สารภาพว่าประทับใจบ้านหลังนี้ตั้งแต่แรกเห็น เพราะความกล้าในการเลือกใช้ สีสัน ของผู้ออกแบบ รวมถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แปลกตา ทว่าเมื่อเข้ามาภายในบ้านกลับสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นอยู่สบาย บวกกับอากาศที่เริ่มเย็นของเขาใหญ่ในช่วงปลายปี ทำให้วันธรรมดาๆวันหนึ่งกลายเป็นวันพิเศษ เรามีโอกาสได้นั่งพูดคุยกับ คุณพิมลและคุณตระการตา ศรีวิกรม์ เจ้าของบ้านสวยหลังนี้ ซึ่งเริ่มสะสมของตกแต่งบ้านจากความชอบ ก่อนจะกลายเป็นบ้านในสไตล์ที่ต้องการ
บ้านหลังนี้“เดิมทีคุณแม่ (คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์) สร้างบ้านไว้ฝั่งตรงข้ามถนน เลยอยากให้ลูกๆมาซื้อบ้านใกล้ๆเป็นเพื่อนบ้านกัน พอดีเพื่อนคุณแม่ก็ขายที่บริเวณนี้ ผมและภรรยามาดู เห็นครั้งแรกชอบเลย เดิมเป็นที่เปล่าๆแต่ค่อนข้างรก เดินเข้ามาไม่ได้ แต่ที่ชอบเพราะอยู่ติดภูเขาและมีลมพัดเบาๆทั้งวัน”
สไตล์ที่ใช่
“เราสองคนชอบบ้านสไตล์นี้มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว บ้านที่กรุงเทพฯก็เป็นอย่างนี้ คอนโดที่พัทยาก็เป็นแบบนี้ อาจเรียกว่าเป็นสไตล์ South-West (แถวๆแคลิฟอร์เนีย) เม็กซิกัน หรือสเปนก็ได้นะ อีกอย่างคือเราเรียนหนังสือที่ลอสแอนเจลิสทั้งคู่ บ้านที่นั่นก็เป็นสไตล์นี้ ตอนจะเริ่มทำบ้าน ได้พบ คุณเมฆ- จงพิศ บุนนาค มัณฑนากรจากบริษัทสตูดิโอ 54 จำกัด คุยกันแล้วถูกใจ ผมก็เลยให้คุณเมฆมาออกแบบภายในให้ทั้งหมด คุณเมฆเล่าว่า เมื่อสิบปีก่อนคนส่วนใหญ่ชอบสไตล์นี้ แต่มักไม่กล้าเล่นสไตล์และสีจัดๆ เอาแค่กำแพงขาวละกัน เพราะกลัวสีสันจะทำให้รู้สึกอึดอัด ผมเองก็ไม่ค่อยเห็นว่าจะมีบ้านสักกี่หลังที่กล้าทาสีห้องกินข้าวเป็นสีราสป์ เบอร์รี่ ห้องนอนสีเทอร์คอยส์ ไม่มีใครกล้าใช้แบบเต็มๆ พอคุณเมฆออกแบบสีสดๆมาให้ ผมก็เลยตัดสินใจจัดเต็ม ก่อนหน้านี้คนยังหัวเราะว่าบ้านเราอยู่เลยว่าบ้านสีชมพู (หลังที่กรุงเทพฯ)”
อยู่ง่าย เย็นสบาย
“ผมว่าบ้านสไตล์นี้อยู่ง่าย อยู่สบาย คือไม่ต้องเนี้ยบมาก เพราะเรามีลูกชาย 2 คน ถ้าเป็นบ้านสไตล์มินิมัล วางของอะไรนิดหน่อยก็ดูรกแล้ว แบบนี้ดูกลมกลืนสบายตา บ้านเราออกแบบทำกำแพงหนา ผนังก็ทำสองชั้น มีเพดานสูง โชว์คานไม้ (ทำเลียนแบบ) มีการลบเหลี่ยมให้ผนังมน ไม่จับจีบเนี้ยบแบบบ้านสมัยใหม่ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสไตล์นี้ เวลาเดินเข้ามาในบ้านจะรู้สึกว่าเย็นกว่าบ้านอื่น อยู่สบายๆ และเหมาะกับประเทศไทย อย่างบ้านที่กรุงเทพก็ไม่ค่อยเปิดแอร์ เป็นผนังหนาสองชั้นแบบเดียวกัน”
ลงมือทำเอง
“กระเบื้องเซรามิกที่ใช้ในบ้านทั้งหมดภรรยาผมเป็นคนออกแบบและทำเอง จนกลายเป็นอีกธุรกิจของครอบครัว คือเดิมธุรกิจที่บ้านผมคือ American Standard ซึ่งผลิตสุขภัณฑ์ เลยมีความรู้ด้านเซรามิกอยู่บ้าง จุดเริ่มต้นมาจากตอนสร้างบ้านหลังแรกก็ไปจ้างคนอื่นทำแต่ไม่ถูกใจ คุณภาพก็ไม่ดี เลยคิดจะทำเอง คิดคอนเซ็ปต์ของลวดลายออกมาในสไตล์สเปน เพ้นต์ลายด้วยมือทั้งหมด แต่เปลี่ยนสีปรับขนาดตาม Custom Made ให้สำหรับลูกค้า “บ้านหลังนี้ก็หยิบเอากระเบื้องของเรามาตกแต่งกำแพงครัว ซึ่งไปเห็นรูปแบบของบ้าน Dolce & Gabbana โดยมีการออกแบบในคอมพิวเตอร์ก่อน แล้วค่อยนำมาเรียงบนพื้น ก่อนขึ้นหน้างาน”
นักสะสมตัวยง
“นอกจากชอบรูปแบบของสถาปัตยกรรมสไตล์นี้แล้ว เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่เราสะสมก็เป็นแนวนี้ทั้งหมด หาจากหลายๆที่ เช่น ตลาดขายของเก่า (Flea Market) ที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่ลอสแอนเจลลิสชื่อ Rose Bowl จัดเดือนละหน เวลาเราไปก็จะแวะไปซื้อ อย่างประตูหน้าบ้านทั้งชุดเป็นของเก่าจากเม็กซิโก นอกจากนี้ผมยังชอบเครื่องหนัง สไตล์นี้ก็ต้องใช้หนังเป็นส่วนประกอบ โซฟาจึงเป็นเครื่องหนังหมดทุกตัว ค่อยๆซื้อเก็บไปเรื่อยๆ”
สีสันในทุกวัน
“ตอนทำบ้านที่กรุงเทพใหม่ๆ มีคนถามว่าอยู่ไหวเหรออยู่ทุกวันด้วยกับสีแบบนี้ พอเราอยู่แล้วก็ไม่รู้สึกว่าสีจะแรงเกินไป กลับรู้สึกดีมากกว่า เพราะจริงๆก็เลือกสีพอสมควร ห้องที่ใช้เวลาอยู่เยอะจะใช้สีนวลๆให้รู้สึกสบายตา หรืออย่างห้องนอนที่นี่ก็ใช้สีขาวเป็นสีหลัก เราใช้สีสันในบางมุม ถ้าเป็นห้องใหญ่จะให้ใช้สีสันทั้งห้องก็ไม่ไหว ค่อยๆแซมสีเข้าไปในห้องผ่านของตกแต่งอย่างผ้าม่าน พรม หรือผ้าปูที่นอน
“ผมว่าชีวิตต้องมีสีสัน บ้านก็ต้องมีสีสัน อย่ากลัวว่าจะแรง เพราะไม่ใช่ว่าทุกห้องจะต้องมีสีสัน และต้องเลือกสีที่เราชอบ ผมคิดว่าสีช่วยเติมพลังให้ชีวิตได้”
รนภา นิตย์
ศุภกร ศรีสกุล