เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านคงไม่เคย ทำความสะอาดเครื่องซักผ้า กันแน่ ๆ เพราะอาจจะคาดเดาว่าผงซักฟอกคงเข้าไปทำความสะอาดอยู่แล้ว เราต้องทำเองด้วยเหรอ ขอบอกเลยค่ะว่าความคิดเช่นนั้นผิด ! ล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า
เพราะภายในถังซักผ้าจะมีพวกคราบผงซักฟอก และน้ำยาปรับผ้านุ่ม ตกค้างอยู่ เมื่อรวมกับเหงื่อไคล ก็จะกลายเป็นคราบเหนียว ๆ ติดอยู่ตามผนังของถังซักล้าง เมื่อมีความชื้นเข้าไปผสมอีก เครื่องซักผ้าของเราก็กลายร่างเป็นต้นกำเนิดของเชื้อราชั้นดีเลยล่ะค่ะ รู้แบบนี้ไม่ควรรอช้า ตาม my home มาลงมือ ล้างเครื่องซักผ้าฝาหน้า ให้สะอาดกริ๊บในทุก ๆ ส่วนกันเลยดีกว่าค่ะ
ขั้นตอนทำความสะอาดตัวเครื่องด้านนอก
เครื่องซักผ้าด้านนอกเมื่อเกิดคราบแล้วมองเห็นได้ง่าย ชนิดของคราบที่เกิดขึ้นในบริเวณนี้ส่วนมากจะเป็นคราบน้ำที่กระเด็นออกจากตัวถัง เวลาเรานำผ้าไปซัก หรือเป็นคราบผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เมื่อสังเกตุเห็นแล้วควรทำความสะอาดทันที

1. ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นผสมกับน้ำยาทำความสะอาดเช็ดภายนอกเครื่องซักผ้า (ถ้ามีรอยเปื้อนให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดทันที)
2. หมั่นปัดกวาดเช็ดถูบริเวณที่วางเครื่องซักผ้าป้องกันความอับชื้น ต้นกำเนิดของเชื้อรา
ขั้นตอนทำความสะอาดตัวเครื่องด้านใน
พื้นที่เล็ก ๆ ส่วนนี้ไม่ควรมองข้ามความสะอาดไปเลยนะคะ เพราะภายในเครื่องซักผ้าและลิ้นชักสำหรับใส่ผงซักฟอกน้ำยาปรับผ้านุ่มนี้มักจะเจอกับปัญหาคราบผงซักฟอกที่ละลายไม่หมดตกค้างอยู่ หากปล่อยไว้นานเข้า ผงซักฟอกก็จะรวมตัวกับคราบไคลจากเสื้อผ้า และเกิดเป็นเชื้อราในเวลาต่อมาได้ค่ะ ทางที่ดีควรทำความสะอาดเดือนละครั้ง

1. ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำอุ่นขัดทำความสะอาดขอบยาง
2. ใช้แปรงสีฟันชุบน้ำอุ่นขัดบริเวณลิ้นชักสำหรับใส่ผงซักฟอก
3. ดึงลิ้นชักใส่ผงซักฟอกออกมา โดยการกดตัวล็อกลง ทำความสะอาดช่องใส่ลิ้นชัก โดยใช้แปรงสีฟันถูคราบสกปรกออก เก็บลิ้นชักเข้าที่เดิม
ขั้นตอนทำความสะอาด ตัวกรองระบายน้ำทิ้ง
เอ๊ะ ! จำได้ว่ามีเศษเหรียญอยู่ในกระเป๋ากางเกง ทำไมซักผ้าเสร็จแล้ว ไม่เจอเหรียญตกอยู่ในถังซักเลยล่ะ ไม่ได้มีใครมาแอบหยิบไปหรอกค่ะ แต่เหรียญและเศษผม ที่ติดมากับเสื้อผ้านั้น ไหลลงมารวมตัวรอการเก็บกู้อยู่ที่ตัวกรองในปั๊มระบายน้ำทิ้ง ด้านล่างเครื่องซักผ้าค่ะ หากไม่ทำออก การระบายน้ำออกจาตัวเครื่องก็จะติดขัด ทำให้น้ำไหลย้อนกลับมาล้น เลอะเทอะบริเวณพื้นที่ซักล้าง สร้างงานทำความสะอาดเพิ่มไปอีกนะคะ

1. วางถังรองน้ำที่ไหลออกมา เพื่อป้องกันน้ำหกลงพื้น แล้วเปิดฝาของแผ่นครอบด้านล่างเพื่อดึงท่อระบายน้ำฉุกเฉินออกมา
2. ดึงจุกปิดท่อระบายน้ำฉุกเฉินออกเพื่อระบายน้ำที่ค้างอยู่ แล้วจึงหมุนเปิดตัวกรองปั๊มระบายน้ำ
3. หมุนตัวกรองปั๊มวงกลมเปิดออก
4. นำเศษผม เศษเหรียญ สิ่งสกปรกออกจากตัวกรองปั๊ม ล้างทำความสะอาด หมุนตัวกรองปั๊มกลับเข้าสู่ตำแหน่งเดิม ปิดจุกท่อระบายน้ำฉุกเฉิน จัดเก็บท่อระบายน้ำฉุกเฉินเข้าที่ ปิดฝาครอบ
ขั้นตอนทำความสะอาดตัวถังด้านใน
ถังซักด้านในที่เห็นว่าสะอาดนั้น จริง ๆ แล้วแอบซ่อนคราบสกปรกไว้ในที่ ๆ เรามองไม่เห็นอีกเยอะเลยล่ะค่ะ ไม่ควรนิ่งนอนใจ ปล่อยให้คราบร่าเริงอยู่ในที่อโคจร ไม่อย่างนั้นแล้ว เสื้อผ้าที่เราตั้งใจอยากให้สะอาด อาจจะได้ของแถมมาเป็นกลิ่นเหม็นอับติดมาก็ได้นะคะ

1. ใส่เบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวง หรือหากต้องการทำความสะอาดคราบเชื้อราให้ใส่น้ำส้มสายชู 3 ถ้วยตวงในช่องใส่ผงซักฟอก เปิดระบบทำความสะอาดเครื่องซักผ้า
2. จากนั้นเปิดฝาถังทิ้งไว้เพื่อระบายกลิ่นออกเช็ดเครื่องซักผ้าทั้งด้านในและด้านนอกให้แห้งสนิท
tips
• ถ้าไม่มีระบบทำความสะอาดให้ตั้งระบบน้ำสูงสุด ปั่น 3 นาที เพื่อให้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูละลาย แล้วหยุดเครื่องไว้2 ชั่วโมง เสร็จแล้วเปิดเครื่องทำงานต่อ (ซัก ล้าง ปั่นแห้ง)
• ถ้าคุณอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีน้ำกระด้างมาก อาจมีคราบหินปูนสะสมอยู่ในส่วนที่มองไม่เห็นซึ่งคราบหินปูนเหล่านี้ทำความสะอาดได้ยาก จึงควรดูแลทำความสะอาดเป็นประจำ เพื่อป้องกันเครื่องซักผ้าทำงานผิดปกติเนื่องจากการอุดตันจากคราบหินปูน
• ถึงแม้ถังซักของเครื่องซักผ้าจะทำจากเหล็กที่ไม่เป็นสนิม แต่จุดสนิมเล็ก ๆอาจเกิดขึ้นได้ถ้ามีวัตถุชิ้นเล็ก ๆ (ที่หนีบกระดาษ เข็มกลัด) ตกอยู่ในถังซัก
• ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์สำหรับจุดไฟหรือน้ำยาที่มีส่วนผสมของเมทิลแอลกอฮอล์ทำความสะอาด
• หลังจากที่เครื่องซักผ้าจ่ายผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มเข้าถังซักแล้ว จะเหลือสิ่งตกค้างอยู่ในลิ้นชัก ควรทำความสะอาดทุกครั้งโดยการฉีดน้ำเข้าไป
เรื่อง : อรพรรณ วัจนะเสถียรกุล
ภาพ : อุ้ม เชาวนปรีชา
เรียบเรียง : ออ-ร-ญา