ในยุคที่ใคร ๆ ก็เริ่มหันมาสนใจสุขภาพกันมากขึ้นแบบนี้ การเลือกรับประทานธัญพืชก็เป็นอีกตัวเลือกที่เฮลตี้ไม่เบาเลยล่ะค่ะ โดยเฉพาะ ธัญพืชไทย ในบ้านเราที่หาซื้อง่าย ทำได้หลายเมนู แถมยังมีประโยชน์ไม่แพ้ของแพง ๆ จากเมืองนอกด้วยค่ะ
ซึ่งการรับประทาน ธัญพืชไทย นอกจากจะช่วยบำรุงร่างกายแล้ว ยังสามรถช่วยป้องกันและรักษาโรคบางประเภทด้วย แต่จะมีอะไรและสามารถรับประทานแบบไหนได้บ้าง ต้องไปดูกันค่ะ
1.ลูกเดือย
ถ้าหากใครที่ชอบทานน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ คงต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับลูกเดือยเป็นอย่างดีแน่นอนค่ะ เพราะลูกเดือยนั้นเป็นหนึ่งในเครื่องที่น้ำมาใส่ในน้ำเต้าหู้ นอกจากนี้ก็ยังนำมาทำลูกเดือยต้มน้ำตาล ขนมหวานหรือสลัดผัก แถมยังมีเมนูแปรรูปอย่างลูกเดือยอบกรอบและน้ำลูกเดือยด้วยค่ะ ดูแล้วเหมือนจะเป็นของหวานซะมากกว่า แต่จริง ๆ แล้วลูกเดือยจัดอยู่ในตระกูลเดียวกับข้าว มีเส้นใยอาหารสูงและที่สำคัญคือช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ยับยั้งสารก่อมะเร็ง ป้องกันโรคเบาหวาน โรคเกาต์และเหน็บชาค่ะ
2.เม็ดบัว
เราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นเม็ดบัวกันในเมนูทั่วๆ ไปเท่าไร แต่ถ้าเกิดอยากลองหามาทานก็มีให้เลือกทั้งแบบสดและแบบแห้งเลยค่ะ ซึ่งเม็ดบัวนี้ก็สามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ได้ทั้งคาวหวานสารพัดแล้วแต่เราจะครีเอท เพราะแค่นำมาต้มให้นิ่มแล้วจะนำไปทำขนมหวาน ผัดใส่กับข้าวหรือแกงจืดก็ได้หมดค่ะ โดยเม็ดบัวจะช่วยแก้ร้อนในและรักษาอาการท้องร่วงหรือท้องเสีย แถมยังช่วยให้ไม่เพลียและมีแรงขึ้นด้วยค่ะ
3.เม็ดมะม่วงหิมพานต์
ฟังดูจากชื่อแล้วเม็ดมะม่วงหิมพานต์เหมือนจะเป็นเม็ดของผลไม้มากกว่าพวกธัญพืช แต่พอลองกินก็จะพบว่ารสชาติออกมัน ๆ คล้ายถั่วเลยค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วเม็ดมะม่วงหิมพานต์ก็ไม่ใช่ทั้งถั่วหรือเม็ดของมะม่วงนะคะ แต่เป็นผลแท้ของต้นมะม่วงหิมพานต์นั่นเอง สามารถนำใส่ได้ทั้งของคาวและของหวานเลยค่ะ อย่างเมนูยอดฮิตก็จะเป็นไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ ในส่วนของหวานก็จะเห็นได้ทั้งในเค้กและคุกกี้ จะช่วยในเรื่องของความดันโลหิตและป้องกันโรคมะเร็งค่ะ
4.เมล็ดทานตะวัน
คงไม่มีใครไม่รู้จักทานตะวันอย่างแน่นอนค่ะ นอกจากจะมีดอกที่สวยแล้วทานตะวันยังมีเมล็ดรูปหยดน้ำที่สามารถให้น้ำมันและนำมารับประทานได้ด้วยค่ะ แต่หากจะเลือกเมล็ดเมล็ดทานตะวันก็ควรสังเกตุสีดี ๆ นะคะ ซึ่งเมล็ดที่ใหม่นั้นจะมีเปลือกสีเทา ไม่เหลืองหรือมีกลิ่นเหมือนหืน ส่วนการรักษาโรคนั้นเมล็ดทานตะวันก็ทำได้ตั้งแต่การรักษาโรคหวัดไข้ ความดันโลหิตสูง แก้โรคบิด หรือจะนำมาคั่วให้เหลืองแล้วชงดื่ม ก็ช่วยแก้ไอได้ด้วยนะคะ
5.เมล็ดฟักทอง
เมล็ดฟักทองเป็นอีกหนึ่งของว่างที่ทานง่ายเคี้ยวเพลิน เพราะพกไปทานที่ต่าง ๆ ได้สะดวกโดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น แถมรสชาติก็หวานอร่อยและมีประโยชน์สุด ๆ ค่ะ โดยเฉพาะสาว ๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก เพราะเมล็ดฟักทองนั้นมีใยอาหารสูง ทำให้อิ่มได้เร็วและยังมีแคลอรี่กับไขมันที่น้อยด้วยค่ะ ส่วนในเรื่องของการรักษาโรค ก็จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล บรรเทาอาการปวดและอักเสบในข้อต่อซึ่งเป็นอาการของโรคเข่าเสื่อมและโรคไขข้ออักเสบนั่นเองค่ะ
6.ถั่วลิสง
ถั่วลิสงเป็นพืชตระกูลถั่วที่เหมาะกับช่วงควบคุมน้ำหนักเหมือนกับเมล็ดฟักทอง เพิ่มเติมคือมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและเพิ่มกล้ามเนื้อ แนะนำว่าต้องเป็นแบบต้มหรือคั่วนะคะ แต่หากอยากลองเปลี่ยนรสชาติก็นำไปใส่ในอาหารได้หลายเมนูเหมือนกันค่ะ ขอเพียงแค่รับประทานอย่างพอดีก็จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยรักษาโรคตับอักเสบ สมานแผลในกระเพาะอาหารและเหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานเป็นพิเศษ เพราะถั่วลิสงสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและอินซูลินได้ค่ะ
อ่านสรรพคุณของธัญพืชไทยอีก 6 ชนิดกันต่อเลยค่ะ
