ฉี่สุนัข

ปัสสาวะของน้องหมาน้องแมว บอกอะไรเราได้บ้าง

ฉี่สุนัข
ฉี่สุนัข

พวกเราเคยสังเกตไหมว่าสีของฉี่ในหมาปกติมีลักษณะเป็นอย่างไร ในแมวน่าจะบอกได้ยากครับ เพราะว่าแมวเป็นสัตว์ที่มักฉี่ในกระบะทราย แต่ถ้าเราสังเกตสีของฉี่และอาการในขณะที่สัตว์เลี้ยงของเรา ไม่ว่าจะหมาหรือแมว ฉี่ก็สามารถที่จะบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับสุขภาพของเขา

วันนี้ บ้านและสวน Pets มาทำความรู้จักกันครับว่า ปัสสาวะ หรือ ฉี่สุนัข และ แมว บอกอะไรเราได้บ้าง

ปัสสาวะประกอบไปด้วย “น้ำ” และ”สารละลาย” ซึ่งเกิดจากการขับออกของสารต่างๆ ที่เรากินและดื่มเข้าไป รวมถึงสารเคมีที่ร่างกายต้องการที่จะกำจัดออกด้วย ฉี่ตามปกติจะมีสีเหลืองอ่อนหรือเหลืองอำพัน ซึ่งเกิดจากเม็ดสีที่เรียกว่า ยูโรโครม (urochrome)  ประกอบด้วย

  1. “ยูโรบิลิน” (urobilin) ซึ่งเป็นสารที่เปลี่ยนมาจากสารบิลิรูบินที่ละลายน้ำได้ (conjugated bilirubin)
  2. “บิลิรูบิน” (bilirubin) เกิดจากแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงโดยเปลี่ยนจากสารเม็ดสีแดงที่เรียกว่า ฮีม (heme) ในเม็ดเลือดแดงมาเป็นสารสีเหลือง บิลิรูบินมีเมตาบอลิสมที่ตับทำให้ละลายน้ำได้ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยูโรบิลินและขับออกมาทางปัสสาวะ
ฉี่สุนัข

ถาม: ลักษณะทางกายภาพฉี่ปกติของปัสสาวะอย่างไรคะ

ตอบ: สีของฉี่ปกติควรจะมีลักษณะ”เหลือง” และ “ใส” ทั้งในสุนัขและแมวครับ

ฉี่ปกติหลังจากเพิ่งฉี่ใหม่ๆ จะมีความใส แต่ถ้าเราทิ้งไว้นาน แล้วค่อยมาดูก็จะขุ่นขึ้น เพราะ ในฉี่จะมีอาหารสำหรับแบคทีเรียทำให้เกิดการขยายพันธุ์ส่งผลให้ฉี่ขุ่นขึ้น นอกเหนือจากนั้นแบคทีเรียจะเปลี่ยนยูเรียในฉี่ให้เป็นแอมโมเนีย และแอมโมเนียจะทำให้ฉี่เป็นด่างมากขึ้นทำให้เกิดการตกตะกอนของเกลือในกลุ่มฟอสเฟตและยูเรต

ถาม: ฉี่สุนัข ขุ่นมากค่ะคุณหมอ น้องเป็นอะไรคะ

ตอบ: ถ้าฉี่มีความขุ่น (โดยเฉพาะหลังจากที่ฉี่ใหม่ๆ) สามารถบ่งบอกถึงสาเหตุต่างๆดังนี้

  1. ภาวะร่างกายขาดน้ำ
  2. มีปัญหาการอักเสบหรือติดเชื้อของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ (เช่น ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อนำปัสสาวะ) และระบบสืบพันธุ์ (ในเพศผู้ ได้แก่ ต่อมลูกหมาก องคชาต และในเพศเมีย ได้แก่ มดลูก ช่องคลอด ปากช่องคลอด) ทำให้มีเม็ดเลือดขาวอยู่ในฉี่มากขึ้น
  3. โรคนิ่วภายในทางเดินปัสสาวะ (เช่น กระเพาะปัสสาวะ ไต เป็นต้น)
  4. มีการปนเปื้อนของตัวอสุจิหรือแบคทีเรีย (ตามปกติในฉี่จะไม่มีเชื้อแบคทีเรียเลย)
  5. ในฉี่มีผลึกเกลือของสารต่างๆออกมาด้วยอยู่แล้ว ถ้ามีผลึกเกลือจำนวนมากก็สามารถบ่งบอกถึงโรคต่างๆได้ เช่น
  6. ผลึกแอมโมเนียมยูเรท (ammonium urate) ถ้าพบมากไปจะบ่งบอกถึงปัญหาโรคตับ
  7. ผลึกแมกนีเซียมแอมโมเนียมฟอสเฟต (magnesium ammonium phosphate หรือเรียกว่า “struvite” สตรูไวท์) ถ้าพบมากจะบ่งบอกถึงการเกิดนิ่ว
  8. ผลึกแคลเซี่ยมออกซาเลท (calcium oxalate) ถ้าพบมากจะบ่งบอกถึงการเกิดนิ่ว
  9. ผลึกบิลิรูบิน (bilirubin) สามารถพบได้เป็นปกติจำนวนเล็กน้อยในหมา แต่ถ้าตรวจพบใน จำนวนมากในหมาหรือพบ แม้เพียงปริมาณเล็กน้อยในแมวจะบ่งบอกถึงโรคตับ
  10. นอกเหนือจากนั้นยังมีผลิตหรือเกลือของยาต่างๆหรือสารเคมีที่กินเข้าไปด้วย

ถาม: ฉี่ของน้องมีเหลืองเข้มหรือส้ม น้องเป็นอะไรได้บ้างคะ

ตอบ: ถ้าสีฉี่ของสัตว์เลี้ยงมีสีส้มหรือเหลืองเข้มมากจะบ่งบอกถึงภาวะดีซ่าน ภาษาอังกฤษเรียกว่า “ icterus” (อ่านว่า “อิคเทอรัส”) หรือ “jaundice” (อ่านว่า “จอนดิซ”) อาการที่จะพบควบคู่กับปัสสาวะเหลืองเข้ม คือ ตัวที่เหลืองมากกว่าปกติ (สังเกตดูบริเวณที่เนื้อเยื่อเป็นสีขาวบนตัวสัตว์) โดยเฉพาะที่เป็นบริเวณตาขาว ใบหูด้านใน และผิวหนังจะเป็นสีเหลืองทั้งหมด

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า ยูโรโครม หรือ ยูโรบิลิน มาจากเมตาบอลิสมของบิลิรูบินที่ตับ บิลิรูบินมาจากการแตกของเม็ดเลือดแดง  ดังนั้นปัญหาที่ปัสสาวะมีสีเหลืองเข้มมากกว่าปกติจนถึงสีส้มเกิดจาก

  1. การแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงจำนวนมากในบ้านเรามักจะพบในโรคพยาธิในเม็ดเลือด (blood parasites) และ ภูมิคุ้มกันทำลายเม็ดเลือดแดงตัวเอง (immune mediated hemolytic anemia)
  2. โรคตับ เช่น ตับอักเสบ (hepatitis) เนื้องอกที่ตับ (hepatic tumor) ฯลฯ เป็นต้น
  3. โรคถุงน้ำดีและท่อน้ำดีอุดตันจากสาเหตุต่างๆ เช่น นิ่วในถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี เนื้องอกบริเวณถุงน้ำดีหรือท่อน้ำดี หรือเนื้องอกบริเวณข้างเคียงเข้ามากดที่บริเวณท่อน้ำดี เป็นต้น

จากสาเหตุที่เราได้เห็นเป็นต้นนั้น ถ้าสัตว์เลี้ยงที่บ้านมีฉี่สีส้ม เจ้าของรีบพาสัตว์เลี้ยงมาพบสัตวแพทย์ทันทีนะครับ อย่านิ่งนอนใจครับ

ถาม: น้องฉี่เป็นเลือดค่ะ น้องเป็นอะไรได้บ้างคะ

ตอบ: ถือว่าเป็นปัญหาคลาสสิคที่เจ้าของแจ้งคุณหมอ ถ้าฉี่ของสัตว์เลี้ยงของเรามีสีแดงนั่นหมายถึงมีเลือดอยู่ในปัสสาวะ ซึ่งจะเป็น เม็ดเลือดแดงจริงๆก็ได้ (hematuria) หรือสารเม็ดสีแดงที่เรียกว่า ฮีโมโกลบิน (hemoglobin)  ที่อยู่ภายในเม็ดเลือดแดงก็ได้มาอยู่ในปัสสาวะ (hemoglobinuria)

ในกรณีที่เป็นเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะโดยจะบอกถึง

  1. ปัญหาการอักเสบหรือติดเชื้อของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะ (เช่น ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ท่อนำปัสสาวะ) และระบบสืบพันธุ์ (ในเพศผู้ ได้แก่ ต่อมลูกหมาก องคชาต และในเพศเมีย ได้แก่ มดลูก ช่องคลอด ปากช่องคลอด)
  2. สาเหตุอื่นๆได้แก่ นิ่ว เนื้องอก และการกระทบกระแทกของอวัยวะในระบบทางเดินปัสสาวะโดยเฉพาะรถชน
  3. โรคที่เจอได้น้อยกว่ามากคือ โรคการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดไหลออกมากับปัสสาวะ โรคการแข็งตัวของเลือดมักจะตามมาจากโรคตับ การกินยาเบื่อหนู เป็นต้น
  4. ยังมียาและสารพิษอีกมากมายที่สามารถทำให้สีของปัสสาวะเป็นสีแดงได้แต่คุณหมอขอไม่กล่าวถึงในที่นี้ครับ

อีกกรณีคือ สารเม็ดสีแดงที่เรียกว่า ฮีโมโกลบินอยู่ในปัสสาวะเกิดจากการแตกทำลายของเม็ดเลือดแดงภายในหลอดเลือด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พยาธิในเม็ดเลือด พยาธิหนอนหัวใจ ยา สารเคมีบางชนิด

การสังเกต “เวลา” ที่พบเลือดในขณะที่กำลังปัสสาวะก็จะช่วยบอกสัตวแพทย์ได้ว่าปัญหาของโรคอยู่ที่ตำแหน่งไหน

  1. ถ้าเห็นเลือด “ตลอดสาย” จะมีรอยโรคได้ที่ไต ท่อไต กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก
  2. ถ้าเห็นเลือด “ต้นสาย” จะมีรอยโรคได้ที่ไต โรคต่อมลูกหมาก ท่อน้ำปัสสาวะ องคชาต มดลูก ช่องคลอด
  3. ถ้าเห็นเลือด “ปลายสาย” จะมีรอยโรคได้ที่กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมาก

คุณหมอฝากเจ้าของสังเกตเวลาที่พบเลือดในขณะที่กำลังปัสสาวะเพราะจะช่วยหมอได้มากเวลาทำการวินิจฉัยว่ารอยโรคนั้นอยู่ตำแหน่งไหนครับ ถ้าพบฉี่สีแดงก็อย่าได้นิ่งนอนใจอีกเช่นกันนะครับ รีบมาพบสัตวแพทย์

ถาม: ฉี่ของน้องเป็นสีโค้กค่ะ น้องเป็นอะไรได้บ้างคะ

ตอบ: ถ้าฉี่เป็นสีโค้กหรือสีน้ำตาลดำโดยจะบ่งบอกถึงความเสียหายของกล้ามเนื้อทำให้เกิดการรั่วของโปรตีนที่ชื่อว่า “ไมโอโกลบิน” (myoglobin) ได้ ไมโอโกลบินเป็นซึ่งทำหน้าที่ในการส่งออกซิเจนให้กับกล้ามเนื้อ  โรคที่ทำให้ไมโอโกลบินออกมาภายในฉี่ ได้แก่ กล้ามเนื้อเสียหายจากการกระทบกระแทก (เช่น รถชน) มีอาการชักเป็นเวลานาน ได้รับสารพิษบางชนิด เช่น ยากำจัดหอยทากกลุ่มเมทัลดีไฮด์ (metaledhyde) เป็นต้น รีบพามาหาหมออีกเช่นกันนะครับ

บทความโดย

อ.น.สพ. วรรณสิทธิ์ จันทรวงศ์ (อว. สพ. ศัลยศาสตร์)
Wannasit Chantornvong, DVM, MS, BVSc, DTBVS
โรงพยาบาลสัตว์ปาริชาต สุวินทวงศ์
Parichart Suwinthawong Animal Hospital