P7 ศิลปินที่ไม่พึ่งคอมพิวเตอร์ ทำแต่งานแฮนด์เมด ที่ไม่มีชิ้นไหนซ้ำกัน

หลายคนคงคุ้นเคยกับงานศิลปะของศิลปินอย่าง P7 มาบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เขาทำงานศิลปะหลากหลายแขนง โดยทำการแสดงศิลปะแบบโซโลทั้งในไทยและต่างประเทศสลับไปมาตั้งแต่ปี 1998 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งงานที่เขาถนัดที่สุดคืองานแนว Realistic ที่ใส่ความคลาสสิกเข้าไป จนออกมาเป็น Contemporary Painting ผ่านรูปแบบของงานศิลป์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภาพวาด งานสตรีทอาร์ต และประติมากรรม

โดยในปี 2020 นี้ P7 ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในงานศิลปะระดับนานาชาติอย่าง Bangkok Art Biennale 2020 หรืองาน BAB2020 ภายใต้โจทย์ของงานอย่าง Escape Route : ศิลป์สร้างทางสุข room จึงขอย้อนไปทำความรู้จักกับเขาให้มากขึ้น เพื่อค้นหาตัวตน จิตวิญญาณ และแก่นในการทำงานของเขากัน

P7 ผลิตผลงานประเภทไหนบ้าง

จริง ๆ ผมเป็นคนไม่กำหนดรูปแบบตายตัว เป็นคนชอบทำอะไรก็ได้ผ่านมีเดียหลาย ๆ อย่าง จากเพ้นต์ติ้งมาทำประติมากรรมแบบลอยตัวสามมิติ โดยช่วงแรกได้ตัดทอนรายละเอียดบางอย่างลงเพื่อให้เกิดคาแร็กเตอร์ ส่วนจุดเริ่มต้นในการทำงานประติมากรรมคือ มีลูกค้าต้องการนำงานประติมากรรมไปตั้งที่สวน ผมก็ดีไซน์ออกมาเป็นกวาง อันนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการทำประติมากรรมแรก จากนั้นก็ทำไปเรื่อย ๆ ทำไปแสดงงานบ้าง ทำไปตกแต่งพื้นที่ต่าง ๆ บ้าง มันอิสระ 

“ช่วงหลัง ๆ เรามีงานออกแบบให้แบรนด์ต่าง ๆ โรงงาน หรือสถานที่ต่าง ๆ เป็นงานตกแต่งที่ต้องใช้ศิลปะไม่ว่าจะเป็นการเพ้นต์ หรือใช้การสเปรย์ รวมทั้งงานออกแบบด้วยอย่างพวกแบรนด์แฟชั่น แต่เป็นงานวาดมือ แล้วให้แบรนด์เขาไปพิมพ์ออกมาเป็นโปรดักต์ นอกจากนี้ยังได้รับงานออกแบบเธียร์เตอร์ก็มี เป็นการทำงานเกี่ยวกับงานศิลปะหมดเลย และเริ่มทำประติมากรรมควบคู่ไปด้วยในช่วงปี 2005”

p7 street art กราฟิตี้
งาน spray ตกแต่งกำแพงให้กับ Cafe Dog Club Pattaya

ในภาพอาจจะมี สถานที่กลางแจ้ง

ในภาพอาจจะมี รองเท้า

จากงานสองมิติสู่สามมิติ

“งานสามมิติมีกระบวนเยอะกว่า อย่างภาพวาดเราจบที่สตูดิโอ แต่พอเป็นประติมากรรมต้องใช้วัสดุสำหรับปั้น ทุกชิ้นจะเริ่มจากการปั้นดินก่อน จากนั้นมาขึ้นโฟม เอาไฟเบอร์หล่อ แล้วก็ลงสี กระบวนการจะมี 4-5 ขั้นตอน โดยเราได้นำสกิลการเพ้นต์ติ้งเข้ามาควบคุมในเรื่องของโครงสร้างและการลงสี ถามว่ายากไหม มันไม่ยาก เราก็พอมีเทคนิคในกระบวนการอยู่ แค่มันมีกระบวนการที่เยอะขึ้นเท่านั้น แต่ทุกอย่างเราก็คุ้นเคยกับมันอยู่แล้ว”

หัวใจคืองานทำมือ

“กระบวนการทำงานของผมทั้งหมดไม่ใช้คอมพิวเตอร์เลย เพราะผมชอบงานแฮนด์เมด อะไรที่ออกจากมือผม แม้กระทั่งงานสเก็ตช์ก็ต้องผ่านการทำมือของผม จะไม่ผ่านคอมพิวเตอร์เลย เพราะเราไม่อยากให้คอมพิวเตอร์มันคำนวณ เราต้องเขียนออกมาให้เห็นภาพด้วยตัวเอง หรือลูกมือเราก็จะต้องเห็นจากที่เราอธิบาย ในระหว่างทำงานเราก็สามารถปรับแก้ได้

“ผมจะดูหน้างานทุกขั้นตอนแล้วก็ทำเอง สมมติว่าตาเบี้ยว หรือหน้าหักไปหน่อย เราก็เติมเข้าไป จะไม่ได้ไปแก้ในคอมพิวเตอร์ ผมอยากทำด้วยตัวเอง มันจะออกมาจากความรู้สึกของเรามากกว่า มันจะไม่เหมือน 3D เวลาขณะที่การออกแบบให้แบรนด์ต่าง ๆ เราก็วาดมือลงกระดาษ แต่เวลาลงสีเราใช้วิธีการหยอดสีลงไปแบบวิธีแอนะล็อก แค่ให้เขาเอาไปพิมพ์เท่านั้น เพราะถ้าเราระบายสีไปเลย พอไปพิมพ์สีจะเพี้ยน”

p7 street art
ภาพขณะกำลังขึ้นแขวนติดตั้งประติมากรรมทั้ง 7 หัวคาแร็กเตอร์ประติมากรรมของ P7. ที่ติดตั้งตกแต่งบนเพดานโซนช่องทางขึ้นบันไดบ้านของนักสะสมท่านหนี่ง

p7 street art

สีสันฉูดฉาดกับการด้นสด

“ผมชอบที่จะใช้สีและกล้าใช้สี พอเราเพ้นต์เรื่อย ๆ เราก็เปิดกว้างเรื่องสีเยอะ แล้วก็ใช้ความรู้สึกกับเคสตรงนั้นในการคำนวณสีออกมา แต่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์นะ ผสมสีสด ๆ เลย อย่างตอนที่พรีเซนต์เขาอยากรู้หน้าตา อารมณ์ประมาณไหน ก็สเก็ตช์มือ แต่พอไปทำจริง มันดีกว่าสเก็ตช์ มันเปลี่ยนไป แต่ยังคงความเป็นฟีลลิ่งที่เราพรีเซนต์อยู่ เพราะฉะนั้นผมจะเน้นอะไรที่สด ๆ ตรงนั้น เราทำแบบอิสระ ไม่มีกรอบ เราฝึกฝนฝีมือจนช่ำชอง เวลาเราคิดอะไรก็เอาฝีมือมารองรับ เพื่อให้มันเกิดขึ้นได้จริง”

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

Jack-Zack-Max ตุ๊กตา Ventriloquist ในนิทรรศกาลศิลปะระดับนานาชาติ

“ผมเป็นคนหลีกหนีจากกรอบอยู่แล้ว เวลาทำงานจะไม่ทำซ้ำ ดีไซน์ก็ไม่ซ้ำ ประติมากรรมก็ไม่ซ้ำ จะสังเกตว่า 3 ตัว นี้ คนละฟีลลิ่งเลย ทั้งหน้าตามันไม่ได้เป็นตัวเดียวกัน โดยมีชื่อว่าแจ็ค แซ็ค แล้วก็แม็กซ์ ทั้ง 3 ตัวเหมือนเกิดใหม่ จะไม่มีแจ็คซ้ำอีกแล้ว ถ้าผมจะมีตัวใหม่มันจะมีฟีลลิ่งเหมือนเลนทิล คือจะบิดไปตามหน้าตาที่เราอยากให้เกิดมา”

ทั้งผลงานภาพวาดและประติมากรรมที่จัดแสดงอยู่บนชั้น 8 ที่หอศิลป์กรุงเทพฯ เขาได้แรงบันดาลใจมาจากหุ่น Ventriloquist หรือหุ่นพากย์เสียงที่สามารถขยับปากได้ด้วยมือคนเชิด เป็นหุ่นที่มีต้นกำเนิดมานานในประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นหุ่นที่ P7 หลงใหลและเก็บสะสม โดยแต่ละตัวจะเกิดจากช่างฝีมือในแบบแอนะล็อก เป็นงานแฮนด์เมดที่มีกลไกลง่าย ๆ ทว่าส่งผลให้ละตัวมีหน้าตาที่แตกต่างกันออกไป โดยแต่ละตัวจะมีใบหน้าเป็นของตัวเอง นำไปสู่จินตนาการที่จะสร้างหุ่นพากย์เสียงในสไตล์ของ P7 ที่บอกเล่าจินตนาการแบบไร้ขีดจำกัดและความรู้สึกสุดพิศวง

แม้ทั้งสามตัวจะถูกสร้างขึ้นมาคนละเวลา แต่ต่างมีคาแรกเตอร์ที่ดูชวนผวา พรั่นพรึง เหมือนที่เราคุ้นตากันในหนังสยองขวัญที่หุ่นนี้มักถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของความโหดร้าย การฆาตกรรมจนกลายเป็นภาพติดตา แต่ P7 กลับจินตนาการข้ามความเป็นอีโรติกด้วยการเพิ่มรายละเอียดที่ดูเกินจริงไปบ้าง หรือเพิ่มความมุ้งมิ้งสดใสแกมเสียดสีแบบมีนัย

P7 BAB2020 street art หอศิลป์ P7 BAB2020 street art หอศิลป์ P7 BAB2020 street art หอศิลป์

วัดตัวตนด้วยคุณภาพของงาน

“ผมไม่ได้คิดเรื่องใครจำงานของผมได้ ต้องการทำออกมาแล้วให้คนลุ้นว่าเดี๋ยวมีตัวอะไรโผล่ออกมา บางคนนึกว่าเราทำงานแบบสตรีท พ่นสเปรย์ แต่พอเราแสดงงานโซโล่ เราเพ้นตืติ้งออกมาเป็น Realistic คนก็งงว่าเพ้นต์ด้วยหรอ คือจริง ๆ งานเพ้นต์มาก่อน พอเราทำอะไรแข็งแรง คนจะมองว่าอันนี้เป็น P7 แต่จริง ๆ ทุกอันเป็น P7 หมดเลย คนจะจำเราในฐานะประติมากรไปหมด ต่างจากตอนแรกที่จำผมในฐานะเพ้นต์ติ้ง บ้างก็จำผมได้จากงานตรีทอาร์ต  ถ้าเราทำงานพวกนี้แล้วออกมามีคุณภาพ คนก็จะจดจำเราผ่านงานที่มีคุณภาพนั้น ๆ  เรื่องไอเดีย เรื่องดีไซน์ เราใส่เต็มที่อยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้เองมันจะช่วยให้คนจำเราได้”

P7 Street Art
หน้ากากผ้า ที่ใช้สีอะคริลิกในการระบาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ ” The Freestyle Colours of The New Life.”
ทุกกำแพง P7 สามารถร่างแล้วพ่นสีได้เลย โดยไม่ต้องสเก็ชไว้ก่อน

ความไม่ยึดติด+กิเลส = แรงบันดาลใจ

“ผมมีความหลากหลายในสไตล์มาก ผมไม่ได้สนใจในสไตล์นะ แต่อยากทำในสิ่งที่อยากทำ ทำในสิ่งที่เราคิดค้นขึ้นมา ไม่ได้อยากทำตามรูปแบบนั้รูปแบบนี้ คิดขึ้นเองไม่ได้มีใครมาตั้งโจทย์ให้ ผมอยากทำ Realistic ก็สร้าง Realistic สไตล์ใหม่ขึ้นมา ถ้าเป็นกราฟิกก็สร้างกราฟิกสไตล์ใหม่ขึ้นมา หรือเป็นงานเพ้นต์ติ้งก็สร้างงานสไตล์ใหม่ขึ้นมาโดยมีเอกลักษณ์ของเรา แต่ไม่ได้แช่อยู่นะ เพราะไม่อยากให้ซ้ำใคร ไม่จำเจ

“ส่วนแรงบันดาลใจไม่ได้หาจากข้างนอก ผมเป็นคนเปิดกว้าง อิสระ ให้งานออกมามีคุณภาพ สรุปถ้า Realistic ก็ต้อง Realistic แบบมีคุณภาพเลย ถ้ากราฟิกก็ต้องกราฟิกเต็มร้อย ไม่ใช่แค่ให้มันเป็น แต่ทำแล้วต้องออกมาดี แล้วเวลาผมนำกราฟิกมาผสมกับ Realistic ซึ่งเราชำนาญทุกอย่าง เราก็เอามารวมกันได้ ด้วยความที่เราเป็นศิลปิน เราไม่ได้ยึดติด ไอเดียมันก็มาเรื่อย ๆ”

เชื่อว่าหลายคนคงคอยติดตามผลงานของเขาอยู่ห่าง ๆ ซึ่ง P7 ได้บอกกับเราว่า “ผมอยากให้คนจดจำงานที่มีคุณภาพ พอมีงานใหม่ก็จะยังให้มันมีคุณภาพ มากกว่าที่จะแช่แข็งงานตัวเองไปตลอด มีชิ้นใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพอยู่เรื่อย ๆ” ฟังแล้วการันตีได้เลยว่าเขาจะผลิตงานศิลปะมากคุณภาพมาให้เราได้ชมพร้อมความแปลกใหม่อีกแน่นอน ก่อนจบการสนทนาเขาตบท้ายแบบคม ๆ ที่ว่า

“ศิลปะสำหรับผมไม่มีคำว่าประสบความสำเร็จ เราต้องพัฒนาไปตลอดชีวิต


เรื่อง : Woofverine
ภาพ : นันทิยา, P7

DRAGONERPANZER เมื่อครั้งศิลปะ มีค่ามากกว่ากองทหาร

10 งานศิลปะจัดวางที่ต้องไปเห็นกับตาถึงจะอิ่มใจใน BANGKOK ART BIENNALE 2020

Bangkok Art Biennale 2020

BAB 2020 : Bangkok Art Biennale 2020 เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ เริ่มแล้ว

BAB 2020