“ อยากอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนเราอยู่กรุงเทพฯ เวลาที่เรามีเรื่องเครียดจะนึกถึงเชียงใหม่ตลอด พอมาอยู่ในช่วงแรกก็อาจลำบากอยู่เพราะเราต้อง รีโนเวทบ้านเก่า แต่เราก็ค่อย ๆ ทำบ้านไปเรื่อยตลอด 7 ปีที่ผ่านมาจนเป็นบ้านของเรา ”
ร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์โคซี่ดูแสนอบอุ่นในชุมชนแม่โจ้-สันทราย จังหวัดเชียงใหม่ที่ชื่อว่า “ ละมุน ละไม โฮมคาเฟ่ ” ซึ่งเป็นทั้งบ้านและร้านของสองสามีภรรยา คือ คุณแบงค์-กฤตติน พิชัยศรแผลงและคุณมิ-อัญวีณ์ สิริศักดิ์วรกุล ซึ่งทั้งคู่ตัดสินใจย้ายมาจากชีวิตที่วุ่นวายในกรุงเทพมหานคร เพื่อเริ่มตั้งรกรากอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่รวมไปถึงค่อย ๆ รีโนเวทบ้านเก่า ของคุณตาและคุณยายหลังนี้ด้วยไอเดียของทั้งคู่เองทั้งหมด
“ บ้านหลังนี้เป็นของหม่อมเจ้าวงษ์มหิป และหม่อมละไม ชยางกูร ซึ่งเป็นคุณตาและคุณยายของผม หลังจากท่านเกษียณข้าราชการแล้วท่านก็อยากปลีกวิเวกมาอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ก็มาเห็นพื้นที่บริเวณนี้ที่เดิมเป็นสวนลำไยและสร้างบ้านหลังนี้ไว้เมื่อราว 50 กว่าปีที่แล้ว เป็นบ้านหลังเล็กที่ชาวบ้านที่อาศัยเดิมในบริเวณนี้ผูกผันและให้ความเคารพ โดยเรียกกันว่า บ้านหม่อม หลังจากที่หม่อมท่านเสียไปก็ไม่มีใครมาใช้บ้านหลังนี้อีกเลย มีแค่คนดูแลปัดกวาดเท่านั้น ซึ่งของทุกอย่างก็ยังคงทิ้งไว้ เหมือนวันสุดท้ายที่หม่อมท่านยังมีชีวิตอยู่ ไม่มีใครทำการย้ายแต่อย่างใดจนกระทั่งเราเข้ามาอยู่อาศัย ” คุณแบงค์ผู้เป็นหลานโดยตรงของเจ้าของบ้านเล่าถึงประวัติของบ้าน
“ ชื่อร้าน ละมุมละไม โฮมคาเฟ่ ได้ที่มามาจากชื่อของคุณยาย คือหม่อมละไม ชยางกูร รู้สึกว่าเป็นชื่อที่มีความหมายดีและไพเราะทุกครั้งที่ได้ยิน ”


ภายนอกของบ้านเขียวครึ้มและร่มเย็นไปด้วยร่มเงาจากต้นไม้ใหญ่ซึ่งปลูกอยู่รอบ ๆ ซ่อนตัวบ้านซึ่งมีรูปทรงสไตล์โมเดิร์นประยุกต์ที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นไทยแบบบ้านพักข้าราชการ จากความนิยมของสถาปัตยกรรมในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ด้านล่างใช้โครงสร้างคอนกรีตซึ่งแต่เดิมเปิดโล่งเป็นใต้ถุนสำหรับนั่งพักผ่อน รับแขกและทำกิจกรรม ส่วนชั้นบนทำจากโครงสร้างไม้สำหรับพักอาศัยและเป็นห้องนอน ปัจจุบันทาด้วยสีเทาเข้มทั้งหลังเพื่อคลุมโทนให้ดูเรียบเท่ตามความชอบของทั้งคู่และกลมกลืนกับสีเขียวของธรรมชาติรอบ ๆ ปัจจุบันชั้นล่างปรับเปลี่ยนใช้เป็นตัวร้านอาหารและคาเฟ่ โดยการตกแต่งภายในก็ไม่ต่างไปจากเดิมนัก เพียงแต่ปรับห้องให้มีเคาร์เตอร์บาร์สำหรับวางเครื่องและอุปกรณ์ชงกาแฟ รวมถึงกั้นผนังสำหรับติดแอร์คอนดิชั่นเนอร์และทำให้ร้านดูเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น บรรยากาศของร้านในภาพรวมล้วนตกแต่งด้วยข้าวของและเฟอร์นิเจอร์กระจุกกระจิกซึ่งมาจากของเดิมของตัวบ้านรวมไปถึง ของสะสมของทั้งคู่วางโชว์ตามมุมต่างๆอย่างสวยงามเป็นระเบียบ


“ ส่วนใหญ่เราใช้ของเดิมของบ้าน มีบางส่วนมาจากบ้านของคุณพ่อและคุณแม่ที่สุขุมวิทด้วย นำมาปรับและประยุกต์ใช้ใหม่ให้เหมาะสมกับบ้าน แม้ว่าจะทำให้การก่อสร้างล่าช้าไป แต่พอคุณพ่อคุณแม่ได้มาเห็นเขาก็รู้สึกดีใจและภูมิใจในประวัติของสิ่งของเหล่านั้นและเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา ในตอนแรกเราแต่งบ้านเพื่ออยู่อาศัยเพียงอย่างเดียวของตกแต่งโดยเฉพาะบริเวณด้านล่างจึงมีของกระจุกกระจิกของเราที่โชว์ไว้มากมาย เพื่อนคนหนึ่งที่เขามาเยี่ยมพอเห็นแล้วแนะนำว่าชั้นล่างสวยน่าจะเปิดเป็นร้านกาแฟ เราจึงนำไอเดียนั้นมานอนคิด เพราะเมื่อเปิดร้านมันก็ต้องแลกกับความเป็นส่วนตัวที่เสียไป ” คุณแบงค์เล่า
