กิจกรรมเรียนรู้สำหรับเด็ก เดินเล่นบนเนินเขาในช่วงปิดเทอม พร้อมสูตรสแน็กบาร์อาหารเพิ่มพลัง

ช่วงปิดเทอมอย่างนี้หลายครอบครัว มีโปรแกรมพาเด็กๆออกเดินทางเพื่อเรียนรู้  วันนี้เราจึงอยากชวนคุณพ่อคุณแม่และหนูๆ มาเตรียม สแน็กบาร์ เป็นเสบียงใส่เป้ไว้กินระหว่างทางกัน

ขนมนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินทางไปบัทเทอร์เมียร์ ทะเลสาบในเดอะเลกดิสทริกต์ ระหว่างทางเราแวะทานอาหารเช้าและซื้อ Kendal Mint Cake ก้อนน้ำตาลรสมิ้นต์เพื่อใช้เป็นพลังงานระหว่างเดินทางไกลให้เด็กๆ คนละหนึ่งก้อน สแน็กบาร์

เราขับตามป้ายบอกทางมาเรื่อยๆ หยุดพักตรงจุดชมวิวที่เป็นทุ่งหญ้า เพื่อให้เจ้าหมาน้อย โยโย่ ได้ลงไปปล่อยทุกข์ เราได้เห็นแกะภูเขาเต็มไปหมดบริเวณนั้น หลังจากที่เด็กๆพากันสงสัยว่าจุดขาวๆที่เห็นอยู่ลิบๆบนเขาคืออะไร เจ้าของแกะเลี้ยงแบบปล่อยตามธรรมชาติ ระหว่างวัน เจ้าแกะจะเดินแทะเล็มหญ้าไปตามเนินเขา พอตกเย็นถึงจะพาสุนัขมาต้อนเจ้าแกะเหล่านี้กลับบ้าน  ถ้าสังเกตที่ขนของแกะจะเห็นว่ามีสีพ่นอยู่ บ้างก็เป็นสีแดง บ้างก็เป็นสีม่วง เราเดากันว่าสีเหล่านี้คงเป็นสีแสดงสัญลักษณ์ความเป็นเจ้าของแกะเหล่านี้

Lake District National Park

จากจุดชมวิวนั้น เรายังต้องขับรถต่อไปอีกสักระยะก่อนจะถึงบัทเทอร์เมียร์ ตอนนี้ทุกคนต่างตั้งหน้าตั้งตารอให้ถึงจุดหมายปลายทางเร็วๆ การเดินทางไปบัทเทอร์เมียร์ไม่ยากนัก หากเราขับรถไปเอง จากแมนเชสเตอร์ไปบัทเทอร์เมียร์ ใช้เวลาแค่หนึ่งชั่วโมง แต่หากใครที่ขับรถมาจากลอนดอนอาจใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง เราใช้เส้นทางสาย M6 วิ่งไปทางตะวันออกของอุทยานแห่งชาติเลกดิสทริกซ์ (Lake District National Park) แล้ววิ่งออกทางแยกที่ 40 (junction 40) วิ่งสาย A66 การเดินทางโดยรถยนต์สะดวกมากขึ้นเพราะมีเครื่องนำทาง เพียงใส่รหัสไปรษณีย์ CA13 9XA เส้นทางก็จะขึ้นบนหน้าจอพร้อมเสียงใสๆของ Satnav ที่คอยบอกให้เราเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา จนมาถึงจุดหมายปลายทาง

Lake District National Park

ถนนที่พาเราไปบัทเทอร์เมียร์หรือหลายๆที่ในเดอะเลกดิสทริกต์ มักจะแคบแบบชนิดรถเก๋งเล็กๆสองคันสวนกันแทบไม่ได้ เด็กๆตื่นเต้นและช่วยลุ้นกันว่าเมื่อไหร่จะมีรถสวนมา แล้วถ้ามี ใครจะหลบ และจะหลบตรงไหน ถนนในชนบทอังกฤษมักจะเป็นเช่นนี้ คนขับต้องรู้จักหลบหรือรอจังหวะเมื่อเห็นรถกำลังขับสวนมา และที่สำคัญต้องรู้จักสัญญาณว่ารถตรงข้ามกำลังบอกอะไร ถ้าคนขับกระพริบไฟถี่ๆให้เรา นั่นหมายความว่าเขากำลังบอกให้เราไปก่อน ซึ่งถ้าเป็นเมืองไทย สัญญาณนี้จะหมายถึงอย่าสวนมานะ รถฉันจะตะลุยไปข้างหน้า การยกมือขี้นเมื่อรถตรงข้ามหยุดให้เรา เป็นการบอกให้รู้ว่า ขอบคุณนะ ซึ่งถือเป็นมารยาทที่สำคัญของที่นี่ มีหลายครั้งทีเดียวที่แอบเห็นคนขับหัวเสียใส่กัน แค่เพียงลืมกล่าวขอบคุณ หรือแสดงสัญลักษณ์ขอบคุณ คนอังกฤษให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก เห็นได้จากการที่เด็กๆถูกอบรมให้พูด magic word ” thank you ” อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ตัวเล็กตัวน้อย

สำหรับใครที่ไม่อยากขับรถมาเอง การเดินทางไปบัตเตอร์เมียร์ก็เป็นไปได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องใช้เวลาและการวางแผนล่วงหน้าเท่านั้น คนที่ชอบนั่งรถไฟสามารถขึ้นรถที่แมนเชสเตอร์ มาลงวินเดอร์เมียร์ แล้วต่อรถประจำทางหรือรถไฟท้องถิ่นอีกที ซึ่งรายละเอียดสามารถดูได้ที่ www.buttermereweb.co.uk

เมื่อถึงบัทเทอร์เมียร์เราหาที่จอดรถและเดินเลาะไปทางด้านข้างของ Fish Hotel  เดินไปตามป้ายไม่นานจะพบกับทะเลสาบบัทเทอร์เมียร์ที่มีทิวเขาล้อมรอบ  เราค่อยๆเดินชมนกชมไม้ ไปเรื่อยๆ ที่นี่มีคนพาเจ้าสี่ขามาเดินเล่นกันจำนวนมาก บางตัวก็กระโจนลงไปว่ายน้ำเล่นในทะเลสาบ ในขณะที่พวกเราหนาวสั่นเพราะแรงลม และเริ่มเห็นเมฆฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล แหงนหน้าดูฟ้า วัดระยะเมฆที่เคลื่อนตัวมากับระยะทางที่ต้องเดินแล้ว เราคงเจอฝนระหว่างทางแน่ๆ เด็กๆยังคงเพลิดเพลินกับการเดินแบบทอดน่อง เราเดินมาได้ครึ่งทาง ถึงบริเวณป่าสนที่มีต้นสนต้นใหญ่เต็มไปหมด มีร่องรอยที่เด็กๆเอากิ่งไม้มาวางเรียงสร้างบ้านเล่นกันไว้  เด็กๆของเรานึกสนุกช่วยกันขนกิ่งไม้เล็กใหญ่มาสร้างบ้านต่อ

Lake District National Park

เปาะ…แปะ…เปาะ…แปะ…. ฝนเริ่มโปรยลงมา พวกเราวิ่งหาที่กำบังใต้ต้นโอ๊คใหญ่ริมทะเลสาบ แต่ลมแรงนัก ร่มใบโอ๊คช่วยอะไรเราไม่ได้มาก วันนี้ถึงกับเปียกปอนกันเลยทีเดียว เมื่อฟ้าเปิด เม็ดฝนกล่าวลา พวกเราก็เดินทางกันต่อใกล้ๆลานจอดรถ เราเดินผ่านร้านไอศกรีม ซึ่งขามาคิดว่าถ้าเดินรอบทะเลสาบแล้ว จะชวนเด็กๆแวะกินไอศกรีมร้านนี้ให้ชื่นใจก่อนกลับบ้าน แต่ตอนนี้ถ้าได้ซุปอุ่นๆ หรือชาร้อนๆสักถ้วยน่าจะดีต่อใจและกายมากกว่าทุกครั้งที่เรามาเยี่ยมเดอะเลกดิสทริกต์  เรามักจะจะเปียกปอน หนาวยะเยือกแม้นจะเป็นการเดินทางในฤดูร้อน แต่อุปสรรคเล็กๆน้อยๆเหล่านี้กลับเป็นเสน่ห์ที่น่าหลงใหลของที่นี่ See You Again, the Lake District แล้วเราจะกลับมากันใหม่

Lake District National Park

 

เตรียมเสบียงให้พร้อมก่อนเดินทาง

เวลาเดินทางไกล  นอกจากน้ำที่เราควรตระเตรียมใส่กระเป๋าให้พร้อม เราควรมีเสบียงสำหรับทานระหว่างทางเคยมีครอบครัวนักเดินป่าครอบครัวหนึ่งแนะนำให้พวกเราทำถุง G O R P (good old raisins & peanuts) เพื่อเป็นสแน็กที่ให้พลังงานระหว่างเราพายเรือล่องแม่น้ำท่าจีนเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร และไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรข้างหน้า เราอาจจะต้องพายทวนน้ำกลับมา หรืออาจต้องแวะพักใต้ต้นไม้ใหญ่ริมแม่น้ำ เส้นทางแม่น้ำที่แทบจะไม่มีผู้คนสัญจรกันแล้ว คงไม่มีเรือก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ หรือเรืออาแปะขายไอติมพายผ่านมา  เสบียงจึงสำคัญมาก ในถุง G O R P วันนั้นเราเลือกถั่วชนิดต่างๆ อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ลูกเกด ช็อกโกแลตเคลือบน้ำตาล และอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่างทีเดียว ใส่รวมผสมอยู่ในถุงซิปล็อก เป็นเรื่องสนุกสนานและสร้างสรรค์ของเด็กๆในการออกแบบถุง G O R P ของตัวเอง สุดท้ายเราก็เอาถุง G O R P มาแบ่งปันกันในเรือเวลาหิว

snack bars

Homemade Hiking Snack Bars

เนยจืด 60 กรัม
น้ำผึ้ง 160  กรัม
ข้าวโอ๊ต  480 กรัม
อัลมอนด์ 80 กรัม
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 80 กรัม
เม็ดทานตะวัน  50 กรัม
เมล็ดฟักทอง 50 กรัม
แครนเบอรี่ หรือลูกเกด 150 กรัม
อินทผลัม  (ยีหรือปั่นจนละเอียด) 50 กรัม
งาหรืองาขี้ม่อน   25 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 70 กรัม
เนยถั่วแบบหยาบ  90 กรัม

วิธีทำ

1 ตั้งเตาอบ 170 องศาเซลเซียส
2 ละลายเนย อินทผลัม ผสมกับน้ำผึ้ง ในหม้อเล็กๆ
3 ผสมข้าวโอ๊ต อัลมอนด์ เม็ดมะม่วง เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน และแครนเบอรี่เข้าด้วยกันในชามใหญ่
4 เทส่วนผสมเนยกับน้ำผึ้งลงไป คนให้เข้ากัน เกลี่ยส่วนผสมลงในถาด สองถาด อบเป็นเวลา 20 นาที หรือจนส่วนผสมเป็นสีเหลือง ระหว่างนั้นให้คอยกลับไม่ให้ส่วนผสมไหม้หรือติดถาด
5 นำออกจากเตาแล้วผึ่งให้เย็น
6 ละลายเนยถั่ว น้ำตาลทรายแดง และน้ำผึ้งส่วนที่เหลือในหม้อเล็กๆ นำเอาส่วนผสมข้าวโอ๊ตที่ผึ่งจนเย็นมาคลุกเคล้าให้ทั่ว
7 อัดขนมลงในถาดที่วางกระดาษไขไว้ รอจนเย็น แล้วจึงนำออกจากถาดวางบนเขียง ตัดเป็นชิ้นสีเหลี่ยมผืนผ้าเท่าๆกัน

ติดตามเรื่องราวการเรียนรู้ของเด็กๆภายนอกห้องเรียน ได้จากหนังสือ “เรียนนอกบ้าน” ซึ่งนำเสนอเรื่องราวการเดินทางท่องไปในชนบทอังกฤษของครอบครัวผู้เขียน ครูปิ๋ม – ศิริลักษณ์ ริ้วบำรุง แห่งบ้านลิตเติ้ลทรี การเรียนรู้เหล่านั้นไม่ได้จบลงเมื่อการเดินทางสิ้นสุด แต่เด็กๆยังได้พกแรงบันดาลใจกลับมาเล่นสนุกกันต่อที่บ้าน


เรื่องที่น่าสนใจ