ผ้าขนหนูที่นำมาเช็ดตัวนั้นต้องเจอทั้งคราบสบู่ เหงื่อไคล รวมทั้งความชื้นจนอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและคราบต่าง ๆ แม้อาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนผืนใหม่ทุก ๆ ครั้งหลังใช้ แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้เกิน 7 วัน และควรแยกซักจากเสื้อผ้าประเภทอื่น ๆ ด้วย นั่นเพราะว่าผ้าขนหนูเป็นวัสดุที่อมน้ำมาก แถมยังเต็มไปด้วยคราบต่าง ๆ จึงควรแยกซักทีละน้อย เพื่อไม่ให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและทำให้ผ้าที่ซักออกมาสะอาดอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ แล้วจะ ซักผ้าขนหนู อย่างไรให้ออกมานุ่มฟูเหมือนใหม่ แถมยังสะอาด ไร้กลิ่นอับ ตาม my home ไปดูเคล็ดลับดี ๆ เหล่านั้นกันค่ะ
1 . ขจัดกลิ่นอับด้วยน้ำส้มสายชู
เมื่อใช้ผ้าเช็ดตัวไปนาน ๆ ก็อาจเกิดปัญหากลิ่นอับสะสมจนนำไปซักออกสักกี่ครั้งก็ยังไม่จางหายไปสักที ซึ่งวิธีแก้นั้นสามารถใช้น้ำส้มสายชูประมาณครึ่งถ้วยผสมเข้ากับผงซักฟอกในขั้นตอนการซัก หรืออาจผสมในน้ำอุ่นและแช่ผ้าขนหนูทิ้งไว้สักครึ่งชั่วโมงก่อนนำมา ซักผ้าขนหนู ได้ น้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดกลิ่นอับและแบคทีเรียที่อยู่ในผ้าขนหนูให้ค่อย ๆ หายไป และกลิ่นของน้ำส้มสายชูก็จะค่อย ๆ จางลงไปเมื่อนำไปตากจนแห้งสนิทค่ะ
2 . ใช้น้ำส้มสายชูแทนน้ำยาปรับผ้านุ่ม
ตัวช่วยหลักที่ทำให้ผ้าขนหนูออกมานุ่มฟูน่าใช้นั้นไม่ใช่น้ำยาปรับผ้านุ่มอย่างที่หลากคนเข้าใจ แต่กลับเป็นส่วนผสมง่าย ๆ อย่างน้ำส้มสายชูต่างหาก เพียงผสมน้ำส้มสายชูประมาณ 2 ฝา ลงไปแทนน้ำยาปรับผ้านุ่มก็จะช่วยปรับสภาพเส้นใยให้ตั้งฟูจนมีสัมผัสที่นุ่มขึ้น ซึ่งจะต่างจากน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้การเข้าไปเคลือบเส้นใยให้ลื่น วิธีนี้สามารถนำไปใช้กับผ้าที่มี่เส้นใยสั้นได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ผ้าขนหนู ผ้าฝ้าย หรือไหมพรม
3 . ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มทุกครั้ง
แม้น้ำยาปรับผ้านุ่มจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้เสื้อผ้านุ่มหอม แต่นั่นไม่ใช่กับผ้าขนหนูค่ะ ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งกลายเป็นเข้าไปเคลือบเส้นใยและทำให้ซับน้ำได้ลดลง การผสมน้ำส้มสายชูลงไปนั้นจะช่วยให้การ ซักผ้าขนหนู ออกมานุ่มฟูได้มากกว่า แค่อาจใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปเพียงเล็กน้อยบ้างนาน ๆ ครั้ง สำหรับใครที่อยากให้ผ้ามีกลิ่นหอม หรืออาจใช้ส่วนผสมอื่น ๆ อย่างน้ำมันหอมระเหยและเปลือกส้มแทนก็ได้เหมือนกัน
4 . ใช้ลูกบอลช่วยให้นุ่มฟู
การใส่ลูกบอลซักผ้าหรือลูกเทนนิสเข้าไปในขั้นตอนการซักนั้นเป็นอีกเทคนิคที่ช่วยให้ผ้าออกมานุ่มฟูยิ่งขึ้นได้ โดยสามารถนำไปใช้กับผ้าหนา ๆ ได้ทุกประเภท ตั้งแต่ ผ้านวม ไปจนถึงผ้าขนหนูที่นำมาเช็ดตัว ลูกบอลที่อยู่ในเครื่องซักผ้าจะเข้าไปช่วยปั่นให้เนื้อผ้าไม่กระด้างและเกาะตัวกันเป็นก้อน ใช้แค่เพียง 2-3 ลูก ก็ทำให้ผ้าขนหนูที่ได้ออกมามีความนุ่มน่าใช้ได้มากกว่าเดิมแล้วค่ะ
5 . ใส่ในถุงถนอมผ้า
ผ้าขนหนูเป็นเครื่องใช้ที่มีเส้นใยค่อนข้างบอบบางกว่าเนื้อผ้าประเภทอื่น จึงอาจต้องระมัดระวังในขั้นตอนการซักเป็นพิเศษด้วย ถ้าไม่อยากเสี่ยงให้เส้นใยถูกทำลายหรือไปเกี่ยวกับวัสดุอื่น ๆ จนหลุดรุ่ยก็สามารถป้องกันไว้ก่อนด้วยการใส่ถุงถนอมผ้าก่อนนำเข้าเครื่องได้ โดยอาจใช้ถุงตาข่ายทั่วไปหรือไม่อย่างนั้นก็อาจใช้ปลอกหมอนที่มีอยู่มาใส่ผ้าขนหนูที่ผืนใหญ่ ๆ แทนก็ได้เหมือนกันค่ะ
6 . ตากในที่อากาศถ่ายเท
ใคร ๆ ก็คงไม่อยากให้ผ้าขนหนูที่เพิ่งซักเสร็จใหม่ ๆ ออกมาแข็งกระด้างจนไม่น่าใช้ ซึ่งการตากให้แห้งนั้นเป็นอีกขั้นตอนสำคัญที่ให้ผ้าออกมานุ่มเลยค่ะ ถ้าหากนำไปตากกลางแดดเหมือนเสื้อผ้าทั่วไปก็อาจทำให้เส้นใยผ้าแห้งกรอบจนกระด้าง โดยทางที่ดีควรตากไว้ในที่ร่มและมีอากาศถ่ายเท หรืออยู่ในมุมที่ไม่โดนแสงแดดโดยตรง เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นใยผ้าถูกทำลายและแห้งกรอบเกินไป รวมทั้งยังควรหลีกเลี่ยงการนำเข้าเครื่องอบด้วยค่ะ
7 . แยกซักและเปลี่ยนใหม่ทุกสัปดาห์
ผ้าขนหนูที่นำมาเช็ดตัวนั้นต้องเจอทั้งคราบสบู่ เหงื่อไคล รวมทั้งความชื้นจนอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียและคราบต่าง ๆ แม้อาจจะไม่จำเป็นทต้องเปลี่ยนผืนใหม่ทุกครั้งหลังใช้แต่ก็ไม่ควรปล่อยไว้เกิน 7 วัน และควรแยกซักจากเสื้อผ้าประเภทอื่น นั่นเพราะผ้าขนหนูเป็นวัสดุที่อมน้ำมากแถมยังเต็มไปด้วยคราบต่าง ๆ จึงควรแยกซักทีละน้อย เพื่อไม่ให้เครื่องซักผ้าทำงานหนักและทำให้ผ้าที่ซักออกมาสะอาดอย่างเต็มที่ด้วยค่ะ
