื่อเลียนแบบสภาพตามธรรมชาติ ซึ่งส่งผลให้เราดูแลได้ง่ายขึ้น สวนดูเรียบง่าย ผมเรียกว่าเป็นความโมเดิร์นในธรรมชาติครับ

แม้พื้นที่สวนจะมีหน้ากว้างเพียง 4.50 เมตร แต่ก็เลือกลงต้นไม้ขนาดใหญ่เพื่อสร้างร่มเงา ให้บรรยากาศของสวนป่า โดยเลือกใช้เสม็ดแดงที่มีทรงพุ่มใบโปร่งและแตกกิ่งไม่มากนัก

“ผมเรียนและทำงานศิลปะแนวเรียลลิสติก อะไรที่ดูขัดแย้งกับธรรมชาติผมพยามจะไม่ทำครับ ออกแบบสวนให้ใกล้เคียงดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ใส่ใจในดีเทลเล็กๆ น้อยๆ ไม่ค่อยปล่อยผ่าน ใช้การถอดรหัสจากพื้นที่เรื่องทิศทางแสง ตำแหน่งการจัดวาง ลักษณะนิสัยและความต้องการของต้นไม้ ปลูกให้ดูเหมือนกับขึ้นเองตามธรรมชาติ คิดว่าพื้นที่นี้มีป่าอยู่ก่อน แล้วเรามาปลูกบ้านเพิ่มเข้าไปทีหลัง โดยส่วนตัวผมพยายามหนีงานดีไซน์ของตัวเองครับ คือพยายามออกแบบสวนแต่ละบ้านให้ไม่ซ้ำกัน ให้สวนของแต่ละบ้านมีเอกลักษณ์ที่จดจำได้ครับ”  

นิตยสาร บ้านและสวน ฉบับเดือนพฤศจิายน 2566
เจ้าของ : คุณนพ ภูมิไธสง
ออกแบบ : บริษัทบ้านธรรมสวน จำกัด โดยคุณคเชนทร์ ศรีมาก โทรศัพท์ 08-9925-8897
เรื่อง : วชิรพงศ์ หวลบุตตา
ภาพ : สิทธิศักดิ์ น้ำคำ
ผู้ช่วยช่างภาพ : ปริยวิศว์ ณ ถลาง