วัสดุปลูก สมุนไพรฝรั่ง ทั้งปลูกลงแปลงและในกระถาง
การปลูก สมุนไพรฝรั่ง ทั้งลงแปลงและในกระถางให้งอกงามดี จำเป็นต้องปรุงดินหรือ วัสดุปลูก ให้มีสภาพเหมาะแก่การเจริญเติบโตของพืชเสียก่อน
ดินหรือ วัสดุปลูก สมุนไพรฝรั่ง ทั้งปลูกลงแปลงและในกระถาง ควรมีคุณสมบัติคือ โปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและอากาศได้ดี ไม่เปียกและอุ้มน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่สามารถกักเก็บความชื้นไว้ได้พอสมควร มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ประมาณ 5.5-7 และสิ่งสำคัญคือต้องไม่เป็นแหล่งสะสมโรคและแมลง
การปลูกสมุนไพรฝรั่งให้เติบโตงามดีจึงควรใช้วัสดุปลูกที่ระบายน้ำและอากาศได้ดี สามารถอุ้มน้ำและดูดซับธาตุอาหารได้ ผู้ปลูกสามารถใช้วัสดุที่หาได้ง่าย ราคาถูก และมีธาตุอาหารตรงตามที่พืชต้องการมาเป็นส่วนผสม โดยเฉพาะการปลูกสมุนไพรฝรั่ง รวมถึงไม้ดอกไม้ประดับในกระถาง ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับมือใหม่ รวมถึงผู้ที่มีพื้นที่จำกัด ภาชนะที่ใช้ปลูกมีหลายรูปแบบ เช่น กระถางพลาสติก กระถางดินเผา กระบะไม้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้ปลูก
สูตรวัสดุปลูก
- กาบมะพร้าวสับ 3 ส่วน
- ดินร่วนหรือดินใบก้ามปู 1 ส่วน
- แกลบดิบเก่า 1 ส่วน
- แกลบเผา 1 ส่วน
กาบมะพร้าวสับ เป็นสารอินทรีย์ที่ดูดซับน้ำได้ดี มีลักษณะเป็นเส้นใยจึงช่วยให้วัสดุปลูกโปร่งและร่วนซุย แต่ในกาบมะพร้าวมีสารแทนนินซึ่งอาจทำให้รากพืชชะงักการเจริญเติบโตได้ จึงควรแช่น้ำก่อนใช้
แกลบดิบ หรือแกลบขาว เป็นเศษเหลือจากโรงสีข้าว มีความพรุนสูง โปร่งเบา ถ่ายเทอากาศและรักษาความชื้นได้ดี แต่ไม่ควรใช้แกลบดิบใหม่ที่ยังไม่ผ่านการย่อยสลาย เพราะอาจส่งผลให้รากพืชชะงักการเจริญเติบโต และเกิดรากเน่าเนื่องจากความร้อนที่เกิดขึ้น
แกลบเผา หรือแกลบดำ คือแกลบที่ได้รับความร้อนระยะหนึ่ง แต่ไม่ถึงกับเป็นขี้เถ้าแกลบ มีน้ำหนักเบา เมื่อผสมกับดินทำให้ดินเบา ระบายน้ำดี
ปุ๋ยคอก เป็นแหล่งธาตุอาหารพืชที่หาง่าย ราคาไม่แพง นิยมใช้ปุ๋ยคอกที่ได้จากมูลวัวเก่าที่สลายตัวแล้ว
สูตรวัสดุปลูกที่แนะนำนี้สามารถใช้ปลูกสมุนไพรฝรั่งได้ทุกชนิด รวมถึงไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ผลตระกูลเบอร์รี่ ทั้งปลูกลงแปลงและปลูกในภาชนะ แต่ผู้ปลูกต้องศึกษาเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด มีสภาพพื้นที่ อุณหภูมิ อากาศ และปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการปลูกพืชแตกต่างกัน
Did You Know?
สมุนไพรฝรั่งและไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกในกระถางไประยะเวลาหนึ่ง หากพบว่าต้นโตช้า ไม่ออกดอก อาจเกิดจากวัสดุปลูกมีการสลายตัวทำให้แน่นทึบ ถ่ายเทอากาศได้น้อยลง ระบายน้ำไม่ดี มีธาตุอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลให้แตกรากฝอยได้น้อยลง โดยเฉพาะเมื่อรากแผ่จนเต็มภาชนะปลูก นั่นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนวัสดุปลูกแล้ว