The East Village เป็นย่านที่สุดแสนจะมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยร้านอาหารนานาชาติและเรียกได้ว่าเป็นย่านของคนหนุ่มสาว เนื่องจากอยู่ใกล้กับสถานศึกษาชื่อดังหลายแห่งอย่าง NYU, The New School และ The Cooper Union ที่พักอาศัย ในย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นตึกเก่า บ้างก็มีอายุหลายร้อยปี พื้นที่ใช้สอยในบ้านจึงค่อนข้างจะมีจำกัด แต่ด้วยสถานที่ตั้งที่เรียกได้ว่าใกล้กับทุกสิ่ง หลาย ๆ คนที่เลือกอยู่ย่านนี้ก็พร้อมจะมี ห้องขนาดเล็ก แลกกับความสะดวกสบายในการเดินทาง
my home พามาเยี่ยมบ้านใจกลาง The East Village ของ คุณปราง-ปรางค์ฉัตร เสถียรธรรมวิทย์ เป็น ห้องขนาดเล็ก ไม่ต่างจากบ้านอื่น ๆ ในย่านเดียวกัน ห้องนั่งเล่นของบ้านขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ หลังนี้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องนอนที่สอง และแบ่งห้องนอนหลักให้รูมเมทอีกคนหนึ่ง เพื่อเป็นการใช้พื้นที่ให้คุ้มกับค่าเช่าแพงลิบของบ้านบนเกาะ Manhattan คุณปรางเป็น fashion designer ที่เชี่ยวชาญทางด้าน men’s wear และตอนนี้กำลังสร้างแบรนด์ men’s accessories ของตัวเอง ภายใต้ชื่อ W.B.Thamm
จึงใช้เวลาส่วนมากทำงานที่บ้าน ดังนั้นห้องของคุณปรางจึงต้องตอบโจทย์การใช้สอยในการเป็นทั้งพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่ทำงานไปพร้อม ๆ กัน “ หลังจากทำงานประจำเกี่ยวกับเสื้อผ้ามาได้เกือบ ๆ 7 ปี ก็รู้สึกว่าต้องวางแผนชีวิตต่อ อยากทำอะไรที่มีทางก้าวหน้า โดยจะต้องเริ่มจากงานเล็ก ๆ ที่ทำเองได้ อยู่ได้ด้วยตัวเองไม่ต้องจ้างใคร ก็เลยเริ่มมาทำ accessories สำหรับผู้ชาย ในช่วงแรกก็ทำงานส่วนตัวคู่ไปกับงานประจำ คือ เลิกจากงานประจำก็กลับบ้านมาพักผ่อนสักครู่ แล้วก็เริ่มทำงานของตัวเองต่อในช่วงดึกจนเกือบเช้า ช่วงนั้นก็เป็นการเริ่มใช้พื้นที่บ้านแบบสองฟังก์ชัน คือ ทั้งพักผ่อนและทำงาน ก็ค่อย ๆ ปรับรูปแบบห้องมาเรื่อย ๆ จนมาลงตัวในแบบที่เห็นอยู่นี้ ”
ห้องนอนของคุณปรางเป็นห้องขนาด 3.5 x 5 เมตรที่ปรับมาจากห้องนั่งเล่นเดิมซึ่งเปิดโล่งถึงครัว เพื่อความเป็นส่วนตัว จึงกั้นผนังเพิ่มเติมให้เป็นสัดส่วน คุณปรางใช้วิธีดันเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดให้ไปอยู่ติดผนังห้อง ซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยครบ ตั้งแต่เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า มุมนั่งเล่นและตู้เก็บของ โดยเน้นให้มีพื้นที่โล่งกลางห้องให้สามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานเมื่อต้องใช้โต๊ะตัวใหญ่สำหรับวางแบบผ้าและจักรเย็บผ้า โต๊ะตัวใหญ่นี้พิเศษตรงที่พับเก็บได้เมื่อไม่ใช้ ทำให้ประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้มากเลยทีเดียว
“ เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่มาจาก ikeaโดยเลือกแบบที่เรียบ ใช้งานได้จริง เราใช้ห้องนี้เป็นสองฟังก์ชันที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง คือพักผ่อนและทำงานอย่างละครึ่ง หลังจากออกจากงานประจำ ถึงแม้จะทำงานแบบอิสระ แต่ก็พยายามจัดตารางทำงานให้อยู่ตอนกลางวัน ส่วนตอนกลางคืนก็เลิกงาน และปรับเปลี่ยนพื้นที่โดยการเก็บโต๊ะและอุปกรณ์ทำงานออกไปเลย กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ทำงานก็จะพยายามไม่เอาผ้าหรืออุปกรณ์ใด ๆ ไปกองสุมไว้ที่โซฟา พยายามจัดทุกอย่างให้เป็นสัดส่วน ไม่ระรานกัน พื้นที่ตรงกลางห้องสามารถปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ทำงานได้ก็จริง แต่เวลาพักเราก็ยังใช้พื้นที่เดียวกันนี้อยู่ จึงต้องพยายามแบ่งเวลาและจัดให้ชัดเจนตามการใช้งานที่เราต้องการ เวลาพักผ่อนก็จะได้รู้สึกผ่อนคลายอย่างแท้จริง ”

