เทียนหอม เป็นไอเทมแต่งบ้านสุดโปรดอีกชิ้น ที่ครองใจใครหลาย ๆ คน เพราะทุกครั้งที่กลับมาบ้านด้วยอาการเหนื่อย ๆ เพียงแค่จุดเทียนหอม ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ค่อย ๆ ลอยฟุ้งไปทั่วทั้งห้อง ก็ช่วยทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้เสมอ ซึ่งนอกจากจะมีกลิ่นที่หอมละมุน จากสารพัดกลิ่นที่รังสรรมาให้ได้เลือกใช้กันแล้ว เทียนหอมก็ยังมีหน้าตาที่ค่อนข้างหลากหลาย ทั้งรูปแบบ และขนาด ก็ยังแตกต่างกันไปด้วย บางอันก็น่ารักจนไม่กล้าใช้ หรือดูยังไงก็สวยจนแทบไม่เชื่อว่าเป็นเทียนหอม ! ประเภทของเทียน
วันนี้ my home เลยอยากชวนทุกคน มาทำความรู้จักกับเทียนหอมให้มากขึ้น ว่าเทียนหอมแต่ละชิ้น ที่เลือกหยิบมาใช้ในบ้านนั้น เป็นเทียนประเภทไหน และเหมาะกับการนำไปใช้อย่างไรกันบ้าง เพื่อการใช้งานได้ตรงวัตถุประสงค์ และตรงเป้าหมายมากที่สุด ประเภทของเทียน
1 . เทียนแบบแท่ง ( Taper Candle )

เทียนชนิดแท่ง เป็นเทียนหอมที่มีรูปทรงเรียบง่าย และคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี ลักษณะของเทียนประเภทนี้ จะเป็นทรงสูงเรียวยาว ประมาณ 6 – 18 นิ้ว นั่นจึงทำให้การใช้เทียนประเภทนี้ ต้องมีเชิงเทียนเป็นตัวช่วยเสริม เพื่อให้สามารถตั้งบนได้ค่ะ โดยส่วนมากก็จะเห็นเทียนสไตล์นี้บนโต๊ะอาหารมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นถ้าหากต้องการจัดโต๊ะสำหรับดินเนอร์มื้อพิเศษวันไหน ก็สามารถเลือกใช้เทียนแท่งสไตล์นี้เพื่อเพิ่มบรรยากาศสุดหรูได้เลยค่ะ
2 . เทียนก้อนกลม ( Pillar Candle )

แม้จะได้ชื่อว่าเทียนก้อนกลม แต่เทียนประเภทนี้ก็ ไม่ได้มีแค่ทรงกลมเสมอไปนะคะ แม้โดยส่วนมาก Pillar candle จะเป็นเทียนทรงกระบอก ที่สูงไม่เกิน 8 นิ้ว และจะมีความกว้างอยู่ที่ประมาณ 3 นิ้ว แต่บางครั้งก็อาจมีรูปทรงอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน โดยภาพรวมของเทียนสไตล์นี้ จะเป็นเทียนขนาดกะทัดรัด ที่สามารถวางตั้งได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เชิงเทียนหรือภาชนะอื่น ๆ มาเป็นตัวช่วยเสริม แต่ก็อาจจะมีเรื่องของน้ำตาเทียนที่ต้องคอยจัดการ Pillar candle จึงอาจเหมาะกับการวางประจำที่ในมุมห้อง มากกว่าการเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ และสามารถจุดใช้งานได้นานหลายชั่วโมงค่ะ
3 . เทียนในถ้วย ( Glass Candle , Container Candle , Jar Candle )

เทียนหอมในถ้วยแก้วนั้น เป็นเทียนยอดนิยมอีกรูปแบบเลยค่ะ เพราะด้วยขนาดที่สามารถใช้งานให้หมดได้ในเวลาที่ไม่นานจนเกินไป มีภาชนะรองรับน้ำตาเทียนในตัว แถมยังเคลื่อนย้ายง่าย จุดได้สะดวกในทุกมุม สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำตาเทียนหยดเลอะเทอะด้วยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่ เทียนชนิดนี้ก็จะอยู่ในกระปุกที่ทำจากแก้ว เซรามิค หรือ อลูมิเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ทนความร้อนได้ บางชิ้นก็มาพร้อมฝาปิด ที่ช่วยให้เก็บเข้าที่ได้โดยไม่ต้องเจอฝุ่น และ แสง ที่เป็นต้นเหตุให้เทียนหอม มีประสิทธิภาพที่ลดลง
4 . เทียนเจล ( Gel Candle )

เทียนเจลนั้นจะเป็นเทียนที่มีส่วนผสมที่ต่างออกไปจากเทียนหอมแบบปกติ ที่มักจะใช้ไขผึ้ง หรือ ถั่วเหลือง เป็นส่วนประกอบหลัก แต่เทียนเจลนั้นทำมาจากน้ำมันสังเคราะห์ หรือ สารที่ได้จากไฮโดรคาร์บอน จึงทำให้เนื้อเทียนประเภทนี้ มีลักษณะที่โปร่ง ใส เหมาะกับการนำของตกแต่ง หรือ ไอเทมต่าง ๆ ลงไปวางตกแต่งเพื่อเพิ่มความสวยงาม ที่เห็นกันได้มากที่สุดเลย ก็จะเป็นวัสดุประเภทเปลือกหอย ดอกไม้แห้ง หรือ โมเดลอันจิ๋ว ๆ นั่นเองค่ะ ในเมื่อมีรายละเอียดด้านในเยอะขนาดนี้ การใช้ภาชนะที่เป็นแก้วใสจึงเหมาะกับเทียนเจลมากที่สุด เพราะทนความร้อนได้ดีและสามารถอวดความสวยที่อยู่ในเนื้อเทียนได้อย่างเต็มที่ด้วย
5 . เทียนทีไลท์ ( Tealight Candle )

เทียนทีไลท์เป็นเทียนที่มีขนาดเล็กที่สุด มักจะอยู่ในถ้วยอลูมิเนียมกลม ๆ ที่มีความสูงเพียงครึ่งนิ้วเท่านั้น แต่ถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถนำไปใช้ได้ค่อนข้างหลากหลายเลยค่ะ ตั้งแต่การนำไปจัดลงในโหลแก้วหรือตะเกียงสวย ๆ วางบนพืชและสมุนไพรต่าง ๆ อย่างมะนาวหรือกากกาแฟเพื่อกระจายกลิ่นหอมฟุ้งให้ทั่วห้อง หรือถ้าจะนำไปจัดในบริเวณกว้าง ๆ ที่ต้องใช้เทียนจำนวนมากก็ต้องยกให้เทียนทีไลท์เลยค่ะ ที่สำคัญยังใช้งานในช่วงสั้น ๆ ได้ดี เพราะหน้าเทียนจะสามารถละลายได้ทั่วเสมอกัน โดยไม่ต้องรอเป็นชั่วโมงเหมือนเทียนรูปแบบอื่นที่มีขนาดใหญ่ด้วยค่ะ
6. เทียนลอยน้ำ ( Floating Candle)

เทียนลอยน้ำนั้นจะมีขนาดและรูปร่างแบน ๆ คล้ายกับเทียนทีไลท์เลยค่ะ เพียงแต่เทียนสำหรับลอยน้ำจะมีดีไซน์ที่หลากหลายและสีสันสวยกว่า ไม่ได้เป็นเพียงก้อนกลม ๆ เท่านั้น ส่วนใหญ่มักจะเป็นรูปดอกไม้ ใบไม้ เพื่อให้เหมาะต่อการนำไปลอยน้ำ ซึ่งก็สามาถนำไปใช้ได้ตั้งแต่การจัดโหลแก้วในห้องไปจนถึงตกแต่งบ่อน้ำในสวนหย่อมเลย
Story : Kamonchanok.L
วิธีทำ เทียนร่ำห้อง เครื่องหอมไทยโบราณ