Wie Immer ชื่อของ บ้านตึกแถวสีขาว ไซส์มินิที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ โดยเกิดจากการนำบ้านเก่าที่มีเรื่องราวความทรงจำดีๆ ในวัยเด็กของ คุณหง – วิรัลพัชร นารานิติธรรม Lighting Designer
มารีโนเวต บ้านตึกแถวสีขาว ให้กลายเป็นพื้นที่แบบมัลติฟังก์ชัน ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายในพื้นที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักส่วนตัว โฮมออฟฟิศ โฮมสเตย์ คาเฟ่ รวมถึงพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านดีไซน์เรียบง่ายแฝงความอบอุ่นที่สัมผัสได้เมื่อแรกเห็น
คุณหงเล่าว่า “บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าที่หงเคยอยู่สมัยยังเป็นเด็ก พอเริ่มโตครอบครัวของเราก็ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ ทำให้บ้านหลังนี้ถูกปล่อยร้างมาหลายปี หลังจากเรียนจบหงจึงตัดสินใจกลับมาปรับปรุงบ้านหลังนี้ ด้วยทำเลที่อยู่ท่ามกลางความสะดวกสบาย บวกกับความคุ้นเคยที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ ทำให้หงอยากกลับมาอยู่ที่นี่อีกครั้ง โดยนำความรู้ด้านสถาปัตย์ที่เรียนมาปรับใช้กับทุกจุดของบ้านค่ะ”
เริ่มจากการแปลงโฉมตัวอาคารให้ดูแตกต่างไปจากบ้านหลังอื่น โดยเปลี่ยนโรงรถเดิม ให้เป็นส่วนของคาเฟ่ ด้วยการเลือกใช้โทนสีขาวเป็นหลัก เสริมด้วยสีน้ำตาลจากไม้และประดับต้นไม้เพิ่มบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ ที่สำคัญยังเลือกติดหลังคากระจก ตั้งแต่ชั้นสามจนถึงชั้นล่างเสมือนกลาสเฮ้าส์ ทำให้คาเฟ่แห่งนี้ดูโปร่งโล่ง และ สว่างไสวจากแสงธรรมชาติตลอดทั้งวัน
ภายในคาเฟ่ตกแต่งด้วยไม้ และ กระเบื้องลายหินอ่อนสีขาว พร้อมกับพื้นที่ปูด้วยกระเบื้องลายโบราณสีเขียวตอง เพื่อสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่นละมุนตา เหมือนนั่งจิบกาแฟชิลๆ อยู่ในเรือนกระจก เชื่อมต่อไปยังบริเวณด้านหลังของคาเฟ่ ที่คุณหงได้จัดเตรียมไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น แกลเลอรี่แสดงงานศิลปะ และมุมเวิร์คชอปโยคะ
คุณหงเล่าว่า “งานรีโนเวตตึกแถวเก่าทุกตึกส่วนใหญ่ จะมีปัญหา และ ข้อจำกัดในการตกแต่งที่คล้ายกัน อย่างเรื่องผนังที่ติดกัน ทำให้ห้องที่อยู่บริเวณกลางบ้านเป็นห้องที่มืด เพราะไม่มีหน้าต่างหรือช่องแสง หงจึงพยายามออกแบบให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านหลังนี้ ได้รับแสงธรรมชาติที่พอดีกับการใช้งาน โดยเว้นพื้นที่เป็นช่องโล่งกลางบ้าน ในตำแหน่งที่ตรงกับ Skylight ด้านบนหลังคาบวกกับการเลือกใช้สีขาวเป็นสีหลักในการตกแต่ง เพราะสีโทนสว่างจะทำให้บ้านดูกว้างขึ้น”
บริเวณชั้น 2 เป็นส่วนของออฟฟิศ Lighting Design และ ห้องนอนของคุณหง ซึ่งในส่วนของห้องทำงาน มีกิมมิกอยู่ตรงหน้าต่างที่สามารถมองเห็นด้านล่าง และ เปิดรับแสงธรรมชาติเข้ามาอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ยังมีฉากกั้นที่ออกแบบเป็นบานเลื่อนเหล็กดัดสีขาวขนาดใหญ่
“เราไม่ต้องการให้ส่วนของออฟฟิศดูจริงจังแบบออฟฟิศทั่วไป การตกแต่งภายในห้องนี้จึงดูเรียบง่าย เน้นการจัดวางที่รองรับการทำงาน และ ในช่วงเย็นแขกที่มาพักอาจใช้เป็นเส้นทางสำหรับเดินไปยังห้องพัก หงจึงออกแบบให้มีฉากกั้น โดยเลือกเป็นบานเลื่อนเหล็กดัด เพราะว่าห้องมีพื้นที่เล็ก หากเลือกเป็นบานทึบก็จะทำให้ห้องดูแคบ แถมยังดูเป็นกันเอง เวลาแขกเดินผ่านก็มีการทักทายกันเหมือนมานอนบ้านเพื่อนนั่นเอง”
เมื่อเดินขึ้นมาถึงชั้น 3 จะได้พบกับส่วนของห้องพักแบบโฮมสเตย์ ซึ่งที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 4 ห้อง แต่ละห้องตกแต่งในโทนสีขาวผสมเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูอบอุ่นน่าพักผ่อน และ เนื่องจากเป็นห้องที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนักแต่เป็นห้องที่มีเพดานสูง จึงทำให้เตียงนอนขนาด 6 ฟุต ถูกยกลอยขึ้นสูงจากพื้น เพื่อจะได้ใช้พื้นที่ว่างด้านล่างเป็นมุมโซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน และที่สำคัญ เจ้าของบ้านยังออกแบบให้ทุกห้องได้รับแสงธรรมชาติแบบเท่าเทียมกันอีกด้วย
นอกจากไอเดียในการสร้างสรรค์พื้นที่ให้มีความหลากหลายคุ้มค่าแล้ว เมนูขนมและเครื่องดื่มของที่นี่ยังมีคอนเซ็ปต์ให้รู้สึกเหมือนแวะมากินขนมบ้านเพื่อน ทำให้ Wie Immer เสิร์ฟเครื่องดื่มและขนมที่เราคุ้นเคยอย่าง “ขนมต้ม” ซึ่งเป็นตัวแทนขนมไทยที่เจ้าของบ้านภูมิใจนำเสนอ ผสมผสานกับเบเกอรี่อบสดใหม่พร้อมเสิร์ฟ และเมนูเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติที่มีให้เลือกชิมกันอีกด้วย


OwnerS-design คุณหง – วิรัลพัชร นารานิติธรรม
Story นภสร ศรีทอง Photo ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู, อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม
STYLE วรวัฒน์ ตุลยทิพย์