บ้านปูนโมเดิร์น ที่ดูอบอุ่นผ่อนคลายด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้

บ้านปูนโมเดิร์น ที่เจ้าของบ้านได้เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ของเดิมให้เข้ากับบ้านหลังนี้ที่ดูทันสมัยได้อย่างแยบยล นำมาซึ่งบรรยากาศแสนอบอุ่น และผ่อนคลาย

บริเวณหน้าบ้านเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ใบฝอยอย่างต้นหูกระจง เพื่อพรางสายตาจากด้านนอก ความสูงของต้นไม้ช่วยให้ผู้อาศัยสามารถมองเห็นความเขียวขจีของพรรณไม้ได้จากชั้นบน ส่วนประตูบ้านเลือกใช้ไม้ตีระแนงแนวตั้งทำรั้วและประตูแบบเรียบง่าย แต่ดูน่าสนใจด้วยสีและลวดลายของไม้ที่แตกต่างกันในแต่ละแผ่น

ประตูระแนงไม้ — ออกแบบรั้วบ้านให้เป็นรั้วไม้ระแนงดูอบอุ่น แต่แฝงความทันสมัยและเรียบง่ายเอาไว้ โดยใช้การเรียงไม้เป็นเส้นตรง และแบ่งจังหวะจากเฟรมเป็นกริดตารางด้วยเฟรมเหล็กกล่องสีขาว

เลือกใช้วัสดุที่ดูแลง่ายเป็นหลัก อย่างปูนเปลือยหรือผนังปูนทาสีขาว แล้วใช้ชานไม้บางส่วน ทำให้บ้านอบอุ่นและเรียบง่าย

เมื่อ บ้านปูนโมเดิร์น หลังนี้สร้างเสร็จ การนำของจากบ้านหลังเดิมมาตกแต่งให้เข้ากับบรรยากาศบ้านหลังใหม่ ถือเป็นอีกปัญหาที่หลายคนคิดไม่ตก เพราะใช่ว่าของทุกชิ้นจะได้รับการต้อนรับและดูลงตัวท่ามกลางบรรยากาศใหม่ๆ แต่สำหรับ คุณเจี๊ยบ – อโณมา วิริยะลัภพะ เธอมีวิธีเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ของเดิมให้เข้ากับ บ้านปูนโมเดิร์น ที่ดูทันสมัยได้อย่างแยบยล

เดิมทีครอบครัวคุณเจี๊ยบเคยอาศัยอยู่ที่คอนโดมิเนียม แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยและจำนวนสมาชิกในครอบครัว ซึ่งประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูกสาว 3 คนนั้นไม่สมดุลกัน เธอจึงเริ่มมองหาบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคน หมู่บ้านนี้จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่สมาชิกในครอบครัวเตรียมไว้ในอนาคต

การสร้าง บ้านปูนโมเดิร์น หลังใหม่ครั้งนี้ คุณเจี๊ยบได้ตัดสินใจให้ คุณก้องกัลป์ วิริยะลัภพะ ญาติผู้เป็นสถาปนิก เจ้าของบริษัท Elementseden Design Studio เข้ามามีบทบาทและช่วยจัดสรรบ้านให้ลงตัวตามที่ตนเองต้องการ บ้านสามชั้นบนพื้นที่ 500 ตารางเมตร ได้ออกแบบให้ชั้นล่างเป็นพื้นที่ส่วนรวม สมาชิกทุกคนสามารถใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆได้หลากหลาย โดยไม่มีส่วนปิดกั้นพื้นที่ออกจากกัน แต่เลือกใช้การจัดตำแหน่งต่างๆอย่างแพนทรี่และชุดโต๊ะรับประทานอาหารให้เหมาะสม เอื้อประโยชน์ให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวสามารถทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวก ถัดมาเป็นมุมนั่งเล่นเล็กๆและห้องรับแขกบริเวณด้านข้าง สามารถเปิดประตูบานเลื่อนเพื่อเชื่อมต่อไปสู่เรือนหลังเล็กซึ่งเป็นที่พักของคุณย่า ทั้งยังต่อเนื่องไปยังส่วนครัวไทยหลังบ้านได้ด้วย

มุมเล่นเปียโน — ทางขึ้นชั้น 2 ออกแบบให้มีมุมนั่งเล่นเล็กๆใต้บันได จัดวางโซฟาสีเขียวเพื่อให้บ้านดูสดใส แต่ไม่โดดออกจากภาพรวมของบ้านมากนัก พื้นผิวภายในบ้านใช้ปูนขัดมันและผนังปูนทาสีขาว บ้านจึงดูสว่างและโปร่งมากยิ่งขึ้น

โต๊ะรับประทานอาหารไม้ขนาดใหญ่จับคู่กับชุดเก้าอี้สีขาว สร้างบรรยากาศให้ดูนุ่มนวลด้วยแสงไฟวอร์มไลต์ โดยแขวนโคมไฟเพดานแบบไล่ระดับกัน ช่วยให้มุมรับประทานอาหารดูอบอุ่นน่าใช้งาน

แพนทรี่ — เลือกใช้ชุดหน้าบานตู้สีขาวผสมกับหน้าบานไม้เพื่อให้ครัวดูสะอาดน่าใช้งาน และนำตู้เก็บของจากบ้านเก่ามากัดสีเดิมออกและทำสีใหม่ วางต่อเนื่องกับโต๊ะรับประทานอาหาร ดูกลมกลืนกับโทนสีภายในห้อง

มุมรับแขก — ออกแบบผนังห้องรับแขกให้ดูโปร่ง เปิดรับแสงสว่างให้ส่องเข้ามาด้านในด้วยการทำหน้าต่างกระจกใสทั้งสองด้าน แล้วจัดวางชุดโซฟารับแขกไม้สไตล์เรโทร โดยเลือกใช้เบาะผ้าเฉดสีเอิร์ธโทนเป็นหลัก เพื่อช่วยให้ห้องดูอบอุ่นและเข้ากันได้ดีกับรูปแบบของบ้าน

สำหรับการประยุกต์เฟอร์นิเจอร์เก่าให้เข้ากับบรรยากาศบ้านใหม่นั้น คุณเจี๊ยบได้นำตู้โชว์เก่าและโต๊ะไม้เก่ามาขัดกัดสีเดิมออก แล้วนำมาจัดรวมกับเฟอร์นิเจอร์ใหม่ได้อย่างลงตัวไม่ขัดเขิน นอกจากนี้ ในหลายๆ มุมของบ้านยังเต็มไปด้วยภาพวาดสีน้ำฝีมือของเจ้าของบ้าน คุณเจี๊ยบเล่าว่าผลงานทั้งหมด เธอวาดขึ้นระหว่างเดินทางท่องเที่ยว แล้วนำความประทับใจนั้นมาถ่ายทอดผ่านปลายพู่กันจนได้ภาพศิลปะสวยๆใช้ประดับตกแต่งเสริมให้บ้านดูพิเศษและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

นำตู้ไม้เก่ามากัดสีเดิมออกสองรอบและทำสีใหม่แบบเคลือบด้าน จะได้ตู้ไม้ที่มีสีอ่อนลง ดูสวยงามและน่าใช้

พื้นที่ชั้น 2 ประกอบด้วยห้องนอน 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว มีโถงกลางเป็นมุมสตูดิโอวาดภาพ ใช้เก็บหนังสือและอุปกรณ์วาดภาพสีน้ำต่างๆ ส่วนชั้น 3 จัดพื้นที่และแบ่งสัดส่วนให้เหมือนชั้น 2 มีห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัวทุกห้อง และยังมีห้องโถงกลางอเนกประสงค์ใช้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วย พื้นที่ทั้งสองชั้นเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อินเข้ามาผสมผสาน เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าทุกตารางเมตร

บันไดไม้ — แขวนโคมไฟห้อยเพดานที่โถงบันได โดยเลือกใช้สายสีขาวขนาดใหญ่เพื่อกันสายไฟแกว่งพันกัน

ห้องน้ำปูนเปลือย — ห้องน้ำชั้นบนแยกพื้นที่ส่วนแห้งและเปียกออกจากกัน ก่อเคาน์เตอร์ปูนขัดมันเพื่อให้ดูกลมกลืนกับผนัง โดดเด่นด้วยกระจกบานเปิดขนาดใหญ่ที่มีหน้าบานพ่นทรายสลับใส เพื่อเปิดให้แสงสามารถลอดเข้ามาได้เต็มที่ ช่วยให้ห้องน้ำไม่อับชื้น

ห้องนอนไม้ — ห้องนอนทุกห้องใช้พื้นและชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้รูปแบบเดียวกัน พื้นไม้ช่วยให้ห้องนอนดูอบอุ่นและไม่รู้สึกเย็นเท้า และเลือกใช้ชุดเฟอร์นิเจอร์แบบบิลท์อิน เพื่อช่วยให้ห้องมีพื้นที่โล่งเหลือใช้ไม่ทึบตันเกินไป

และเพื่อให้ดูกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์เก่า คุณเจี๊ยบได้ให้ความสำคัญกับรูปแบบและดีไซน์ของเฟอร์นิเจอร์บิลท์อินเป็นสำคัญ เช่น สั่งทำชุดตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้งจากไม้ในสไตล์สแกนดิเนเวีย สีหน้าบานไม้ทั้งชุดจึงมีรูปแบบเดียวกัน

ส่วนพื้นและผนังบ้านเลือกใช้ปูนเปลือยขัดมัน เพิ่มความดิบด้วยการเดินท่อร้อยสายไฟลอยเพื่อโชว์เนื้อแท้ของวัสดุ ซึ่งสื่อถึงความเรียบง่ายที่เจ้าของมองว่าสบายตา ไม่จำเป็นต้องเนี้ยบหรือเก็บรายละเอียดหมดทุกสิ่งบ้านก็ดูสวยได้

กำแพงบ้านดูน่าสนใจขึ้นด้วยการตีโครงเหล็กกล่อง ขนาด 1 x 3 นิ้ว ชิดกับกำแพงปูนให้สูงขึ้นอีก 1 เมตร ติดไม้ระแนงสีธรรมชาติ ทาสีเหล็กกล่องสีขาวเพื่อเน้นให้ซี่ไม้ระแนงดูโดดเด่นขึ้น

ผนังบริเวณทางเดินรอบบ้าน ตีโครงไม้ระแนงจากรั้วเดิมให้สูงจรดฝ้า เชื่อมต่อกับหลังคาเพื่อกันแดดและฝน แล้วมุงแผ่นพอลิคาร์บอเนตทับกันสาดอีกชั้น

เมื่อทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง สมาชิกในครอบครัวจึงเริ่มขยับเข้ามาใช้ชีวิตใน บ้านปูนโมเดิร์น หลังนี้ แล้วค่อยๆเติมของตกแต่งทั้งจากของที่มีอยู่เดิมและของที่ซื้อใหม่ แม้ว่าการเริ่มต้นใช้ชีวิตในบ้านหลังใหม่อาจต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักระยะหนึ่งเพื่อปรับจังหวะชีวิต แต่พวกเขาก็ยังสามารถใช้พื้นที่ส่วนตัวเพื่อทำสิ่งที่แต่ละคนรักได้อย่างมีความสุข ภาพการใช้ชีวิตภายในบ้านหลังใหม่จึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นออกเดินทางของทุกคนอีกครั้ง