NANA Hunter Coffee Roasters ร้านกาแฟน้องใหม่ ภายใต้นามสกุลของ NANA Coffee Roasters กับการพาตัวเองออกไปนอกเมือง(อีกครั้ง) อย่างในย่านพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 แต่คุ้มค่ากับการเดินทางมา เพื่อดื่มกาแฟดี ๆ สักแก้ว ในบรรยากาศโรงคั่วกาแฟที่เปิดให้คอกาแฟทั้งหลายได้มาลิ้มลองความพิเศษ กับกาแฟคัดสรรคุณภาพดีจากทั่วโลก
โดยที่นี่ยังคงดีเอ็นเอความอร่อยของกาแฟ Specialty Coffee คุณภาพดีภายใต้แบรนด์ NANA Coffee Roasters ไว้อย่างเต็มเปี่ยม แต่ครั้งนี้ขอเพิ่มเติมด้วยขนาดพื้นที่ร้านที่กว้างขวางขึ้น เสริมความพิเศษด้วยการออกแบบให้ที่นี่เป็นดังโรงคั่วกาแฟที่มีเครื่องคั่วถึง 3 เครื่อง พร้อมโกดังเก็บเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีกว่า 37 สายพันธุ์จากทั่วโลก อาทิ เคนยา เอธิโอเปีย โคลัมเบีย บราซิล กัวเตมาลา และโดยเฉพาะกาแฟไทย ซึ่งมีรสชาติดีทัดเทียมต่างประเทศ เปิดต้อนรับให้คอกาแฟทั้งหลายได้มาดื่มด่ำความหมายของรสชาติกาแฟแท้ ๆ ในอาคารเหล็กสไตล์อินดัสเทรียลแบบย้อนยุค

จากเทรนด์การดื่มกาแฟที่คอกาแฟได้หันมาให้ความสนใจดื่มกาแฟเพื่อสัมผัสถึงรสชาติของกาแฟแท้ ๆ ไม่ต่างจากการดื่มชา จากสีสันดังกล่าวจึงดำเนินสู่โจทย์การออกแบบคาเฟ่บรรยากาศเหมือนโรงคั่วกาแฟสไตล์อินดัสเทรียลที่ดูดุดันและเคร่งขรึม คอนเซ็ปต์ที่เน้นโชว์ความจริงของรสชาติกาแฟ จึงถูกแทนค่าด้วยวัสดุดิบ ๆ ไร้ซึ่งการปรุงแต่ง สำหรับต้อนรับเหล่าคอฟฟี่เลิฟเวอร์ทั้งหลาย ให้ได้เข้ามาสัมผัสถึงความใส่ใจทุกขั้นตอนจนกว่าจะได้กาแฟรสละมุน

ทันทีที่มาถึงคาเฟ่แห่งนี้ หลายคนคงสะดุดตากับความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมอาคารภายนอกที่ดูดิบเท่ด้วยโครงสร้างเหล็กทั้งหลัง รวมถึงภาพลูกโลก 3 ใบ ที่แขวนประดับเป็นจุดนำสายตาอยู่กลางร้าน เมื่อถามดีไซเนอร์ผู้ออกแบบอย่างคุณโต-ศุภรัตน์ ชินะถาวร จาก party/space/design ถึงแนวคิดการออกแบบครั้งนี้เขาเล่าให้ฟังว่า
ที่นี่แตกต่างกว่าการออกแบบ NANA Coffee Roasters สาขาที่ผ่านมา เพราะมีความท้าทายด้วยโจทย์ที่เจ้าของต้องการพาคาเฟ่ในแบรนด์ NANA ออกสู่ย่านชานเมือง ดังนั้นการมาที่นี่จึงต้องสร้างความพิเศษ คุ้มค่าแก่การมา และต้องแตกต่างกว่าสาขาอื่น นั่นคือที่มาของการออกแบบให้ที่นี่เป็นโรงคั่วกาแฟ เปิดให้คนมาดื่มกาแฟจากเมล็ดกาแฟที่เพิ่งคั่วเสร็จใหม่ ๆ โดยจะได้เห็นกรรมวิธีการคั่วกาแฟโดยนักคั่วกาแฟฝีมือดีที่ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อให้เมล็ดกาแฟคุณภาพดีจากทั่วโลกนั้น สามารถแสดงรสชาติของตนเองออกมาได้อย่างเต็มที่

ขณะที่การออกแบบตกแต่งได้ยึดแนวคิดของคำว่า “เวลา” เป็นตัวกำหนด ทั้งเรื่องราวการออกแบบตัวอาคารให้เป็นเหล็กทั้งหลัง ซึ่งต้องใช้เวลาให้ตัวโครงสร้างเหล็กที่ทำใหม่นี้ เกิดสนิมตามธรรมชาติ บ่มเพาะความงามอันแท้จริงนั้นอยู่นาน จนกว่าจะได้ที่ ก่อนทำการพ่นสเปรย์เคลือบทับให้การเกิดสนิมนั้นหยุดลง อีกส่วนคือการตีความหมายของคำว่า “Third Wave Coffee” คลื่นลูกที่ 3 ของวงการกาแฟ ซึ่งกว่าจะถึงจุดดังกล่าวที่ว่านั้น วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนทั้งโลก หรือแม้แต่ในบ้านเรา ต้องผ่านช่วงเวลาแห่งการบ่มเพาะเช่นกัน
โดยได้แทนค่าช่วงเวลาออกมาเป็นลูกโลก 3 ใบ ลูกโลกสีน้ำตาลในสุดหมายถึงอดีต หรือราวยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่อุตสาหกรรมกาแฟเริ่มกำเนิดขึ้นอย่างจริงจัง ลูกโลกสีทองใบกลางที่ยังคงหมุนอยู่คือยุคปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคที่ผู้คนเน้นดื่มกาแฟเพื่อการพบปะสังสรรค์ และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟเป็นสิ่งที่แพร่หลาย เรื่อยมาจนถึงปรากฏการณ์การดื่มกาแฟ Specialty ที่มีคุณภาพสูงขึ้น ทั้งคุณภาพของเมล็ดกาแฟและบาริสต้าผู้เป็นดังทูตนำพารสชาติกาแฟที่ดี จัดเสิร์ฟให้นักดื่มกาแฟ ไม่ต่างจากกำลังดื่มชาหรือไวน์ชั้นเลิศ โดยเราจะสามารถก้าวเข้าสู่คลื่นลูกที่ 3 ที่เรียกว่า “Third Wave” ซึ่งแทนด้วยสัญลักษณ์ลูกโลกสีพิงก์โกลด์ที่แขวนโดดเด่นอยู่หน้าสุดของร้านได้หรือไม่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยและความทุ่มเทหลาย ๆ อย่าง

นั่นจึงกลายเป็นโจทย์อีกข้อให้ คุณแอน-รสรินทร์ ติยะวราพรรณ และ คุณกุ้ง-วรงค์ ชลานุชพงศ์ สองผู้บริหารใส่แนวคิดความเป็น Hunter ลงไปในชื่อของ NANA สาขาใหม่นี้ ด้วยการเลือกเฟ้นตามหาเมล็ดกาแฟสายพันธุ์คุณภาพจากทั่วโลกกว่า 37 สายพันธุ์ และในอนาคตที่อาจมีมากกว่านั้น ก่อนนำมาผ่านขั้นตอนการคั่วสุดพิถีพิถัน รวมถึงขั้นตอนการชงจากเหล่าบาริสต้าที่พ่วงฝีมือระดับรางวัลทั้งจากในประเทศและระดับโลก อย่าง คุณแน็ต-กษมา กันบุญ เจ้าของรางวัล World Siphonist Championship 2018 และ คุณกุ้ง-กานดา โทจำปา เจ้าของรางวัล Thailand Barista Champion 2013, Cup Taster Thailand 2017 และ Thailand National Barista Championship 2019 เพื่อให้กาแฟของที่นี่สร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ดีที่สุด ขณะที่บาริสต้าท่านอื่น ๆ ในร้านต่างได้รับการฝึกฝนโดยคุณกุ้ง- กานดา โทจำปา มาอย่างดี จึงมั่นใจได้ทั้งคุณภาพและรสชาติ

นอกจากเรื่องรสชาติของกาแฟแล้ว การตกแต่งร้านก็ช่วยส่งเสริมกันและกันเป็นอย่างดี บรรยากาศภายในได้แรงบันดาลใจมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือที่เรียกว่า Industrial Punk เน้นการโชว์โครงสร้างเหล็ก ร่วมกับไม้เผาผิว ซึ่งเป็นวิธีการเผาผิวหน้าของไม้ให้ดำ นอกจากจะได้ผิวสัมผัสและลายที่สวยเข้ากับเหล็กสีดำแล้ว ยังมีคุณสมบัติกันการลามไฟได้ในตัว ขณะที่เคาน์เตอร์บาร์ออกแบบให้มีขนาดใหญ่ตั้งเด่นอยู่ตรงกลาง ส่วนนั่งที่และสตูลบาร์ตั้งอยู่ล้อมรอบ ลูกค้าสามารถชมการชงกาแฟและพูดคุยกับบาริสต้าได้อย่างเป็นกันเอง ขณะที่ชั้นลอยสามารถขึ้นได้จากบันไดวนตรงด้านหลังร้าน ซึ่งใช้เป็นห้องเก็บกระสอบเมล็ดกาแฟ พื้นที่บนชั้นลอยมีทั้งส่วนที่นั่ง และทางเดินเดินได้รอบ จึงสามารถมองลงมาเห็นบรรยากาศความคึกคักของบาร์ด้านล่าง กับภาพการทำงานของเหล่าบาริสต้าแบบไม่ละมือ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาโลกของการดื่มกาแฟถูกสะท้อนผ่านเมนูซึ่งมีชื่อเรียกมากมาย จากยุคเก่า ยุคปัจจุบัน และยุคใหม่ที่กำลังจะดำเนินไปในอนาคต เทรนด์การดื่มกาแฟจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สิ่งที่จะกำหนดได้คือมาตรฐานและการพัฒนาของอุตสาหกรรมกาแฟในปัจจุบัน เช่นเดียวกับที่ NANA Hunter Coffee Roasters พยายามที่จะเฟ้นหากาแฟดีมีคุณภาพ เพื่อรอให้คอกาแฟมาสัมผัส แม้จะต้องเดินทางออกนอกเมืองมาไกลสักหน่อย แต่รับรองว่าคุ้มค่าที่ได้มาเยือนแน่นอน



ที่ตั้ง
288 ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
เปิดทุกวัน 07.00 น.-18.00 น.
โทร.06-5919-3991, 06-5919 -3992
เรื่อง : Phattaraphon
ภาพ : Anupong