บุกแอนท์ณาจักร กับระบบต้นแบบของ Teamwork

หลายคนอาจรู้จักมดในฐานะแมลงที่สร้างความรำคาญใจ คอยแอบกินอาหาร บางทีก็มากัดเราบ้าง บทความนี้ บ้านและสวน Pets x Exofood Thailand จะพาคุณมาทำความรู้จักกับ “มด” ให้ลึกกว่านั้น ในฐานะ EXOTIC PETS สัตว์เลี้ยงแห่งศตวรรษ

การเลี้ยงมด หรือ Ant-keeping เป็นเหมือนงานอดิเรกประเภทหนึ่ง ผู้เลี้ยงเพียงแค่ดูแล เฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของฝูงมด ชื่นชมอาณาจักร รับบทพระเจ้าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การสร้างโลกใบจิ๋วนี้ โดยการเลี้ยงมดนั้นได้รับความนิยมมาเกือบศตวรรษแล้วตั้งแต่ปี 1950’s ในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ Milton Levine ได้เฝ้าสังเกตฝูงมดริมสระว่ายน้ำ จนเกิดเป็นแรงบรรดาลใจในการเริ่มทำ Antarium นำไปสู่การผลิตชุดเลี้ยงมด Uncle Milton’s Ant Farm ขายจนประสบความสำเร็จกลายเป็นของเล่นแห่งศตวรรษ และการเลี้ยงมดก็ได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนในประเทศไทยนั้น ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมานี้การเลี้ยงมดเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น มีคอมมูนิตี้คนเลี้ยงมดเกิดขึ้นในโซเชียลมากมาย จนตอนนี้กระแสเลี้ยงมดก็ยังคงแรงไม่ตก

ขอบคุณภาพจาก : bioquipinc.com

สาเหตุที่ทำให้ การเลี้ยงมด ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องอาจจะเป็นความสนุก ตื่นเต้น ท้าทายจากการออกตามล่าหานางพญามดเหมือนเกม Pokemon go สุดฮิต รวมไปถึงการสร้างรังเฝ้าดูชีวิตและพฤติกรรมที่น่าสนใจของฝูงมดในการสร้างอาณาจักร ที่มีคนบอกว่ามันมอบความสนุกเพลิดเพลินไม่ต่างจากการเล่นเกม The Sims สุดคลาสสิก ที่ครองใจคนเล่นมาหลายสิบปี และที่สำคัญมดยังเป็นสัตว์ที่ไม่ต้องการความสนใจและพื้นที่เลี้ยงมาก จึงตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ไม่ค่อยมีเวลา ที่อยู่อาศัยมีพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีอิทธิพลจากภาพยนตร์ อย่างเรื่อง ANT-MAN ก็ช่วยเสริมให้กระแสการเลี้ยงมดในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ทำความรู้จักสังคมของมด

มด เป็นแมลงในวงศ์ Formicidae เช่นเดียวกับพวกผึ้ง ต่อ แตน โดยมดนั้นเป็นแมลงสังคม (Eusocial insect) อาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหรืออาณาจักรขนาดใหญ่ (colony) มดบางรังมีประชากรมดมากถึงล้านตัวเลยทีเดียว ซึ่งในสังคมของมดนั้นมีความคล้ายกับสังคมของมนุษย์มาก ๆ เพราะพวกมันมีการแบ่งวรรณะเหมือนกันดังนี้

Queen Ant มดราชินี หรือนางพญา

มดราชินี อยู่ในวรรณะสืบพันธุ์ เป็นหัวใจของอาณาจักร มีหน้าที่สืบพันธุ์วางไข่และควบคุมกิจกรรมต่าง ๆ ภายในสังคม ส่วนใหญ่แล้วมดราชินีมีขนาดใหญ่กว่ามดวรรณะอื่น ๆ ซื่งแบ่งได้ 3 ประเภท

  • ราชินีสลัดปีกหลังจากสืบพันธุ์ ( Dealate Queen )
  • ราชินีวัยอ่อน ( Alate Queen ) เมื่อโตเต็มวัยจะบินออกจากรังไปผสมพันธุ์ และกลายเป็นราชินีสลัดปีก
  • ราชินีไม่มีปีก ( Ergatoid Queen) พบในมดบางสกุลเท่านั้น

ทั้งนี้ราชินีมดหลังจากที่ผสมพันธุ์แล้วก็สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ แบบ Fully-Claustra และแบบ Semi-Claustra โดย Fully-Claustra นางพญาพวกนี้จะมีสารอาหารสะสมไว้แล้วที่ก้นป่อง ๆ กลม ๆ ของนาง เพราะฉะนั้นนางจะไม่ต้องการอาหารในช่วงสร้างรัง วางไข่ อยู่ได้โดยไม่กินอะไรเลยจะกว่าจะมีมดงานตัวแรก (Nanitic) เกิดขึ้นมา มันจะทำหน้าที่หาอาหารไปเลี้ยงนางพญาวางไข่ ดูแลตัวอ่อน หลังมีมดงานตัวแรก

Male Ant มดเพศผู้

  • อยู่ในวรรณะสืบพันธุ์ เป็นมดที่มีปีก คล้ายๆ กับราชินีมดแต่ตัวเล็กกว่าโดยเฉพาะส่วนหัว
  • โดยมดเพศผู้ จะปรากฎในรังแค่ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น เนื่องจากเขาin your phone is จากรังเพื่อไปผสมพันธุ์กับราชินีวัยอ่อนที่มาจากรังอื่น และก็จะตายลงหลังจากผสมพันธุ์เสร็จ

Worker Ant  มดงาน

มดงานเป็นมดเพศเมียที่ไม่มีปีก  วรรณะล่างสุดของอาณาจักร เปรียบเสมือนประชาชนแห่งอาณาจักรมด เป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้อาณาจักรเติบโต แต่ละตัวมีหน้าที่แตกต่างกันไป ทั้งคอยหาอาหาร ป้องกันศัตรู ดูแลรัง ไข่และตัวอ่อน โดยมดงานนั้นแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

1 : มดงานรูปร่างแบบเดียว Monomorphic type : ภายในรังมีมดงานรูปร่างแบบเดียวกันทั้งหมด
2 : มดงานรูปร่างสองแบบ Dimorphic type : ภายในรังมีมดงานรูปร่างแตกต่างกันสองแบบคือ มดทหาร ( Soldier Ant / Major worker ) มีลักษณะเหมือนทั้งราชินีและมดงาน จึงถือเป็นถือเป็นวรรณะกลาง (intermediate castes) และ มดงานขนาดเล็ก ( Minor worker )
3 : มดงานที่มีหลายรูปแบบ Polymorphic type : รังที่มีมดแบบนี้ ส่วนใหญ่เป็นรังที่มีประชากรมดเยอะ จึงทำให้มีมดหลายแบบทั้งมดทหาร มดงานขนาดกลาง และมดงานขนาดเล็ก

นอกจากนี้ในมดบางชนิดที่ไม่มีราชินีที่แท้จริง ก็จะมีมดงานมาทำหน้าที่วางไข่เหมือนเป็นราชินีของรัง เราเรียกว่า “มดงานสืบพันธุ์” Gamergate นั่นเอง

การสร้าง แอนท์ณาจักร ตามธรรมชาติของชาวมด

ตามธรรมชาติมดส่วนใหญ่จะเริ่มสร้างอาณาจักรโดยมีมดราชินีแค่ตัวเดียวเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นซิงเกอร์มัมมด หลังจากที่ราชินีวัยอ่อนผสมพันธุ์กับมดตัวผู้แล้ว นางก็จะเก็บน้ำเชื้อเอาไว้ในถุงเก็บน้ำเชื้อ จากนั้นก็จะสลัดปีกออกและกลายร่างเป็น Dealate Queen มองหาทำเลดีๆ ในการสร้างรังและวางไข่ชุดแรก จนฝักเป็นมดงานชุดแรก (Nanitic) ที่สามารถทำหน้าที่ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ แลเมื่อมีมดงานจำนวนเยอะมากพอแล้ว ราชินีก็จะให้กำเนิดมดสืบพันธุ์ ทั้งมดเพศผู้และราชินีวัยอ่อน ให้เติบโต บินออกจากรังไปสืบทอดสายพันธุ์ชาวมดต่อไป

พันธุ์มดเลี้ยงง่าย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยง

สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงมด เราขอแนะนำให้เริ่มเลี้ยงมดสายพันธุ์ท้องถิ่นก่อน เพราะสามารถออกไปล่านางพญาได้เอง หรือหาซื้อได้ราคาที่ไม่สูงมาก

1. มดดำทุ่ง Black Tyrant Ants (Iridomyrmex anceps)

ขอบคุณภาพจาก : reddit.com

เป็นสปีชีส์ขนาดกลาง ลำตัวมีสีน้ำตาลเข้ม พบได้ทั่วไป มดพันธุ์นี้ไม่มีเหล็กใน ไม่ต้องกลัวโดนกัด ชอบกินน้ำหวานและโปรตีนจากแมลงที่สำคัญเลี้ยงง่ายขยายพันธุ์เร็ว เหมาะกับมือใหม่หัดเลี้ยงสุด ๆ

2. มดดำ Black Crazy Ant (Paratrechina longicornis)

ขอบคุณภาพจาก : westhawaiitoday.com

พบได้ทั่วไปตามบ้าน ลำตัวมีสีน้ำตาลเข้ม บางส่วนสีดำ ขนสีน้ำตาลเหลืองปกคลุมอยู่ทั่วไป ได้ชื่อว่าเป็น Crazy Ant จากพฤติกรรมบ้าคลั่งของมันที่ออกหาอาหารที่ไม่เป็นระเบียบ ขาและหนวดยาว ๆ จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อาหารที่โปรดปรานคือน้ำตาล ของหวาน

3. มดตะลานปล้องขี้เถ้า (Camponotus Rufoglaucus)

ขอบคุณภาพจาก : flickr.com

มดสกุล Camponotus นั้นมีขนาดตั้งแต่ 2.5-25 มม. มดตะลานปล้องขี้เถ้านั้นไม่ได้อาศัยอยู่ในขี้เถ้าแต่อย่างใด น้องเป็นมดที่มีหัวใหญ่ อกใหญ่ มีสีดำปนเทาคล้ายกับสีขี้เถ้า มีผิวเรียบเป็นมัน ช่วงท้องมีสีดำปนเทา หาอาหารและทำรังบนพื้นดินและขอนไม้ผุ พบได้ทั่วประเทศไทย เลี้ยงง่ายโตไว กินได้ทั้งโปรตีนอย่างแมลง และน้ำหวาน

4. มดน้ำผึ้ง Yellow Crazy Ants (Anoplolepis gracilipes)

ขอบคุรภาพจาก : ants853.com

หลายคนสับสนชื่อของมดชนิดนี้กับ มดน้ำผึ้ง Honey Pot Ant ในอเมริกา ที่สามารถกลายร่างเป็นโถน้ำผึ้งหมีพูห์ได้ ซึ่งความจริงแล้วมดทั้งสองชนิดมีลักษณะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยมด Yellow Crazy Ants นั้นเป็นมดชนิดนี้เป็นมดรุกราน หรือมดต่างถิ่น หาอาหารและทำรังบนพื้นดินและขอนไม้ผุ พบกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย มีสีเหลืองทองคล้ายสีน้ำผึ้ง เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์เร็ว มีความ Crazy วิ่งพล่านไม่ต่างจาก Black Crazy Ant โปรดปรานคือน้ำตาล ของหวานที่สุด

5. มดคันไฟ Fire Ant (Solenopsis Geminata)

ขอบคุณาพจาก : imgur.com

พบได้ทั่วไปตามบ้าน ขยายพันธุ์เร็ว มีความอึดทนทาน ปรับตัวได้ดี สีทองเเดง-น้ำตาลที่หัวและลำตัว ช่วงท้องนั้นจะมีสีเข้มกว่าส่วนอื่น มดงานจะมีความยาว 3-6 มม. ส่วนนางพญามีความยาวประมาณ 15 มม. มดงานจะชอบหาอาหารที่มีรสหวาน โปรตีน ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ที่ตายเเล้ว เเมลง ไส้เดือน น้ำหวานในดอกไม้ แต่คนเลี้ยงต้องระวังหน่อย เพราะน้องมีเหล็กใน โดนกัดอาจแพ้ได้

บทความนี้เราทำความรู้จัก “มด” กันไปพอสมควรแล้ว หากคุณอยากมี แอนท์ณาจักร เป็นของตัวเองบ้างล่ะก็ ติดตามได้ในบทความต่อไป เราจะมาแนะนำวิธีการสร้างอาณาจักร วิธีการเลี้ยงมดเบื้องต้น ตั้งแต่การจับนางพญา รวมไปถึงการเลือกรังมด

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

  • หนังสือมดประเทศไทย Ants of Thailand โดย
    คุณวียะวัฒน์ ใจตรง
    คุณเกรียงไกร สุวรรณภักดิ์
    คุณยุทธนา สามัง
    คุณทัศนัย จีนทอง
  • https://en.wikipedia.org/wiki/Ant-keeping