ถ้าลองสังเกตดี ๆ ในบ้านของเราก็อาจจะมีเฟอร์นิเจอร์อยู่หลายชิ้น ที่แม้จะหน้าตามอมแมม มีรอยเลอะตรงนี้ รอยขีดข่วนตรงนั้น แต่ถ้าดูจากความแข็งแรงแล้วก็ยังสามารถใช้งานต่ออีกนานแน่นอน เฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ก็เลยต้องการแค่การปรับปรุงหน้าตาอีกนิด ลงมือ ซ่อม เฟอร์นิเจอร์ บวกการบำรุงรักษาให้ดูน่าใช้เหมือนใหม่ เท่านี้เฟอร์นิเจอร์ตัวเก๋า ก็กลับมาเฉิดฉายอยู่ภายในบ้านได้แล้วค่ะ
เพราะเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ นั้นก็เป็นตัวช่วยที่ทำให้บ้านน่าอยู่ขึ้นได้เหมือนกันค่ะ วันนี้ my home เลยได้นำเอาวิธีการ ซ่อม เฟอร์นิเจอร์ รวมถึงวิธีการตกแต่งพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ตัวเก่าด้วยเทคนิคต่าง ๆ จากวัสดุอุปกรณ์ที่แต่ละประเภทมาฝาก ให้คุณพ่อบ้านแม่บ้านได้ลองไปปรับใช้กันค่ะ
1. แปลงโฉมให้เหมือนใหม่ด้วยการทาสี
เมื่อเฟอร์นิเจอร์ตัวเดิมที่ใช้มาอย่างยาวนานเริ่มมีหน้าตาไม่สวยเท่าเมื่อก่อน ด้วยเพราะสีสันอาจจะซีดจางลงไปหน่อย หรือเลอะเทอะไปบ้าง แต่ความแข็งแรงยังเต็มร้อยพร้อมใช้งานได้อยู่ ลองจับมาทำความสะอาดและทาสีซะใหม่ก็ช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ตัวเก่ากลับมาดูสดใสได้อีกครั้ง ซึ่งหากได้ลงมือเลอะแล้วทั้งทีก็ต้องมาใส่ไอเดียให้แปลงโฉมเฟอร์นิเจอร์ให้สวยสุด ๆ กันไปเลยค่ะ เพราะนอกจากการใช้สีพื้นเพียงสีเดียวทาลงไปตามปกติแล้ว อาจลองใช้เทคนิคการไล่เฉดสีให้มีความเข้มต่างกันไปแล้วนำไปใช้กับเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นที่อยู่ในเซ็ทเดียวกันอย่างเก้าอี้รับประทานอาหารหรือหรือลิ้นชักและตู้เก็บของที่มีพื้นที่แต่ละส่วนแยกออกจากกันอย่างชัดเจน
ในบางกรณีที่เฟอร์นิเจอร์มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่อาจมีรอยเปื้อนเลอะเทอะเพียงนิดเดียวก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทาสีใหม่ทั้งหมดก็ได้นะคะ หรือสำหรับบางบ้านที่มีสีเหลืออยู่จากงานครั้งก่อน ๆ อย่างละนิดละหน่อยและไม่อยากซื้อถังใหม่มาเพิ่ม ก็สามารถนำไอเดียการเพ้นท์เป็นลวดลายเก๋ ๆ มาใช้ได้ โดยนำแต่ละสีที่มีมาใช้ทาสลับกันหรือเลือกทาบางพื้นที่ที่ต้องการเท่านั้น ให้ด้านในเป็นอีกสีส่วนด้านนอกก็ใช้อีกสี เท่านี้ก็ช่วยเปลี่ยนโฉมให้กับเฟอร์นิเจอร์ตัวเก่าได้แบบสบายแรงและสบายกระเป๋าตังค์มากขึ้นด้วย
2.แผ่นกระเบื้องหลากลวดลาย เปลี่ยนง่าย ๆ ใช้งานได้ทนขึ้น
เมื่อมีแผนจะจัดการกับเฟอร์นิเจอร์ตัวเก่าแต่เวลาอาจไม่ค่อยเอื้ออำนวย ก็ต้องใช้วิธีการที่รวดเร็วและทำได้ง่ายกว่าทาสี นั่นก็คือการใช้แผ่นกระเบื้องวางลงไปแทนนั่นเองค่ะ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับพื้นที่ราบอย่างบริเวณหลังตู้หรือบนโต๊ะที่ผ่านศึกหนักมาอย่างยาวนานจากการวางข้าวของและอาหารต่าง ๆ เลยอาจมีคราบและร่องรอยต่าง ๆ มากกว่าบริเวณอื่นของเฟอร์นิเจอร์ การใช้กระเบื้องมาวางแทนนั้นทำให้สามารถใช้งานได้ต่อ โดยสามารถเลือกลวดลายหรือสีสันให้สวยถูกใจแค่ไหนก็ได้ ไม่ต้องออกแรงทาสีเอง และยังเป็นวิธีที่ปกปิดได้ทั้งคราบสกปรกที่แก้ไม่หายรวมทั้งรอยขีดข่วนบนพื้นผิวเฟอร์นิเจอร์ แถมยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเดิมและใช้งานได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวเลอะเทอะหรือเสียหาย เพราะอยากจะเปลี่ยนเมื่อไรก็ทำได้ง่าย ๆ เลย
3 . เพิ่มความสดใส จากผ้าสีสวย ๆ
เมื่อจัดการเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงแล้ว ก็ถึงเวลาเพิ่มความน่ารัก สดใสให้กับเฟอร์นิเจอร์ด้วยผ้าสีสวย ๆ กันบ้างค่ะ โดยส่วนที่เป็นผนัง ฝาตู้หรือลิ้นชักที่ไม่ได้ใช้งานหนักจะเหมาะกับการใช้ผ้าลายต่าง ๆ มาแปะทับ เพระแค่ใช้กาวรองพื้นทาให้ทั่วก็สามารถแปะผ้าลงไปได้อย่างง่าย ๆ ซึ่งปัจจุบันกาวรูปแบบนี้ก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น เหมาะกับการนำมาใช้ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ในมุมสบาย ๆ อย่างห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือพื้นที่ทำงานคราฟต์กุ๊กกิ๊ก ๆ ขอแค่เป็นพื้นที่ที่ไม่ต้องเสี่ยงกับคราบหนักหรือเปียกน้ำก็เอาอยู่ค่ะ
4 . สร้างเทกเจอร์ใหม่ด้วยวัสดุงานคราฟต์
แม้แต่เชือก ไหมหรือเศษผ้าต่าง ๆ ที่มักจะใช้ในงานคราฟต์ก็สามารถนำเป็นวัสดุแปลงโฉมให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านได้เหมือนกัน โดยเฉพาะเก้าอี้หรือเบาะนั่งที่อาจดูเขรอะไปนิด สีซีดไปหน่อย ก็สามารถใช้ผ้านุ่ม ๆ จากเสื้อตัวเก่ามาคลุมทับซะใหม่ ใครถนัดเย็บหรือถักก็โชว์ฝีมือได้เต็มที่ ใช้ได้ทั้งเบาะนุ่ม ๆ และพนักพิงเก้าอี้ วิธีการนี้นอกจากจะช่วยปกปิดร่องรอยของการใช้งานได้แล้วก็ยังเป็นการสร้างเทกเจอร์ใหม่ ๆ ให้เฟอร์นิเจอร์ตัวเก่า เพิ่มความทนทานให้ได้ใช้งานกันได้ต่อไปยาว ๆ เลยจ้า
นอกจากวัสดุอย่างผ้าหรือไหมที่ให้ความนุ่มนิ่ม ก็อาจเลือกใช้เชือกป่านหรือเชือกรูปแบบบต่าง ๆ มาติดหรือพันบนพื้นผิวชิ้นงานเพื่อความคงทน และยังให้บรรยากาศสบาย ๆ สไตล์คันทรี เหมาะกับใครที่ไม่ต้องการความหรูหราแต่เน้นใช้งานได้ทนทานมากขึ้น ไอเดียนี้ใช้ได้ตั้งมุมเล็ก ๆ ของเฟอร์นิเจอร์ โดยการพันทับบางส่วนให้เป็นลูกเล่นเก๋ ๆ ไปจนถึงการใช้พันรอบเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ อย่างโต๊ะรับแขก ลังไม้ หรือเก้าอี้ก็ได้ค่ะ
story : กมลชนก ลิ้มปริสุทธิ์