เทรนด์งานดีไซน์ 2018

SHOW-ROOM เทรนด์ดีไซน์ 2018 จากปารีส – เมื่อบ้านคนยุคใหม่จะกลายเป็น “โชว์รูม”

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
เทรนด์งานดีไซน์ 2018

ทุกปีดีไซเนอร์และผู้คนทั่วโลกล้วนจับตา พร้อมรอฟังว่าทีมนักวิเคราะห์ของดีไซน์แฟร์ระดับโลกอย่าง MAISON & OBJET จะนำเสนอเทรนด์ดีไซน์ไปในทิศทางไหน และปี 2018 นี้ นักวิเคราะห์ก็เห็นตรงกันว่า อำนาจแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับงานดีไซน์ และกำลังทำให้ทุกพื้นที่การใช้ชีวิตกลายเป็น “โชว์รูม”

“เทคโนโลยีดิจิทัล และความฮิตของอินสตาแกรมทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ทุกคนสามารถเป็นเทรนด์เซ็ตเตอร์ ถึงตอนนี้ผู้บริโภคไม่ได้อยากฟังเรื่องราวจากแบรนด์อีกต่อไป แต่ต้องการสร้างและสัมผัสประสบการณ์กับสินค้านั้นๆ ด้วยตัวเอง”

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
Special 1 “I’m slowlife?” ภาพถ่ายเสียดสีสังคมของ มรกต ศิริพละ นักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ภาคนิเทศศิลป์ สาขาการถ่ายภาพ สะท้อนถึงบทบาทของโซเชี่ยลมีเดียต่อไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้

ทีมวิเคราะห์เทรนด์ดีไซน์ปีนี้ นำโดย Vincent Grégoire จากเทรนด์เอเจนซี่ดังของโลก NELLYRODI เขาพบว่าวิกฤตทางเศรษฐกิจ และการปฏิวัติทางดิจิทัล ได้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค จากที่เคยสวามิภักดิ์ ยอมจ่ายเงินเพื่อแบรนด์นั้นๆ อย่างไร้คำถาม ทุกวันนี้ผู้บริโภคกลับกลายเป็นผู้กุมอำนาจ และมีอิทธิพลกับยอดขายอย่างยิ่ง ด้วยพลังแห่งอินเตอร์เน็ต พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ สามารถเปรียบเทียบราคา เขียนคอนเม้นท์ ให้ดาวจัดอันดับ และจนอาจกลายเป็นพาร์ทเนอร์ทางการตลาดที่แบรนด์ไม่ได้อาจมองข้าม

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
The Other Art of Living โดย Sophie Trem (www.theotherartofliving.com)

“บ้าน” คือ “โชว์รูม”

เมื่อต้องการแชร์ข้อมูลหรือรูปภาพผลิตภัณฑ์ที่ซื้อมาล่าสุด การโพสคอนเทนต์ต่างๆ ของแบรนด์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่ “บ้าน” ของพวกเขาเอง บ้านจึงกลายเป็นจุดกำเนิดของแรงบันดาลใจ และผู้บริโภคกลายเป็นทั้งอาร์ตไดเร็คเตอร์ ดีไซเนอร์ สถาปนิก ฝ่ายดิสเพลย์สินค้า ฝ่ายการตลาด หรือแม้แต่แบรนด์แอมบาสเดอร์ ที่พร้อมแปลงโฉมมุมบ้านให้กลายเป็นโชว์รูมสำหรับรีวิวผลิตภัณฑ์ต่างๆ ลงโซเชี่ยลมีเดีย

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
“Nothing like Home” by Ingrid van der Veen และ Ron Greve (www.rongreve.nl / ingridvanderveen.com)

เทรนด์ SHOWROOM สะท้อนถึงความนิยมที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในการเปิดเผยชีวิตส่วนตัวของเราให้เป็นเรื่องสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นภาพสวยๆ ที่เราตั้งใจสร้างขึ้น รวมถึงเบื้องหลังของการสร้างสรรค์นั้น ดังนั้น การเล่าเรื่องราว (Story-Telling) กลายเป็นเรื่องล้าสมัย ผู้คนต้องการสัมผัสประสบการณ์ และใช้ชีวิตท่ามกลางเรื่องราวนั้น (Story-living) มากกว่า และนี่คือสิ่งที่เราเรียกว่า “Showroomisation” หรือการทำทุกพื้นที่ให้กลายเป็นโชว์รูม ไม่ใช่แบรนด์หรือผลิตภัณฑ์ที่กำหนดทิศทางของผู้บริโภคอีกแล้ว แต่กลุ่มผู้บริโภคต่างหากที่มีส่วนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ และแบรนด์ต่างๆ

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
“Nothing like Home” by Ingrid van der Veen และ Ron Greve (www.rongreve.nl / ingridvanderveen.com)

อย่างไรก็ตาม เทรนด์การแชร์พื้นที่ส่วนตัว หรือเซอร์วิสออนไลน์ต่างๆ ที่คืบคลานเข้ามาในพื้นที่โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค ได้ส่งผลในทางตรงกันข้ามสำหรับคนบางกลุ่ม ทำให้พวกเขาปฏิเสธโลกดิจิทัลอย่างสิ้นเชิง พวกเขามีความสุขในโลกของคนนิรนาม และใช้ชีวิตอย่างเป็นความลับ จะเรียกว่าเป็นดิจิทัล ดีท็อกซ์ก็ว่าได้

ราวแขวน ชั้นวาง กระจกเงา – เฟอร์นิเจอร์สำหรับสายรีวิว

เทรนด์ดีไซน์นี้ส่งผลโดยตรงต่อวิถีชีวิตเรา แนวโน้มการออกแบบภายในจึงมีการใช้องค์ประกอบที่คล้ายกับการตกแต่งโชว์รูมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราวแขวน ฉากกระจก ชั้นวางของ กระจกเงา แม้แต่ตู้เสื้อผ้าวอล์คอิน เสื้อผ้า และข้าวของได้รับการจัดเรียงอย่างเป็นศิลปะ

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
Hübsch, Black Display Cabinet (hubsch-interior.com)

ทั้งหมดนี้เน้นการใช้วัสดุโปร่งใส เพื่อนำเสนอชิ้นงานของพวกเขาให้โดดเด่นยิ่งขึ้น ผนังถูกใช้เป็นที่จัดแสดงรูปภาพ จานดิสเพลย์ หรือของตกแต่งอื่นๆ รวมถึงการใช้องค์ประกอบการตกแต่งที่สื่อถึงใบหน้าของคน หุ่น  และหน้ากาก ไปจนถึง พรม โคมไฟ เหมือนว่าเราเห็นตัวแทนของ “ผู้คน” ในทุกที่ ซึ่งเหมือนเป็นการดึงเอาประสบการณ์ในการใช้งานเฟสบุคเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้าน

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
Bump Family โดย Tom Dixon (www.tomdixon.net)
เทรนด์งานดีไซน์ 2018
คอลเล็คชั่นกระจกเงา MASK โดย Federico Floriani

เจ้าของบ้านรับบทบาทเป็นทั้งนักสะสมและภัณฑารักษ์ไปพร้อมๆ กัน ผลิตภัณฑ์ต่างแบรนด์ถูกรวบรวมจัดเรียงไว้ในมุมบ้านในรูปแบบและสไตล์ส่วนตัว โพสท่ารอให้เจ้าของถ่ายรูปลงอินสตาแกรม ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกระบวนการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ แต่นี่แหละคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจง่าย และทรงอิทธิพลกว่าการพูดจากปากของแบรนด์เองด้วยซ้ำ

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
วอลล์เปเปอร์รุ่น NARISSA W6953-01 โดย Matthew Williamson at Osborne & Little (www.osborneandlittle.com)
เทรนด์งานดีไซน์ 2018
คอลเล็คชั่นจานตกแต่งผนัง The coco wall plates โดย Paula Juchem (nonsansraison.com)

รีเทลช็อปที่สร้างแพสชั่น

“ถึงเวลาที่ธุรกิจต่างๆ ต้องสร้างแพชชั่นอย่างเร่งด่วน ช็อปต่างๆ ไม่ใช่พื้นที่สำหรับการวางสินค้าเพื่อขายเท่านั้น ลูกค้าต้องการพื้นที่ที่สามารถสัมผัสประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ เพื่อรีวิว และแชร์ความคิดเห็นกับกลุ่มของพวกเขาได้ทันที”

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
Aesop Corso Magenta in collaboration with Dimore Studio ภาพโดย Paola Pansini

เทรนด์ดีไซน์ที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจมีชีวิต ทำให้ร้านค้ามีความรู้สึกเหมือน “บ้าน” มากขึ้น เพราะลูกค้าต้องการพื้นที่ที่เขาผ่อนคลาย สามารถสัมผัสประสบการณ์จากผลิตภัณฑ์ และแชร์ความคิดเห็นกับกลุ่มเพื่อนได้ทันที กระแสโลกเปลี่ยนไปแล้ว ความเชื่อเกี่ยวกับรสนิยมที่ดีหรือแย่ไม่มีอีกแล้ว งานดีไซน์ราคาสูงก็ดูเชื่อมโยงกับของจุกจิกราคาถูกอย่างจงใจ ธุรกิจจึงควรกลับมาเชื่อมโยงกับแพสชั่น และอารมณ์ความรู้สึก เพื่อสร้างความเซอร์ไพร์ส และกระแสใหม่ๆ

เทรนด์งานดีไซน์ 2018
HAY, Finn, Woody, J77, J110, Ru Chair, Don’t Leave Me. ภาพโดย Rasmus Norlan (www.hay.dk)

และทั้งหมดนี้จะได้รับการนำเสนอแบบรูปธรรมในโซน Inspirations Space ในงาน Maison et Objet วันที่ 19 – 23 มกราคมนี้ ณ​ กรุงปารีส

พื้นที่ Inspirations Space จะนำเสนอเทรนด์ดีไซน์นี้ผ่านสเปซที่กระตุ้นให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าชมผ่านการสร้างประสบการณ์สดๆ อาทิเช่น ในพื้นที่นิทรรศการ อาจเต็มไปด้วยโต๊ะที่เต็มไปด้วยสิ่งของ และชั้นวางว่างเปล่า เพื่อให้ผู้เข้าชมเลือกสิ่งของเหล่านั้นมาดิสเพลย์บนชั้น  สะท้อนถึงกระแสความเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงกว่าความนิ่ง เงียบสงบแบบนิทรรศการทั่วไป

และนี่คือโอกาสที่คุณจะได้ลองถอยหลังออกมาดูภาพรวม ได้ลองแสดงความคิดเห็น ว่าจะรักหรือจะเกลียดเทรนด์ดีไซน์นี้เหมือนที่ทุกๆ คนทำกันในโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค


เรื่อง MNSD

pantone 2018

สุดขอบจักรวาล สู่ ‘ ULTRA VIOLET ‘ สี PANTONE แห่งปี 2018

The Prada Double Club Miami : ไนต์คลับสลับขั้ว ณ Art Basel Miami Beach

คลังไอเดียงานดีไซน์ คลิกที่นี่