รวมตัวช่วยถูพื้นให้สะอาด ไม่เหนียวเท้าหรือทิ้งกลิ่นคาวไว้

แค่ถูพื้นหลาย ๆ รอบหรือใช้น้ำยาสารพัดแบบนั้น อาจไม่ได้ทำให้พื้นบ้านออกมาหอมสะอาดที่สุดเสมอไป เพราะขนาดออกแรงถูจนเต็มที่ก็ยังมีกลิ่นคาวหลงเหลืออยู่ หรือไม่ว่าจะถูด้วยน้ำยาแบบไหนก็ยังทำให้พื้นเหนียวอยู่ดี วันนี้สารพัดปัญหาในการ ถูพื้น ด้วยเคล็ดลับจาก บ้านและสวน ที่จะทำให้พื้นบ้านของทุกคนออกมาลื่นสะอาด เดินสบายเท้า พร้อมกลิ่นหอมฟุ้งหลังถูเสร็จ

1 . พื้นหอมสดชื่นด้วยน้ำยาจากเปลือกผลไม้

อยากให้บ้านมีกลิ่นหอมสบาย ๆ ไม่มึนหัว ก็สามารถผสมน้ำยาจากเปลือกผลไม้แบบ Homemade ใช้เองได้ โดยเปลือกผลไม้ที่นำมาใช้ได้นั้นก็จะเป็นพวก ส้ม หรือ มะนาว เพราะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี เริ่มจากนำเปลือกผลไม้ที่เหลือใช้มาใส่ไว้ในโหลและเติมน้ำส้มสายชูลงไปให้พอท่วม จากนั้นก็ปิดฝาให้สนิท และทิ้งไว้ 3 วัน เมื่อครบกำหนด จึงค่อยเปิดโหลออกมา และนำน้ำยาเปลือกผลไม้ที่ได้นี้ ไปผสมกับน้ำในอัตราส่วน 1:3 เพื่อถูพื้นให้สะอาด และหอมสดชื่น หรือนำไปใช้แทนน้ำยาปรับผ้านุ่มได้อีกด้วย

2 . สเปรย์เช็ดพื้นไม้ลามิเนตจากส่วนผสมในบ้าน

พื้นไม้ลามิเนต เป็นวัสดุที่ไม่ถูกกับความเปียกชื้น ถ้าหากใช้ผ้าที่ชุ่มเกินไปมาถูบ่อย ๆ ก็จะทำให้เกิดการบวม หรือหลุดร่อนได้ การบิดผ้าให้หมาด หรือใช้สเปรย์ค่อย ๆ ฉีดพ่นลงบนผ้า จึงเป็นวิธีการทำความสะอาดที่ดีกว่า ซึ่งถ้าอยากได้สเปยร์สำหรับทำความสะอาดพื้นลามิเนตนั้น ก็ทำได้ไม่ยาก ส่วนผสมหลักก็จะใช้น้ำส้มสายชู แอลกอฮอล์ และน้ำต้มสุกในปริมาณที่เท่า ๆ กันมาผสมลงในขวดสเปรย์ แต่ถ้าอยากให้มีกลิ่นหอมเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อย ก็อาจหยดน้ำมันหอมระเหย หรือผสมน้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปเล็กน้อย

3 . ถูพื้น ให้สะอาดไร้กลิ่นคาว ด้วยน้ำส้มสายชู

ถูพื้น

น้ำยาทำความสะอาดพื้นแบบ Homemade หลาย ๆ สูตรนั้น มักจะต้องมีน้ำส้มสายชูผสมอยู่ด้วยเสมอ นั่นก็เพราะว่าน้ำส้มสายชู มีส่วนช่วยทั้งในเรื่องของการขจัดคราบ เชื้อโรค และกลิ่นต่าง ๆ แม้จะนำมาผสมน้ำเปล่าเพียงอย่างเดียว ก็ยังสามารถถูพื้นให้สะอาดได้ ถ้าหากมีกลิ่นคาวหลังถูพื้น หรืออยากให้พื้นบ้านสะอาดยิ่งขึ้น ก็สามารถผสมน้ำส้มสายชูในอัตราส่วน 1:3 ลงไปในน้ำ และนำมาถูพื้นอีกรอบได้ กลิ่นของน้ำส้มสายชูจะค่อย ๆ จางหายไปเองเมื่อปล่อยให้พื้นแห้งสนิท

4 . การทำแผ่นทำความสะอาดพื้นแบบใช้ซ้ำ

ถูพื้น

ถ้าไม่อยากซื้อแผ่นทำความสะอาดพื้นที่ต้องใช้แล้วทิ้ง ให้กลายเป็นขยะอยู่ตลอด ก็สามารถหาผ้าไมโครไฟเบอร์ ที่มีขนาดใกล้เคียงกันมาใช้แทนได้ เมื่อใช้งานเสร็จ ก็แค่ซักทำความสะอาด และนำกลับมาใช้ใหม่ ส่วนน้ำยาที่ใช้นั้นก็อาจทำเองแบบง่าย ๆ โดยใช้น้ำส้มสายชู และน้ำเปล่าอย่างละ 1 ถ้วยตวง มาผสมกัน จากนั้นปิดท้ายด้วยการเติมน้ำยาล้างจานลงไปอีก 1 ช้อนโต๊ะ เท่านี้ก็จะได้น้ำยาทำความสะอาดพื้น ที่สามารถเทใส่ไว้ในกระปุก เก็บผ้าไมโครไฟเบอร์ให้พร้อมหยิบใช้ หรือจะค่อย ๆ ผสมใหม่ในแต่ละครั้ง และนำผ้าไมโครไฟเบอร์มาชุบก็ได้เหมือนกัน

5 . ขจัดความมันบนพื้น ด้วยน้ำยาล้างจานและน้ำอุ่น

ปัญหาพื้นมัน เป็นอีกอย่างที่น้ำยาถูพื้นทั่วไป อาจเอาไม่อยู่ ยิ่งถ้าเป็นบ้านที่มีเด็ก ๆ ในวัยกำลังซนหรือทำกิจกรรมจนเลอะคราบมันตลอด ก็อาจขจัดคราบได้ไม่หมด แม้จะถูพื้นใหม่ไปกี่รอบก็ตาม คราบมันแบบนี้จึงต้องใช้น้ำอุ่น และน้ำยาล้างจานมาช่วย เพราะทั้ง 2 อย่างเป็นส่วนผสมที่ขจัดคราบมันในปริมาณมากได้ดีที่สุด แค่บีบน้ำยาล้างจานผสมลงไปในน้ำเล็กน้อย ก็สามารถนำมาถูเพื่อขจัดคราบมันที่เหนียวติดพื้นได้ แต่การใช้น้ำร้อน หรือน้ำอุ่น ทำความสะอาดพื้นนั้นควรจะต้องระวังเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย จึงอาจต้องค่อย ๆ ผสมทีละน้อยและนำไปราดทีละจุดหรือชุบน้ำอย่างระมัดระวัง

6 . การ ถูพื้น ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ

ถูพื้น

การทำความสะอาดพื้น ด้วยน้ำยาที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะ เริ่มกลายเป็นเรื่องที่จำเป็นมากขึ้น เพราะน้ำยาถูพื้นสูตรทั่วไป อาจเน้นการขจัดฝุ่น และให้กลิ่นหอมมากกว่า โดยสิ่งที่หลายคนเคยชิน และอาจลืมไปก็คือการรอเวลา หรือการปล่อยให้พื้นเปียกทิ้งไว้ อย่างน้อยสัก 5 – 10 นาที หลังถูเสร็จ เพื่อให้น้ำยาฆ่าเชื้อได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ซึ่งถ้ารีบถูออกด้วยน้ำสะอาดทันที หลังถูด้วยน้ำยาเสร็จก็อาจทำให้พื้นยังไม่สะอาดเท่าที่ควร ไหน ๆ ก็ได้ลงมือถูพื้นทั้งทีมาใช้เวลาเพิ่มอีกสักนิด เพื่อให้พื้นบ้านสะอาดอย่างเต็มที่

วันหมดอายุของน้ำยาทำความสะอาด

ช็คก่อนใช้ ! งานบ้านแบบไหนห้ามใช้น้ำส้มสายชูบ้าง

น้ำยาปรับผ้านุ่ม กับหน้าที่ลับ ๆ นอกเหนือการซักผ้า