HOLMES ร้านอาหารที่มีกลาสเฮ้าส์บนดาดฟ้า พร้อมบรรยากาศลึกลับสไตล์อินดัสเทรียลสุดเท่

ร้านอาหารย่านพญาไท จัดเสิร์ฟเมนูสไตล์เวสต์เทิร์นโฮมเมด บรรยากาศวินเทจ-อินดัสเทรียล ที่จะทำให้คุณเหมือนนั่งอยู่ในอาคารของย่านเก่ายุคคริสต์ศตวรรษที่18-19 ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมเหล็กเฟื่องฟู จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่การออกแบบฟาซาดเหล็กทำสีดำ เจาะช่องเปิดทรงโค้งสูง ดูต่างจากตึกเเถวใกล้เคียง พร้อมมีมุมไฮไลต์ห้ามพลาด นั่นคือบาร์ใต้กลาสเฮ้าต์บนชั้นดาดฟ้า ที่เหมาะมานั่งชมวิวเเละแฮ้งเอ๊าต์ยามเย็น

เกิดจากความตั้งใจของคุณบัว-บุฏกา โรจนัย เจ้าของร้านที่ต้องการถ่ายทอดทุกรสนิยม ผ่านทั้งการตกแต่งเเละรสชาติอาหาร ซึ่งเธอบรรจงสร้างสรรค์ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เธอเป็นคนชอบทำอาหารรับประทานกับเพื่อน ๆ ช่วงไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริก นอกจากนั้นเธอยังหลงใหลความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ของเมืองต่าง ๆ จึงเก็บบันทึกไว้ผ่านภาพถ่าย ก่อนจะนำมาสู่เรเฟอเรนซ์การออกแบบตกแต่งร้านแห่งนี้ ให้มีบรรยากาศวินเทจ เคร่งขรึม เเละลึกลับน่าค้นหา ชวนให้หลายคนนึกถึงที่มาของชื่อ HOLMES ร้านอาหารย่านพญาไท เเห่งนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่คุณบัวจะเฉลยพร้อมความหมายที่ซ่อนอยู่ให้ฟังว่า

หน้าร้านโดดเด่นด้วยฟาซาดเหล็กสีดำทำเเพตเทิร์นทรงโค้งสูง นอกจากเป็นหน้ากากสำหรับตกแต่งอาคารเเล้ว ยังช่วยให้เเสงเข้าสู่อาคารซึ่งเป็นตึกเเถวได้อีกทางหนึ่ง
พื้นที่รับประทานอาหารเเละคาเฟ่ชั้นล่าง ทำดับเบิ้ลสเปซโปร่งโล่งถึงเพดานชั้น 2 ภายในตกแต่งสไตล์วินเทจ บรรยากาศอบอุ่นจากวีเนียร์กรุผนังลายไม้สีเข้ม ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ทำใหม่สไตล์วินเทจ เเละกระเบื้องปูพื้นลวดลายโบราณ

“บางคนก็เดาที่มาของชื่อร้านว่ามาจาก เชอร์ล็อก โฮมส์ รึเปล่า ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เหมือนตึกสไตล์ยุโรปเเบบย้อนยุค เเต่จริง ๆ เเล้วชื่อ โฮมส์ มีที่มาจากการที่อาหารของเราเป็นเเบบโฮมเมด เน้นการนำวัตถุดิบคุณภาพดีมาใช้ประกอบอาหาร เหมือนเราทำให้คนในบ้าน หรือเพื่อน ๆ ได้รับประทาน บวกกับน้องชายชื่อ บ้าน ดังนั้นชื่อโฮมส์ จึงเหมาะที่สุดสำหรับร้านอาหารร้านเเรกของครอบครัว”

พื้นที่รับประทานอาหารอีกมุมบนชั้น 2 ได้รับเเสงธรรมชาติจากช่องเปิดด้านหน้าอย่างพอดี มีดีเทลอย่างการออกเเบบผนังให้ล้อไปกับลวดลายของฟาซาด จากมุมนี้สามารถมองลงมาด้านล่างได้ ไม่รู้สึกอึดอัดเกินไป
ออกแบบบันไดให้ขนานไปกับกำเเพงหลังร้านที่กรุกระจกปิดทับด้วยสติกเกอร์ขุ่น เพื่อบังมุมมองจากภายนอกเเละกรองเเสงไปในตัว บันไดมีไอเดียมาจากตึกเก่าในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีดีไซน์สุดคลาสสิก
มุมมองจากภายในห้องเก็บไวน์

จากตึกเเถวที่เคยเป็นคลินิกเก่าขนาด 4 ชั้น รวมชั้นดาดฟ้า คุณบัวเล่าว่าเธอต้องใช้เวลานานร่วม 1 ปีในการรีโนเวต เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนทุกอย่างใหม่หมด โดยต้องทุบผนังภายนอกออก เพื่อให้การขนย้ายอุปกรณ์หนัก เเละของใช้ชิ้นใหญ่เข้าสู่ในร้านได้สะดวก ก่อนจะออกแบบฟาซาดเหล็กห่อหุ้มอาคารไว้ทีหลัง ส่วนภายในได้ทุบพื้นชั้น 2 ด้านหน้าออก เพื่อทำเป็นโถงเเบบดับเบิ้ลสเปซสูงถึงเพดานชั้น 2 เเละเปลี่ยนบันไดที่เคยอยู่กลางร้านให้ขยับไปอยู่ชิดผนังด้านหลังสุด เปิดพื้นที่ชั้น 1 ซึ่งเป็นส่วนของคาเฟ่เเละโต๊ะรับประทานอาหารให้โล่งกว้าง ดูปลอดโปร่งไม่อึดอัดจากเเสงที่ส่องเข้ามาทางช่องฟาซาดด้านบน ขณะที่มุมรับประทานอาหารบนชั้น 2 ก็สามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศชั้นล่างได้ ผ่านผนังกระจกหุ้มเหล็กดัด กรุขอบไม้วีเนียร์ทำทรงโค้ง ให้มีตำเเหน่งตรงกับช่องของฟาซาด ช่วยให้พื้นที่ชั้น 1 เเละ 2 ไม่ทึบตัน ซึ่งมักเป็นปัญหาของตึกเเถวได้เป็นอย่างดี ส่วนชั้น 3 เเละ4 ใช้สำหรับเป็นส่วนของออฟฟิศ เเละพื้นที่เวิร์กชอปในอนาคต

ออกแบบชั้นดาดฟ้าให้กลายเป็นกลาสเฮ้าส์ ซึ่งใช้เป็นพื้นที่ของรูฟท็อปบาร์เปิดบริการตั้งเเต่เวลา 5 โมงเย็นเป็นต้นไป
เมื่อเเดดบ่ายตกกระทบกับโครงสร้างเหล็กจะเกิดเส้นสายของเเสงเงาทาทาบลงพื้นเเละผนังร้านที่จะเปลี่ยนองศาไปตามดวงอาทิตย์
บรรยากาศของร้านเน้นใช้สีดำเเละสีน้ำตาลเข้มเป็นหลักเพราะอยากให้มีความเคร่งขรึม เท่ ๆ ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป แอบเบรกอารมณ์ด้วยเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนเเท้สีขาว

ขณะที่ชั้นดาดฟ้าได้รับการออกแบบให้เป็นกลาสเฮ้าส์หลังใหญ่ทำจากโครงเหล็กสีดำ กรุหลังคาด้วยซันเกลสพอลิคาร์บอเนตชีททำหน้าที่ช่วยกรองเเสงในเวลากลางวัน เบรกความดุดันของงานเหล็กด้วยความเคาน์เตอร์บาร์หินอ่อนสีขาวเเท้ ส่วนผนังโดยรอบตกแต่งทำเเพตเทิร์นด้วยการนำลามิเนตลายหินอ่อนสีดำมากรุเป็นรูปช่องโค้ง ร่วมกับวีเนียร์ลายไม้สีน้ำตาลเข้ม ด้านบนไม่ลืมประดับเเชนเดอร์เลียร์ขนาดใหญ่ เติมความวินเทจหรูหราให้เป็นเรื่องราวเดียวกันทั่วทั้งร้าน  เช่นเดียวกับเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจที่สั่งทำพิเศษ เเละเจ้าของลงมือเลือกสรรมาด้วยตนเอง อันบ่งบอกถึงความใส่ใจรายละเอียดในทุกตารางนิ้ว

I’m Not That Hungry อาหารจานยักษ์ที่อัดเเน่นด้วยเมนูหลากหลาย คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นโทสต์อโวคาโด โทสต์แซลมอนรมควัน มิกซ์สลัดกับนำ้สลัด Balsamic Vinaigrette โยเกิร์ต เสิร์ฟกับโฮมเมดกราโนล่า และผลไม้สด
Holmes Beef Burger เบอร์เกอร์เนื้อชั้นดี กินคู่กับไข่ดาว ผักสลัดกรีนโอ๊ก เเละเเตงกวาดอง เสิร์ฟพร้อมเฟรนฟรายเเละซอสที่มีให้เลือก 2 เเบบ ทั้ง Dijon Mustard มัสตาร์ดสูตรฝรั่งเศส เเละสไปซี่ซอส
Berries Seltzer เครื่องดื่มมิกซ์เบอร์รี่ผสมไซรัปรสชาติหอมหวาน คู่กับชีสเค้กรสชาติเข้มข้นหวานนุ่มกำลังพอดี

ส่วนเมนูอาหารประจำร้านบอกเลยว่าจานใหญ่คุ้มค่าสมราคา เพราะคุณบัวได้คัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ เพื่อจัดเสิร์ฟลูกค้าประหนึ่งเป็นเพื่อนสนิทเเละคนในครอบครัว ซึ่งอยากให้ทุกคนได้รับประทานอาหารที่อร่อยเเละดีที่สุด สมกับชื่อที่พ้องกับคำว่า “Home” อย่างเเท้จริง


ที่ตั้ง

69/30 ถนนพญาไท เเขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ (ตั้งอยู่ริมถนนในโครงการพญาไทรีสอร์ต ห่างจากBTS พญาไท 200 เมตร )

เวลาทำการ ทุกวัน 10.00 น. -22.00 น. (ปิดเฉพาะวันอังคาร)

โทร.09-5925-2995

www.facebook.com/holmes.bangkok

***ทั้งนี้เวลาทำการหรือบริการอาจมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

เจ้าของ : คุณบุฏกา โรจนัย

ออกแบบ : Make It pop Co.,Ltd. โดยคุณคมน์พฐ นิ่มนวล

ก่อสร้าง : SUBAN CC Co.,Ltd. โดยคุณสุบรรณ ชารี


เรื่อง : ภัทรภร

ภาพ : อนุพงษ์

อ่านต่อ THÉ TEA HOUSE จิบน้ำชายามบ่าย สัมผัสกลิ่นอายสไตล์วิคตอเรียน