OB OON Boutique Hotel อีกหนึ่ง โรงแรมบูติก ทางเลือกใหม่ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในย่านสุขุมวิท ที่หวนวันวานในวัยเยาว์ชวนให้นึกถึงบรรยากาศในอดีต ด้วยการตกแต่งสไตล์บ้านคุณยาย ผสมผสานดีไซน์ร่วมสมัย ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นด้วยรักและผูกพันระหว่างหลานสาวกับคุณยาย
จากออฟฟิศสถาปนิก สู่ โรงแรมบูติก ดีไซน์ไทยร่วมสมัย
เดิมอาคาร 4 ชั้นแห่งนี้เคยเป็นออฟฟิศสถาปนิกเก่าอายุกว่า 30 ปี ลักษณะเป็นห้องแถวขนาดไม่ใหญ่มากนักและมีศักยภาพในด้านทำเลที่ตั้งที่อยู่ในแหล่งท่องเที่ยว และมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จุดประกายไอเดียให้คุณปลาหวาน ศิรสา มังคละพฤกษ์ อินทีเรียสาวเจ้าของบริษัทรับออกแบบตกแต่ง Terra Architects ต้องการที่ปรับปรุงอาคารแห่งนี้ให้กลายเป็นอาคารแบบ Mixed Use โดยได้รีโนเวตอาคารเก่าริมถนนแห่งนี้ให้กลายเป็นโรงแรมอบอุ่น โรงแรมทางเลือกใหม่กับห้องพักที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่ซ้ำกันถึง 8 ห้อง 8 แบบ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้แก่แขกผู้เข้าพัก ผสมผสานกับฟังก์ชันออฟฟิศออกแบบบนชั้น 2 เพื่อให้เกิดกิจกรรมและปฏิสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าบ้านกับแขกผู้เข้าพัก จึงเริ่มทำการออกแบบปรับผังอาคารเพื่อแบ่งขอบเขตฟังก์ชันห้องพัก ส่วนต้อนรับ และออฟฟิศเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
อบอุ่น…ชื่อนี้ได้แต่ใดมา
จากความชอบและหลงใหลในสถาปัตยกรรมแบบคลาสสิกในยุคสมัย 80 ประกอบกับความรักและความผูกพันระหว่างคุณปลาหวาน กับคุณยายอุ่นเรือน ที่เธอเติบโตมาในบ้านของคุณยาย เป็นแนวคิดการออกแบบของ โรงแรมบูติก แห่งนี้ ที่ต้องการให้คนที่เข้ามารู้สึกดี ด้วยอุ่นไอจากความรักและความตั้งใจ รวมถึงบรรยากาศสบายที่จะกลายเป็นความทรงจำดีดี จึงเป็นที่มาของชื่อ “อบอุ่น”
กลิ่นอายเมื่อวันวาน กับการตกแต่งสไตล์บ้านคุณยาย
โรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์และการตกแต่งเฉพาะตัวที่ผสมผสานระหว่างความเป็นไทยร่วมกับความสมัยใหม่เข้าไว้อย่างกลมกล่อม สิ่งแรกที่สะดุดตานั่นคือโทนสีแบบสุภาพอย่าง เขียว และน้ำตาล ที่ปรากฏบนผิวอาคารกับประตูไม้บานใหญ่ ท่ามกลางการประดับประดาสวนไม้ใบขนาดเล็กพร้อมโซนที่นั่งกึ่งเอ๊าต์ดอร์ด้านหน้าโรงแรม
ชั้นหนึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมล็อบบี้ต้อนรับ สเปซที่สะท้อนตัวตนและสร้างบรรยากาศให้นึกถึงบ้านคุณยายในสมัยเก่าด้วยการตกแต่งแบบวินเทจ โดดเด่นด้วยส่วนต้อนรับใต้กำแพงโค้งสีขาว รับกับลวดลายกระดานหมากรุกบนพื้น กับเฟอร์นิเจอร์โต๊ะไม้ขนาดใหญ่ที่ประดับประดาด้วยแจกันดอกไม้สีสันสดใส เจาะช่องเปิดกระจกบานใหญ่ข้างอาคารเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ได้ทั่วถึง ปิดกั้นความเป็นส่วนตัวด้วยชั้นวางของเก่าขนาดใหญ่ ตกแต่งด้วยของสะสมจากบ้านคุณยายอย่าง อุปกรณ์เภสัชกร อาชีพของคุณยายผู้เป็นที่รัก และของหัตถกรรมฝีมือคนไทย
ฝั่งตรงข้ามออกแบบให้เป็นเสมือนห้องรับแขกบ้านคุณยาย ตกแต่งด้วยฝาผนังบ้านไม้ กับช่องเปิดกระจกประตูบานโค้ง และหน้าต่างเก่าแบบบ้านโบราณ ผสมผสานความทันสมัยด้วยการโชว์โครงสร้างงานระบบบริเวณฝ้าเพดาน กับผนังสีขาวแซมอิฐสีเทาเข้ม เปิดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนเชื่อมต่อจากชานหน้าบ้านแบบ semi-private ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบวินเทจซึ่งเป็นของสะสมเก่า และใช้เป็นมุมรับประทานอาหารเช้าของแขกผู้เข้าพักอีกด้วย
อีกหนึ่งมุมโปรดของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ต้องการนอนเอนกายและใช้เวลาส่วนตัว คือโซนพื้นที่ยกระดับที่เชื่อมด้วยบันไดไม้สไตล์บ้านไทยเป็นมุมที่หลบซ่อนอยู่หลังฝาบ้านไม้แบบโบราณ