ถ้าอยากให้เนื้อสัตว์ที่ปรุงออกมาอร่อยนุ่มชุ่มลิ้น การหมักก็ถือเป็นขั้นตอนสำคัญอีกอย่างต่อจากการเลือกและหั่นเนื้อสัตว์เลยค่ะ ซึ่งวัตถุดิบหรือส่วนผสมที่ช่วยให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้นได้นั้น ก็มีให้เลือกใช้ด้วยกันหลายชนิด หลากหลายสูตร วันนี้ my home รวบรวมเอา สูตรหมักหมู จากส่วนผสมตัวเด็ดตัวดังภายในครัว ที่จะสามารถนำมาใช้หมักเพื่อเพิ่มความนุ่มความอร่อยของเนื้อสัตว์ให้ตรงใจมาฝากกันค่ะ
1 . สูตรหมักหมู จาก หัวหอม

หัวหอมเป็นผักที่สามารถนำมาหมักเนื้อสัตว์ได้อย่างอร่อยลงตัว เพราะเอนไซม์ที่อยู่ในหัวหอมจะเข้าไปช่วยทำให้เนื้อสัตว์นุ่มลงได้ โดยก่อนนำไปหมักรวมกับเนื้อสัตว์นั้นจะต้องหั่นให้ละเอียดซะก่อนและควรนำไปพักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 1 ชั่วโมง นอกจากหัวหอมจะทำให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้นได้แล้วก็ยังมีรสหวานอ่อน ๆ ที่เมื่อเข้าไปรวมกับกลิ่นและรสของเนื้อสัตว์แล้วก็จะยิ่งออกมาอร่อยกลมกล่อมได้อย่างเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ
2 . สับปะรด

ในสับปะรดมีความเป็นกรดรวมทั้งเอนไซม์ชนิดสำคัญที่ช่วยย่อยสลายโปรตีนในเนื้อ ทำให้เนื้อสัตว์เปื่อยและนุ่มลงได้ เหมาะกับการนำไปใช้หมักเนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่ต้องการความนุ่มเป็นพิเศษ โดยอาจใช้เป็นสับปะรดหั่นชิ้นเล็ก ๆ หรือน้ำสับปะรดก็ได้ค่ะ ที่สำคัญคือควรกะเวลาในการหมักให้พอเหมาะตามปริมาณและขนาดของชิ้นเนื้อที่หั่น ไม่อย่างนั้นเนื้อสัตว์ก็อาจเปื่อยจนเกินไปได้
3 . สูตรหมักหมู ด้วยแป้งข้าวโพด หรือ แป้งมัน

การผสมแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันลงไปหมักเนื้อสัตว์รวมกับส่วนผสมอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มความเหนียวนุ่มให้กับเนื้อสัตว์ เปลี่ยนเนื้อสัมผัสธรรมดาให้เคี้ยวอร่อยยิ่งขึ้นได้ สามารถใช้ได้ทั้งเนื้อสัตว์ที่หั่นเป็นชิ้นโดยตัวแป้งจะรวมกับเครื่องปรุงและเคลือบผิวของเนื้อสัตว์เอาไว้ทำให้มีความเหนียวนุ่ม หรือจะผสมลงไปกับเนื้อสัตว์ที่สับละเอียดก็จะช่วยให้ปั้นขึ้นรูปเพื่อนำไปปรุงอาหารต่อได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
4 . นมสด

นมสดเป็นวัตถุดิบยอดนิยมอีกอย่างที่ช่วยให้เนื้อสัตว์อร่อยขึ้นได้อย่างไม่ยาก เพราะนอกจากจะมีสารที่สามารถทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเนื้อให้นุ่มขึ้นได้แล้ว ก็ยังมีส่วนผสมของไขมันที่จะเข้าไปเคลือบและช่วยปรับผิวสัมผัสของเนื้อให้ชุ่มฉ่ำ อีกทั้งยังช่วยลดกลิ่นคาวของเนื้อได้ด้วย ยิ่งถ้าหมักรวมกับเครื่องเทศหรือเครื่องปรุงชนิดอื่น ๆ ก็จะให้ส่วนผสมต่าง ๆ ละลายละเข้าเนื้อได้เป็นอย่างดี ถือเป็นวัตถุดิบที่ทั้งหอมมันและยังทำให้ส่วนผสมเข้าเนื้อมากขึ้นด้วย
5 . ไข่ไก่

ไข่ไก่จะเหมาะกับการนำมาหมักเนื้อสัตว์ในส่วนที่มีไขมันมาก โดยปกติไข่ไก่จะมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มอร่อยในตัวอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้ายิ่งนำมาหมักเข้ากับเนื้อสัตว์ก็จะทำให้ความนุ่มของไข่ไก่แทรกซึมเข้าไปในเนื้อด้วย และนอกจากความนุ่ม หอมมัน ไม่ซ้ำใครแล้วก็ยังช่วยให้เนื้อสัตว์อุ้มน้ำได้ดีขึ้น จึงสามารถเก็บกักความชุ่มฉ่ำและรสชาติของเครื่องปรุงเอาไว้ได้ดี
6 . ซอสปรุงรส

แม้ในวันที่ไม่มีวัตถุดิบใด ๆ ติดตู้เย็นก็ยังสามารถหมักเนื้อสัตว์ให้นุ่มอร่อยได้ เพราะแค่ซอสปรุงรสธรรมดา ที่อยู่ในครัวอย่างซอสถั่วเหลืองและซอสหอยนางรมก็ทำให้เนื้อสัตว์อร่อยได้เหมือนกันค่ะ แค่หมักให้เรียบร้อยและนำไปแช่เย็นพักไว้ โดยเริ่มต้นตั้งแต่ 15-30 นาที ซอสปรุงรสก็จะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสัตว์ทำให้มีความชุ่มฉ่ำและได้รสกลมกล่อมในตัว
7 . เบกกิ้งโซดา

ถ้าหากมีเบกกิ้งโซดาติดบ้านไว้ใช้เป็นประจำอยู่แล้ว การนำมาช่วยหมักเนื้อสัตว์ให้นุ่มก็เป็นอีกอย่างที่
เบกกิ้งโซดาสามารถทำได้ค่ะ เพียงเติมลงไปแค่นิดเดียวก็จะทำให้เนื้อสัตว์นุ่มขึ้นได้อย่างง่าย ๆ แต่ถ้าหากเผลอเติมเยอะเกินไปก็จะทำให้เนื้อมีรสขมเฝื่อนและหมดอร่อยแทนได้ โดยไม่ควรใช้เบกกิ้งโซดาเกิน 1 ช้อนชา สำหรับเนื้อสัตว์ 1 กิโลกรัมค่ะ
8 . น้ำผึ้ง

การใช้น้ำผึ้งหมักจะเหมาะกับเนื้อสัตว์ที่นำไปอบหรือย่าง โดยจะทำให้เนื้อมีความชุ่มฉ่ำ ไม่แห้งแข็ง และยังเพิ่มความหอมหวานแบบธรรมชาติไปในตัวด้วยค่ะ ซึ่งถ้าอยากให้น้ำผึ้งเข้าเนื้อได้ดียิ่งขึ้นก็อาจใช้น้ำมันมาผสมเพิ่มเป็นตัวช่วยได้ แค่หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ก็พร้อมนำเนื้อสัตว์ไปอบหรือย่างให้ออกมานุ่มอร่อยได้แล้ว
9 . น้ำมันมะกอก , น้ำมันงา

ถ้าอยากเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้เนื้อสัตว์ก็ลองเติมน้ำมันมะกอก หรือน้ำมันงาที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ลงไปผสมในขั้นตอนการหมักได้ค่ะ น้ำมันนั้นจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อสัตว์รวมทั้งเคลือบเอาไว้ อีกทั้งยังช่วยในการละลายและดึงรสชาติเครื่องปรุงต่าง ๆ ออกมาได้ดี เหมาะกับการเพิ่มความนุ่มให้เมนูเนื้อสัตว์ที่ต้องการปรุงรสจัดจ้านหรือเน้นรสชาติของเนื้ออย่างเต็มที่
10 . โซดา, น้ำอัดลม

น้ำอัดลมและโซดาเป็นส่วนผสมอีกอย่างที่นำมาใช้ในการหมักเนื้อสัตว์ได้ เพราะกรดที่อยู่ในน้ำอัดลมและโซดาสามารถทำให้เนื้ออ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย แต่อาจไม่ได้ช่วยรักษาความชุ่มชื้นเอาไว้เท่าที่ควร จึงไม่ควรหมักหรือแช่ไว้นานเกินไป ยิ่งถ้าหากใช้เป็นโซดาด้วยล่ะก็ไม่ควรแช่ไว้เกิน 15-30 นาทีเลยค่ะ เพราะนั่นจะทำให้เนื้อจืดและเสียรสชาติได้ แต่ถ้าหากใช้น้ำอัดลมก็จะช่วยได้ทั้งเรื่องความนุ่มของเนื้อและเพิ่มรสหวานไปในตัว