บ้านอิฐ เรียบง่ายและอยู่สบาย

บ้านอิฐ ทรงสี่เหลี่ยมหลังนี้ตั้งอยู่ในนครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ด้วยการออกแบบที่คำนึงถึงสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น ทำให้เราสัมผัสได้ทั้งความงามจากการเปิดรับแสงธรรมชาติและความเย็นสบายจากสายลมที่พัดมาตลอดเวลา

เจ้าของบ้านคือ Mr. Tung Do และ Mrs.Lien Dinh คู่แต่งงานใหม่ที่อยากได้ บ้านอิฐ หลังเล็ก มีพื้นที่ใช้งานที่เรียบง่ายและสอดประสานกันอย่างลงตัว ทั้งสองได้เห็น Termitary House ผลงานการออกแบบของบริษัท Tropical Space ซึ่งได้รับรางวัล Brick Award 2016 (และอีกหลายรางวัล) ด้วยความสนใจและชื่นชมในวิธีคิด รูปแบบ ตลอดจนรูปลักษณ์ของตัวบ้าน จึงตัดสินใจให้บริษัทนี้มาออกแบบและสร้างบ้านภายใต้งบประมาณที่จำกัด

บ้านอิฐ

Ms.Tran Thi Ngu Ngon และ Mr.Nguyen Hai Long สองผู้ก่อตั้ง Tropical Space เล่าถึงแนวคิดในการออกแบบบ้านให้ฟังว่า “เราต้องการสร้างพื้นที่ซึ่งสามารถนำพาและเชื่อมโยงให้คนและธรรมชาติได้กลับมาอยู่ร่วมกัน พื้นที่ซึ่งเป็นธรรมชาติและเข้าใจได้ง่าย เพราะสิ่งเหล่านี้สร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้มนุษย์ เป็นความงามตามธรรมชาติที่เข้าถึงส่วนลึกของจิตใจคนได้อย่างที่พวกเขาเองก็นึกไม่ถึงด้วยซ้ำ”

บ้านอิฐ
ผนังอิฐโปร่งของบ้าน นอกจากปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้แล้ว ลมยังสามารถพัดเข้ามาในบ้านได้เกือบตลอดเวลา
บ้านอิฐ
ฝั่งทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของบ้านออกแบบให้มีระยะระหว่างกําแพงกับสวนเพื่อสร้างลําดับของแสงจากพื้นที่สว่างสู่พื้นที่สลัวภายในบ้าน ระยะห่างระหว่างกําแพงกับตัวบ้านยังช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดได้อีกด้วย

บ้านอิฐ

เคยมีคำกล่าวว่ามีเกลันเจโลไม่ได้แกะสลักรูปปั้นเดวิดจากก้อนหิน สิ่งที่เขาทำคือนำสิ่งที่ไม่ใช่เดวิดออกไปจากก้อนหินก็เท่านั้น เช่นเดียวกับบ้านนี้ที่ดูภายนอกเหมือนจะเป็นบ้านสไตล์ดิบๆ แต่แท้จริงแล้วเป็นความตั้งใจที่จะสกัดเอาสิ่งเกินเลยและสิ่งเติมแต่งต่างๆออกไปจากความเป็น “สถาปัตยกรรม” ผลงานการออกแบบส่วนใหญ่ของ Tropical Space มักเลือกใช้วัสดุอย่างอิฐมอญเป็นหลัก นอกเหนือจากความชื่นชมในรูปลักษณ์ ยังมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่านั้น เพราะนี่เป็นการแสดงเนื้อแท้ของวัสดุพื้นถิ่นเวียดนาม โดยผู้ออกแบบตั้งใจศึกษาคุณลักษณะของวัสดุให้ถ่องแท้และพยายามหาวิธีใช้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งวิธีการเรียงอิฐ ลักษณะการเปิดช่องลม ช่องแสง และคุณสมบัติในการเก็บกักความชื้นเอาไว้ในอาคาร

บ้านอิฐ
เลือกใช้เหล็กข้ออ้อยเป็นโครงสร้างบันไดเพื่อประหยัดพื้นที่ ทั้งยังป็นการแยกโครงสร้างบันไดกับตัวบ้านออกจากกันทำให้งานก่อสร้างง่ายขึ้นและสะดวกต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
บ้านอิฐ
ผู้ออกแบบเลือกทําช่องเปิดทั้งที่ผนังและเพดานเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้บ้านได้อย่างลงตัว

จากภายนอก ตัวบ้านเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายก้อนอิฐขนาดมหึมา แต่ผ่านการคิดคำนวณถึงเรื่องแดด ลม และฝนมาเป็นอย่างดี บ้านหันไปทางทิศเหนือซึ่งสามารถรับแสงได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ร้อนจนเกินไป จึงมีการเรียงผนังอิฐให้โปร่งในพื้นที่รับแขกชั้นล่าง ส่วนด้านทิศตะวันออกและตะวันตกจะมีแนวกำแพงที่อยู่ห่างจากบ้านเล็กน้อย เพื่อช่วยกรองแสงอาทิตย์ไม่ให้สัมผัสตัวบ้านโดยตรง แต่ให้แสงสว่างผ่านการสะท้อนจากแนวผนังอิฐโปร่งและช่องแสงด้านบนแทน ซึ่งเข้าถึงในทุกส่วนของบ้าน นอกจากนี้กำแพงยังเป็นเสมือนช่องให้ลมเข้าและออก ประกอบกับการปลูกต้นไม้ใหญ่ ก็ทำให้บ้านหลังนี้เย็นสบายตลอดทั้งวัน

อิฐไม่ใช่วัสดุอมความร้อนเหมือนคอนกรีตอย่างที่หลายคนเข้าใจ ด้วยความพรุนของผนังอิฐจึงสามารถกักเก็บความชื้นที่เกิดขึ้นในยามเช้าเอาไว้แล้วระเหยเป็นไอเย็นในยามเที่ยงได้ รวมถึงทําหน้าที่เป็นเหมือนฉนวนกันความร้อนให้บ้าอีกด้วย
บ้านอิฐ
ออกแบบพื้นที่ใช้งานให้เหลื่อมกันทั้งมุมนั่งเล่น โต๊ะกลางสําหรับทํางานและรับประทานอาหาร มินิโฮมเธียเตอร์ ส่วนเตรียมอาหาร และครัว นับเป็นการจัดสรรพื้นที่เล็กๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพคล้ายการจัดผังคอนโดมิเนียม
อย่างบ้านหลังนี้สถาปนิกได้ออกแบบช่องเปิดบนเพดานเป็นช่องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากนัก แล้วปิดทับด้วยแผ่นอะคริลิกใส ให้สามารถมองขึ้นไปเห็นท้องฟ้าได้เลย

แม้จะเป็นบ้านที่ดูแข็งกระด้าง แต่ด้วยความเข้าใจในการเชื่อมโยงบริบทของแดด ลม และฝน บ้านหลังนี้จึงเป็นสถาปัตยกรรมที่นำพาให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น โดยพยายามหาจุดร่วมของความสบายในการอยู่อาศัย ความงามจากธรรมชาติและปรากฏการณ์รอบๆตัว และงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับชนชั้นกลาง นับเป็นบ้านที่มีความพอดีและงดงามอย่างแทบไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ

เจ้าของ: Mr. Tung Do และ Mrs.Lien Dinh
ออกแบบ: Tropical Space by Ms.Tran Thi Ngu Ngon and Mr.Nguyen Hai Long

เรื่อง : “วุฒิกร สุทธิอาภา”

ภาพ : ธนกิตติ์ คำอ่อน


อ่านเพิ่มเติม : 10 บ้านโชว์ผนังอิฐเปลือย ดีไซน์หล่อเท่ ทุกตารางเมตร!