Pride กับดอกไม้ที่แฝงความหมายไว้

Pride Month เทศกาลสำคัญของกลุ่ม LGBTQ+ วันนี้เรามาทำความรู้จักกับดอกไม้ที่มีหมายแอบแฝงในความเป็นมาของกลุ่มผู้มีความหลากลายทางเพศ ที่หลายคนยังไม่รู้

pride ดอกกุหลาบ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักที่หลายคนคุ้นเคยกันดี และยังถือเป็นสัญลักษณ์แทนกลุ่มคนข้ามเพศ (Trans-People) ด้วยเช่นกัน ดอกกุหลาบจึงสื่อถึง ความรัก ความสง่างาม ความอ่อนเยาว์ ความยินดี และความเสน่หา

ดอกแพนซี ก่อนเกิดเหตุการณ์ปราบปรามกลุ่ม LGBTQ+ ครั้งใหญ่ที่บาร์ ‘สโตนวอลล์ อินน์’ประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1950-1960 แดร็กควีน (Drag Queen) เป็นที่นิยมในการสร้างความบันเทิงตามคลับใต้ดินหรือบาร์เกย์อย่างมาก ซึ่งรูปแบบการแสดงรู้จักกันในชื่อ “Pansy Caze” ที่ได้อินสไปร์มาจาก “ดอกแพนซี” นั่นเอง ซึ่งดอกแพนซีนี้มีความหมายสื่อถึง ความรักแบบเสน่หา ความเห็นอกเห็นใจ และการมีอิสระทางความคิด

ดอกคาเนชั่นสีเขียว ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำตัวของ “ออสการ์ ไวล์ด” นักเขียนคนสำคัญของโลก ที่เคยถูกตัดสินให้จำคุกในข้อหามีพฤติกรรมรักร่วมเพศในสมัยวิกตอเรียน ซึ่งเขามักจะติดดอกคาเนชั่นสีเขียวบริเวณปกเสื้อเป็นประจำ นอกจากนี้ดอกคาเนชั่นสีเขียวยังมีความหมาย ความอ่อนโยน การมีสุขภาพที่ดี ความหลากหลายทางเพศ และธรรมชาติอีกด้วย

ดอกลาเวนเดอร์ ในช่วงศตวรรษที่ 19 Lavender lads’ ซึ่งมีความหมายว่า “หนุ่มลาเวนเดอร์” เป็นคำที่ใช้กล่าวถึงผู้ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ ที่ในสมัยนั้นถูกมองว่าผิดศีลธรรม นอกจากนี้ยังมีคำว่า ‘Streak of Lavender’ ว่าเป็นคำใช้เรียก “ผู้ชายที่มีบุคลิกท่าทางนุ่มนิ่มเหมือนผู้หญิง” ซึ่งถ้อยคำเหล่านี้ล้วนนี้มีนัยที่แสดงออกถึงการเหยียดเพศ จนปัจจุบันมีการรณรงค์ไม่ใช่คำเหล่านี้แล้ว ซึ่งดอกลาเวนเดอร์เองก็สื่อความหมายถึง ความจงรักภักดี ความสง่างาม และความบริสุทธิ์

ดอกไวโอเลต ในช่วงศตวรรษที่ 20 ดอกไวโอเลตถูกเชื่อมโยงเข้ากับความรักความสัมพันธ์แบบหญิงรักหญิง หรือในปัจจุบันเรียกกันว่า “เลสเบี้ยน” ได้รับอิทธิพลมาจากตำนานรักร่วมเพศของ แซฟโฟ (Suppho) กวีหญิงยุคกรีกโบราณ ดอกไวโอเลตนั้นสื่อถึงความรักความศรัทธา ความจริงใจ และความรักที่นิรันดร์


ภาพ : คลังภาพบ้านและสวน , freepik , pixabay