จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมการกินดอกไม้ มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ และ สืบเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งปัจจุบันได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยสีสัน และ ความสวยงามของ ดอกไม้ กินได้ ที่ตกแต่งอยู่บนอาหาร ที่ใครเห็นเป็นต้องเป็นถ่ายรูปลงโซเชียล จึงทำให้ความนิยมการรับประทานดอกไม้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว
แต่รู้ไหมว่า.. การปลูก ดอกไม้ กินได้ ที่เราเห็นนั้น แต่ละดอกมีการเดินทาง กว่าจะมาอยู่บนจานอาหารได้นั้น มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่มากมาย ทั้งเคล็ดลับในการเลือกดอกไม้ การเก็บรักษา รวมถึงการนำไปรับประทาน อยากรู้แล้วสินะ..มาชมกันเลย
ดอกไม้กินได้บางชนิดมีรสชาติเหมือนผลไม้
อย่างดอกดาวกระจายป่ามีรสชาติเหมือนมะม่วงเขียวเสวย ผีเสื้อราตรีรสชาติเหมือนตะลิงปิง ดอกกล้วยไม้ตระกูลเข็มมีรสชาติเหมือนแตงโม ดอกมะรุมมีรสชาติเหมือนมะขามเทศ
ตัดดอกไม้ต้องตัดก่อน 9.00น.
เนื่องจากช่วงเช้าแสงแดดยังไม่แรงมาก พืชยังไม่ค่อยได้คายน้ำจึงทำให้ปริมาณน้ำในดอกไม้มีสูง ส่งผลต่ออายุการเก็บรักษาของดอกไม้ให้สดนานขึ้นได้
จำนวนชั่วโมงของแสงมีผลต่อการออกดอก
ไม้ดอกบางชนิดออกดอกในช่วงวันสั้น คือช่วงฤดูหนาวที่มีกลางวันสั้นกว่ากลางคืน และบางชนิดออกดอกในช่วงวันยาว คือช่วงฤดูร้อนที่มีกลางวันนานกว่ากลางคืน ดังนั้น ถ้าอยากปลูก ดอกไม้กินได ควรศึกษาฤดูที่ดอกไม้ชนิดนั้นๆ ออกดอกด้วยนะ
ดอกไม้สามารถทำเป็นอาหารคาวได้
นอกจากดอกไม้กินได้จะใช้สำหรับตกแต่งจานอาหารแล้ว มีดอกไม้ที่สามารถนำไปทำอาหารได้ทั้ง ลวก ผัด ทอด อย่างดอกเฟื่องฟ้าชุปแป้งทอด ดอกลาเวนเดอร์นำมาเป็นส่วนผสมทำขนมและเบเกอรี ดอกขจรผัดน้ำมันหอย ดอกโสนลวกกินกับน้ำพริก
การเลือก ปลูกดอกไม้กินได้ ให้เหมาะสมในแต่ละเมนู
อย่างกลุ่มอาหารคาวนิยมใช้ดอกที่รสชาติเหมือนผัก เช่น ดอกโหระพา ดอกพริก ดอกผักชีลาว ส่วนเมนูของหวานจะใช้ดอกไม้ที่ไม่มีกลิ่น เพื่อไม่ให้รบกวนกลิ่นของขนมหวาน เช่น ดอกพวงชมพู ดอกหางนกยูงไทย ดอกเล็บมือนาง
ดอกไม้ตกแต่งจานที่มากกว่าแค่ “ตกแต่ง”
อีกสาเหตุหนึ่งที่เชฟส่วนใหญ่ใช้ดอกไม้ในการตกแต่งจาน เพราะ ดอกไม้บางชนิดมีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยทำให้อาหารมีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เช่น ดอกดาวเรืองที่มีกลิ่นหอมคล้ายส้ม
อยากให้ดอกออกบ่อยต้องตัดแต่ง
วิธีการนี้เหมาะสำหรับไม้พุ่มที่ออกดอกบริเวณปลายยอด โดยทำการตัดดอกที่บานออกเพื่อให้ติดยอดและแตกกอใหม่ได้เร็วขึ้น จากนั้นบำรุงต้นให้แข็งแรงสมบูรณ์ เท่านี้ดอกไม้ก็จะมีให้เก็บอยู่ตลอด ส่วนดอกที่ตัดไปแล้วก็สามารถนำมาปักแจกันหรือจะนำมารับประทานก็ได้
ไม่ใช่ดอกไม้ทุกชนิดที่กินได้
เพราะดอกไม้บางชนิดมีทั้งขนและยาง ซึ่งสามารถทำอันตรายต่อคนที่รับประทานเข้าไปได้ อย่างเช่น ดอกชวนชม ดอกแพงพวย ดอกยี่โถ และดอกไฮเดรนเยีย เป็นต้น
เก็บดอกไม้ให้อยู่ได้นาน
ต้องเก็บในกล่องที่มีฝาปิดสนิท ก่อนปิดฝาให้สเปรย์น้ำสะอาดเพื่อรักษาความชื้น และเก็บไว้ในตู้เย็น ที่สำคัญระวังไม่ให้ดอกไม้โดนลมโดยตรง
ห้ามล้างดอกไม้ก่อนเก็บเข้าตู้เย็น
เนื่องจากการที่เรานำดอกไม้ไปล้างนั้น จะทำให้ดอกไม้ช้ำแล้วเน่าเสียได้ง่าย ดังนั้น ให้เลือกดอกไม้ที่จะใช้ก่อนแล้วค่อยนำมาล้างจะดีกว่า
ไปสำรวจ แปลงดอกไม้ทดลองปลูก ก่อนจะเป็นสวนในสไตล์ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง
ทำเกษตรแนวใหม่ ปลูก ดอกไม้กินได้ทำอย่างไรให้สร้างรายได้ทุกวัน
