ตอนนี้ น้ำส้มสายชู ก็ได้กลายเป็นส่วนผสมดีเด่นที่ครองใจคุณพ่อบ้านแม่บ้านหลายคนไปแล้วเรียบร้อย เพราะด้วยประโยชน์ที่ครอบจักรวาล นำมาทำความสะอาดได้แทบทุกอย่าง จนอาจลืมไปว่าความเป็นกรดของน้ำส้มสายชู ก็ไม่ได้เป็นมิตรสำหรับทุกพื้นผิว ทางที่ดีมาเช็คให้ชัวร์กันก่อนใช้งานดีกว่าค่ะว่า มีพื้นผิวหรือการทำความสะอาดแบบไหนที่ไม่ควรใช้น้ำส้มสายชูกันบ้างตาม my home ไปดูกัน !
1 . เคาน์เตอร์หิน

พื้นผิวที่ทำมาจากหินประเภทต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหินแกรนิต หินอ่อน ฯลฯ นั้นมีความสวยงามเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ที่สำคัญยังเป็นพื้นผิวที่มีรูพรุนและเกิดรอยได้ง่ายด้วย ถ้าหากเจอส่วนผสมที่มีความเป็นกรดสูงและกัดกร่อนได้ดีอย่างน้ำส้มสายชูเข้าไป พื้นผิวสวย ๆ ของโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ครัวที่ทำมาจากหินสวย ๆ คงได้รับผลเสียจากการถูกทำลายโดยกรดที่อยู่ในน้ำส้มสายชู เพราะฉะนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์หรือพื้นที่ทำมาจากหินเลยค่ะ
2 . พื้นไม้เคลือบ

พื้นไม้เคลือบสวย ๆ ภายในบ้านที่ตั้งใจปูเอาไว้อาจไม่ได้เงาสวยอยู่ทนนานได้เท่าที่ควรถ้าหากเจอกรดจากน้ำส้มสายชูเข้าไป เพราะพื้นไม้ประเภทนี้จะมีสารเคลือบเงาโดยเฉพาะที่ทำให้หน้าไม้มีความเงางาม การใช้สารที่เป็นกรดไปเช็ดทำความสะอาดจะทำให้สารเคลือบเหล่านี้หลุดล่อน และนั่นไม่ได้ทำให้พื้นผิวที่สวยงามต้องโดนทำลายไปเพียงอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อเนื้อไม้ด้านในจนทำให้ความคงทนลดลงไปด้วยนั่นเองค่ะ
3 . พื้นกระเบื้องและยาแนว

ตรงส่วนพื้นกระเบื้องและยาแนวนั้นอาจมีสิ่งสกปรกและคราบสะสมอยู่มากกว่าที่คิด และพื้นผิวตรงส่วนนี้ก็อาจบอบบางกว่าที่คิดด้วยเหมือนกันค่ะ ยิ่งถ้าเป็นในห้องน้ำที่เกิดคราบราดำได้ง่ายกว่าบริเวณอื่น ๆ ก็ยิ่งไม่ควรใช้น้ำยาขัดห้องน้ำหรือสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูงมาทำความสะอาด การเทน้ำส้มสายชูลงไปยังกระเบื้องและร่องยาแนวโดยตรงจึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเหมือนกันค่ะ เพราะพื้นผิวตรงจุดสามารถเกิดการหลุดล่อนจนเสียหายได้ง่ายแต่กลับซ่อมแซมได้ยากกว่านั่นเอง
4 . พื้นผิวคอนกรีต

สำหรับการแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์หรือพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากปูนเปลือยจะไม่มีชั้นสีหรือสารต่าง ๆ เคลือบทับ ทำให้พื้นปูนต้องเจอกับคราบและสารต่าง ๆ โดยตรง อีกทั้งยังเป็นพื้นผิวที่มีรูพรุนจึงต้องระวังเรื่องการกัดกร่อนเป็นพิเศษ โดยปกติพื้นผิวปูนเปลือยหรือคอนกรีตนั้นทำความสะอาดได้ไม่ยากอยู่แล้วถ้าหากไม่ปล่อยทิ้งไว้นาน จึงอาจไม่จำเป็นต้องใช้ส่วนผสมที่มีฤทธิ์เป็นกรดอย่างน้ำส้มสายชู ไม่อย่างนั้นพื้นผิวที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติก็อาจได้รับผลเสียตามมาได้ค่ะ
5 . ห้ามใช้ร่วมกับน้ำยาฟอกขาว

สิ่งที่ต้องระวังเลยก็คือการใช้น้ำยาฟอกขาวในการทำความสะอาด เพราะนี่เป็นสารเคมีที่เข้มข้นและมีฤทธิ์การขจัดคราบมากกว่าส่วนผสมอื่น ๆ ที่สำคัญเลยคือการห้ามนำมาใช้ร่วมกับ น้ำส้มสายชู หรือผสมกันเป็นอันขาด เพราะส่วนผสมทั้งสองชนิดนี้จะทำให้เกิดแก๊สพิษที่ส่งผลทั้งการทำลายเนื้อผ้าและเกิดผลเสียถ้าหากสูดดมเข้าไป ยิ่งในขั้นตอนการทำความสะอาดเสื้อผ้าที่สามารถใช้ได้ทั้งสองอย่างก็ต้องระวังเป็นพิเศษและเลือกใช้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
6 . เลี่ยงการใช้ร่วมกับสบู่น้ำมัน

ไม่ว่าจะเป็นน้ำส้มสายชูหรือสบู่น้ำมันต่างก็เป็นตัวช่วยทำความสะอาดได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ส่วนผสม 2 อย่างนี้ ควรใช้แยกกันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ แน่นอนว่าไม่ควรนำน้ำส้มสายชูและสบู่มาใช้คู่กันในการทำความสะอาดอยู่แล้ว เพราะแทนที่จะช่วยขจัดคราบและสิ่งสกปรกก็อาจกลับกลายเป็นไม่ได้มีส่วนช่วยในการทำความสะอาดแม้แต่นิด ทางที่ดีอย่าลืมเช็คกันก่อนทำความสะอาดและใช้ส่วนผสมต่าง ๆ ให้เหมาะกับคราบที่ต้องการขจัดออกนะคะ
7 . หน้าจออุปกรณ์ต่าง ๆ

ถึงแม้ว่าน้ำส้มสายชูจะเป็นอีกส่วนผสมที่นำไปเช็ดกระจกให้สะอาดใสได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากเป็นหน้าจอของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ อย่างแท็บเล็ตหรือสมาร์ทโฟนก็หลีกเลี่ยงเลยดีกว่าค่ะ เพราะพื้นผิวของหน้าจอเหล่านี้มักมีสารเคลือบอยู่ การใช้น้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาดอาจทำให้สารเคลือบหรือสารกันรอยเสียหายได้ ซึ่งจะต่างจากกระจกบริเวณฉากในห้องน้ำหรือหน้าต่างที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่