ผ้าลายสก็อต ความเหมือนที่แตกต่างของชื่อเรียก

ลายสก็อตนั้นเป็นลวดลายรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานไม่เคยเปลี่ยน จะจับมาใส่ในงานผ้า ตกแต่งภายในหรือใช้เป็นลวดลายบนเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านก็เพิ่มความมีสไตล์ขึ้นมา ผ้าลายสก็อต

ด้วยเพราะเสน่ห์ของรูปแบบเส้นและความหลากหลายของลวดลาย จึงทำให้ลายสก็อตถูกหยิบมาใช้เสมอ ที่สำคัญลายสก็อตแต่ละรูปแบบยังมีชื่อเรียกเฉพาะ รวมไปถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกให้แตกต่างกันด้วย เพื่อไม่ให้สับสนมาทำความรู้จักประเภทของ ผ้าลายสก็อต กับ my home ให้มากขึ้น ก่อนที่เลือกซื้อมาแต่งห้องค่ะ

1 ลวดลายตาราง (Check Pattern)

ผ้าลายสก็อต ลายสก็อต ลายตาราง — https://www.redbubble.com https://society6.com

ลายตาราง (Check Pattern) หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อลายตารางหมากรุกนั้นเป็นลวดลาดสุดคลาสสิกที่เห็นได้แทบจะทุกที่เลยค่ะ เป็นลายง่าย ๆ ที่เกิดจากการวางช่องสี่เหลี่ยม 2 สีสลับกันไปมาในแต่ละด้าน เท่านี้ก็สามารถกลายเป็นลวดลายในรูปแบบแบบคลาสสิกโมเดิร์นที่ให้ความรู้สึกหนักแน่น ไม่ว่าจะใช้สำหรับการแต่งห้องในบรรยากาศโมเดิร์นหรือย้อนยุคก็ช่วยให้ดูสนุกสนานและเปี่ยมไปด้วยพลังงานอย่างลงตัวในทุกโทนสีเลยค่ะ อีกทั้งกลิ่นอายความเรียบเท่ที่ซ่อนอยู่ ลายตารางจึงเหมาะกับหนุ่ม ๆ มากเลยค่ะ ถ้าเลือกใช้กับการแต่งห้องหรือมุมส่วนตัวสลับกับสีพื้นโทนต่าง ๆ รับรองว่าดูเท่และมีสไตล์สุด ๆ แน่นอน

2 ลวดลายกิงแฮม (Gingham Pattern)

มาถึงลายสุดเบสิกที่ทุกคนคุ้นตาและจะมักนึกถึงเป็นลำดับแรก ๆ เมื่อพูดถึงลายสก็อต ลายนี้มีชื่อว่าลายกิงแฮม (Gingham Pattern) ค่ะ เมื่อมองผ่าน ๆ อาจมีลักษณะการวางคล้ายกับรายตารางหมากรุกแต่จะต่างกันที่จำนวนของสี โดยนอกจากจะมีสีพื้นและสีอีกคู่ที่เป็นเส้นตัดกันแล้ว บริเวณที่ตัดกันนั้นยังเป็นส่วนผสมของสีทั้ง 2 โทนจนได้ออกมาเป็นสีใหม่ด้วยค่ะ แม้จะดูคล้ายกันแต่บรรยากาศที่ได้นั้นกลับต่างกันเลยค่ะ เพราะลายกิงแฮมนั้นจะให้อารมณ์ที่นุ่มนวลและผ่อนคลาย สาว ๆ ที่ชื่นชอบสไตล์หวาน ๆ จึงต้องหลงรักลายนี้แน่นอน เพราะไม่ว่าจะเป็นโทนสีไหนก็ยังคงความน่ารักสดใสไว้ได้เต็มร้อย

3 ลวดลายทาร์ทัน (Tartan Pattern)

อยากได้บรรยากาศหรูหราสไตล์ยุโรปแท้ ๆ ต้องเป็นลายสก็อตแบบทาร์ทัน (Tartan Pattern) เลยค่ะ ลวดลายนี้ถือว่ามีความเก่าแก่และคลาสสิกมาก โดยมีที่มาจากชนเผ่าทาร์ทันในสก็อตแลนด์ นั่นจึงทำให้บ้านเราคุ้นเคยกันในชื่อลายสก็อต แต่ชาวอังกฤษและสก็อตแท้ ๆ จะเรียกลายนี้ว่าทาร์ทัน ส่วนชาวอเมริกันนั้นจะนิยมเรียกว่าลายแพลด (Plaid) ค่ะ แม้จะมีชื่อที่ต่างกันออกไปแต่ก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่แสนคลาสสิก ด้วยลวดลายที่ไม่มีแพทเทิร์นแน่นอนแต่เกิดจากการใช้ลายเส้นที่มีสีสันต่าง ๆ ไขว้ไปมา เป็นความซับซ้อนที่สามารถลงตัวได้กับทุกสไตล์การแต่งห้องหากเลือกใช้สีได้เหมาะสม จะเน้นให้หรูหราด้วยโทนสีเข้ม หรือจะเป็นโทนสีอ่อนก็ยังดูร่วมสมัยและให้บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับการพักผ่อนเป็นอย่างดี

4 ลวดลายสาน (Basketweave Pattern)

ลวดลายแบบสาน (Basketweave Pattern) นี้มาจากงานหัตถกรรมพื้นบ้านหรืองานจักสานที่คุ้นตากันอยู่ทั่วไปนั่นเองค่ะ โดยส่วนใหญ่งานจักสานนั้นจะใช้วัสดุธรรมชาติมาสานสลับไขว้กันไปมาจึงทำให้ลายสานบนพื้นผิวต่าง ๆ มีกลิ่นอายของธรรมชาติตามไปด้วย นี่จึงเป็นอีกลวดลายที่มีเสน่ห์มากค่ะ เพราะทั้งดูมิติแต่ก็เรียบง่าย และกลมกลืนกับพื้นผิวรวมทั้งโทนสีต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี แทนที่จะเป็นจุดดึงดูดความสนใจแต่ลวดลายแบบสานกลับช่วยเสริมให้ส่วนอื่น ๆ ภายในห้องโดดเด่นขึ้น จึงนิยมใช้ในพื้นที่กว้าง ๆ อย่างผนังหรือพื้นห้อง เพราะเป็นลวดลายที่มีรายละเอียดสวยงาม เรียบร้อย จึงไม่รบกวนสายตามากค่ะ

5 ลวดลายมาดาส (Madras Pattern)

แม้ลายสก็อตส่วนใหญ่จะมีที่มาจากประเทศทางฝั่งยุโรปและอเมริกา แต่ลายมาดาส (Madras Pattern) นั้นกลับมีที่มาจากประเทศอินเดีย โดยแรกเริ่มจะมีชื่อว่าเจนไนตามชื่อเมืองที่เป็นถิ่นกำเนิด และสำหรับในบ้านเราก็จะรู้จักกันเป็นอย่างดีในชื่อลายผ้าขาวม้า โดยจุดเด่นของลวดลายนี้คือความหลากหลายของสีสันและรูปแบบเส้นที่ตัดกัน บางช่วงอาจกว้าง บางช่วงอาจถี่ แต่ด้วยสีสันที่สดใสและมีความหนักเบาต่างกัน จึงทำให้ภาพรวมทั้งหมดออกมาลงตัว มองดูแล้วเป็นลวดลายที่ทำให้รู้สึกถึงความมีชีวิตชีวาและสนุกสนาน เหมาะกับมุมสบาย ๆ ที่ไม่ต้องเน้นความหรูหราเป็นทางการค่ะ

6 ลวดลายอาร์ไจล์ (Argyle Pattern)

ลายสก็อตสุดคลาสสิกอีกรูปแบบนี้มีชื่อว่าลายอาร์ไจล์ (Argyle Pattern) ตามชื่อเมืองที่เป็นต้นกำเนิดในสก็อตแลนด์ค่ะ จุดเด่นที่เห็นได้ชัดคือเส้นตารางเล็ก ๆ ที่เรียงตัวตัดกันอยู่บนลายสี่เหลี่ยมด้านเท่าหรือสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนในแนวเฉียง จึงให้รู้สึกถึงการเคลื่อนไหว ดูโดดเด่นต่างจากลายสก็อตแบบอื่น ๆ และเป็นอีกลวดลายที่มีระดับ รวมทั้งยังคงบรรยากาศอุ่นในรูปแบบคลาสสิกไว้ได้เป็นอย่างดี หากต้องการเพิ่มกลิ่นอายความย้อนยุคหน่อย ๆ การเลือกใช้ลายอาร์ไจล์ก็เป็นอีกไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อยเลยค่ะ

7 ลวดลายวินโดวเพลน (Windowpane)

ไม่ต้องมีรายละเอียดเยอะก็สวยได้เหมือนกัน เพราะลายวินโดวเพลน (Windowpane) หรือลายตารางนั้นเป็นลายสก็อตอีกรูปแบบที่แสนจะเรียบง่าย สบายตา และน่ามอง เพราะมีรายละเอียดหลักแค่เส้นตรงบาง ๆ ที่ตัดกันเป็นช่องสี่เหลี่ยมบนสีพื้นเรียบ ๆ คล้ายกับช่องหน้าต่างตามชื่อที่ใช้เรียกเลยค่ะ ลายนี้จึงเหมาะกับห้องในบรรยากาศสบาย ๆ และเน้นความเรียบร้อย อย่างห้องนอนหรือมุมโต๊ะทำงานที่ไม่ต้องการสิ่งรบกวนสายตา และเป็นอีกลวดลายที่มิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับสไตล์การแต่งห้องแบบต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยค่ะ

8 ลวดลายแท็ทเทอร์ซอล (Tattersall Pattern)

ถัดมาจะเป็นลายแท็ทเทอร์ซอล (Tattersall Pattern) ซึ่งเป็นลวดลายที่มีความคล้ายคลึงกับลายวินโดวเพลนเลยค่ะ นั่นเพราะว่าลวดลายชนิดนี้เกิดจากการนำลายวินโดวเพลนสองชั้นซึ่งเป็นคนละสีมาวางซ้อนกันให้กลายเป็นตารางที่มีช่องถี่ขึ้น และด้วยลักษณะของเส้นบาง ๆ ที่ตัดกันในช่องเล็ก ๆ เรียงตัวต่อกัน จึงทำให้กลายเป็นลวดลายที่ค่อนข้างกลมกลืนกับสีพื้น ดูแล้วไม่ลายตา จึงช่วยเสริมบรรยากาศให้ผ่อนคลายคล้ายกับลายวินโดวเพลน แต่สิ่งที่พิเศษกว่าคือความน่ารักสดใสที่แอบซุกซ่อนอยู่ในความเรียบง่าย จากลักษณะของเส้นและสีที่ตัดกันนั่นเองค่ะ

9 ลวดลายฮาวส์ทูธ (Houndstooth Pattern)

ลวดลายที่คุ้นเคยกันในวงการแฟชั่นอย่างลายฮาวส์ทูธ (Houndstooth Pattern) ก็เป็นหนึ่งในลายสก็อตเหมือนกันค่ะ ที่อาจดูแปลกตาและแตกต่างจากลายสก็อตส่วนใหญ่นั้นก็เพราะความต้องการที่อยากให้มีความแปลกใหม่ ดูไม่น่าเบื่อ ลายฮาวส์ทูธจึงมีลักษณะคล้ายกับฟันของสุนัขเรียงต่อกันแทนที่จะเป็นเส้นตรงหรือตารางเหมือนรูปแบบอื่น ๆ นั่นเองค่ะ และแม้จะเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานจากชาวพื้นเมืองของสก็อตแลนด์ แต่ลายฮาวส์ทูธก็ยังคงความทันสมัย ให้บรรยากาศที่หรูหรามีระดับ ไม่ว่าลวดลายนี้จะไปอยู่บนผนังห้อง พรมปูพื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหน ก็ทำให้มีความโดดเด่นสะดุดตาขึ้นมาได้ทันทีเลยค่ะ

10 ลวดลายเกลน (Glen)

ลายเกลนหรือ (Glen) หรือลาย Prince of Wales Check เป็นลายสก็อตแบบผสมผสานที่เกิดจากความชื่นชอบของเจ้าฟ้าชายเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แห่งเวลส์ จุดเด่นจะอยู่ที่การใช้ลายฮาวส์ทูธแทรกลงในช่องลวดลายรูปแบบอื่น ๆ จนทำให้กลายเป็นลายใหม่ที่มีมิติและเป็นเอกลักษณ์ ลวดลายนี้จะค่อนข้างมีความร่วมสมัยและให้บรรยากาศไม่เป็นทางการมากนัก จึงสามารถเลือกมาใช้มิกซ์แอนด์แมทช์ได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็นห้องสไตล์คลาสสิกหรือโมเดิร์น ห้องรับแขกหรือห้องทำงาน ก็สามารถเลือกใช้ลายเกลนมาตกแต่งได้ค่ะ

Story : Kamonchanok.L