รีไฟแนนซ์บ้าน

รีไฟแนนซ์บ้านอย่างไร..ให้ประหยัดเงินในกระเป๋า!

รีไฟแนนซ์บ้าน
รีไฟแนนซ์บ้าน

รีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือ รีเทนชั่น (Retention) แบบไหนดีกว่ากัน

รีไฟแนนซ์บ้าน

สำหรับผู้ที่ผ่อนบ้านมาครบ 3 ปี ตามสัญญาเงินกู้บ้านแล้ว ถ้าเราไม่คิดทำอะไรเลย ก็คงต้องทนผ่อนค่างวดต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าเงินต้นหมด โดยก็ต้องเสียดอกเบี้ยแพงขึ้นให้กับธนาคาร ดังนั้นเราจึงต้องหาทางลดดอกเบี้ยโดยด่วน ซึ่งก็มีทั้งวิธีการรีไฟแนนซ์ (Refinance) คือ การชำระเงินกู้ที่มีอยู่เดิมด้วยเงินกู้ใหม่ โดยเปลี่ยนไปใช้สถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้น้อยลง และการรีเทนชั่น (Retention) หรือการขอเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับธนาคารเดิม

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์

อยู่ที่การมีโอกาสเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการหรือธนาคารต่างๆได้หลากหลายกว่า เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุดในเงื่อนไขที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น แต่ก็มีค่าใช้จ่ายจิปาถะในการรีไฟแนนซ์ใหม่ เช่น ค่าธรรมเนียมการจดจำนองที่ดิน   ค่าจัดการสินเชื่อตามสัญญาใหม่ รวมถึงความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารต่างๆ

ส่วนข้อดีของรีเทนชั่นคือ

ความสะดวกรวดเร็วในการขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อนุมัติเร็ว ไม่ยุ่งยากในการเตรียมเอกสาร และมักไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่างๆเหมือนการกู้ใหม่  แต่ดอกเบี้ยอาจลดไม่มากเมื่อเทียบกับการรีไฟแนนซ์ไปยังสถาบันการเงินแห่งใหม่ ซึ่งการทำรีเทนชั่น บางธนาคารอาจกำหนดวงเงินกู้คงเหลือไม่ต่ำกว่า 5 แสนบาท หรือ 1 ล้านบาท ผู้กู้จึงต้องคำนวณเองว่าวงเงินกู้ที่เหลือกับการรีไฟแนนซ์แบบใดจะคุ้มค่ากว่ากัน

สรุปว่า ประโยชน์ของการรีไฟแนนซ์บ้านก็คือ การทำให้เราได้ดอกเบี้ยที่ถูกลง ช่วยลดภาระการผ่อนเงินงวดให้น้อยลง และในช่วงที่ดอกเบี้ยมีแนวโน้มสูงขึ้น การรีไฟแนนซ์เพื่อไปรับโปรโมชั่นอัตราดอกเบี้ยคงที่ ก็เป็นวิธีหนึ่งในการป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ควบคุมไม่ได้นั่นเอง ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านใหม่ทั้งหมด จะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ราวๆ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินกู้ บางกรณีเราสามารถประหยัดค่าธรรมเนียมในการจดจำนองใหม่ได้ ถ้าเราเลือกที่จะใช้บริการกับธนาคารเดิม และหากพิจาณาดีแล้วว่า การรีไฟแนนซ์แบบใดคุ้มค่าและช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ก็ลงมือลุยได้เลยครับ


ติดตามข้อมูลดีๆจากบ้านและสวนได้ที่นี่