ไปสำรวจ แปลงดอกไม้ทดลองปลูก ก่อนจะเป็นสวนในสไตล์ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง

เราต่างรู้จักคุณวิทย์ ศิริวิทย์ ริ้วบำรุง ในฐานะนักจัดสวนผู้สร้างกระแสสวนอังกฤษในเมืองไทยกับเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในเรื่องของการเลือกพรรณไม้โทนสี ซึ่งสร้าง Mood&Tone ในสวน จนบางครั้งแอบเผลอคิดไปว่าในแต่ละแห่งไม่ได้อยู่ในเมืองไทย

แต่รู้หรือไม่ก่อนจะเป็นสวนในรูปแบบที่เห็นนั้นคุณวิทย์เป็นหนึ่ง #นักปลูก ที่ทดลองปลูกพรรณไม้แปลกตาหายาก ทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและเก็บจากริมทางที่พบเจอตามต่างจังหวัด โดยเพาะปลูกในแปลงที่ซ่อนตัวอยู่หลัง Whispering Café

แปลงปลูกดอกไม้

แปลงดอกไม้แห่งนี้ชวนให้นึกถึงสวนในชนบทที่ต่างประเทศ ด้วยสีสันของดอกไม้ในโทนอ่อนนุ่ม ฝูงเป็ดคอลดั๊ก ห่านจีนขาว ไก่ซิลกี้ตัวจิ๋วในเล้าสัตว์ปีกทรงโปร่ง แต่เมื่อได้สำรวจอย่างถี่ถ้วนจะเห็นต้นตะขบที่แฝงตัวอยู่กับต้นโอลีฟได้อย่างแนบเนียน รวมทั้งต้นกล้วยที่ปลูกคู่ต้นสนเกรวิลเลียใบเหลือบเงิน เช่นเดียวกับพรรณไม้ที่ปลูกในแปลงซึ่งมีทั้งไม้ดอกกินได้ สมุนไพรฝรั่ง ไม้ดอกประดับสวน ดอกไม้ริมถนน และพรรณไม้ไม่รู้จักชื่อแต่ให้ดอกสวยอีกหลายชนิดที่แข่งกันเบ่งบาน (แม้ในช่วงฤดูฝนที่ต้องผจญพายุ 3 วันติดต่อกัน)

“ตามอาชีพของเราที่เป็นนักจัดสวน พรรณไม้ที่เลือกใช้ส่วนใหญ่ก็เป็นไม้แปลกๆ นำเข้าบ้าง หายากบ้าง ก่อนเลือกปลูกให้บ้านลูกค้าเราจึงต้องลองปลูกก่อน จะได้รู้ว่าปลูกในเมืองไทยได้ไหมปลูกยากเกินที่เจ้าของบ้านจะดูแลได้ไหม รวมทั้งพวกไม้ยืนต้นที่ปลูกเป็นไม้ประธานที่ต้องโตจนได้ขนาดที่พอเหมาะ ก็เลือกมาปลูกบนที่ดินตรงนี้ก่อนล้อมไปจัดสวนครับ” คุณวิทย์เล่าที่มาของสวนธรรมชาติบรรยากาศชนบทแห่งนี้แต่จะปลูกดอกไม้ในแปลงให้บานสะพรั่งพร้อมให้ตัดดอกประดับจานอาหารเมนูขนมหวานในคาเฟ่ รวมทั้งตัดประดับแจกันที่ร้าน Little Tree และ Whispering Cafe ในทุกๆ วันได้

บนที่ดินเปล่ากว่า 8 ไร่ ซึ่งเดิมที่เป็นท้องร่องสวนถูกปรับให้เป็นพื้นที่อนุบาลพรรณไม้สำหรับจัดสวน แปลงปลูกกลางธรรมชาติที่ไร้โรงเรือนบังแดดแต่ใช้ร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่เดิมเป็นพื้นที่อนุบาลต้นกล้า บางส่วนขุดสระเพื่อใช้ประโยชน์จากดินถมให้สูงขึ้นจากเดิมเป็นสวนผลไม้ และใช้ประโยชน์สำหรับเก็บน้ำทำหน้าที่เป็นแก้มลิง และยังใช้น้ำที่กักเก็บนี้รดน้ำต้นไม้ในช่วงน้ำทะเลหนุน ทำเกิดปัญหาน้ำกร่อยซึ่งหากใช้น้ำจากแม่น้ำตามธรรมชาติอาจจะไม่ส่งผลดีต่อต้นไม้รวมถึงดอกไม้ในแปลงปลูกแห่งนี้ด้วย

“มีแผนหลายอย่างที่อยากทำในพื้นที่ตรงนี้ อย่างปลูกบ้านให้ลูกๆ หลานๆ ทำโรงแรม ทำร้านอาหารเพิ่ม หรืออยากใช้พื้นที่ตรงนี้ทำเป็นบ้านพักตากอากาศไม่ถึงกับเป็นหมู่บ้านจัดสรรแต่เป็นการแชร์ให้คนที่อยากมีบ้านสวนต่างจังหวัด ขับรถไม่ไกลจากกรุงเทพแต่ได้อยู่กับธรรมชาติ ต้นไม้ จึงปรับที่ดินแล้วปลูกไม้ยืนต้นรอให้ต้นไม้ค่อยๆ โตเป็นแนวรั้วธรรมชาติ สร้างพื้นที่ส่วนตัวจากที่ดินรอบๆ ต้นไม้เดิมที่มีก็เก็บรักษาไว้ให้ได้เยอะที่สุด ”

ไม้ดอกต้องตัด

แม้ใครต่อใครจะยกให้ไม้ดอกเป็นพืชฉาบฉวยเพราะอายุสั้น ออกดอกไม่นานก็โรยรา กว่าจะมีให้เฉยชมอีกครั้งก็ใช้เวลานาน แต่สำหรับแปลงดอกไม้แห่งนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น

“เริ่มแรกปลูกโรสแมรี่ ไธม์ คาลามิ้นต์ ทารากอน เพื่อทำอาหารและจัดจาน จึงมีสมุนไพรฝรั่งอยู่ครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งเป็นไม้ดอก ที่บางทีก็ได้เมล็ดมาจากต่างจังหวัด อย่างดาวกระจาย หญ้าหนวดแมว นีออน บานชื่น ดาวเรือง แต่ที่เน้นๆ จะเป็นไม้ดอกที่เราเอาไปจัดสวนได้ อย่างบลูเสจ รัสเซียนเสจ อเมริกันเสจ นีออนออสเตรเลีย ซัลเวียบิ๊กบลู เดซี่ บัวดิน ลาเวนเดอร์ เน้นสีโทนเย็นอย่างม่วง ชมพู เป็นโทนสีที่ชอบใช้งานจัดสวน และมีไม้ทดลองปลูกอีกหลายชนิดอย่างไม้ญี่ปุ่นที่ยังไม่รู้จักชื่อ ลองปลูกไม่ยากแล้วน่าจะจัดสวนได้”

คุณวิทย์เล่าว่า “เคล็ดลับในการปลูกไม้ดอกให้ออกดอกตลอดมันคือการตัดแต่ง ดอกออกมาเชยชมอยู่วันสองวัน ให้ตัดไปปักแจกัน ไม่จำเป็นต้องรอให้โรยทั้งหมด มันจะช่วยให้ตัดยอดใหม่และแตกดอกใหม่ได้เร็วหากปุ๋ยได้ น้ำได้ แสงได้ ตัดแต่งได้ เท่านั้นก็จะได้ชมดอกไม้นานๆ ไม่เคยขาดดอก อย่างดอกไม้พวกนี้ในหนึ่งเดือนจะมีบางจังหวะที่ทุกต้นแตกดอกพร้อมกัน บานสะพรั่งมากๆ “

ที่มาของแปลงสวนดอกไม้นั้นคุณวิทย์เล่าย้อนถึงวัยเด็กที่เห็นภาพของคุณแม่ชอบตัดดอกไม้ปักแจกันอยู่เสมอ จึงตั้งใจทำให้พื้นที่ตรงนี้ให้คุณแม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เขาชอบ และจะได้เห็นภาพของคุณแม่เข้าสวนตัดดอกไม้ตอนเย็นของวันอยู่เสมอ

“ถ้าสังเกตจะเห็นว่าพยายามจะไม่แยกชนิด ไม่ได้ปลูกเดี่ยวๆ จะปลูกรวมกันแล้วใช้วิธีสังเกตธรรมชาติของเขา พอถึงเวลาจัดสวนมันจะเป็นสวนแบบมิกซ์บอร์เดอร์ ผสมๆ กัน จึงต้องปลูกคละกันให้ได้เฉดสีต้องการ เราจะได้รู้ว่าต้นนี้โตง่าย ต้นนี้โตช้า จะได้รู้จังหวะการดูแล เพราะบางทีต้นที่โตเร็วจะไปกินต้นที่โตช้า มันจึงเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้ปลูกต้นไม้ในสวนไม่รอด แปลงดอกไม้นี้จึงเป็นแปลงทดลองปลูกที่ทำความรู้จักกับต้นไม้ก่อนนำไปใช้ในหน้างานได้จริง”

ทำแปลงปลูกยกกระบะ ดูแลได้ง่ายขึ้น

ความคลุกคลีกับการอาชีพจัดสวนโดยเฉพาะสวนสไตล์อังกฤษมาหลายสิบปี ทำให้คุณวิทย์ค้นพบเคล็ดลับง่ายๆ ในการปลูกดอกไม้ให้มีอายุยืนยาวและออกดอกอยู่เสมอนั่นคือการยกแปลงปลูกให้สูงกว่าพื้นดิน นอกจากพื้นที่สวนจะเป็นระเบียบแล้วยังช่วยระบายน้ำได้ดีลดปัญหารากเน่าที่เกิดจากน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนได้ด้วย

“สิ่งสำคัญในการทำแปลงปลูกไม่ว่าจะเป็นแปลงผักหรือแปลงดอกไม้คือขนาดที่สะดวกในการใช้งานความกว้างที่สามารถเอื้อมถึงและความสูงที่มีระยะให้รากพืชได้เติบโต ทั่วไปแล้วไม้ดอกจะมีรากยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ความสูงของการทำแปลงจึงสูง 40 เซนติเมตรเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

แปลงปลูกดอกไม้คุณวิทย์เลือกใช้ไม้ไผ่วางระดับความสูงประมาณ 40-45 เซนติเมตร โดยวางโครงให้แข็งแรงด้วยการสร้างเสาแกนหลักทั้ง 2 ข้างซ้ายขวา ใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 90 เซนติมตรฝังลงดินครึ่งหนึ่ง ให้เหลือประมาณ 45 เซนติเมตร ก่อนสานเป็นแนวขวางขัดกันไปมา รองรอบแปลงด้วยแผ่นจีโอเท็กซ์ไทล์ป้องกันวัสดุปลูกไหลออก ซึ่งช่วยให้แปลงปลูกเป็นทรงสี่เหลี่ยมนานขึ้นด้วย

วัสดุปลูกสำคัญ ต้องระบายน้ำดี

โรสแมรี่ คาลามิ้นต์ ทารากอน ไธม์ ล้วนแต่เป็นสมุนไพรฝรั่งที่เรียกได้ว่าปราบเซียนนักปลูกทั้งสิ้น แต่หากรู้จักและรู้ใจพืชผักเหล่านี้ ก็สามารถต่อชีวิตให้เก็บกลิ่นหอมๆ สู่เมนูในครัวได้ในระยะยาว โดยเฉพาะเรื่องดิน
“การยกแปลงให้สูงเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้โรสแมรี่ และสมุนไพรฝรั่ง ให้อยู่รอดได้ เพราะเมื่อยกแปลงสูง รากของพืชไม่ต้องอยู่ในดินที่มีความชื้นจากน้ำท่วมขังจนเกิดรากเน่า ดินปลูกในแปลงเราสามารถควบคุมความโปร่งและร่วนซุยได้ง่ายกว่า ระบายน้ำได้ดีกว่าด้วย”

เล้าสัตว์ปีกต้องดูให้ดี

อาคารโครงไม้ทรงโปร่งล้อมด้วยตะแกรงเหล็กเพื่อระบายอากาศให้โปร่งโล่งเป็นที่อยู่ของสัตว์ปีกที่เรียกได้ว่ามันคือความน่ารักที่เติมเต็มให้สวนแห่งนี้กรุ่นกลิ่นฟาร์มมากยิ่งขึ้น ทั้งเป็นคอลดั๊ก ไก่ซิลกี้ และในอนาคตจะย้ายไก่ไข่และเป็ดมาเลี้ยงในโซนนี้ด้วย เพื่อให้สามารถจัดการดูแลได้ง่าย จึงสร้างโรงเรือนสัตว์ปีกไว้อีกหลัง ทรงสูงโปร่ง ล้อมด้วยลวดตะแกรงและลวดกรงไก่เล็กอีกชั้นเพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลาน

“ที่นี่จะมีเล้าไก่ในอีกมุม เลี้ยงแบบปลอดสารพิษ ให้กินอาหารจากเศษผักที่ใช้ในร้าน Little tree ซึ่งเป็นพืชผักปลอดสารพิษ เราก็จะได้ไข่เป็ดไข่ไก่ที่ปลอดภัยมาประกอบอาหาร แต่ด้วยมุมนั่นเป็นอีกโซนที่อยู่ไกลจากนี้ซึ่งเราไม่ค่อยได้มีเวลาไปดูแลมาก จึงทำเล้าไก่ตรงนี้ไว้ด้วย เวลาเข้ามาดูแลต้นไม้จะได้ดูแลไปด้วยได้ ”

คุณวิทย์เล่าย้ำว่าสิ่งสำคัญในการทำเล้าสัตว์ปีกในบรรยากาศบ้านสวนแบบนี้คือความปลอดภัยของสัตว์ ทั้งสุนัขของเพื่อนบ้าน สัตว์เลื้อยคลานอย่างงูเหลือมและตัวเงินตัวทอง ที่สามารถมุดทะลุใต้กรงไปกัดทำร้ายสัตว์ได้ การเลือกขนาดของตะแกรงลวดและความแข็งแรงเพื่อป้องกันสัตว์เล่านั้นจึงสำคัญมาก

คุณวิทย์กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งสำคัญในการปลูกต้นไม้คือคนปลูกต้องรู้จักสังเกต และทำความรู้จักต้นไม้ที่ปลูก ดูสภาพแวดล้อม ดิน น้ำ แสง ว่าเหมาะกับต้นไม้ที่ปลูกไหม ยิ่งหากปลูกเพื่อใช้ในงานจัดสวนอย่างคุณวิทย์ด้วยแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจและทำความเข้าใจต้นไม้ที่เลือกใช้ในสวนอย่างถี่ถ้วน

สำรวจส่วนของคาเฟ่ได้ในหนังสือ Outdoor Cafe

เรื่อง JOMM YB

ภาพ อภิรักษ์ สุขสัย,วสุ วิทยนคร

ทำแปลงผักจัดสวนครัวข้างบ้าน ทำง่ายใช้เวลาแค่ 1 วัน

ฟาร์ม – เล็ก – เล็ก ของลุงเช็คผู้เล่าเรื่องฅน มาสู่คนรู้เรื่องผัก

เรื่องเล่าจากสวนผักบนดาดฟ้า ห้องทดลองปลูกของ “แพรี่พาย”