Rosemalicious สวนสมุนไพรฝรั่งใน โฮมสเตย์ อันแสนอบอุ่น

หลังไปใช้ชีวิตเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ประเทศออสเตรเลียนานเกือบ 10 ปี และตั้งใจกลับมาอยู่เมืองไทยเมื่อ 18 ปีที่แล้ว ป้าติ๋ม – คุณธนพร ไฮนซ์ แห่ง Rosemary House โฮมสเตย์ แสนอบอุ่น ได้เลือกอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นบ้านหลังใหม่ที่แวดล้อมด้วยพื้นที่เกษตรกรรมและทิวเขาอันงดงาม

จุดเริ่มต้นของ Rosemary House
“พื้นที่เดิมมีลักษณะเป็นเนินมาตั้งแต่แรกแล้วค่ะ เราแค่ปรับเล็กๆ น้อยๆ ปลูกบ้านทำสวนตามแลนด์สเคปเดิมที่มี บ้านสีขาวหลังเล็กๆ บนเนินเป็นภาพจำสมัยป้าอยู่ที่ออสเตรเลียด้วยค่ะ เดิมมีอาคารเล็กๆ แค่ 3 หลัง ปลูกไว้อยู่กันเองกับญาติๆ เมื่อก่อนเป็นสวนกุหลาบซึ่งมีปัญหาโรคแมลงเยอะ ดูแลค่อนข้างมาก ต้องใช้สารเคมี เวลาดอกโรยหรือเราตัดดอกไปก็เหลือแต่ก้านแต่ใบ รู้สึกว่าสวนดูโทรม ไม่สวย สุดท้ายต้องยอมรื้อออกเกือบหมด ตอนนั้นก็เริ่มปลูกโรสแมรี่บ้างแล้วนะคะ สามีเป็นคนบอกว่าเป็นต้นไม้ที่มีประโยชน์ ยูเอามาคุกกิ้งได้นะ สมัยนั้นโรสแมรี่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เพื่อนบ้านที่เป็นชาวออสเตรเลียนำมาปลูก แล้วคนสวนเขาเพาะพันธุ์ขาย ป้าก็ซื้อมาลองปลูกที่บ้านดูบ้างค่ะ ยิ่งปลูกก็ยิ่งหลงใหลในสรีระของเขา ยิ่งแตกยอด ยิ่งยาว ยิ่งมีเสน่ห์ ยิ่งสวย ชอบใบเล็กๆ น่ารัก มีสีเขียวตลอดปี ไม่มีวันเหี่ยวโรยรา แม้ว่าจะตัดแต่งต้น กิ่งก็ยังดูพลิ้วอ่อนไหว

สวนรูปแบบผสมผสานที่เลือกใช้สมุนไพรฝรั่งเป็นหลัก มีโรสแมรี่หลายสายพันธุ์เป็นต้นไม้เด่น ด้วยลักษณะการเติบโตแตกกิ่งในแนวตั้งดูมีเสน่ห์แปลกตา แซมด้วยไม้ดอกสีชมพู ฟ้า และม่วง เช่น แซลเวีย โลบิเลีย เติมสีเทาของลาเวนเดอร์ สนบลูไอซ์ ใช้สีโทนเย็นเพื่อสร้างภาพรวมให้เป็นสวนสไตล์คันทรีแบบยุโรป
สวนขนาด 1 ไร่ที่มีลักษณะเป็นเนินสโลป จัดสวนและปลูกอาคารตามสภาพพื้นที่เดิม ซึ่งช่วยให้การระบายน้ำเป็นไปได้ดี เป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของพืชกลุ่มสมุนไพรฝรั่งที่ไม่ชอบน้ำขังแฉะ
ด้านล่างอีกฝั่งของเนินเป็นสนามหญ้ากว้าง ปลูกต้นไม้เป็นกลุ่มแบ่งแปลงเป็นระเบียบ พื้นที่ดูโล่งสบายตา ยังคงใช้โรสแมรี่ทั้งชนิดพุ่มและชนิดเลื้อย รวมถึงลาเวนเดอร์เป็นต้นไม้หลัก เติมไม้ดอกหายากอย่างพยับหมอกสีขาว ช่วยให้มุมนี้ดูไม่เขียวจนเกินไป

“ป้าไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับการจัดสวนเลย อาศัยความรักความชอบและประสบการณ์ที่เคยท่องเที่ยวต่างประเทศ เป็นภาพจำที่นำมาใช้ในการจัดสวนที่บ้าน อิงความเป็นธรรมชาติเป็นหลัก แล้วใส่จินตนาการความชอบลงไป ป้าโพสต์รูปในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีคนมากดไลก์เป็นพัน และบอกต่อกันไป คนก็เริ่มรู้จักและขอเข้ามาดูที่บ้านกันมากขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ

“เมื่อ 5 ปีก่อน สวนบ้านป้ามีโอกาสได้ลงหนังสือและออกรายการบ้านและสวน ก็ยิ่งเป็นที่รู้จักมากขึ้น ป้าเลยเริ่มทำโฮมสเตย์เต็มรูปแบบอย่างจริงจัง ใช้ชื่อว่า ‘Rosemary House’ ตอนนั้นต้นไม้ก็ไม่ได้แน่นขนาดนี้ ค่อยๆ ปรับค่อยๆ เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ทำไปทีละเล็กทีละน้อย คิดแค่ว่าอยากปลูกต้นไม้เยอะๆ จะทำอย่างไรไม่ให้เห็นพื้นดินเลยค่ะ (หัวเราะ) พอเรามีความรู้มากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น สวนก็สวยขึ้นตามกาลเวลา

มุมมองของโซนสนามหญ้าจากอีกด้าน ปลูกสนอริโซนาไซเปรสต้นสูงอยู่ด้านหลังเป็นฉากหลังของสวน อีกด้านทำเป็นกำแพงปูนเพื่อกำหนดขอบเขตของสวน ตั้งรูปปั้นกามเทพและม้านั่งสีขาวให้อารมณ์แบบสวนอังกฤษ มีพิทูเนียดอกสีม่วงกอใหญ่ช่วยเติมสีสันให้มุมสวน

“ตอนนี้ป้าปลูกพวกสนเพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ มีสนบลูไอซ์ไซเปรส สนอริโซนาไซเปรส สนบลู เริ่มจากซื้อต้นเล็กๆ มา แล้วก็มาตัดชำ ขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนเอาเอง นำมาปลูกในสวนจนเป็นต้นใหญ่อย่างที่เห็น ปลูกไม้ดอกแปลกๆ ที่ไม่ต้องดูแลมาก มีแซลเวียพันธุ์ใหม่ๆ โลบิเลีย ต้นกระเทียม กุหลาบ ปรับเปลี่ยนสวนย้ายนั่นปลูกนี่ไปเรื่อยๆ สไตล์สวนเป็นรูปแบบผสม ทั้งเมดิเตอร์เรเนียน อังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส รวมๆ กันค่ะ ป้าขอตั้งชื่อเองว่าเป็นสไตล์ ‘My Love Garden Style’ เป็นสวนคันทรีที่ผสมระหว่างสวนฝรั่งเศสกับสวนอิตาลี มีกลิ่นหอมจากสมุนไพรฝรั่งหลากหลายชนิด ทั้งโรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ ทาร์รากอน รวมไปถึงสนและไม้ดอกต่างๆ ค่ะ

กำแพงเพ้นต์ที่ได้น้องๆจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เคยมาพักโฮมสเตย์แล้วคุยกันถูกคอ ขอมาช่วยทำให้ ฉากเพ้นต์เหล่านี้ใช้สำหรับบล็อกสายตา ใช้เป็นจุดสิ้นสุดของสวน ในอนาคตป้าติ๋มตั้งใจจัดสวนให้ล้อกับภาพวาดบนกำแพง เช่น ในภาพเป็นสวนฝรั่งเศสก็จะจัดสวนสไตล์ฝรั่งเศส

“ป้าดูแลสวนทำทุกอย่างเอง ตื่นเช้ามาก็รดน้ำไล่แมลงไม่ให้มากวนต้นไม้ เวลารดน้ำจะรดให้โชกเลย ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนก็จะรดเพิ่มในช่วงบ่าย ส่วนฤดูหนาวที่นี่ลมค่อนข้างแรง น้ำระเหยไวก็ต้องรดน้ำเพิ่มให้ด้วยค่ะ ช่วงฤดูฝนไม่ค่อยมีปัญหานะคะ ยกเว้นถ้าฝนตกหนักมากๆ ก็อาจมีใบร่วงบ้าง พยายามใช้สารเคมีให้น้อยที่สุด คอยรดน้ำพรวนดินให้เขาเติบโตงอกงาม เอาใจใส่เขา ที่สำคัญคือต้องเตรียมดินปลูกให้ดี ป้าใช้ดิน 1 ส่วนผสมกับมะพร้าวสับ 2 ส่วน เพื่อให้ดินร่วนระบายน้ำดี ส่วนปุ๋ยก็ให้สลับกันไป มูลไส้เดือนบ้าง ปุ๋ยสูตรเสมอบ้าง (15-15-15) ต้นไม้ก็เหมือนกับคนค่ะ เราชอบกินอาหารหลายๆ อย่าง ไม่กินอะไรซ้ำๆ ต้นไม้ก็เหมือนกัน ป้าจะหว่านปุ๋ยให้ทุก 15 วัน ให้น้อยๆ แต่ให้บ่อยๆ หว่านเสร็จก็ต้องรีบฉีดน้ำให้ปุ๋ยไหลเจือจางลงไปในดินเพราะปุ๋ยเค็ม และระวังอย่าให้ปุ๋ยโดนโคนต้น ต้องโรยให้ห่างโคนต้นไว้ ปุ๋ยอินทรีย์ใส่เยอะไม่ค่อยอันตรายแต่ปุ๋ยเคมีต้องระวังค่ะ ที่นี่ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องโรคแมลง ปกติเฮิร์บพวกนี้ก็มีกลิ่นไล่แมลงป้องกันตัวเองอยู่แล้ว สังเกตกุหลาบที่ป้าปลูกไหมคะว่าไม่มีโรคแมลงรบกวนเลย วิธีนี้นำไปประยุกต์ใช้กับสวนในบ้านทั่วไปได้นะคะ ปลูกพวกเฮิร์บในสวนจะช่วยไล่แมลงได้ค่ะ”

เดิมบริเวณนี้เป็นที่โล่ง ป้าติ๋มปรับให้เป็นเนินสโลปตามแนวพื้นที่เดิม ปลูกสมุนไพรหลากหลายชนิดคละกันเป็นแปลงขนาดใหญ่ แต่ยังคงเลือกใช้โรสแมรี่หลากหลายสายพันธุ์เป็นพระเอกหลัก แซมด้วยสน และต้นไม้ใบสีเทาเงิน เช่น โอลีฟที่เพาะขยายพันธุ์เอง

ขยับขยายสู่อาณาจักรใหม่ Rosemalicious by Rosemary House
“ทีนี้พอปลูกต้นไม้ไปเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่บ้านเดิมค่อนข้างแน่น ก็เกิดความมันในอารมณ์อยากขยับขยายหาพื้นที่ใหม่ สร้างความท้าทายใหม่ๆ ให้ตัวเอง มีของเล่นใหม่ได้ทำอะไรสนุกๆ เรายังมีที่ดินอีก 4 ไร่ อยู่ห่างจากสวนเดิมประมาณ 5 กิโลเมตร ป้าซื้อเก็บไว้นานแล้วค่ะ แต่เพิ่งจะมาเริ่มทำสวนจริงจังช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ยังคงลงมือทำทุกอย่างกันเอง สไตล์สวนก็ยังคล้ายกับที่สวนเดิมค่ะ” ป้าติ๋มเล่าที่มาของสวนใหม่ที่ใช้ชื่อว่า Rosemalicious by Rosemary House ให้ฟัง

Rosemalicious by Rosemary House สวนแห่งใหม่บนเนื้อที่ 4 ไร่ อยู่ไม่ไกลจากสวนเดิม ป้าติ๋มตั้งใจสร้างเป็นจุดเช็กอินใหม่ของปากช่อง
มุมสวนด้านหน้าติดกับอาคารต้อนรับ เลือกปลูกไม้ดอกเป็นกลุ่มใหญ่ บิ๊กบลูแซลเวีย (S. ‘Big Blue’) ดอกสีม่วงเข้มอยู่ด้านหน้า บลูเสจสีม่วงอ่อนอยู่ด้านหลัง

“เวลาเรานั่งมอง เห็นคนที่มาเดินชมสวน ถ่ายรูปเล่น มารับประทานอาหาร มาพักผ่อน เขามีความสุขกันมาก ป้าตั้งใจทำให้ที่นี่มีมุมถ่ายรูปเยอะๆ มีที่ให้เดินเล่น ได้พักผ่อน ทำอาหารอร่อยๆ ใช้เวลาเสพสุขอยู่ที่นี่ได้โดยไม่ต้องออกไปไหน โดยจะมีบ้านพักแค่ 2 หลังค่ะ ด้านหน้าจะเป็นโซนร้านอาหารที่รับจองเท่านั้น เราไม่ใช่ร้านอาหารแบบมืออาชีพ อยากทำอะไรที่สนุก ถ้าเยอะเกินไปป้าว่าจะไม่สนุกแล้ว ได้นั่งพูดคุย นั่งดื่มไวน์กับลูกค้า แค่นี้ก็มีความสุขแล้วค่ะ ป้าว่าปลายปีนี้ก็น่าจะพร้อมต้อนรับทุกคนได้อย่างเต็มที่

“ความสุขของคนเรามี 2 อย่าง คือความสุขในสโคปแคบๆ ที่เรามองด้วยสายตา ดูแลสวน ทำอาหาร นั่งจิบกาแฟอยู่ในสวนที่บ้านเรา ความสุขที่สองคือไม่ต้องไปแข่งขันกับใคร ทำในสิ่งที่เรารัก เราอยากทำ เมื่อใดที่เกิดการแข่งขันเมื่อนั้นจะเกิดความทุกข์ ยึดความสุขของตัวเองเป็นหลักนะคะ” ป้าติ๋มให้ข้อคิดทิ้งท้ายก่อนขอตัวไปทำอาหารอร่อยๆ เลี้ยงต้อนรับพวกเรา

อีกมุมหนึ่งของสวนตั้งใจปลูกต้นไม้ดอกไม้เป็นแปลงขนาดใหญ่ มีทั้งลาเวนเดอร์ที่ปลูกเลี้ยงง่าย แต่ต้องระวังเรื่องน้ำและความชื้น รวมไปถึงแปลงกุหลาบที่มีทั้งพันธุ์บิชอปคาสเซิล (Bishop’s Castle) และกุหลาบมอญ ที่ป้าติ๋มนำดอกไปแปรรูปทำอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มาเยือน
อาคารรับรองด้านหน้าทางเข้าสวนที่ป้าติ๋มออกแบบเอง รวมไปถึงเฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะ เก้าอี้ที่ออกแบบสั่งทำขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะ ในอนาคตตั้งใจใช้เป็นร้านอาหารที่เปิดรับเฉพาะลูกค้าจองเท่านั้น

นอกจากกิจการโฮมสเตย์ที่มีคิวยาวต้องจองล่วงหน้าแล้ว ป้าติ๋มยังเปิดจองเข้ามารับประทานอาหารในสวน ลิ้มรสเมนูเด็ดที่บรรจงเสิร์ฟให้เป็นพิเศษ โดยใช้วัตถุดิบหลักที่ปลูกเองในสวน อาณาจักร Rosemary House ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรในสวนที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบอดี้มิสต์ ชาวเวอร์เจล สบู่ ยาสีฟัน น้ำสกัดเข้มข้นจากโรสแมรี่ ลาเวนเดอร์ และกุหลาบ ที่สามารถนำไปผสมน้ำชงดื่ม ผักดอง ไซรัปและแยมกุหลาบ หรืออยากซื้อต้นไม้สวยๆ ในราคาไม่แพง อยากปรึกษาขอความรู้ อยากให้ป้าติ๋มช่วยออกแบบสวนสไตล์ป้าติ๋มให้ สามารถติดต่อผ่านทาง Rosemary HOUSE โฮมสเตย์ ป้าติ๋มยินดีต้อนรับทุกท่านครับ