การซักผ้าให้สะอาดอาจไม่ได้จบแค่นำเข้าเครื่อง ซัก อบ และนำออกมาตากเท่านั้น แต่ยังมี เคล็ดลับ ซักผ้า อีกเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทางที่สามารถทำให้เสื้อผ้าออกมาหอมสะอาด ใส่สบาย และดูแลง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย เป็นเคล็ดลับการใช้เครื่องซักและอบผ้าที่นอกจากจะช่วยประหยัดแรงและเวลาแล้ว ก็สามารถทำความสะอาดเครื่องนุ่งห่มรวมถึงของใช้ต่าง ๆ ที่เป็นเนื้อผ้าได้ดีไม่แพ้การซักมือเลยค่ะจะมี เคล็ดลับ ซักผ้า อะไรบ้างนั้นตาม my home ไปดูกัน
1. ใช้ปลอกหมอนแทนถุงตาข่ายแยกผ้าได้
ก่อนนำเครื่องใช้ประเภทกระเป๋า ชุดชั้นใน หรือตุ๊กตาเข้าเครื่องซักผ้านั้นควรใส่ถุงตาข่ายเพื่อถนอมเนื้อผ้าและป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย แต่นอกจากถุงตาข่ายสำหรับซักผ้าโดยเฉพาะแล้วก็ยังสามารถใช้ปลอกหมอนแทนได้ด้วยค่ะ แค่นำเครื่องใช้ที่ต้องการซักใส่เข้าไปในปลอกหมอนและมัดด้วยยางมัดผมก็จะได้ถุงซักผ้าเฉพาะกิจแบบง่าย ๆ ที่ช่วยถนอมเครื่องใช้ได้ไม่แพ้กันเลย
2 . ซักผ้าขนหนูให้นุ่มฟูด้วยการใส่ลูกเทนนิส
ถ้าอยากซักผ้าขนหนูให้ออกมานุ่มฟูไม่แข็งกระด้าง ก็สามารถใช้วิธีง่าย ๆ อย่างการใส่ลูกเทนนิสสัก 2-3 ลูก เข้าไปพร้อมกับผ้าขณะซักได้เลย แต่ถ้ากลัวว่าขนของลูกเทนนิสจะหลุดติดกับผ้าที่ซักขึ้นมาก็อาจหาถุงเท้าสะอาด ๆ มาสวมเข้าไปหรือห่อด้วยผ้าชนิดอื่นก่อนได้ เท่านี้ก็สามารถใส่เข้าไปในถังซักผ้าได้อย่างไม่มีปัญหา วิธีนี้สามารถนำไปใช้ได้ทั้งการซักผ้าขนหนู ผ้านวม หรือผ้าหนา ๆ ที่ต้องการให้ออกมานุ่มฟูได้ทุกประเภทเลยค่ะ
3 . การทำแผ่นอบผ้าแบบ homemade
อยากอบผ้าให้ออกมาหอมฟุ้ง แต่ไม่อยากหาซื้อแผ่นอบผ้ามาใช้ให้เปลือง ขอแนะนำแผ่นอบผ้าแบบ homemade ที่ทุกคนสามารถทำใช้เองกันได้เลยค่ะ แค่นำฟองน้ำหรือผ้าขนหนูไซส์เล็กมาชุบน้ำยาปรับผ้านุ่มที่เจือจางด้วยน้ำเปล่าเล็กน้อยให้ชุ่ม หรือจะผสมน้ำยาลงในภาชนะที่มีฝาปิดสนิทและนำผ้าไปแช่เตรียมไว้ให้พร้อมใช้ ถึงเวลาก็สามารถหยิบใส่เข้าเครื่องพร้อมผ้าที่ต้องการอบได้เลย เมื่ออบเสร็จก็สามารถนำผ้าออกมาซักทำความสะอาดและนำไปชุบน้ำยาเพื่อใช้ใหม่ได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ
4 . ใส่น้ำแข็งในเครื่องอบช่วยลดรอยยับ
อีกเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำให้ผ้าเรียบขึ้นได้ในวันที่เร่งรีบก็คือการนำไปเข้าเครื่องอบพร้อมกับใส่น้ำแข็งลงไปเล็กน้อย โดยตั้งความร้อนในระดับปานกลางและอบเพียง 10 – 15 นาทีก็เพียงพอค่ะ ในขณะที่น้ำแข็งละลายและกลายเป็นไอน้ำนั้นก็จะเข้าไปช่วยทำให้เส้นใยผ้าคลายตัว รอยยับยู่ยี่บนเสื้อผ้าจึงค่อย ๆ ลดลง หลังจากนำออกมาจากเครื่องให้นำมาสะบัดอีกสักหน่อยก็สามารถพอใส่ออกไปข้างนอกได้แล้วค่ะ แม้จะไม่เรียบเท่ากับการใช้เตารีดแต่ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยประหยัดแรงและเวลาในเวลาเร่งด่วนได้ดีเลยค่ะ
5 . ผ้าแห้งไวเมื่อใส่ผ้าขนหนูเข้าไปด้วย
วิธีง่าย ๆ อีกขั้นตอนที่ช่วยให้ผ้าแห้งไวขึ้นก็คือการใส่ผ้าขนหนูเข้าไปปั่นแห้งรวมกับผ้าในเครื่อง โดยผ้าที่ใช้นั้นจะต้องเป็นผ้าที่แห้งสนิทนะคะ เพราะจะได้ดูดซับน้ำจากผ้าเปียกในขณะปั่นแห้งได้อย่างเต็มที่ ถือเป็นตัวช่วยอีกแรงที่ทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้นโดยไม่ต้องใช้ความร้อนหรือเครื่องอบผ้า แค่นำออกมาสะบัดและตากลมไว้หรือนำไปรีดโดยไม่ต้องใช้ไอน้ำก็สามารถออกมาเรียบสวยพร้อมใส่ได้เลย
6 . ก้อนอลูมิเนียมฟอยล์ช่วยลดไฟฟ้าสถิต
วัสดุในครัวอย่างอลูมิเนียมฟอยล์ห่ออาหารนั้นสามารถช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบนเสื้อผ้าได้ แค่นำมาปั้นให้เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดประมาณลูกเทนนิสสัก 2 – 3 ลูก และใส่เข้าไปในขั้นตอนการปั่นแห้ง ก็จะช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิตบนเสื้อผ้า เมื่อนำมาสวมใส่จะทำให้เนื้อผ้าทิ้งตัวได้ดี ไม่แนบชิดติดกับผิวหนัง รวมทั้งยังไม่ดึงดูดฝุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ชอบมาติดบนเนื้อผ้าด้วย
7 . ทิชชูเปียกช่วยดักจับฝุ่น
เศษฝุ่นละอองเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เห็นได้ชัดบนเสื้อผ้าสีเข้มจะลดลงไปถ้าใส่ทิชชูเปียกเข้าไปในถังซักผ้าด้วย เพราะทิชชูเปียกนั้นสามารถช่วยดักจับสิ่งสกปรกต่าง ๆ อย่างเศษฝุ่นและขนสัตว์ได้ แค่ใส่ทิชชูเปียก 2-3 แผ่นเข้าไปปั่นรวมกันในขณะซักผ้า สิ่งสกปรกต่าง ๆ ก็จะมาติดรวมกันอยู่บนทิชชูเปียกแทนที่จะไปติดอยู่บนเนื้อผ้า โดยทิชชูเปียกที่ใช้นั้นควรมีคุณภาพรวมทั้งหนาพอที่จะไม่ขาดระหว่างการซัก และถ้าไม่อยากให้กลิ่นของทิชชูเปียกไปติดกับเสื้อผ้าก็อย่าลืมเลือกแบบที่ไม่ผสมน้ำหอมนะคะ
8 . กำจัดขุยทิชชูด้วยการปั่นแห้ง
ปัญหาอีกอย่างที่ชวนปวดหัวหลังซักผ้าเสร็จก็คือการพบว่าลืมนำกระดาษทิชชูออกจากกระเป๋าและถูกปั่นจนกลายเป็นขุยสีขาวติดเต็มเสื้อผ้าไปหมด ถ้าไม่อยากรอจนแห้งและต้องมาเสียเวลากำจัดออกก็สามารถให้เครื่องซักผ้าจัดการแทนได้เลยค่ะ เพราะการนำผ้าที่มีขุยกระดาษทิชชูติดเข้าไปปั่นแห้งอีกครั้งจะทำให้เศษกระดาษทิชชูหลุดออกจากเนื้อผ้าได้ เมื่อนำออกมาตากจนแห้งและสะบัดอีกหน่อยก็แทบไม่เหลือเศษกระดาษติดกวนใจหรือต้องใช้เวลานานในการกำจัดออกแล้ว
